เข้าสู่ระบบ“คนบ้า คนหื่น” เธอกระซิบเบาๆ ต่อว่าผู้ชายหน้าด้าน ด้านหลังที่หลังจากปล้นจูบจนพอใจ เขาก็ถอยหลังกลับไปนั่งรออาหารเช้า ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่แววตาพราวระยับ
“เร็วๆ หน่อยทูนหัว เดี๋ยวผมเปลี่ยนใจไม่กินข้าว มากินคุณแทนจะเดือดร้อนนะเออ” เสียงเร่งเร้าด้านหลัง ทำให้หัวใจสาวเต้นระส่ำมากขึ้น แม้จะขัดอกขัดใจ แต่ดวงตาหวานก็กระจ่างใสแอบอมยิ้มเต็มมุมปาก
“กึก!” ชามข้าวต้มชามใหญ่เบิ้ม ถูกกระแทกวางบนโต๊ะ โดยที่คนถือมาปั้นใบหน้าบึ้งตึง
“ผมรู้นะว่าคุณชอบจูบผม ยอมรับมาดีๆ ดอกปีบ อย่าให้ผมเค้นเอาเอง” เปรมเอื้อมมือคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่กาสะลองจะหลบหนี
“ข้าวต้มชามสุดท้ายค่ะ ถ้าคุณเปรมไม่รีบทานเสียก่อน คุณจะต้องรับกาแฟแก้วเดียวเป็นอาหารมื้อเช้า” มือเล็กๆ ไล่แกะปลายนิ้วแข็งแรงที่จับยึดไว้แน่น พูดเสียงกระเส่า ก้มใบหน้าหลบปลายจมูกร้อนๆ ที่พยายามจะฝังบนผิวแก้ม
“ผมทานข้าวเก็บแรงเอาไว้ก่อนดีกว่า เพราะถึงยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้นหรอก คืนนี้หลังคุณย่านอนหลับ ผมจะฟัดคุณยันเช้า โทษฐานให้ผมนอนหนาวมาหลายคืน เปลี
“ขา...” เสียงรับคำหวานเชื่อม“คืนนี้ทะเลสวย พระจันทร์ก็สวย แต่สองสิ่งนี้สู้คุณไม่ได้เลยสักนิดเดียว” เสียงกระซิบแผ่วพร่าบอกความรู้สึกจากข้างในกาสะลองสะเทิ้นสะท้าน รับฟังคำพูดที่กระซิบบอกด้วยความปลื้มปริ่ม หัวใจในอกด้านซ้ายพองฟูจนเกือบจะทะลุออกมาให้เขาได้เห็นว่าตัวเธอเองยินดีปรีดากับน้ำคำที่เขาพร่ำละเมอขนาดไหนชายหนุ่มช้อนอุ้มเรือนกายอ่อนระทวยขึ้นสู่วงแขน เดินดุ่มๆ กลับที่พักด้านหลัง ทิ้งทั้งหมดไว้ที่ชายหาดเพราะร่างกายเกิดประจุไฟฟ้าจนเกือบจะรัดวงจร แผงอกหนากระเพื่อมด้วยแรงหอบหายใจ ดวงตาคมดุเปล่งประกายหยาดเยิ้ม ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และพลังงานบางอย่างที่ตีกระเตื้องมาจาช่วงล่างของลำตัว ประตูห้องพักเปิดอ้าชายหนุ่มใช้เท้าเตะให้ปิดลงอย่างไม่ใส่ใจ เดินย่างสามขุมท่ามกลางแสงพระจันทร์ที่ส่องนำเป็นทางเป็นเงาสลัวๆ เลือนราง ผิวที่นอนเย็นเยียบ จนกาสะลองผวาสะท้าน เมื่อเปรมบรรจงวางร่างกายอ่อนบางบนที่นอนหนา แสงจันทร์กระจ่างทอดยาวผ่านช่องหน้าต่าง กระทบกับร่างเปลือยเปล่าที่คลุกเคล้าแอ่นตัวเข้าหากัน เสียงลมหายใจหอบโยนดังประสานกับเสียงครางแผ่วๆ ประกอบกับเสียงกุกก
บทที่14.คืนหวานก่อนพายุ“สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตแม้จะหม่นมัวเพียงใด แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ถ้าเราไม่ยอมปล่อยมันไปเราจะพลาดโอกาสที่จะรับสิ่งดีๆ เขามาในชีวิต เราไม่ควรไปยึดติดกับอดีตปล่อยวางมันลงเสียบ้างแค่นี้เราก็จะสบายใจ” เสียงแม่ดังสะท้อนก้องอยู่ในหู ขณะที่เปรมเดินทอดน่องเอื่อยๆ ลงมาจากตัวบ้านพักในรีสอร์ทริมหาดทราย หลังจากขอคำปรึกษาจากพิทีเซีย เขาสบายใจมากขึ้น แม้จะยังสับสนกับความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในหัวใจตัวเอง รอยยิ้มอ่อนเชื่อมส่งให้กาสะลอง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาจากเตาไฟ กลิ่นปลาหมึกย่างลอยฟุ้งยั่วน้ำลายให้สอ ท้องไส้ปั่นป่วนร้องโครกคราก เพราะไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะมัวแต่เย้าหยอกกาสะลอง สลับกับคอยดูแลคุณหญิงประกาย หลังจากปล่อยวางความชิงชังในหัวใจ เปรมรู้สึกว่าร่างกายเบาบางขึ้นกว่าเดิม ตามความจริง...ต้องขอบคุณคุณหญิงประกายด้วยซ้ำ ถ้าไม่อย่างนั้นในวันนี้เปรมคงไม่ได้เดินอยู่บนถนนนักธุรกิจได้อย่างเต็มภาคภูมิ ความคับแค้นในอดีตผลักดันให้ชายหนุ่มมีความมานะอดทน เขาสามารถสร้างฐานะด้วยสองมือตัวเองโดยไม
“ใช้ใจสัมผัสดูสิลูก ว่าตัวลูกต้องการอะไร แม่ไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพวกเขานี่ เราสามารถยืนด้วยกำลังของเราเอง เป็นความภาคภูมิที่คุณตาปลื้มจนสามารถคุยฟุ้งได้ นี่คือความสามารถของเราโดยที่เขาได้แต่มอง” พิทีเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ปลอบประโลมเปรมด้วยความรักทั้งหมดที่มี“ครับแม่ผมจะลองพยายามดู”“ดีมากเจนาส วันที่ลูกทำสำเร็จ ความสุขจะโถมเข้าใส่จนลูกแทบจะสำลักตาย” พิทีเซียพูดเสียงกลั้วหัวเราะ“แม่ครับผม…”“มีอีกรึ เอ... พักนี้ลูกมีปัญหาเยอะนะ” พิทีเซียท้วงเสียงนิ่มๆ“ผมกำลังสับสน ผมไม่เข้าใจตัวเองครับ ครั้งแรกที่ผมยอมเข้าใกล้คนพวกนี้เพราะมีบางสิ่งจูงใจ เวลานี้ผม! ผมกำลังไม่เข้าใจตัวเองครับแม่ หรือว่าผมอ่อนแอ ถึงได้รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้น”“มีผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนใช่ไหมเจนาส ลูกถึงได้ถามแม่แบบนี้”“ครับ”“อืม... เอาไงดีลูกสับสนตรงไหน แม่จะได้ทำความเข้าใจกับมันถูก” พิทีเซียวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงาน พิงบั้นท้ายกับขอบโต๊ะปักห
“คนบ้า คนหื่น” เธอกระซิบเบาๆ ต่อว่าผู้ชายหน้าด้าน ด้านหลังที่หลังจากปล้นจูบจนพอใจ เขาก็ถอยหลังกลับไปนั่งรออาหารเช้า ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่แววตาพราวระยับ“เร็วๆ หน่อยทูนหัว เดี๋ยวผมเปลี่ยนใจไม่กินข้าว มากินคุณแทนจะเดือดร้อนนะเออ” เสียงเร่งเร้าด้านหลัง ทำให้หัวใจสาวเต้นระส่ำมากขึ้น แม้จะขัดอกขัดใจ แต่ดวงตาหวานก็กระจ่างใสแอบอมยิ้มเต็มมุมปาก“กึก!” ชามข้าวต้มชามใหญ่เบิ้ม ถูกกระแทกวางบนโต๊ะ โดยที่คนถือมาปั้นใบหน้าบึ้งตึง“ผมรู้นะว่าคุณชอบจูบผม ยอมรับมาดีๆ ดอกปีบ อย่าให้ผมเค้นเอาเอง” เปรมเอื้อมมือคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่กาสะลองจะหลบหนี“ข้าวต้มชามสุดท้ายค่ะ ถ้าคุณเปรมไม่รีบทานเสียก่อน คุณจะต้องรับกาแฟแก้วเดียวเป็นอาหารมื้อเช้า” มือเล็กๆ ไล่แกะปลายนิ้วแข็งแรงที่จับยึดไว้แน่น พูดเสียงกระเส่า ก้มใบหน้าหลบปลายจมูกร้อนๆ ที่พยายามจะฝังบนผิวแก้ม“ผมทานข้าวเก็บแรงเอาไว้ก่อนดีกว่า เพราะถึงยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้นหรอก คืนนี้หลังคุณย่านอนหลับ ผมจะฟัดคุณยันเช้า โทษฐานให้ผมนอนหนาวมาหลายคืน เปลี
บทที่13.สายตาที่เปลี่ยนไปนับจากวันนั้นเป็นต้นมาเปรมมองกาสะลองด้วยสายตาแตกต่างกว่าเดิม หญิงสาวยังคงสงบปากสงบคำเหมือนเคย ที่เปลี่ยนไปคือสายตาที่เจือกระแสแห่งความหวานที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ สายตาตัดพ้อจางหายไป มีกระแสบางอย่างโยงใยกันและกันเอาไว้ มันกระชับแน่นเกี่ยวรัดเอาไว้ด้วยหัวใจสองดวง เปรมเริ่มปล่อยวางความรู้สึกโกรธเกลียดญาติทางฝั่งพ่อ กับคุณหญิงประกายชายหนุ่มเริ่มมองหญิงชราในแง่มุมที่ตัวเองไม่แม้จะคิด ในสังคมมีหน้ามีตา มันคงเป็นความจำเป็นที่จะต้องรักษาเอาไว้ เมื่อบิดาและมารดาทำไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก เปรมจึงพยายามทำใจให้ยอมรับคุณหญิงประกายมากขึ้นกว่าเดิมวันหยุดพักผ่อนครั้งแรกในรอบสิบปี เขาพาคุณหญิงประกายและกาสะลองไปนอนพักกินลมทะเลที่ริมชายหาดระยอง ‘หาดทรายทอง’ ความสงบเงียบ กลิ่นน้ำทะเลเค็มๆ ปะปนมาในอากาศ สายลมหอบกลิ่นไอหอมหวานมากระทบลำตัว คุณหญิงประกายสดชื่นขึ้นทันตาเห็น ไม่ใช่เพราะอากาศเปลี่ยนไป แต่เพราะหลานชายเริ่มเปิดรับคนอื่นๆ มากขึ้น รอยยิ้มกระจ่างใส กระจายอยู่เต็มหน่วยตาฝ้
“คุณท่าน!”“นะดอกปีบ อดทนเพื่อฉัน ฝากดูแลเขาแทนฉันที”“คุณท่าน! ดอกปีบ...เอ่อ ดอกปีบ” กาสะลองก้มใบหน้าหลบสายตาผู้สูงวัย“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเปรม แต่อยากขอร้อง? เปรมแข็งกระด้างเพราะเขาขาดความรัก เขาดำรงอยู่ด้วยการใช้ความผิดหวังและความเกลียดเป็นตัวผลักดัน เขาจึงปิดบังตัวตนเอาไว้จากทุกคน คนที่เดินเคียงข้างเปรมต้องอดทนจนกว่าเขาจะกะเทาะเปลือกออกมาได้เอง นึกว่าทำเพื่อฉันได้ไหมดอกปีบ ครั้งสุดท้ายเพื่อผู้หญิงแก่ๆ ที่อยากไถ่โทษคนนี้”“คุณท่าน! ได้ค่ะดอกปีบรับปาก วันใดที่คุณเปรมไม่ต้องการดอกปีบถึงจะไป”“ขอบใจ! ขอบใจจริงๆ” มือเหี่ยวย่นบีบกระชับแน่น รอยยิ้มแต้มเต็มใบหน้า ถึงแม้จะเหนื่อยล้าก็ยังยินดีกาสะลองป้อนข้าวป้อนยา ดูแลคุณหญิงจนกระทั่งหลับไปอีกเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป ดวงตากลมโตมองร่างผายผอมด้วยความเศร้าสลด“ดอกปีบ คุณหญิงหลับไปแล้วรึ” เปรมกระซิบถามเบาๆ“ค่ะ” กาสะลองรับคำเสียงแผ่ว หมุนตัวกลับมามองชายหนุ่มด้านหลัง&







