LOGIN“ทักทายมันหน่อย”
โชติมนต์มองสิ่งที่เขาดึงให้ไปจับ พลันก็เบิกตากว้าง ของในมือที่ร้อนเป็นทุนเดิมคล้ายว่าตอนนี้ร้อนจนลวกผิว ทว่าจะชักมือกลับก็ทำไม่ได้เพราะใครบางคนวางมือทาบทับ บีบกระชับแล้วชักนำให้เธอสาวรูด
สัมผัสแปลกใหม่ทำเอาปากเล็กอ้าพะงาบ ๆ มองความใหญ่โตที่กำลังผลุบโผล่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งอย่างตื่นตา ที่ผ่านมาเคยเห็นแค่จากในการ์ตูน ไม่คิดเลยว่าของจริงจะอลังการขนาดนี้
ปฏิกิริยาจ้องไม่วางตากระตุ้นความกระสันอยากให้พลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม น้ำใสผุดซึมจากปลายบาน เลอะเปรอะไปตามง่ามนิ้ว และยิ่งลื่นก็ยิ่งเสียว
ปวินท์แอ่นสะโพก เสือกไสปลายมนให้จรดโดนริมฝีปากอิ่ม ดวงตาหวานเยิ้มเหลือกขึ้นมามองเขาเพียงนิดก็หลุบลงอย่างเอียงอาย
ก่อนจะค่อย ๆ เผยอปาก จูบ ‘เขา’ แผ่วเบา
“อาส์”
ปวินท์เครียดเกร็งไปทั้งร่าง เมื่อเรียวลิ้นสีชมพูแดงยื่นมาแตะผิวเผินคล้ายจะหยั่งเชิง ก่อนอึดใจต่อมาจะอ้าปาก กลืนตัวตนของเขาเข้าไปทีละนิด
ท่าทางพยายามอ้ารับทั้งที่ปากเล็กนิดเดียวช่างน่าเอ็นดูจนปวินท์ต้องลูบหัวเด็กสาว เอ่ยอย่างใจดี
“เอาแค่หัวก็ได้”
โชติมนต์คายท่อนลำออกตามคำแนะนำ พยายามนึกถึงฉากเลิฟซีนที่อ่านในนิยายแล้วทำเลียนแบบ ประสบการณ์ลงมือทำของจริงเธออาจเป็นศูนย์ แต่ด้านทฤษฎีเธอเคยอ่านผ่านตามาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบเล่ม
มันน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยแหละ
คิดแล้วก็ลากลิ้นเลียไปตามความยาว ก่อนวกกลับมาตะโบมดูดปลายบานแรง ๆ พร้อมกับใช้มือรูดส่วนที่เหลือ ได้ยินคนอยู่ในกำมือครางพร่าใจก็ลิงโลดด้วยความตื่นเต้นและภาคภูมิ
“ฮืมมม อย่างนั้นแหละ”
แม้ลีลาการใช้ปากเธอจะไม่ได้เก่งกาจช่ำชอง บางครั้งเผลอทำฟันครูดเขาด้วยซ้ำ หากเธอก็หัวไว ไม่นานก็เรียนรู้แล้วว่าจุดไหนจะสร้างความเสียวซ่านให้เขาพอใจ
ชายหนุ่มหายใจแรง ใช้มือค้ำยันผนังเพื่อทรงตัวส่วนมือขยุ้มกลุ่มผมสีน้ำตาลของเธอ ควบคุมจังหวะให้เป็นดังใจ
“อาส์ ดีมาก”
เสียวมาก!
ภาพยามปากจิ้มลิ้มพยายามเอาอกเอาใจทั้งที่หน้าแดงก่ำ น้ำตาไหลซึมราวถูกรังแก ปลุกให้อารมณ์ไต่สูง จากขยับสะโพกสอบเบา ๆ ก็เผลอลืมตัว ตอกเข้าใส่โพรงปากนุ่มแรงรัวขึ้น
“อึก อึก”
โชติมนต์ทุบหน้าขาเขาประท้วง ความใหญ่โตทำเอาเธอสำลักจนน้ำตาไหลซึม ทว่าดูเหมือนอีกคนจะกำลังหน้ามืด สอดเสือกจนกรามเธอแทบค้าง ปากแทบฉีก
กว่าทุกอย่างจะสงบใบหน้าเธอก็เปรอะไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นกว่าครึ่งซีก หญิงสาวหอบฮัก ยกมือขึ้นแตะของเหลวที่เขาฝากไว้ ขยี้ปลายนิ้วเข้าด้วยกันพลางจ้องเขม็ง
มันเหนียวหนืดและลื่นกว่าที่คิด
นึกถึงสิ่งที่เคยแอบได้ยินมาจากแก้งสาว ๆ ตอนเข้าห้องน้ำ เธอก็เอามันมาแตะลิ้นก่อนจะเบ้หน้า
รสชาติน้ำของผู้ชายเป็นอย่างนี้เองหรอกเหรอ คาว ๆ เฝื่อน ๆ ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ได้อร่อยแบบที่คนพวกนั้นคุยโว่เลย
“เธอ...”
ปวินท์ตาลุกวาว ท่อนลำที่เพิ่งคายความสุขพลันกระตุก เสียวท้องน้อยวาบกับการกระทำแสนยั่วเย้านั่น เขากระชากเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายบนกายเธอมาโยนทิ้งก่อนโถมตัวเข้าใส่
“อ๊ะ พะ...พี่วิน ฮื่อ”
เสียงหวานหวีดร้อง หากอกแอ่นเร่าสนองต่อปากที่กำลังดูดดุน ปวินท์เอื้อมมือไปหยิบเครื่องป้องกันที่สั่งให้ผู้ช่วยเตรียมไว้ให้จากลิ้นชักข้างโซฟามาสวมใส่
เขาดูดยอดจุกแรง ๆ ส่งท้ายก่อนผละออกมาจัดท่า ถูไถหัวบานเข้ากับติ่งสีสด ขยี้เรียกเสียงครางหวานหูและน้ำหวานฉ่ำลื่นก่อนจะกดตัวตน ตอกเข้าร่องรัก
แต่เข้าได้แค่ส่วนหัวคนใต้ร่างก็สะดุ้งโหยง หน้าเหยเก ชายหนุ่มชะงัก เหงื่อหยด
“บ้าฉิบ”
ทำไมหนนี้ไอ้กรณ์มันส่งเด็กที่ยังซิงมาให้วะ
แหม ทีนี้ล่ะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะคนเป็นแม่ส่ายหัวไปมา ทั้งขำทั้งระอาสี่พ่อลูก เธอก็พยายามสั่งสอนเด็ก ๆ ให้อยู่ในกรอบ แต่ดูคนเป็นพ่อสิ ชอบสปอย ให้ท้ายลูกทุกอย่าง"คุณปูนก็เป็นซะแบบนี้""เอาน่า ถ้าหล่นเดี๋ยวฉันเก็บเอง"เรื่องเก็บมันใช่เรื่องใหญ่ที่ไหนเล่า!โชติมนต์ย่นจมูก ถอนหายใจอย่างฉุน ๆ ทว่าหันไปสบเข้ากับสายตาแป๋ว ๆ ของลูกสาวคนเล็ก ได้ยินเสียงใส ๆ ร้องเรียก"คุณแม่คะ คุณแม่ขาาาา"เธอก็ใจอ่อนในบัดดล"อะ ๆ ก็ได้ค่ะ แต่ป็อปปี้รับปากแม่ก่อนว่าจะถือดี ๆ มองทางแล้วก็มองคนด้วยนะคะ แล้วถ้าเมื่อยเมื่อไรก็ให้คุณพ่อถือแทนนะคะ""ค่าาา"ได้ถือสมใจเด็กหญิงปรินญาดาก็ยิ้มร่า พยายามประคองกระทงสุดชีวิต แต่เพราะข้อมือเด็กสี่ขวบยังไม่ค่อยมีแรงมากนัก บางครั้งจึงเผลอทำเอียง จนดอกไม้ร่วงหล่นรายทาง"ป็อปปี้ถือแบบนี้ แบบพี่นี่"เด็กหญิงปราณปรียาในชุดคล้ายกันแต่โจงกระเบนเป็นสีชมพูบานเย็น อุ้มกระทงที่ประดับด้วยกลีบกุหลาบสีชมพูล้วนของตนให้น้องดูเป็นตัวอย่างคนเป็นน้องพยายามทำตาม แต่สุดท้ายก็ยังทำดอกไม้ตกแต่งหล่นลงพื้นแทบทุกย่างก้าวอยู่ดี เสียงใส ๆ สองเสียงทั้งถกทั้งสอนกันไม่หยุด สลับกับก้มลงเก็บดอกไม
บนพื้นภายในห้องนั่งเล่นของบ้านหิรัญพัฒนา ห้าชีวิตกำลังนั่งล้อมวงทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว"ปันปันอยากใส่อันนี้ด้วยไหมคะ"น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับถาดที่ใส่ดอกไม้มาใกล้มือลูกสาวคนกลางมากขึ้นเมื่อเห็นแกพยักหน้าแรง ๆ แทนคำตอบจากนั้นก็หันไปขยับถาดที่ใส่ดอกดาวเรืองไปให้ลูกชายคนโตที่ดูจะชื่นชอบมันเป็นพิเศษวันนี้เป็นวันลอยกระทง ทางหมู่บ้านมีการจัดงานเล็ก ๆ และเตรียมพื้นที่ไว้ให้ลูกบ้านได้นำกระทงมาลอยได้ที่บริเวณสวนสาธารณะของส่วนกลางแน่นอนว่าเด็กสายกิจกรรมอย่างลูก ๆ ของเธอย่อมไม่มีทางพลาด ทั้งสามหน่อไม่เพียงขอแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาล แต่ยังอยากทำกระทงขึ้นเองด้วยและมีหรือที่คุณพ่อสายเปย์อย่างปวินท์จะไม่ตามใจลูก ๆ ไม่ถึงชั่วโมงวัสดุสำหรับทำกระทงก็วางเรียงรายเต็มพื้นที่แถมไม่ได้ทำเพียงอันเดียวเพราะเด็ก ๆ ต่างร้องว่าอยากมีกระทงเป็นของตัวเอง ไป ๆ มา ๆ เลยงอกออกมาเป็นสามอันหลังห่อก้านต้นกล้วยหั่นท่อนด้วยใบตองและติดกลีบกระทงเรียบร้อยแล้ว เธอก็ปล่อยให้เด็ก ๆ แสดงฝีมือได้ตามใจชอบซึ่งแรก ๆ เด็ก ๆ ก็พากันตั้งใจตกแต่งกระทง แต่หลัง ๆ กลายเป็นตกแต่งหัวของพี่น้องและตัวเองปลุกปล
หญิงสาวดึงผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งมือและเท้าของคนพี่ ก่อนถอยออกจากห้องนอนลูก ๆ ไม่ลืมก้มลงไปจรดปลายจมูก ฝากความรักไว้ที่หน้าผากลูก ๆ คนละหนึ่งทีตอนที่รู้ตัวว่ามีปราณปรียาเธอเป็นห่วงความรู้สึกปราชญ์มากที่สุด กังวลว่าการมีลูกเพิ่มจะทำให้พี่คนโตเครียด และน้อยใจที่ถูกแบ่งความรักไปหรือไม่ทว่าลึก ๆ ในใจก็ยังเชื่อมั่นว่าหากพวกเธอดูแลและเอาใจใส่คนพี่อย่างเหมาะสม ความรักเหล่านั้นจะถูกพี่ชายส่งต่อไปยังน้องสาวได้อย่างเหมาะสมเช่นกันซึ่งสำหรับบ้านของเธอ ทฤษฎีนี้นับว่าได้ผลแม้ช่วงแรก ๆ คนพี่จะมีงอแงบ้างตามประสาคนเคยได้รับทุกอย่างเพียงคนเดียว หากไม่นานก็เริ่มเข้าใจว่าน้องคือสมาชิกใหม่ของบ้าน คือครอบครัว และต่อให้มีน้องเพิ่ม ตัวเขาก็ยังคงเป็นคนสำคัญของพ่อกับแม่ และทวดพรพรรณไม่เปลี่ยนแปลง“วันนี้เหนื่อยไหม”ขึ้นเตียงมาได้ปวินท์ก็รั้งเธอไปนอนกอดพร้อมกับถามคำถามเดิม โชติมนต์อมยิ้ม เบียดกายเข้าหาอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยแล้วสั่นหัวนิด ๆ“ไม่เลยค่ะ วันนี้เด็ก ๆ ไม่ซนกันเลย”แค่หูชานิดหน่อยเพราะเด็ก ๆ กำลังอยู่ในช่วงวัยขี้สงสัยเลยมีความอยากรู้อยากเห็นและชอบตั้งคำถามมากเป็นพิเศษ แต่เธอก็ยินดีจะตอบ“ดีแล้ว ฉั
หลังเด็ก ๆ จัดการคุกกี้จนเกลี้ยงจาน แม่ ๆ ก็พากันจับเจ้าตัวน้อยเปลี่ยนชุด ผลปรากฎว่าไม่เพียงแค่ผู้ใหญ่ที่กรี๊ดหนัก เด็ก ๆ ก็ชื่นชอบกันมากซาลาแมนเดอร์สีชมพูตัวจิ๋วยิ้มร่าโชว์ฟันเล็ก ๆ ที่เรียงเม็ดสวยงามเหมือนเม็ดข้าวโพด ขนาบข้างโดยพี่ ๆ ด้านหนึ่งคือเด็กชายปราชญ์ที่สวมชุดเสือ ส่วนอีกด้านคือเด็กหญิงขวัญชนกซึ่งสวมชุดกระต่ายสีชมพูอ่อนโอ๊ย น่ารักมาก น่ารักจนใจเจ็บ!แววตาแม่ ๆ ทั้งสองเต็มไปด้วยความปลื้มปริ่มตามประสาคนหลงลูก ทั้งกดถ่ายรูปและอัดคลิปวิดีโอเก็บไว้อวดพ่อ ๆ ที่วันนี้มีนัดคุยงานกับลูกค้าสำคัญด้านคนเป็นทวดก็ไม่น้อยหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้อง พยายามถ่ายภาพเหลน ๆ ในอิริยาบถต่าง ๆ เช่นกัน ต่อให้รูปที่ได้จะสั่นบ้าง หลุดโฟกัสบ้างก็ตามไม่ถึงสิบนาทีรูปใหม่ในโทรศัพท์ก็เพิ่มมาเกินร้อยรูป“เหมาะมาก”“ใช่ไหมคะคุณย่า” โชติมนต์พยักหน้าแรง ๆ ว่าเห็นด้วย ปลายนิ้วกดส่งรูปเด็ก ๆ ไปให้คุณยายที่อยู่แดนไกล“นี่น้ำมนต์ยังมีชุดผึ้ง ปลาโลมา แมงกะพรุน แล้วก็ไดโนเสาร์อีกนะคะ”“ไม่ได้หมายถึงชุด”คุณพรพรรณส่ายหน้า จากนั้นนางก็หันไปสบตากับอีกคนที่นั่งอยู่ถัดไป อมยิ้มกรุ้มกริ่ม เพียงเท่านี้สองแม่ก็เข้า
ภายในห้องนั่งเล่นบ้านหิรัญพัฒนาวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงหยอกล้อสลับกับเสียงหัวเราะคิกคักดังกว่าทุกทีเมื่อรอบนี้กรกันต์กับขวัญข้าวพาลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนลงมากรุงเทพด้วย“คุณลูกค้าเอาอันไหนดีค้าาา อันนี้ขนมชั้น อันนี้ขนมครก อันนี้ขนมเค้ก อันนี้ลูกชิ้นทอดค่าาาา”น้องข้าวหอมหรือเด็กหญิงขวัญชนก วัยห้าขวบหกเดือน ทายาทรีสอร์ตดังของภาคเหนือที่ตอนนี้ผันตัวจากมาเป็นแม่ค้าขายขนมริมทางส่งเสียงเจื้อยแจ้วมือชี้สินค้าที่ตนวางขายพลางอธิบายให้ลูกค้ากิตติศักดิ์สองคนฟังทีละชิ้น ซึ่งแน่นอนว่าขนมที่ว่าไม่ใช่ของจริง แต่เป็นของเล่นพลาสติก“ปันปันอยากกินอันไหน” ลูกค้ากิตติมศักดิ์คนที่หนึ่งหันไปถามลูกค้ากิตติมศักดิ์คนที่สอง“กิน นี่ อันนี้”เพราะยังไม่ถึงสองขวบดีเด็กหญิงเลยเปล่งได้เป็นคำ ๆ ก่อนจะยืนยันความต้องการของตนด้วยการคว้าของสิ่งนั้นมาถือไว้“คุณลูกค้าาา เดี๋ยวก่อนค่ะ ต้องขอใส่จานก่อน”แม่ค้าถึงกับหวีดร้อง รีบหยิบจาน แต่เพราะที่คีบของเล่นใช้งานยาก สุดท้ายเธอก็ใช้มือเล็ก ๆ ของตนหยิบขนมของเล่นที่เหลือใส่จานแล้วยื่นให้“สิบบาทค่าาา”กระดาษสีเขียวที่มีเลข 20 พิมพ์ไว้เลียนแบบธนบัตรของจริงถูกยื่นไปให้แ
ปวินท์หมุนตัวมาเตรียมชามสำหรับใส่อาหาร ตอนนั้นเองหางตาก็เห็นร่างอรชรที่หยุดฝีเท้าไว้เพียงหน้าทางเข้า“อ้าว ลงมาเร็วจัง”“แม่!”เด็กชายปราชญ์หันมองตาม พอเห็นเป็นมารดาก็เลิกสนใจเครื่องปั่น ร่างสมส่วนที่บัดนี้สูงเกินเกณฑ์เด็กสี่ขวบนิดหน่อยถลันไปหา“อันนี้ นี่ ปราชญ์ทำแหละครับ”เด็กชายปราชญ์ชี้ไม้ชี้มือ รีบโอ้อวด ทำเอาคนที่เตรียมทุกอย่างแต่ถูกแย่งหน้าที่ไปในห้านาทีสุดท้ายได้แต่ส่ายหัวยิ้ม ๆ หากก็ไม่ได้ทักท้วงหักหน้าลูกชาย“หูยยย แบบนี้ต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลย ไหนดูสิ วันนี้พี่ปราชญ์ทำอะไรให้น้องปันปันกินครับ”โชติมนต์ทำหน้าตื่นเต้นแล้วเดินตามลูกชายที่จูงมือเธอไปดูเครื่องปั่น ฟังเด็กน้อยเล่าอย่างกระตือรือร้นว่าตนได้หยิบจับ ทำอะไรไปบ้างอย่างตั้งใจ กระทั่งจบก็ยกนิ้วโป้งให้“เก่งจังเลยครับพี่ปราชญ์ของแม่”“ใช่ ๆ พี่ปราชญ์ก็ว่าพี่ปราชญ์เก่ง”นอกจากไม่ถ่อมตัวแล้ว เด็กชายยังยืดอกรับคำชมอย่างภาคภูมิด้วย โชติมนต์หัวเราะ ลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู“วันนี้แม่ว่าน้องต้องกินข้าวที่พี่ปราชญ์ทำให้เยอะแน่ๆ เลยครับ”และพอรู้ว่าน้องสาวลงมานั่งรอที่ชั้นล่างแล้ว เด็กชายปราชญ์ที่เมื่อครู่ทั้งยืนยันนั่งยันว่าจะทำม







