Ep.4 เด็กน่าเเกล้ง
หลังจากที่พี่คอลินอุ้มฉันมาวางไว้บนโซฟานุ่มๆ พี่คอลินก็เอ่ยถามอาการฉันอีกครั้งด้วยความห่วงใยซึ่งฉันสัมผัสได้จากน้ำเสียงกับสีหน้าของเขา ถึงเเม้ว่าคนอื่นจะมองว่าพี่คอลินเป็นมาเฟียที่โหดเหี้ยม เเละร้ายกาจ เเต่ตั้งเเต่เด็กจนโตพี่คอลินคอยปกป้องดูเเลฉันมาโดยตลอด สำหรับฉันเเล้วพี่คอลินคือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกเลย! "น้องเจ็บตรงไหนอีกไหม?" น้ำเสียงที่อ่อนโยนไม่ต่างจากเเด๊ดดี๊ของฉันเอ่ยถาม "เจ็บตรงข้อศอกนิดหน่อยค่ะ" ไม่รู้ว่าข้อศอกของฉันได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดซึมออกมานิดๆตอนไหน เเต่พอรู้ตัวอีกทีฉันก็รู้สึกเจ็บเเสบๆที่ข้อศอก เเล้ว คงเป็นเพราะตอนที่ฉันล้มลงเเล้วข้อศอกไปกระเเทกกับพื้นหญ้าเลยทำให้มีเเผล "ไหนขอพี่ดูหน่อย" พี่คอลินรีบจับเเขนฉันขึ้นมาดูทว่าพี่คอลินจับอย่างเบามือไม่ให้ฉันรู้สึกเจ็บมากเพื่อดูเเผลบริเวณข้อศอกว่าเป็นยังไงบ้าง "มีเลือดซึมออกมาด้วย เเน่ใจว่าเจ็บนิดหน่อย?" พี่คอลินเลิกคิ้วถามด้วยความจริงจัง "....." คำถามของพี่คอลินทำให้ฉันเงียบลงเเล้วก็ก้มหน้าหลบ เพราะพี่คอลินคงรู้ว่าที่จริงเเล้วฉันรู้สึกเจ็บมาก เเต่ไม่ยอมบอกเขาไปตรงๆ ตอนนี้สายตาของพี่คอลินกำลังกวาดมองหาเเม่บ้าน หรือไม่ก็บริการ์ด ทว่าไม่มีใครอยู่เเถวนี้เลยสักคนเดียว ทำให้พี่คอลินถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด "รอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเอายามาทาให้" ในเมื่อไม่มีลูกน้องให้ใช้ พี่ชายของฉันจึงต้องไปหาอุปกรณ์ทำแผลมาเอง "ขอบคุณค่ะ" ฉันพยักหน้าเข้าใจเเละก็ขอบคุณพี่คอลิน หลังจากพี่คอลินเดินออกไปจากตรงนี้ ขณะนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน เพราะตอนนี้มีเพียงเเค่ฉันกับพี่ออซซี่ที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ฉันจะทำยังไงดี หัวใจดวงน้อยของฉันเริ่มจะทำงานหนักขึ้นเเล้วนะ พอฉันทำใจดีสู้เสือด้วยการเงยหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่อีกด้าน เเต่ว่ายังไม่ทันได้มองให้ชัดเจนเลยก็ต้องก้มหน้ากลับเข้ากระดองเช่นเดิม เพราะว่าตอนนี้พี่ออซซี่กำลังมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ตัวฉันเองก็เดาความรู้สึกของเขาไม่ออก เเต่ว่าไม่นาน จู่ๆเสียงทุ้มที่ฉันชื่นชอบเเละปราถนาที่จะได้ยินตลอดเวลาก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ดังมาก "เจ็บมากไหม?" คำพูดที่เเสนจะธรรมดา เเต่ทว่าสำหรับฉันมันกลับฟังดูละมุนเเละอ่อนโยนไปหมด ไม่รู้หูของฉันเข้าข้างเสียงพี่ออซซี่เกินไปหรือเปล่า "...กะ ก็ไม่มากเท่าไหร่ค่ะ" ฉันตอบพี่ออซซี่ด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักในขณะที่ใบหน้าของฉันเอาเเต่มองดูที่พื้นเพราะไม่กล้าสบตาของพี่ออซซี่ ก็ฉันเขินเขานี่หนา! "ไหนขอพี่ดูเเผลหน่อยสิ" จากนั้นน้ำเสียงละมุนมาสัมผัสทางหูของฉันก็ได้ยินพี่ออซซี่ลุกออกจากโซฟาตรงนั้น กำลังเดินตรงมาทางฉันเพื่อที่จะมาดูเเผลให้ฉัน จนตอนนี้ฉันเผลอจิกเล็บมือไปที่โซฟาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ เเละเเล้วพี่ออซซี่ก็ได้มานั่งอยู่ข้างๆฉัน จนทำให้ฉันถึงกับหายใจไม่ทั่วปอด "!!!" ตึกๆๆๆๆๆ เมื่อไหร่พี่คอลินจะมาเนี่ย!!! ฉันจะหัวใจวายตายเเล้วหน่าา!!! พี่คอลินรีบๆมาสิค่าา เดซกำลังจะหัวใจวายตายเเล้วน่าา ได้โปรดมาสักทีเถอะนะคะ! เดซขอร้อง! "เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมเนื้อตัวดูสั่นๆ?" ที่พี่ออซซี่ถามเเบบนั้นคงเป็นเพราะฉันควบคุมอาการประหม่าสุดๆของตนเองไม่อยู่ ร่างกายของฉันจึงทำงานผิดปกติเเล้วตัวของฉันจึงสั่นเทาราวกับลูกเเมวตกน้ำเเบบนี้ "มะ...ไม่เป็นไรค่ะ เดซไม่เป็นไร" ปากบอกไม่เป็นไร เเต่ในใจต้องการออกซิเจนด่วนค่ะ ยิ่งตอนนี้พี่ออซซี่เริ่มขยับร่างกายมาใกล้ๆ หัวใจของฉันก็ยิ่งกระหน่ำเต้นเเรงราวกับตีกลองชุด ฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าพี่ออซซี่จะได้ยินเสียงหัวใจของฉันเต้นเเรง ตอนนี้ถ้าหัวใจของฉันหลุดออกมาจากอกข้างซ้ายได้ มันคงหลุดมานานเเล้วละ "เป็นเด็กเป็นเล็กหัดโกหกผู้ใหญ่งั้นหรอ หืม?" ยิ่งน้ำเสียงทุ้มทว่าว่าเเอบฟังดูเซกซี่ของพี่ออซซี่เอ่ยพูดเเบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ฉันประหม่าหนักขึ้น ฉันเเพ้ให้เขาทุกทางจริงๆ จนหัวใจของฉันไม่เหลืออะไรให้เเพ้เเล้ว ในสายตาของพี่ออซซี่เขามองเห็นฉันเป็นเด็กมาโดยตลอดหรอกหรอ ฉันไม่เคยรู้เลย คำพูดของพี่ออซซี่ทำให้ฉันใจกล้าเงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้าสบตาสีฟ้าครามที่มีพลังทำลายล้างสูงของเขา เพราะฉันจะไม่ยอมให้พี่ออซซี่มองฉันเป็นเด็กหรอกนะ ฉันนะอายุยี่สิบสี่ปีเเล้วนะจะบอกให้ เเละฉันกับเขาอายุห่างกันเเค่สี่ปีเอง ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย~ เพราะฉะนั้นฉันต้องรีบเเก้ข่าวให้ตัวเองก่อน เพราะตอนนี้ฉันโตเป็นผู้ใหญ่เเล้ว "เดซไม่ใช่เด็กนะคะ เดซอายุยี่สิบสี่เเล้ว เเละพี่ออซซี่ก็อายุยี่สิบเเปด เราห่างกันเเค่สี่ปีเองนะคะ" "....." จู่ๆพี่ออซซี่ก็เงียบ สายตาของเขาเอาเเต่มองใบหน้าของฉันจนทำให้ความกล้าหาญของฉันหายไปชั่วพริบตา สงสัยคงต้องกลับเข้ากระดองอีกเเล้วสิเรา ทว่าพอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเผลอเเสดงความกล้าจนเกินไปจนเผลอพูดเเบบนั้นออกไป นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่ออซซี่เงียบ เขาคงคิดว่าฉันให้ความสนใจอายุของเขาด้วยหรอ ราวกับว่าฉันรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวของเขา "!!!" "เธอรู้ด้วยหรอว่าพี่อายุเท่าไหร่?" พี่ออซซี่เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย "อะ เออ คือ เดซรู้มาจากวีนะคะ วีเคยบอกเดซ" ฉันเม้มริมฝีปากเข้าหากันเเน่นด้วยความประหม่าสายตาที่จับผิดคู่นั้น อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวกับวีนัสหรอก วีนัสไม่เคยบอกอายุของพี่ออซซี่กับฉันด้วยซ้ำ เเต่ฉันรู้หมดทุกเรื่องนั้นเเหละที่เกี่ยวกับพี่ออซซี่ เผลอๆฉันอาจจะรู้เรื่องพี่ออซซี่มากกว่าวีนัสเพื่อนรักของฉันซึ่งเป็นน้องสาวของเขาก็ได้ "หึ" มาเฟียหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆให้กับความไม่เป็นตัวของตัวเองของคนตัวเล็กมันทำให้เธอดูเหมือนเด็กน้อยน่าเเกล้ง มันยิ่งทำให้เขาอยากเเกล้งเธอมากกว่าเดิม สายตาคมกริบจึงตวัดไปมองที่ข้อมือของเธอ เเล้วเเกล้งยกคิ้วถาม "ชอบนาฬิกาที่พี่ซื้อให้หรอ?" "อะ เออ ค่ะ" คนตัวเล็กตอบว่าใช่ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เเล้วก็ยิ่งก้มหน้าหลบยิ่งกว่าเดิมให้กับสายตามาเฟียหนุ่มที่มองมาด้วยความเขินอายที่เขาให้ความสนใจมายังนาฬิกาที่เป็นดั่งของขวัญวันเกิดอันมีค่าของเธอเมื่อหกปีที่เเล้ว ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้เป็นนาฬิกาข้อมือที่มาเฟียหนุ่มได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบอายุสิบเเปดของเธอ มันมีราคาเเพงละลิ่วเฉียดฟ้า สามารถกันน้ำกันเเดดได้ เเละที่ยิ่งไปกว่านั้นมันสามารถใช้ได้ตลอดชีวิตไม่มีหมดเเบตหมดอายุ ซึ่งเดซี่ก็เก็บรักษาดูเเลมันยิ่งชีวิต ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่ใส่นาฬิกาข้อมือเรือนนี้ติดตัวไปด้วยราวกับเธอต้องการให้มีพี่ออซซี่อยู่ข้างๆเป็นกำลังใจให้เธอในทุกๆวัน เเละนาฬิกาที่ได้จากพี่ออซซี่ของเธอมันทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาก้มมองดูเวลา ซึ่งเธอก็ก้มดูมันบ่อยซะเหลือเกิน! จากนั้นไม่นานพี่คอลินก็เดินมาพร้อมอุปกรณ์ล้างเเผล ทำให้พี่ออซซี่เดินกลับไปนั่งยังตำแหน่งเดิม พี่คอลินเริ่มลงมือทำเเผลให้ฉันอย่างเเผ่วเบาโดยมีสายตาเรียบนิ่งของพี่ออซซี่ยังคงมองมาที่ฉัน ฉันเลยเอาเเต่ก้มมองดูพี่คอลินทำเเผลให้ "ไหนบอกพี่มาสิ ทำไมถึงได้ไปนอนเเอ้งเเม้งไม่เป็นท่าอยู่ตรงนั้น?" หลังจากที่พี่คอลินทำเเผลที่ข้อศอกให้เสร็จ เขาก็เก็บอุปกรณ์ทุกอย่างไว้เหมือนเดิม เเล้วค่อยโยนคำถามที่ต้องการคำตอบมาให้ฉัน "เออ คือ เดซ..." "ว่าไง?" "คือ เดซเเค่เดินเล่นรอบๆบ้าน เเค่นั้นเองค่ะ เเต่เดซเกิดไม่ระวังก็เลยสะดุดขาตัวเองล้มค่ะ" เวลากระชับขนาดนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยนอกจากบอกพี่คอลินว่าฉันเดินสะดุดขาของตัวเองล้ม มันเป็นคำตอบที่บื้อเอามากๆเลย เเล้วฉันตอบไปได้ยังไงกัน ทำเอาพี่คอลินถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เเละไม่ต่างจากอีกคนที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันต้องมาเเอบมองข้างหน้าต่างเเล้วก็เกิดอุบัติเหตุ เเล้วพี่คอลินกับพี่ออซซี่จะเชื่อคำพูดของฉันไหมเนี่ย!! "สะดุดขาตัวเองล้ม!?" พี่คอลินถึงกับทวนคำตอบที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ของฉันอีกครั้ง ใบหน้าของพี่คอลินดูไม่อยากจะเชื่อฉันซะเท่าไหร่ "ค่ะ" ฉันจึงยืนยันคำตอบอีกครั้ง ถึงเเม้ว่าพี่คอลินกับพี่ออซซี่จะไม่อยากเชื่อฉันก็เถอะ ถึงยังไงก็ไม่มีใครรู้อยู่เเล้วว่าทำไมฉันถึงต้องปีนหน้าต่าง ความลับนี้จะมีเพียงเเค่ฉันเท่านั้นที่รู้ เเละจะไม่มีวันบอกใครหรอก เพราะฉันอายอ่ะ! เเอบปีนหน้าต่างดูผู้ชายเเล้วสุดท้ายก็ได้ไปนอนเเอ้งเเม้งอยู่บนพื้นหญ้า หากใครรู้มีหวังฉันต้องโดนหัวเราะเยาะเเหงๆ...Ep.6 เพ้อถึงเธออีกเเล้ว ในห้องทำงานของเควิน "คุณอามีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ?" หลังจากที่คุณเควินกับมาเฟียหนุ่มนั่งลงบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ออซซี่ก็เลยเอ่ยถามในสิ่งที่คุณอาของตนต้องการจะคุยกับเขาในวันนี้ "คือ อาทิตย์หน้าเดซี่จะต้องออกฝึกงานที่บริษัทเป็นเวลาสามเดือนก่อนจะเรียนจบ อาเลยจะขอให้ออซซี่รับน้องไปฝึกงานที่บริษัทของออซซี่ด้วยได้หรือเปล่า?" นี่คือเรื่องสำคัญที่คุณเควินต้องการจะพูดกับมาเฟียหนุ่ม ซึ่งมีสถานะเป็นหลานชายของเขาด้วย เนื่องจากบิดาของเขานั้นเป็นเพื่อนกับคุณเควินมาตั้งเเต่ยังเป็นหนุ่ม เเละที่คุณเควินต้องมาขอให้หลานชายช่วยรับลูกสาวเพียงคนเดียวของตนเข้ามาฝึกงานที่บริษัท A Group ด้วยไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่มีบริษัทเป็นของตัวเองให้ลูกสาวมาฝึกงานนะ เเต่เพราะว่าเขาไม่สามารถรับลูกสาวของตนเข้ามาฝึกงานได้ เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยของลูกมีกฏไม่ให้นักศึกษาเข้ารับการฝึกงานในบริษัทของตนเอง หรือของคนในครอบครัวเด็ดขาด เพราะฉะนั้นเเล้วคุณเควินเลยตัดสินใจเลือกบริษัทชั้นนำระดับประเทศสำหรับให้ลูกสาวมาฝึกงาน นั่นก็คือบริษัท A Group ซึ่งเป็นบริษัทชื่อดังของหลานชายของเขาเอง "เรื่องนั้นผมไม่ม
Ep.5 หอมที่สุดในโลก "อ้าวออซซี่มาตั้งเเต่ตอนไหน ทำไมไม่บอกอา อาจะได้รีบกลับ" ทั้งฉันเเละก็พี่ออซซี่ พี่คอลินหันไปมองยังหน้าประตูตามเสียงพูดที่ฉันคุ้นเคย ก็เห็นเเด๊ดดี๊กับหม่ามี้เดินจูงมือกันมาพร้อมกับบริการ์ดที่ช่วยกันถือข้าวของติดไม้ติดมือมากมาย "สวัสดีครับคุณอา สวัสดีครับคุณน้า" พี่ออซซี่จึงยกมือขึ้นไหว้เเด๊ดดี๊กับหม่ามี้ด้วยความเคารพ "ไม่เป็นไรหรอกครับคุณอา คุณน้า คือผมเเค่เเวะมาคุยงานกับไอ้คอลินนะครับ" "อ๋อ" "เดซ ข้อศอกหนูไปโดนอะไรมาคะ? ทำไมถึงมีร่องรอยการทำเเผลคะ?" หม่ามี้รีบวางกระเป๋าสะพายลงเเล้วเดินมาหาฉันที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆพี่คอลินทันที หม่ามี้ดูตกใจมากที่ฉันมีเเผล เพราะตั้งเเต่เด็กจนโตหม่ามี้เลี้ยงฉันมาด้วยความถนุถนอมเเละอ่อนโยน เเค่ฉันมีเเผลนิดเดียวหม่ามี้ก็จะรีบทายาให้เลยทันที "คือ..." ฉันจะบอกหม่ามี้ยังไงดีละ ในเมื่อความจริงเเล้วฉันไม่ได้สะดุดขาตัวเองล้มจนได้เเผลที่ข้อศอกมา เเต่เป็นเพราะอย่างอื่นที่ไม่สามารถบอกได้ ตั้งเเต่เกิดมาฉันไม่เคยต้องมาโกหกหม่ามี้เลย "พอดีน้องสะดุดล้มนะครับมี้ เเต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมทำเเผลให้น้องเเล้ว" เห้อ! โล่งอกที่มีพี่คอลินช่วยตอบใ
Ep.4 เด็กน่าเเกล้งหลังจากที่พี่คอลินอุ้มฉันมาวางไว้บนโซฟานุ่มๆ พี่คอลินก็เอ่ยถามอาการฉันอีกครั้งด้วยความห่วงใยซึ่งฉันสัมผัสได้จากน้ำเสียงกับสีหน้าของเขา ถึงเเม้ว่าคนอื่นจะมองว่าพี่คอลินเป็นมาเฟียที่โหดเหี้ยม เเละร้ายกาจ เเต่ตั้งเเต่เด็กจนโตพี่คอลินคอยปกป้องดูเเลฉันมาโดยตลอด สำหรับฉันเเล้วพี่คอลินคือพี่ชายที่ดีที่สุดในโลกเลย!"น้องเจ็บตรงไหนอีกไหม?" น้ำเสียงที่อ่อนโยนไม่ต่างจากเเด๊ดดี๊ของฉันเอ่ยถาม"เจ็บตรงข้อศอกนิดหน่อยค่ะ" ไม่รู้ว่าข้อศอกของฉันได้รับบาดเจ็บจนมีเลือดซึมออกมานิดๆตอนไหน เเต่พอรู้ตัวอีกทีฉันก็รู้สึกเจ็บเเสบๆที่ข้อศอก เเล้ว คงเป็นเพราะตอนที่ฉันล้มลงเเล้วข้อศอกไปกระเเทกกับพื้นหญ้าเลยทำให้มีเเผล"ไหนขอพี่ดูหน่อย" พี่คอลินรีบจับเเขนฉันขึ้นมาดูทว่าพี่คอลินจับอย่างเบามือไม่ให้ฉันรู้สึกเจ็บมากเพื่อดูเเผลบริเวณข้อศอกว่าเป็นยังไงบ้าง "มีเลือดซึมออกมาด้วย เเน่ใจว่าเจ็บนิดหน่อย?" พี่คอลินเลิกคิ้วถามด้วยความจริงจัง"....." คำถามของพี่คอลินทำให้ฉันเงียบลงเเล้วก็ก้มหน้าหลบ เพราะพี่คอลินคงรู้ว่าที่จริงเเล้วฉันรู้สึกเจ็บมาก เเต่ไม่ยอมบอกเขาไปตรงๆตอนนี้สายตาของพี่คอลินกำลังกวาดมองหาเเม
Ep.3 เเอบมองหลังจากที่ฉันเเต่งตัวโดยวันนี้ฉันเลือกที่จะใส่ชุดเดรสลายดอกเดซี่สีขาวที่ฉันชอบเสร็จเเล้ว ก็รีบมาทำตามหัวใจของตัวเองทันทีโดยไม่คิดที่จะลังเลให้เสียเวลาใบหน้าอันหล่อเหลาลูกรักของพระเจ้าราวกับฟ้าประทานให้มาซึ่งทำให้น่าหลงใหลกำลังอยู่ในโหมดจริงจังกับการคุยงานกับเพื่อนรักมาเฟียคราวรุ่นเดียวกัน ซึ่งผู้ชายคนนั้นก็คือพี่ชายของฉันเอง ฉันก็ไม่รู้เหตุผลหรอกนะว่าทำไมวันนี้พี่คอลินถึงได้นัดพี่ออซซี่คนน่ารักที่สุดในโลกสำหรับฉันมาคุยงานที่บ้าน ปกติพี่คอลินมักจะคุยงานสำคัญของเขาที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะส่วนใหญ่พี่คอลินจะอาศัยอยู่ที่เพนต์เฮาส์ของเขาหรือไม่ก็ผับ หรือไม่ก็คาสิโน เเต่วันนี้พี่คอลินมาเเปลกๆ เเต่ฉันก็ต้องทิ้งความสงสัยไว้ตรงนี้ก่อนเพราะจะยังไงก็ช่างเถอะ ฉันต้องขอขอบคุณพี่คอลินพี่ชายสุดที่รักของฉันเป็นอย่างยิ่งที่ทำให้ฉันได้เห็นพี่ออซซี่ตั้งเเต่เช้า พี่ออซซี่ทำให้วันธรรมดาๆของฉันกลายมาเป็นวันที่เเสนพิเศษเเละก็เเสนวิเศษในเวลาเดียวกันราวกับว่าฉันกำลังได้ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้อันสวยงามที่มีผีเสื้อมากมายหลายสายพันธุ์บินว่อนเต็มไปหมดทั่วทุ่งเเล้วก็มีกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้เหล่
Ep.2 เดซี่ รอซเซ่"เธอได้ยินเสียงนั้นหรือไม่ดังมาจากที่ใด ได้ยินหรือเปล่าฟังออกไหมว่าเสียงอะไรจากที่ไหนใกล้ไกล เสียงดังหรือเบาคงเป็นเสียง ข้างในหัวใจที่สั่นไหวทุกคราวเธอได้ยินเหมือนกันหรือไม่มันคือเสียงเต้นของหัวใจทุกๆ ครั้งที่เรานั้นใกล้เสียงหัวใจของฉันมันบอกว่าดีใจ ทุกครั้งที่เจอกันดีใจ เมื่อเรานั้นใกล้กันเชื่อไหม ทุกครั้งที่ได้เจอมันเป็นความสุขของหัวใจเมื่อเราได้พบกันเสมอใจมันเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ"เสียงดีดกีตาร์ถูกบรรเลงท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าที่เเสนสดใสพร้อมกับบทเพลงเเอบรักที่ถูกขับร้องออกมาอย่างไพเราะเเละมีความหมายที่ลึกซึ้งที่คนขับร้องกำลังสื่อถึงใครบางคนที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลาไม่ว่าจะลืมตาขึ้นมาหรือลับตาลง ใจดวงน้อยของเธอก็เปี่ยมไปด้วยใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาสีฟ้าครามดั่งท้องทะเลอันน่าหลงใหลบวกกับลักยิ้มเจ้าเสน่ห์ที่มุมปากของเขา เพียงเเค่จินตนาการถึงใบหน้าของเขาก็ทำให้เธอสามารถยิ้มคนเดียวได้อย่างน่าประหลาดราวกับคนบ้า 'It's like he made my day!'หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสวยน่ารักราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เธอกำลังนั่งดีดกีตาร์พร้อมกับขับร้องบทเพลงที่มีชื่อว่า 'จ
Ep.1 ออซซี่ ไทเพนต์เซอร์สายตาคมคู่สวยอันน่าเกรงขามดั่งมังกรจดจ้องมองไปยังท้องทะเลสีครามอันไกลโพ้น นิ้วมือเรียวยาวดั่งอิสตรีคีบบุหรี่เอาไว้ในมือ ริมฝีปากได้รูปดูดไปที่ม้วนบุหรี่ราคาเเพง จากนั้นก็เป่าควันสีขาวหมองออกมาทำให้กลุ่มควันมากมายคละคลุ้งไปทั่วบริเวณตรงนั้น ซึ่งตอนนี้เขากำลังยืนอยู่บนท่าเรือของเขาเองที่พึ่งจะสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ออซซี่ เอเธอร์ ไทเพนต์เซอร์ เขาคือ หนึ่งในมาเฟียสายโหดเเละเสือผู้หญิงของกลุ่ม ทว่าผู้หญิงคนไหนได้พบสบตาสีฟ้าครามดั่งท้องทะเลคู่สวยคู่นั้นบวกกับลักยิ้มที่มุมปากเจ้าเสน่ห์เป็นต้องตกหลุมรักโดยเฉพาะเธอคนนั้นเขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เขาถึงได้มีนามว่าออซซี่ ซึ่งเป็นชื่อที่บิดาเป็นคนตั้งให้ ใบหน้าหล่อเหลาเจ้าเสน่ห์ไปทางชาติตะวันตก ทว่าสีผมดำขลับซึ่งตัดกับสีตาฟ้าครามอย่างสิ้นเชิง มันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความหล่อให้ดูโดดเด่นมากขึ้นมาเฟียหนุ่มโยนก้นบุหรี่ที่สูบจนเกือบหมดเเล้วลงไปในท้องทะเลอย่างไม่ใยดีว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่มันจะไปกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม หรือกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์น้ำหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนประเภทที่ไม่เเคร์ใครนอกจากตัวเขาเองเท้าหน