LOGINบทอะไรจะง่ายก็ง่ายจนตัวเธอเองยังตกใจ
โชติมนต์ก่นด่าตัวเองในใจซ้ำ ๆ แค่ผู้ชายที่ตรงสเปกส่งยิ้มให้ จูบเธอที่ข้างขมับอย่างอ่อนโยน กระซิบหลอกล่อข้างหูไม่กี่คำ รู้ตัวอีกทีเธอก็เดินตามเขาเข้ามาถึงห้องพักเสียแล้ว
นังน้ำมนต์ นังคนใจง่าย!
“อ๊ะ”
คล้อยหลังประตูห้องปิดลง โชติมนต์ก็โดนดันให้ถอยหลังไปติดกับผนังห้อง ไม่ทันได้ส่งเสียงร้องไปมากกว่านี้ใบหน้าก็ถูกเจ้าของการกระทำบังคับให้แหงนเงยขึ้น
เพื่อรับจูบที่ร้อนแรงกว่าตอนนัวเนียกันบนเบาะหลังของรถยนต์หลายเท่าตัว
“พะ...พี่วิน ฮื่อ เดี๋ยว เดี๋ยวค่ะ”
ถึงรู้ว่ามีอะไรรอยู่ข้างหน้าและหมดสิทธิ์จะก้าวเท้าออกจากห้องแล้ว แต่ขอเวลาให้เธอทำใจอีกสักนิดสิ
แต่ดูเหมือนคำห้ามปรามจะไม่ลอยเข้าหูใครอีกคนเลย ฝ่ามืออุ่นจัดลูบไล้ไปทั่วตัว เคล้นขยำเธอหนักมือพร้อมคำรามเสียงแหบห้าว ก่อให้เกิดความเจ็บระคนเสียวซ่าน
เธอพยายามไล่ตะครุบมือเขาแต่ก็แพ้ให้กับความว่องไวและช่ำชองของคนมากประสบการณ์กว่า เพียงไม่กี่อึดใจชุดเดรสบนร่างก็ร่วงหล่นลงพื้น เปิดทางให้เขาซุกหน้าลงฟัดสองเต้าเธอได้ถนัดถนี่
“อ๊ะ”
หญิงสาวครางหวิว หัวใจดวงน้อยเต้นรัว ตัวสั่นระริก ทั้งตื่นเต้น ตื่นกลัว แต่ก็อยากรู้อยากลอง เธอบิดกายไปมาอย่างกระสับกระส่ายและสับสน
“กลัวเหรอ”
ปวินท์เงยหน้าขึ้นมาถาม เขาสัมผัสได้ว่าคนตัวเล็กสั่นเกร็ง หรือบางทีเขาอาจจะรุกแรงจนทำเธอตกใจ ชายหนุ่มผ่อนแรงมือที่ขยำเธอลง
“ครั้งแรกสินะ”
ในความเข้าใจของคนฟังคิดว่าเขาพูดถึงครั้งแรกในการมีอะไรกับใคร เธอจึงพยักหน้าน้อย ๆ
หากครั้งแรกในความหมายของปวินท์คือเธอเพิ่งรับงานแบบนี้เป็นครั้งแรกสินะ นัยน์ตาสีเข้มพลันอ่อนแสงลงหลายส่วน
ถึงปวินท์จะผ่านการวันไนท์สแตนด์หรือซื้อขายมาแล้วหลายครั้ง ทว่าเขาชื่นชอบเซ็กส์ที่สนุกด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ยิ่งกับเด็กสาวที่เขาถูกอกถูกใจเธอเป็นพิเศษ ท่าทีชายหนุ่มเลยเปลี่ยนไปทันที เขาโน้มลงจูบแก้มนวลแผ่วเบาแทนคำขอโทษ
มือที่เคยขยำเปลี่ยนมาเคล้นคลึงฟอนเฟ้น สะกิดยอดจุกที่ชูชันอย่างหยอกเย้าก่อนอ้าปากรับมันมาดูดดุนเรียกเสียงครางกระเส่า
ยอมใจเย็นทั้งที่ท่อนลำแข็งขึงจนปวดหนึบมาตั้งแต่นัวเนียกับเธอบนรถยนต์ กระทั่งสัมผัสได้ว่าเธอเริ่มหายสั่นเกร็ง โอนอ่อนแล้วแอ่นอกอำนวยความสะดวกให้เขาดูดเลียได้ถนัดถนี่ มือใหญ่ก็ไต่ลงด้านล่าง
“อื้ออ”
กระแสความเสียววาบทำโชติมนต์สะดุ้งโหยง หลุดจากภวังค์เคลิบเคลิ้ม หน้าร้อนวูบเมื่อพบว่าจุดอ่อนไหวที่ไม่เคยมีผู้ชายใดได้แตะต้องมาก่อนกำลังถูกเขาเย้าแหย่ด้วยปลายนิ้ว
กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความหรรษาที่เขามอบให้มันดีมากเสียจนบางจังหวะสะโพกเผลอส่ายร่อนโดยไม่รู้ตัว
ปฏิกิริยานั้นส่งผลให้ปวินท์ยิ้มอย่างพอใจ ตะล่อมล่ออีกอึดใจก็รูดเพนตี้ตัวจิ๋วออกให้พ้นทาง แล้วค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปในร่องฉ่ำชื้น
แน่นฉิบหาย!
ชายหนุ่มตาลุกวาวกับความสาวสด นิ้วโป้งกดขยี้ขณะที่นิ้วกลางขยับเข้าออกอย่างช้า ๆ กระตุ้นร่องนุ่มให้กลายเป็นหยาดเยิ้ม
เสียงดังแจ๊ะ ๆ ยามเรียวนิ้วสอดจ้วง ให้ความรู้สึกลามกแต่กลับปลุกเร้าอารมณ์ให้โหมกระพือ ปวินท์ตะโบมจูบพลางเร่งความเร็ว กระแทกเรียวนิ้วตรงจุดที่ทำให้เด็กสาวครางถี่ ๆ
ไม่กี่อึดใจเธอก็จิกบ่าเขาจนเจ็บแปลบ หวีดร้องเสียงหลง ร่องรักตอดรัดเรียวนิ้วเขาแน่น
“อื้อออ”
“อาส์”
ปวินท์ถึงกับคำรามในลำคอ รวบร่างนุ่มนิ่มที่พอเสร็จสมแข้งขาก็อ่อนแรง อุ้มมาวางบนโซฟา
ร่างสูงใหญ่ขยับมายืนตรงกลางระหว่างสองเรียวขาขาวแล้วปลดเข็มขัด งัดท่อนลำที่ปวดคัดจนเริ่มทนไม่ไหวออกมา ลูบปลอบประโลมสองสามทีก็ดึงมือเล็กมารับช่วงต่อ
“ทักทายมันหน่อย”
แหม ทีนี้ล่ะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะคนเป็นแม่ส่ายหัวไปมา ทั้งขำทั้งระอาสี่พ่อลูก เธอก็พยายามสั่งสอนเด็ก ๆ ให้อยู่ในกรอบ แต่ดูคนเป็นพ่อสิ ชอบสปอย ให้ท้ายลูกทุกอย่าง"คุณปูนก็เป็นซะแบบนี้""เอาน่า ถ้าหล่นเดี๋ยวฉันเก็บเอง"เรื่องเก็บมันใช่เรื่องใหญ่ที่ไหนเล่า!โชติมนต์ย่นจมูก ถอนหายใจอย่างฉุน ๆ ทว่าหันไปสบเข้ากับสายตาแป๋ว ๆ ของลูกสาวคนเล็ก ได้ยินเสียงใส ๆ ร้องเรียก"คุณแม่คะ คุณแม่ขาาาา"เธอก็ใจอ่อนในบัดดล"อะ ๆ ก็ได้ค่ะ แต่ป็อปปี้รับปากแม่ก่อนว่าจะถือดี ๆ มองทางแล้วก็มองคนด้วยนะคะ แล้วถ้าเมื่อยเมื่อไรก็ให้คุณพ่อถือแทนนะคะ""ค่าาา"ได้ถือสมใจเด็กหญิงปรินญาดาก็ยิ้มร่า พยายามประคองกระทงสุดชีวิต แต่เพราะข้อมือเด็กสี่ขวบยังไม่ค่อยมีแรงมากนัก บางครั้งจึงเผลอทำเอียง จนดอกไม้ร่วงหล่นรายทาง"ป็อปปี้ถือแบบนี้ แบบพี่นี่"เด็กหญิงปราณปรียาในชุดคล้ายกันแต่โจงกระเบนเป็นสีชมพูบานเย็น อุ้มกระทงที่ประดับด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูล้วนของตนให้น้องดูเป็นตัวอย่างคนเป็นน้องพยายามทำตาม แต่สุดท้ายก็ยังทำดอกไม้ตกแต่งหล่นลงพื้นแทบทุกย่างก้าวอยู่ดี เสียงใส ๆ สองเสียงทั้งถกทั้งสอนกันไม่หยุด สลับกับก้มลงเก็บดอกไม
บนพื้นภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหิรัญพัฒนา ห้าชีวิตกำลังนั่งล้อมวงทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว"ปันปันอยากใส่อันนี้ด้วยไหมคะ"น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับถาดที่ใส่ดอกไม้มาใกล้มือลูกสาวคนกลางมากขึ้นเมื่อเห็นแกพยักหน้าแรง ๆ แทนคำตอบจากนั้นก็หันไปขยับถาดที่ใส่ดอกดาวเรืองไปให้ลูกชายคนโตที่ดูจะชื่นชอบมันเป็นพิเศษวันนี้เป็นวันลอยกระทง ทางหมู่บ้านมีการจัดงานเล็ก ๆ และเตรียมพื้นที่ไว้ให้ลูกบ้านได้นำกระทงมาลอยได้ที่บริเวณสวนสาธารณะของส่วนกลางแน่นอนว่าเด็กสายกิจกรรมอย่างลูก ๆ ของเธอย่อมไม่มีทางพลาด ทั้งสามหน่อไม่เพียงขอแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาล แต่ยังอยากทำกระทงขึ้นเองด้วยและมีหรือที่คุณพ่อสายเปย์อย่างปวินท์จะไม่ตามใจลูก ๆ ไม่ถึงชั่วโมงวัสดุสำหรับทำกระทงก็วางเรียงรายเต็มพื้นที่แถมไม่ได้ทำเพียงอันเดียวเพราะเด็ก ๆ ต่างร้องว่าอยากมีกระทงเป็นของตัวเอง ไป ๆ มา ๆ เลยงอกออกมาเป็นสามอันหลังห่อก้านต้นกล้วยหั่นท่อนด้วยใบตองและติดกลีบกระทงเรียบร้อยแล้ว เธอก็ปล่อยให้เด็ก ๆ แสดงฝีมือได้ตามใจชอบซึ่งแรก ๆ เด็ก ๆ ก็พากันตั้งใจตกแต่งกระทง แต่หลัง ๆ กลายเป็นตกแต่งหัวของพี่น้องและตัวเองปลุกปล
หญิงสาวดึงผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งมือและเท้าของคนพี่ ก่อนถอยออกจากห้องนอนลูก ๆ ไม่ลืมก้มลงไปจรดปลายจมูก ฝากความรักไว้ที่หน้าผากลูก ๆ คนละหนึ่งทีตอนที่รู้ตัวว่ามีปราณปรียาเธอเป็นห่วงความรู้สึกปราชญ์มากที่สุด กังวลว่าการมีลูกเพิ่มจะทำให้พี่คนโตเครียด และน้อยใจที่ถูกแบ่งความรักไปหรือไม่ทว่าลึก ๆ ในใจก็ยังเชื่อมั่นว่าหากพวกเธอดูแลและเอาใจใส่คนพี่อย่างเหมาะสม ความรักเหล่านั้นจะถูกพี่ชายส่งต่อไปยังน้องสาวได้อย่างเหมาะสมเช่นกันซึ่งสำหรับบ้านของเธอ ทฤษฎีนี้นับว่าได้ผลแม้ช่วงแรก ๆ คนพี่จะมีงอแงบ้างตามประสาคนเคยได้รับทุกอย่างเพียงคนเดียว หากไม่นานก็เริ่มเข้าใจว่าน้องคือสมาชิกใหม่ของบ้าน คือครอบครัว และต่อให้มีน้องเพิ่ม ตัวเขาก็ยังคงเป็นคนสำคัญของพ่อกับแม่ และทวดพรพรรณไม่เปลี่ยนแปลง“วันนี้เหนื่อยไหม”ขึ้นเตียงมาได้ปวินท์ก็รั้งเธอไปนอนกอดพร้อมกับถามคำถามเดิม โชติมนต์อมยิ้ม เบียดกายเข้าหาอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยแล้วสั่นหัวนิด ๆ“ไม่เลยค่ะ วันนี้เด็ก ๆ ไม่ซนกันเลย”แค่หูชานิดหน่อยเพราะเด็ก ๆ กำลังอยู่ในช่วงวัยขี้สงสัยเลยมีความอยากรู้อยากเห็นและชอบตั้งคำถามมากเป็นพิเศษ แต่เธอก็ยินดีจะตอบ“ดีแล้ว ฉั
หลังเด็ก ๆ จัดการคุกกี้จนเกลี้ยงจาน แม่ ๆ ก็พากันจับเจ้าตัวน้อยเปลี่ยนชุด ผลปรากฎว่าไม่เพียงแค่ผู้ใหญ่ที่กรี๊ดหนัก เด็ก ๆ ก็ชื่นชอบกันมากซาลาแมนเดอร์สีชมพูตัวจิ๋วยิ้มร่าโชว์ฟันเล็ก ๆ ที่เรียงเม็ดสวยงามเหมือนเม็ดข้าวโพด ขนาบข้างโดยพี่ ๆ ด้านหนึ่งคือเด็กชายปราชญ์ที่สวมชุดเสือ ส่วนอีกด้านคือเด็กหญิงขวัญชนกซึ่งสวมชุดกระต่ายสีชมพูอ่อนโอ๊ย น่ารักมาก น่ารักจนใจเจ็บ!แววตาแม่ ๆ ทั้งสองเต็มไปด้วยความปลื้มปริ่มตามประสาคนหลงลูก ทั้งกดถ่ายรูปและอัดคลิปวิดีโอเก็บไว้อวดพ่อ ๆ ที่วันนี้มีนัดคุยงานกับลูกค้าสำคัญด้านคนเป็นทวดก็ไม่น้อยหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้อง พยายามถ่ายภาพเหลน ๆ ในอิริยาบถต่าง ๆ เช่นกัน ต่อให้รูปที่ได้จะสั่นบ้าง หลุดโฟกัสบ้างก็ตามไม่ถึงสิบนาทีรูปใหม่ในโทรศัพท์ก็เพิ่มมาเกินร้อยรูป“เหมาะมาก”“ใช่ไหมคะคุณย่า” โชติมนต์พยักหน้าแรง ๆ ว่าเห็นด้วย ปลายนิ้วกดส่งรูปเด็ก ๆ ไปให้คุณยายที่อยู่แดนไกล“นี่น้ำมนต์ยังมีชุดผึ้ง ปลาโลมา แมงกะพรุน แล้วก็ไดโนเสาร์อีกนะคะ”“ไม่ได้หมายถึงชุด”คุณพรพรรณส่ายหน้า จากนั้นนางก็หันไปสบตากับอีกคนที่นั่งอยู่ถัดไป อมยิ้มกรุ้มกริ่ม เพียงเท่านี้สองแม่ก็เข้า
ภายในห้องนั่งเล่นบ้านหิรัญพัฒนาวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงหยอกล้อสลับกับเสียงหัวเราะคิกคักดังกว่าทุกทีเมื่อรอบนี้กรกันต์กับขวัญข้าวพาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนลงมากรุงเทพด้วย“คุณลูกค้าเอาอันไหนดีค้าาา อันนี้ขนมชั้น อันนี้ขนมครก อันนี้ขนมเค้ก อันนี้ลูกชิ้นทอดค่าาาา”น้องข้าวหอมหรือเด็กหญิงขวัญชนก วัยห้าขวบหกเดือน ทายาทรีสอร์ตดังของภาคเหนือที่ตอนนี้ผันตัวจากมาเป็นแม่ค้าขายขนมริมทางส่งเสียงเจื้อยแจ้วมือชี้สินค้าที่ตนวางขายพลางอธิบายให้ลูกค้ากิตติศักดิ์สองคนฟังทีละชิ้น ซึ่งแน่นอนว่าขนมที่ว่าไม่ใช่ของจริง แต่เป็นของเล่นพลาสติก“ปันปันอยากกินอันไหน” ลูกค้ากิตติมศักดิ์คนที่หนึ่งหันไปถามลูกค้ากิตติมศักดิ์คนที่สอง“กิน นี่ อันนี้”เพราะยังไม่ถึงสองขวบดีเด็กหญิงเลยเปล่งได้เป็นคำ ๆ ก่อนจะยืนยันความต้องการของตนด้วยการคว้าของสิ่งนั้นมาถือไว้“คุณลูกค้าาา เดี๋ยวก่อนค่ะ ต้องขอใส่จานก่อน”แม่ค้าถึงกับหวีดร้อง รีบหยิบจาน แต่เพราะที่คีบของเล่นใช้งานยาก สุดท้ายเธอก็ใช้มือเล็ก ๆ ของตนหยิบขนมของเล่นที่เหลือใส่จานแล้วยื่นให้“สิบบาทค่าาา”กระดาษสีเขียวที่มีเลข 20 พิมพ์ไว้เลียนแบบธนบัตรของจริงถูกยื่นไปให้แ
ปวินท์หมุนตัวมาเตรียมชามสำหรับใส่อาหาร ตอนนั้นเองหางตาก็เห็นร่างอรชรที่หยุดฝีเท้าไว้เพียงหน้าทางเข้า“อ้าว ลงมาเร็วจัง”“แม่!”เด็กชายปราชญ์หันมองตาม พอเห็นเป็นมารดาก็เลิกสนใจเครื่องปั่น ร่างสมส่วนที่บัดนี้สูงเกินเกณฑ์เด็กสี่ขวบนิดหน่อยถลันไปหา“อันนี้ นี่ ปราชญ์ทำแหละครับ”เด็กชายปราชญ์ชี้ไม้ชี้มือ รีบโอ้อวด ทำเอาคนที่เตรียมทุกอย่างแต่ถูกแย่งหน้าที่ไปในห้านาทีสุดท้ายได้แต่ส่ายหัวยิ้ม ๆ หากก็ไม่ได้ทักท้วงหักหน้าลูกชาย“หูยยย แบบนี้ต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลย ไหนดูสิ วันนี้พี่ปราชญ์ทำอะไรให้น้องปันปันกินครับ”โชติมนต์ทำหน้าตื่นเต้นแล้วเดินตามลูกชายที่จูงมือเธอไปดูเครื่องปั่น ฟังเด็กน้อยเล่าอย่างกระตือรือร้นว่าตนได้หยิบจับ ทำอะไรไปบ้างอย่างตั้งใจ กระทั่งจบก็ยกนิ้วโป้งให้“เก่งจังเลยครับพี่ปราชญ์ของแม่”“ใช่ ๆ พี่ปราชญ์ก็ว่าพี่ปราชญ์เก่ง”นอกจากไม่ถ่อมตัวแล้ว เด็กชายยังยืดอกรับคำชมอย่างภาคภูมิด้วย โชติมนต์หัวเราะ ลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู“วันนี้แม่ว่าน้องต้องกินข้าวที่พี่ปราชญ์ทำให้เยอะแน่ๆ เลยครับ”และพอรู้ว่าน้องสาวลงมานั่งรอที่ชั้นล่างแล้ว เด็กชายปราชญ์ที่เมื่อครู่ทั้งยืนยันนั่งยันว่าจะทำม







