LOGIN“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง แบบนี้เธอจะทำยังไงดี! ซีรีย์ตระกูลมาเฟีย บทรักมาเฟียร้าย เรื่องราวของมาร์โกและแอนนา นายหัว (เถื่อน) กระหายรัก เรื่องราวของลูกสาวคนโต เจด้าและพีรพัฒน์ มาเฟียรั้นรัก เรื่องราวของลูกชายคนรองและคนเล็ก มาร์กัสและมาร์คัส
View Moreเสียงดนตรีในผับดังขับกล่อมให้นักท่องราตรีมีความสุขในค่ำคืนนี้ แต่ไม่ใช่สาวน้อยที่นั่งอยู่มุมในสุด ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังแฟนหนุ่ม ที่กำลังเต้นกับผู้หญิงอีกคนที่ฟลอร์เบื้องล่าง
หลายครั้งแล้วที่เธอจับได้ มาถึงครั้งนี้เธอเริ่มจะไม่ทน หญิงสาวกดมือถือส่งข้อความหาเพื่อนรัก ซาร่าเห็นข้อความที่แสดงก็ขมวดคิ้ว ตอบกลับไปว่า
“เอาจริงดิ”
“อืม จัดมา ผู้ชายที่แกบอกว่าเด็ด”
เพื่อนรักของเธอค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยได้ท่องราตรีเช่นตัวเอง แต่วันนี้กลับบอกว่าต้องการผู้ชายมานอนด้วย เอาไงดี ว่าแล้วก็มองหารายชื่อที่คิดว่าจะถูกใจเพื่อนก่อนจะส่งข้อความนัดหมายให้แอนนา
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น แอนนามองที่นัดหมายก็เก็บมือถือแล้วสะพายกระเป๋าออกไป เธอกำลังประชดชีวิตรักที่ดูแล้วคงไม่สมหวังเพราะความเจ้าชู้ของแฟนหนุ่ม ในเมื่อเขานอนกับผู้หญิงมากมายได้ เธอก็นอนกับคนอื่นได้เหมือนกัน
แน่นอนว่าเธอยังติดนิสัยของแม่ที่มีเชื้อสายไทยจึงส่งข้อความ ไปบอกเลิกอีกฝ่ายเรียบร้อย ในเมื่อเธอโสดก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกและไม่ผิดหากจะทำมันในคืนนี้
แอนนา สาวไทยเชื้อสายอิตาลีที่เติบโตอยู่ในเมืองไทยจนถึง สิบขวบก่อนจะย้ายมายังอิตาลีเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ทำให้เธอซึมซับทั้งสองวัฒนธรรมและติดจะถือตัว ไม่ค่อยยอมรับการที่คนรักจะนอกกายบ่อย ๆ ทั้งที่ปกติแล้วถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนในเมืองนี้
แท็กซี่จอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง คนที่ดื่มมาพอสมควรใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะหยิบเงินออกมาจ่ายคนขับได้ เมื่อลงไปแล้วเธอก็เดินไปขึ้นลิฟต์ หยิบมือถือขึ้นมามองเลขห้องที่นัดหมาย 606
แอนนากดดูเลขห้องได้ไม่นานหน้าจอก็ดับเพราะแบตฯ หมด วันนี้วันซวยอะไรก็ไม่แน่ใจ เธอจึงเก็บมือถือกดชั้น 6 เพื่อไปยังที่หมาย
คนเมาที่คิดว่าตัวเองมีสติเดินไปจนถึงห้อง 60... หกอะไรแล้ว 606 หรือว่า 609 เธอมองสองห้องที่อยู่ตรงกันข้าม มือหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็นึกได้ว่าแบตฯ หมด เอาไงดี
ผู้ชายสองคนยืนอยู่หน้าประตูห้อง 609 เดี๋ยวนี้เขามีบริการเฝ้าห้องด้วยเหรอ ชายหนุ่มชุดดำสองคนมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูดขึ้นว่า “มาแล้วเหรอ เข้าไปข้างในเร็วเข้า เธอมาสาย”
เสียงนั้นฟังไม่พอใจ เธอไม่เดินพวกเขาก็เข้ามาหิ้วปีก เปิดประตูแล้วผลักเธอเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว สรุปแล้วเป็นห้อง 609 มั้ง แต่ทำไมบรรยากาศดูแปลก ๆ
แอนนามองไปยังห้องน้ำที่มีเสียงคนกำลังอาบน้ำแล้วหันกลับมามองเก้าอี้ก็พบเสื้อผ้าหลายชิ้นถูกถอดกองไว้ ดูเหมือนผู้ชายที่เพื่อนรักหามาจะเตรียมตัวพร้อมมาก เอาไงดี พอจะทำจริง ๆ ขึ้นมาก็เริ่มหวั่น เขินอายอย่างบอกไม่ถูก เธอยังไม่ทันหันหลัง ประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มหน้าโหดกล้ามใหญ่ซึ่งมีรอยสักเต็มตัว อีกทั้ง... แอนนากลืนน้ำลาย กลัวกว่าเดิมเมื่อผ้าขนหนูสีขาวที่พันท่อนล่างไม่สามารถปกปิดบางสิ่งได้มิด
เธอถอยตอนนี้ยังทันไหม ชายหนุ่มที่เพื่อนหามาให้มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นกัน “ไปอาบน้ำ”
เสียงดุของเขาไม่ให้เกียรติเธอที่เป็นคนจ้างเลย แต่ไหงจึงยอมทำตามก็ไม่แน่ใจ อาจจะเพราะต้องการเวลาทำใจอีกนิด
‘เราเปลี่ยนใจหนีไปตอนนี้ดีไหม แค่ให้เงินเขาไปก็จบนี่นา’ เสียงในใจเธอยังเถียงกันไม่หยุดขณะขยับมือถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ น้ำเย็นทำให้เธอได้สติขึ้นมาอีกหน่อย สรุปเอาแบบที่คิดแล้วกัน
จ่ายเงินให้แล้วก็แยกย้าย หรือจะถ่ายรูปเพื่อเอาไปขู่แฟนหนุ่มให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธออีกสักหน่อย คิดไปคิดมาก็ไม่เลว เอาแบบนี้แหละ
ประตูเปิดออก คนที่สรุปกับตัวเองเสร็จสรรพเห็นภาพตรงหน้าก็พลันกลืนน้ำลายอีกครั้ง ก็พ่อหนุ่มอิตาลีหน้าโหดนอนอยู่บนเตียง มือหนายกขึ้นเรียกเธอให้ไปหา
เอาจริง ๆ ทำไมเธอต้องกลัวสายตาคู่นั้น ปากที่คิดว่าจะขอแค่ถ่ายรูปแล้วชิ่งหนีก็ดันพูดไม่ออก ความกลัวและความลังเลปรากฏในแววตา พอเธอเดินไปถึงปลายเตียง คนที่นอนอยู่ก็ถอดผ้าขนหนูเผยให้เห็นอาวุธลำใหญ่
มันใหญ่จนเธอแทบลืมหายใจจึงได้แต่ยืนตะลึง ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้กับคนบนเตียง เขาลุกมาดึงมือเธอแล้วผลักลงบนเตียง
เดี๋ยว!! ทุกอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราดูน่ากลัวกดจูบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เหมือนกำลังบอกว่าพวกเราเสียเวลามากพอแล้ว
เขาจะเลือดร้อนและหื่นกระหายมากเกินไปไหม เธออ้าปากจะพูดสิ่งที่คิดกลับถูกปอกเปลือกจนหมดอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงชุดชั้นในตัวบางที่ดูไม่ค่อยเซ็กซี่เท่าไร
พ่อหนุ่มอิตาลีมองชุดชั้นในเรียบง่ายก็ขมวดคิ้ว ไม่เคยเจอสาวบริการที่ใส่ชุดชั้นในเหมือนแม่ชี
ผู้หญิงที่ใส่ชุดชั้นในเหมือนแม่ชีเงยหน้าด้วยความรู้สึกผิด ถ้ารู้ว่าต้องออกศึกเธอจะจัดเต็มกว่านี้ แต่เพราะเร่งรีบไปจับผิดแฟนหนุ่ม ใบหน้าเธอแดงก่ำแก้ตัว “ฉันรีบ” ก็เลยมาในสภาพแบบนี้ ดูเหมือนเขาคงไม่สน อีกแล้ว พอปลดเสื้อชั้นในก็ได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจกว่า ว่าแล้วก็ก้มลงดูด มือหยาบสากบีบคลึงหน้าอกเต่งตึงเนียนลื่น หอมหวานจนเขาแทบทน ไม่ไหว
มือหนาเลื่อนไปสัมผัสกางเกงในบางด้านล่าง แอนนาสะดุ้งผวาเงยหน้ามองคนทำ “เดี๋ยว...” เธอห้ามปราม หากมากไปกว่านี้เห็นทีว่าเธอคงหยุดไม่ได้
แต่คิดหรือว่าคำว่าเดี๋ยวของเธอจะหยุดเขาได้ เมื่อมือเขาเกี่ยวกางเกงในแล้วกดนิ้วลงไป ขาแอนนายกขึ้น เอวบางเด้งหนี แต่เขากดเธอไว้ไม่ให้ขยับแล้วทำเสียงดุใส่ “อยู่นิ่ง ๆ”
“งานก็คือเงิน ถ้ารู้จักทำงานก็มีเงินกินข้าว” พูดจบเธอก็เดินไปหยุดหน้าลูคัส “ส่วนนาย ตอนนี้นายมีงานใหม่แล้ว”ฮื้อ แม้แต่ลุงลูคัสยังถูกขวางไม่ให้ช่วยเธอ เจด้าได้แต่ร้องในใจ สุดท้ายเธอก็ถูกไล่ออกจากบ้านมาอยู่ห้องเช่าใกล้มหา’ลัยที่มีนักศึกษาพักอยู่ทั้งตึกแถมพอเปิดประตูก็พบกับผู้หญิงอีกคน หญิงสาวในห้องหันมองแล้วรีบแนะนำตัว “ฉันชื่อเจน ฝากตัวด้วยนะ เธอชื่ออะไร”แม่นะแม่ ให้เธอออกมาอยู่ข้างนอกไม่พอ ยังให้มาอยู่ร่วมกับคนอื่นอีก เธอจะทำยังไงดี หันมองข้าวของที่อีกฝ่ายเอามาไม่เยอะอย่างที่คิด เจด้าหน้าบูดบึ้ง เดินไปที่เตียงของตัวเองแล้วก้มหน้ากรี๊ดใส่หมอนเพื่อระบายอารมณ์หลังจากกรีดร้องจนพอใจแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมห้องหนึ่งเดียว “ฉันชื่อเจด้า”อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เจนจิราได้รู้ว่าอนาคตที่จะอยู่ร่วมห้องกันต้องสนุกแน่“เธอเรียนคณะไหน?”เจด้าบอกชื่อคณะของตน จึงรู้ว่าอีกฝ่ายก็เรียนคณะเดียวกัน เซคเดียวกันด้วย แต่เจด้าผู้ซึ่งไม่สนใจใครจำใครไม่ได้“ไปกินข้าวกันไหม” พอเจนจิราทัก ท้องเจด้าก็ร้องขึ้นมาทันที จึงพยักหน้ารับแล้วลุกไปหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมมาคล้องแขน“กระเป๋าใบนี้
ปอฝ้ายหันมามอง ทำไมคนที่หน้าตาเหมือนฝรั่งถึงได้พูดไทยได้ ยังไม่ทันได้ตอบ อีกฝ่ายก็ปิดประตูใส่หน้าคืนเธอยกแขนขึ้นกอดอก ชักจะโมโหจนลืมคิดไปว่าที่เขาพูดก็ถูกแล้ว และเพราะเธอยังยืนอยู่ทำให้ได้ยินเสียงถ่ายหนัก ที่แท้ก็โมโหเพราะปวดหนักนี่เอง เสียงปู้ดป้าดยิ่งทำให้ปอฝ้ายกลั้นขำผ่านไปสิบนาทีมาร์กัสก็ออกมา เด็กสาวยังยืนอยู่“เธอมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไร”“ก็ตั้งแต่นายเข้าไปนั่นแหละ ได้ยินอะไรดี ๆ เยอะเลย” จากนั้นก็ทำเสียงปู้ดป้าดล้อเลียน“เธอนี่มัน” เขากำหมัดแน่น แต่เมื่อคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกเลยพยายามควบคุมอารมณ์หลังจากแกล้งจนพอใจ ปอฝ้ายก็ถามชื่ออีกฝ่าย “นายชื่ออะไร”เป็นมาร์กัสที่แปลกใจกับอารมณ์ของเด็กสาว “เธอจะรู้ไปทำไม”“เราชื่อปอฝ้ายนะ”มาร์กัสไม่คิดจะบอก ปอฝ้ายก็เหมือนเด็กสาวดื้อรั้นทั่วไปจึงก้าวไปขวาง “ไม่ให้ไป เราบอกชื่อแล้ว นายต้องบอกชื่อตัวเองด้วย”เขาไม่ได้อยากรู้ชื่ออีกฝ่ายเสียหน่อย มาร์กัสจะกลับไปนั่งที่จึงผลักเธอไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ปอฝ้ายล้มลง“โอ๊ย!!” เธอร้องดังลั่น คนทำตกใจรีบก้มลงถาม“เจ็บตรงไหนไหม” พอจะจับแขนเธอก็สะบัดออกแล้วลุกหนี มาร์กัสเลยได้แต่ขอโทษและบอกชื่อตนเ
แอนนามองรูปถ่ายในมือ มาร์คัสเกิดหลังมาร์กัสสองปี พวกเขาเติบโตไล่ ๆ กันมาเหมือนฝาแฝด แต่นิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาร์กัสที่ถูกเลี้ยงมาโดยมาดามคารีนาเป็นคนสุขุมแต่ร้ายลึก ส่วนมาร์กัสที่เติบโตมาโดยฝีมือของพ่อเขานิสัยเหมือนต้นแบบไม่มีผิดท่าทีของมาร์กัสห่างเหินขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอไปเยี่ยมเขาที่ฝรั่งเศส จนเธอเริ่มกลัวว่าต่อไปอาจเกิดเรื่องบางอย่างเธอมองเจด้าที่ตอนนี้อายุครบสิบขวบกำลังชวนมาร์คัสเล่นซ่อนแอบ ส่วนมาร์กัสนั่งมองนิ่ง ๆ อยู่บนเก้าอี้ แอนนาเดินเข้าไปนั่งกับลูกมาร์กัสหันมองมารดาแล้วตัวแข็งขึ้นมาเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าเขากำลังขยับหนี แอนนาขยับตามจนตัวเขาติดที่วางแขน“ทำไมถึงไม่อยากอยู่ใกล้แม่”แววตาเขาเหมือนมีคำพูด แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ “โกรธแม่ใช่ไหมที่ยกหนูให้ย่าเลี้ยง”มาร์กัสตอบแค่ประโยคเดียว “แม่ไม่รักผมใช่ไหม”เป็นเธอเองที่จุกจนพูดไม่ออก “ไม่ว่าลูกคนไหนแม่ก็รักเท่ากัน ยิ่งลูกที่แม่ต้องจำใจยกให้คนอื่นเลี้ยงก็ยิ่งรักและคิดถึง แม่รู้ว่าลูกน้อยใจ ที่เจด้าและมาร์คัสได้อยู่กับแม่”เธอจับแขนลูกชาย มาร์กัสดึงแขนออก เธอจึงเปลี่ยนเป็นโอบกอดจนเขาจมอยู่ในอก“ผมไม่ไ
แอนนาเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้ม ยกปากออกจากท่อนเอ็นจากนั้นก็ก้มลงดูดกลืนลูกไข่ด้านล่างสองลูกไปมา ยิ่งกระตุ้นเร่งเร้าให้เขาปรารถนาในตัวเธอมากขึ้นจึงจับเธอลุกขึ้นแล้วให้คุกเข่ากับโซฟา จากนั้นก็จับท่อนเอ็นอัดลงไป “อ๊ะ คุณใจร้อนไปแล้ว”“สำหรับคุณ ผมไม่เคยมีคำว่าใจเย็น” พูดจบเอวหนาก็กระแทกเร็วและแรง แอนนาเกาะขอบโซฟายึดตัวเองให้แน่นเพราะเกรงว่าจะทรุดลงไป แต่ยิ่งเกาะก็ยิ่งกระแทกแรงจนกระทั่งเธอเสร็จไปอีกรอบเขาจึงยกตัวเธอขึ้นมาอีกรอบท่าอุ้มแตง!! “คุณไหว?”มาร์โกส่ายหน้า “คุณดูถูกผมมากไปแล้ว” ท่อนแขนใหญ่ยกเธอ ได้สบายจากนั้นก็สอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปแล้วเริ่มขยับ แอนนาเกาะคอเขาไว้ให้มั่นจากนั้นก็ส่งเสียงตอบรับความรุนแรงที่มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่เธอกล้าไปดูถูกเขาเสียงป๊าบ ๆ ดังไปทั่วห้อง เขาก็ยิ่งยกยิ้มเหมือนเสือร้าย จากโซฟารับแขกก็เลื่อนมายังโต๊ะอาหาร จากนั้นมือเขาก็กวาดแจกันบนโต๊ะ แอนนาไหวตัวทันรีบถือมันขึ้น“อันนี้ฉันเพิ่งซื้อมาจากฝรั่งเศส” เขาไม่เสียดายแต่เธอเสียดาย คนหวงของก็ถือเอาไว้ เขาก็ดึงมันมาวางไว้บนตัวเธอจากนั้นก็สั่ง“ถ้าคุณเสียดายก็อย่าขยับ เพราะไม่งั้นมันจะแตก” จากนั้นเขาก็ถอดท่อนเอ