Share

บิดาผู้เฝ้ารอ

“โอ๊ย! ปวดเหลือเกิน ทำไมถึงได้ปวดเยี่ยงนี้กันนะ”

เสียงกรีดร้องของสตรีดังลั่นสะท้านไปทั่วทั้งจวนไร้พ่าย จวบจนบริเวณบ้านเรือนที่อยู่เคียงข้างต่างก็ได้ยินกันชัดเจน เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าฮูหยินของท่านแม่ทัพจ้าวแห่งจวนไร้พ่ายเจ็บท้องคลอดบุตรมาเป็นเวลาสามวันแล้ว ทว่าทารกน้อยยังไม่คลอดออกมา บรรดาหมอตำแยที่มีอยู่เกือบทั่วทั้งแคว้นล้วนถูกท่านแม่ทัพลากตามตัวมาจนหมดสิ้น แต่ก็ไม่มีใครหาสาเหตุได้ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาล่วงเลยจนถึงป่านนี้ ทายาทสกุลจ้าวก็ยังไม่ยอมออกมาดูโลกเสียที

ภายในห้องนอนของแม่ทัพมีสตรีผู้มีใบหน้างดงามเป็นหนึ่งแม้ว่าในเวลานี้จะอยู่ในสภาพเหงื่อท่วมกายก็ตาม นางนอนร้องครวญครางอย่างทรมานเจียนจะขาดใจ บรรดาหมอตำแยทั้งหลายต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดไปตามๆ กัน ด้วยจนปัญญาที่จะทำสิ่งใด เพราะทารกน้อยในครรภ์นั้นมิยอมกลับหัวเสียที

เกรงเหลือเกินว่าหากมีเหตุอันใดเกิดขึ้นกับฮูหยินจ้าวกับบุตรในครรภ์ พวกตนคงไม่แคล้วต้องมีอันเป็นไปด้วยเป็นแน่

ด้านนอกของอีกฟากมีชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาสีดำสนิทของเขามีแววร้อนอกร้อนใจฉายชัด ยามนี้เจ้าตัวกำลังเดินวนไปเวียนมาไม่ยอมหยุด

“ทำอย่างไรดีนะ จะทำอย่างไรดี”

เวลานี้เขานึกห่วงภรรยาสาวที่อยู่ในห้องยิ่งนัก ยิ่งยามใดที่หูได้ยินเสียงนางกรีดร้อง ใบหน้าหล่อเหลาก็พลอยบิดเบี้ยวไปด้วย

ใช่แล้ว...

เขาคือ ‘จ้าวหมิงหลง’ แม่ทัพไร้พ่ายผู้ชนะศึกประกาศศักดามาทั่วทุกแคว้นแดนเหนือใต้นั่นเอง ทว่ายามนี้ชื่อเสียงเหล่านั้นกลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความกังวลฉายชัด ยิ่งยามได้ยินเสียงภรรยาร้องเอ่ยถึงเขา ใบหน้าของท่านแม่ทัพหนุ่มก็ยิ่งหดเล็กลงไปทุกขณะ

“หมิงหลง เจ้าคนชั่วช้า ข้าต้องทรมานเช่นนี้เพราะเจ้าคนเดียว ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ทั้งที่เจ้าเป็นคนทำแท้ๆ นับแต่นี้ต่อไปเจ้าอย่าได้คิดหวังจะเข้าห้องข้าอีกเลย”

เสียงหวานแผดร้องโวยวายดังลั่นจวน ทว่าประโยคที่เอ่ยออกมานั้นทำเอาคนเป็นหมอตำแย ตลอดจนบรรดาบ่าวไพร่ในเรือนต้องก้มหน้ากลั้นหัวเราะกันแทบตาย ทว่ากลับมีผลต่อคนที่ยืนฟังอยู่ด้านหน้าประตูอย่างยิ่ง เมื่อเขาได้ฟังแล้วถึงกับคอตกไปในทันทีเลยทีเดียว

“จางฟง เจ้าลองฟังคำที่เซียนเอ๋อร์พูดสิ นางห้ามข้าเข้าห้องนางด้วย จะทำอย่างไรดีเล่าแบบนี้”

เขาหันไปฟ้องพ่อบ้านคนสนิทที่ตอนนี้นั่งพิงเสาหลับตา ด้วยว่ามองตามผู้เป็นนายเดินไปเดินมาจนตาลายต้องมานั่งพักหลังจากโก่งคออาเจียนนั่นเอง

“นายท่านขอรับ ฮูหยินเพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดมากก็เลยต้องหาทางระบายออกเท่านั้นเอง ท่านอย่าได้วิตกกังวลไปเลยขอรับ”

ว่าแล้วจางฟงก็มีอันต้องหันไปโก่งคออีกรอบ เพราะแค่ช่วงเวลาที่พูดคุยกัน นายท่านของเขานั้นเดินไปเดินกลับนับได้แปดรอบ!

“ก็ข้าเป็นห่วงนางนี่นา” จ้าวหมิงหลงบ่นเสียงอ่อยๆ กับบ่าวคนสนิทด้วยท่าทางหงุดหงิดใจ

‘โธ่ เซียนเอ๋อร์ยอดรัก ข้าหาได้มีความคิดที่จะเอาเปรียบเจ้าไม่ แต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า ก็สวรรค์ไม่ยินยอมให้ข้าตั้งท้องนี่นา’

ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งหงุดหงิด ทำไมนะ ทำไมกัน เพราะเหตุใดบุรุษถึงตั้งท้องไม่ได้ เพราะอะไรโลกนี้ถึงมีแค่สตรีเท่านั้นที่อุ้มท้องคลอดเด็กได้

“มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด เพราะเหตุใดบุรุษถึงตั้งท้องไม่ได้ ทำไมถึงไม่เท่าเทียมกัน ข้าต้องการความเท่าเทียม สวรรค์! ทำไมท่านถึงไม่ให้ข้าท้องเล่า”

น้ำเสียงเกรี้ยวกราดและแฝงไปด้วยพลังปราณเอ่ยดังลั่น ทำเอาจางฟงที่ทำท่าจะลุกมีอันต้องทรุดลงไปนั่งบนพื้นอีกครั้งหนึ่ง

สวรรค์!

ท่านแม่ทัพไร้พ่ายผู้เป็นมัชจุราชแห่งแคว้นต้าเฉินที่แคว้นอื่นต่างหวั่นกลัวและหวาดเกรงนั้น มีความต้องการจะตั้งท้องคลอดบุตรเอง!

คาดว่าหากบุรุษอื่นได้ล่วงรู้ความคิดนี้คงพร้อมใจกันเอาศีรษะโขกต้นไม้ตายไปตามๆ กันแน่ เนื่องจากแม่ทัพจ้าวผู้เป็นวีรบุรุษของแคว้นต้าเฉินมีความต้องการที่จะตั้งท้องแทนฮูหยิน เพียงเพราะว่ากลัวฮูหยินของตนจะไม่ยอมให้เข้าห้อง

จ้าวหมิงหลงยังคงเดินไปเดินมาไม่หยุด ปากก็ร้องก่นด่าตนเองไปด้วยความคับข้องใจ ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์แทนฮูหยินสุดที่รักได้ โดยไม่ทันได้มองเห็นสายตาของพ่อบ้านคนสนิทที่ทอดมองมายังเขาอย่างท้อแท้ ด้วยอับจนปัญญาจะหาคำพูดใดๆ มากล่าวกับผู้เป็นนายได้อีก

‘เอาที่ท่านสบายใจเลยขอรับ... นายท่าน’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   องค์ชาย... แม่ทัพ... ฮ่องเต้...

    อวี้เจี้ยนองค์ชายสามแห่งแคว้นต้าเฉิน ในยามนี้ยืนมองรถม้าที่บรรทุกอัดแน่นด้วยขนมทั้งหลายแหล่ที่ตนสั่งให้นำไปกำนัลแด่สาวเจ้าตัวน้อยเวลานี้มีถึงสี่คัน ซึ่งนำมาจอดเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบอยู่ลานหน้าตำหนักส่วนพระองค์ ด้วยสายตาไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ ก่อนเจ้าตัวจะหันไปมองโม่ฉีองครักษ์คนสนิท ที่นั่งก้มหน้าคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าพลางเอ่ยปากถาม“เกิดอะไรขึ้น?”โม่ฉีเงยหน้าคมเข้มที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำขึ้นสบตากับผู้เป็นนาย ในดวงตามีร่องรอยของความเสียใจไม่น้อย “ขออภัยพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย เป็นเพราะกระหม่อมนั้นไร้ความสามารถ แม้แต่จะก้าวเข้าประตูจวนไร้พ่ายก็ไม่อาจทำได้“เพราะเหตุใดกัน”โม่ฉีมีดวงตาแดงก่ำยามคิดถึงตอนที่เขานำรถม้าที่บรรทุกขนมไปเต็มคันรถวิ่งเข้าไปจอดหน้าจวนตระกูลจ้าว“ข้าคือองครักษ์ขององค์ชายสาม นามว่าโม่ฉี ได้รับคำสั่งจากองค์ชายของข้าให้นำขนมเหล่านี้มามอบให้แก่คุณหนูจ้าว”สิ้นคำพูดแสดงความจำนง บ่าวคนรับใช้ที่ยืนอยู่หลังประตูก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม“ขอท่านองครักษ์ได้โปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะรีบเข้าไปรายงานนายท่านก่อนขอรับ”พูดจบบ่าวคนดังกล่าวก็วิ่งหายเข้าไปในจวนชั่วครู่หนึ่ง ก่อน

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   มันคือความรู้สึก...?

    ยามค่ำคืน ณ ตำหนักขององค์ชายสามอวี้เจี้ยนร่างสูงที่ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มเวลานี้กำลังนั่งเรียบร้อยอยู่บนเก้าอี้ เบื้องหน้าเป็นโต๊ะไม้เนื้อเงางาม ข้างบนมีพิณสีดำตัวใหญ่วางอยู่ นิ้วเรียวยาวของเด็กหนุ่มกรีดกรายไปตามสายอย่างชำนิชำนาญเสียงเพลงแผ่วหวานดังกังวานหนักแน่น แต่บางครั้งก็ทอดเสียงลงคล้ายจะขาดใจ สลับกับรวยระรินคล้ายเสียงสะอื้นไห้ในบางครา จนองครักษ์ประจำตำหนักรู้สึกราวกับตัวเองจะขาดใจตามเสียงนั้นไปด้วย ก่อนเจ้าตัวจะหยุดดีดนิ่งไปเสียดื้อๆ“องค์ชาย ทรงมีอะไรในใจหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” โม่ฉีเอ่ยถามเมื่อเห็นองค์ชายหยุดเล่นเพลงกลางคัน เอาแต่ทอดถอนใจดังเฮือกๆ“โม่ฉี เจ้าเคยรู้สึกแบบ... ใจเต้นแรง อึดอัดคล้ายหายใจไม่ออกยามอยู่ใกล้ แต่อยากเห็นหน้าอยากฟังเสียงอยากพูดคุยด้วยเมื่อห่างไกล อะไรแบบนี้บ้างหรือไม่”“เคยสิพ่ะย่ะค่ะ ถ้าให้กระหม่อมเดา คนผู้นั้นคงเป็นเด็กผู้หญิงด้วยใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”อวี้เจี้ยนได้ยินดังนั้นจึงละความสนใจจากพิณตรงหน้า หันมามองหน้าองครักษ์คนสนิทอย่างแปลกใจ“เจ้ารู้ได้อย่างไร” เด็กหนุ่มหันใบหน้าหล่อเหลาที่ออกไปทางหวานดุจสตรีขึ้นมองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่กลางฟากฟ้า เอ่ยถ้อยคำต่อด้วยน

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   พ่อบ้านจางฟงแห่งจวนไร้พ่าย

    คุณหนูจ้าวหายตัวไปไม่ทันถึงครึ่งวันท่านแม่ทัพถึงขนาดนำกองกำลังในสังกัดเข้าค้นวังหลวง‘อา... คุณหนูจ้าวผู้นี้ นางช่างเป็นตัวเรียกความวุ่นวายจริงๆ’นั่นเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนคิด หลังจากที่ถูกท่านแม่ทัพบังคับให้ช่วยกันตามหาบุตรสาวสุดรัก ทว่าก็ได้แค่คิดอยู่ในใจ เพราะความจริงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งแน่นอนวันนี้ครอบครัวท่านแม่ทัพตัดสินใจออกจากวังกลับสู่จวนตนเอง เพราะทิ้งจวนให้เหล่าคนรับใช้ดูแลกันเอง นานไปก็อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อฮูหยินจ้าวสามารถขยับตัวเดินเหินได้แล้ว ทุกคนจึงตกลงใจกันว่าจะกลับสกุลจ้าว โดยทิ้งให้อวี้หลางฮ่องเต้ที่มีพระพักตร์บูดบึ้งไว้เบื้องหลัง เพราะไม่สามารถเหนี่ยวรั้งให้น้องสาวกับหลานสาวพักอยู่ในวังหลวงต่อไปได้อีก“หลิวกงกง เราคิดอะไรออกแล้ว” ฮ่องเต้รับสั่งกับขันทีคนสนิทสุรเสียงยินดี ก่อนจะสะดุ้งพระวรกายด้วยความเจ็บที่ก้นเมื่อขยับองค์อา... น้องสาวที่ถูกแทงนั้น ขณะนี้สามารถเดินเหินเป็นปกติได้แล้ว แต่พระองค์ที่ถูกกระบองแม่ทัพผู้เป็นน้องเขยฟาดก้นนี่สิ ยามนี้แม้แต่จะลุกหรือนั่งก็ยังไม่อาจทำได้เลย“คิดอะไรออกหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงเงยหน้าขึ้นจากก้นผู้เป็นนายพร้อมกับเอ่ยถามอวี้หลาง

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   คุณหนูอัปลักษณ์แห่งสกุลจ้าวกับองค์ชายทั้งสาม (3)

    ‘อา... องค์ชายสามกับองค์ชายห้าแห่งแคว้นต้าเฉินช่างแปลกประหลาดนัก หากมิใช่เสด็จลุงแล้ว คงหาคนที่เลี้ยงลูกให้กินง่ายอยู่ง่ายเช่นนี้ได้ยากยิ่งเด็กหญิงเฝ้าคิดบอกกับตัวเองแบบนั้นขณะเดินผละออกมา ปล่อยให้องค์ชายห้าผู้ติดดินก้มหน้าก้นโด่งคุ้ยหาไส้เดือนกินต่อไปตามอัธยาศัยร่างเล็กเดินลัดเลาะมาตามแนวร่มไม้ จนป่านนี้นางยังหาทางกลับไม่เจอ หูได้ยินเสียงฝีเท้าอีกหนึ่งเสียงที่ลอบตามมาพักใหญ่แล้วดวงตากลมโตลอบมองคนที่แอบตามมา ก็พบว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวัยไม่น่าจะห่างจากนางมากนัก เจ้าตัวเดินมากับม้าสีขาวปลอดตัวหนึ่งจ้าวเหมยฮวาแกล้งทอดฝีเท้าเดินช้าบ้างเร็วบ้าง บางครั้งก็แกล้งหยุดเดินเพื่อดูทีท่า ทว่าอีกฝ่ายก็ยังตามติดไม่ลดละ‘ช่างเถอะ เด็กตัวแค่นี้คงไม่ใช่พวกสโตกเกอร์โรคจิต แบบในชาติก่อนที่นางเคยอยู่หรอกน่า’ อวี้เยี่ยนมองร่างเล็กในชุดขาวแล้วลอบกระหยิ่มนึกยิ้มลำพองใจ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายนั้นคงไม่รู้ตัวว่าเขาแอบติดตามนางอยู่อันที่จริงองค์ชายแปดผู้นี้ลอบเดินตามอีกฝ่ายมาตั้งแต่เห็นนางเดินออกจากลานฝึกยุทธ์ของพี่ห้าแล้ว พระมารดาเคยบอกไว้ว่า ถ้าอยากเอาชนะพี่สามกับพี่ห้า อย่างไรเสียเขาก็ต้องแต่งกับบุตรสาวแ

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   คุณหนูอัปลักษณ์แห่งสกุลจ้าวกับองค์ชายทั้งสาม (2)

    ‘องค์ชายสามผู้นี้ช่างเป็นคนพอเพียงนัก อยากกินปลาก็หาจับเอง เสด็จลุงทรงเลี้ยงลูกได้ติดดินจริงๆ’ จ้าวเหมยฮวาคิดสรุปกับตนเองก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้อวี้เจี้ยนผู้เป็นองค์ชายว่ายน้ำดำผุดดำว่ายหาปลาคนเดียวต่อไปตามอัธยาศัยจ้าวเหมยฮวาเดินจากมาแบบงงๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้สตินึกขึ้นได้ว่า...‘อา... จริงด้วย ลืมไปเลย ข้าไม่ได้รอจิงหยู’ ใช่แล้วนางเดินจากมาโดยไม่ได้รอจิงหยู และที่สำคัญตอนนี้นางหลงทางเป็นที่แน่นอนแล้ว เด็กหญิงหันไปมองหาทางเก่าที่เดินจากมา ก็พบว่าเส้นทางทุกด้านดันเหมือนกันไปหมดเลย‘ลองไปข้างหน้าดูก่อนละกัน’ บอกตัวเองในใจ ก่อนจะมุ่งหน้าเดินลัดเลาะไปตามแนวรั้วต้นไม้ที่ถูกจัดแต่งอย่างงดงามมองแล้วให้เพลินตายิ่ง ร่างเล็กยังคงเดินชมนกชมไม้อย่างสบายใจ หากใครได้พบเห็นคงมองดูคล้ายกำลังเดินเล่นเสียมากกว่า ก็นะ นางยามนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง จะหลงทางบ้างก็คงจะไม่แปลกอันใดคิดเองเออเองอย่างครึ้มอกครึ้มใจ หูพลันแว่วได้ยินเสียงดังแหวกอากาศ ฟังเหมือนมีคนกำลังฝึกยุทธ์ลอยมาจากทางด้านหน้า ร่างเล็กเดินเลาะแนวไม้เพื่อตามหาเสียงดังกล่าว จนมาถึงลานสนามหญ้าเล็กๆ ไม่กว้างนัก ดวงตาคู่ดำเป็นประ

  • เหมยฮวาฤดูหนาว   คุณหนูอัปลักษณ์แห่งสกุลจ้าวกับองค์ชายทั้งสาม (1)

    ในเมืองหลวงของแคว้นต้าเฉินยามนี้เกิดข่าวลือหนาหู ทุกคนต่างรู้ดีว่าต้นเรื่องนั้นคือบุตรีแม่ทัพไร้พ่ายเสียงเล่าลือต่อๆ กันไปว่า คุณหนูตระกูลจ้าวนั้นไม่ใช่แค่เพียงอัปลักษณ์ แต่นางยังเป็นตัวนำความโชคร้ายเข้ามาหาผู้อื่นอีก ดูแค่ก้าวเท้าย่างเข้าวังหลวงเพียงวันเดียวยังนำพาปีศาจร้ายเข้ามาอาละวาดในวังเสียจนพังพินาศไปตามๆ กัน ขนาดฮ่องเต้ผู้เป็นถึงโอรสแห่งสวรรค์ยังถึงกับประชวร ออกว่าราชกิจไม่ได้เป็นเดือนๆอา... สวรรค์ คุณหนูสกุลจ้าวนางช่างน่ากลัวเหลือเกิน“คุณหนูเจ้าคะ จะไปหาฮูหยินเลยไหมเจ้าคะ” จิงหยูเอ่ยถามน้ำเสียงสดใส ดวงตามองทรงผมที่นางขมวดไว้ครึ่งบนติดดอกไม้น่ารัก ปล่อยเรือนผมครึ่งล่างให้ยาวสยายจ้าวเหมยฮวาอยู่ในชุดขาวปักชายด้วยลวดลายบุปผาสีชมพูสดใสที่สาวใช้นำมาบรรจงสวมให้เจ้านาย คุณหนูของนางช่างงามเหลือเกิน จิงหยูลอบชมเจ้านายตัวน้อยในใจ ก่อนจะหันไปหยิบผ้าสีขาวข้างมือมาคลุมผูกไว้บนใบหน้าน่ารัก“ทำไมคุณหนูต้องปิดหน้าด้วยล่ะเจ้าคะ เพราะคุณหนูปิดหน้าแบบนี้ พวกปากมากทั้งหลายเหล่านั้นถึงกล่าวหาว่าท่านอัปลักษณ์ได้” จ้าวเหมยฮวาหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นสาวใช้พูดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ ทั้งยังมีท่าทีเป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status