แชร์

นางบำเรอ(6)

ผู้เขียน: ไรท์โส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-21 15:35:20

พอได้สติฉันก็รีบเปิดประตูเดินตามชายหนุ่มออกมา

"ตกลงคุณจะให้แมร์ทำอะไรคะ"ฉันตะโกนถามชายหนุ่มหน้าเข้มที่เดินก้าวขายาวในระยะที่ค่อนข้างไกล เขาหยุดเดินแล้วหันมาที่ฉันพร้อมกับสีหน้าเหยียดยิ้ม

"รอกูอยู่ในห้อง"เจ้าของบ่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม

"...."ฉันขมวดคิ้วจ้องหน้าชายหนุ่มหน้าเข้มด้วยความสงสัย.

"กูบอกให้เข้าไปรอในห้อง!"คนร่างสูงตวาดใส่เสียงดังทำเอาฉันต้องตกใจสะดุ้งอีกครั้ง.

"ค่ะ ๆ"แล้วรีบพาตัวเองกลับเข้ามาในห้อง.

ฉันได้แต่นั่งโง่ ๆ กวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องอย่างเบื่อหน่าย ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วคุณทอร์ชก็ยังไม่กลับมา ก็อก ก็อก ก็อก จู่ ๆ ก็มีคนเคาะประตูอยู่ที่หน้าห้อง ฉันรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปเปิดประตู ก็พบกับหญิงสาวที่แต่งตัวเครื่องแบบพนักงาน มือทั้งสองถือถาดอาหารไว้

"คุณทอร์ชสั่งให้ฉันเอาอาหารมาให้"ว่าจบหญิงสาวก็ยื่นถาดอาหารมาให้ฉัน

"ขอบคุณนะคะ"ฉันรับมาพร้อมกับคลี่ยิ้มหวานให้

"..."เธอไม่พูดอะไรได้แต่ส่งสายตามองฉันหัวจรดเท้า

"มีอะไรหรือเปล่าคะ"ฉันจึงเอ่ยถามเธอด้วยความสงสัย

"พ่อเธอเอาตัวเธอมาขายเพื่อปลดหนี้?"หญิงสาวพูดในเชิงถาม

"เอ่อ..."ฉันก้มหน้างุดไม่รู้จะบอกกับเธอยังไง.

"ปกติคุณทอร์ชไม่รับใครง่าย ๆ หรอกนะ"ฉันเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว

"ลูกหนี้หลายต่อหลายคนมักจะเอาลูกมาเสนอขายให้คุณทอร์ชเพื่อหวังจะปลดหนี้ แต่คุณทอร์ชไม่รับเอาใครเลย เพราะจริง ๆ แล้วคนอย่างคุณทอร์ชไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อผู้หญิงคนไหน.."

"...มีแต่ผู้หญิงยอมถวายตัวให้คุณทอร์ชฟรี ๆ อยู่แล้ว"

"..."ฉันได้แต่ยืนฟังเธอพูดนิ่ง ๆ

"จะโชคดีก็ว่าได้นะเธอเนี่ย..ที่คุณทอร์ชยอมเสียเงิน เหอะ"หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับกลั้วหัวเราะเบา ๆ

"...."โชคดีงั้นเหรอ? ฉันได้แต่คิดในใจ

"ไปก่อนนะ กินให้อร่อยล่ะ"ว่าจบหญิงสาวก็เดินไป ฉันถอนลมหายใจเบา ๆ ก่อนที่เอื้อมไปปิดประตู แล้วกินข้าวที่หญิงสาวนำมาให้

หลังจากกินข้าวเรียบร้อย ฉันก็ยังคงต้องอยู่ในห้องตามคำสั่งเจ้าของบ่อน จนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแข็ง ๆ มาสะกิดที่แขน ขณะที่นอนราบอยู่บนโซฟา พอลืมตามองก็เห็นว่าชายหนุ่มหน้าเข้ม ยืนเอามือสอดเข้าไปในกระเป๋าแล้วยกเท้าสะกิดที่แขนฉัน ไอ้ที่แข็ง ๆ นั้นก็คือรองเท้าของเขา ฉันรีบหยัดกายลุกขึ้น

"ตามกูมา"เจ้าของบ่อนพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม ก่อนที่จะเดินเปิดประตูออกไป ฉันจึงรีบคว้ากระเป๋าสัมภาระตามเขาไปทันที

คุณทอร์ชพาฉันออกมาจากบ่อน และฉันเพิ่งจะได้รู้ว่าตอนนี้ตะวันตกดินซะแล้ว อยู่ด้านในไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันเลย ชายหนุ่มหน้าเข้ม เดินมาถึงที่รถแล้วเปิดประตู ก่อนที่เขาจะเข้าไปด้านในรถ

"ขึ้นรถ!"เขาตวาดใส่ฉันอีกแล้ว.

"ค่ะ ๆ"ฉันจึงรีบเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งเบาะ ข้าง ๆ คนขับ จากนั้นคุณทอร์ชก็ขับรถออกมา

"คุณทอร์ชจะพาแมร์ไปไหนเหรอคะ"ด้วยความอยากรู้ฉันจึงตัดสินใจเอ่ยถามคนขับที่สายตาจ้องไปถนนสีหน้านิ่ง ๆ

"กูไม่จำเป็นต้องตอบคำถามโง่ ๆ ของมึง..."

"...เพราะถึงกูจะพามึงไปตายกูก็สามารถทำได้"ฉันก้มหน้างุดหัวใจเต้นรัว ๆ

"ตอนนี้ชีวิตมึงอยู่ในกำมือกู"ว่าจบชายหนุ่มก็หันกลับไปที่ด้านหน้า

"...."ฉันนั่งตัวแข็งราวกับหิน หัวใจเต้นแรงมาก รู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่มคนนี้ขึ้นมาทันที

รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาโครงการคอนโดแห่งหนึ่ง ฉันได้แต่เงยหน้ากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ไม่กล้าปริปากพูดอะไร จนกระทั่งรถจอดสนิท

"ลง!"ฉันสะดุ้งแล้วกำกระเป๋าแน่น ก่อนที่จะรีบเปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินตามคนร่างสูงเข้ามาในคอนโดหรู

พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ต่างยกมือไหว้เขาอย่างนอบโน้ม ชายหนุ่มหน้าเข้มเลี้ยวขวาไปที่ทางเข้าลิฟต์ ในลิฟต์ฉันยืนตัวเกร็งกำกระเป๋าไว้แน่น ในใจยังคงมีความหวาดกลัว พอลิฟต์มาที่ชั้น 25 ชายหนุ่มร่างสูงก็เดินนำออกมา โดยมีฉันตามไปติด ๆ เขาหยุดยืนตรงที่ห้อง 25250 แล้วใช้คีย์การ์ดแปะไปที่แม่เหล็กหน้าประตู จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไป

ภายในห้องไม่ได้แคบหรือกว้างมาก ขนาดของห้องเหมาะสำหรับที่จะอยู่ได้ 1-2 คน เพราะมีห้องนอนเพียงห้องเดียว มีห้องรับแขก ด้านหลังของห้องมีครัวเล็ก ๆ ฟุ่บ! ชายหนุ่มหน้าเข้มล้มตัวลงนั่งบนโซฟาพร้อมกับยกขาขึ้นไขว้ห้าง เอนหลังเอาแขนทั้งสองพาดพนัก ส่วนฉันยังยืนกอดกระเป๋าแน่น สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง

"มึงต้องอยู่ที่นี่"ฉันหันขวับไปที่ชายหนุ่มทันที

"...."แล้วขมวดคิ้วจนเป็นปม

"และมึงจะต้องมาเป็นนางบำเรอให้กู"

"มะ.."

"หึ มึงคิดว่าจะขัดกูได้?"ยังไม่ทันจะพูดอะไรคุณทอร์ชก็แทรกพูดขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มร้าย ก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นแล้วก้าวขาเดินมาที่ฉัน ขณะที่ฉันพยายามถอยหลังหนีด้วยความกลัว แต่สุดท้ายหลังก็ชนกับกำแพงห้อง คุณทอร์ชกระตุกยกยิ้มพอใจเมื่อเห็นฉันกำลังจนตรอก เขาใช้มือทั้งสองยันที่กำแพง กักกันไม่ให้ฉันหนีไปไหน

"อย่ามาทำตัวเป็นสาวบริสุทธิ์หน่อยเลย.."

"...โดนมาเท่าไหร่แล้วล่ะ"ฉันยืนตัวสั่นจ้องหน้าเขา

"ที่กูยอมเอาก็เป็นบุญของมึงขนาดไหนแล้ว"

"...."ฉันพูดอะไรไม่ออก ปากสั่นระริก ดวงตาเห่อร้อนไปหมด

"คนอย่างมึงมันก็แค่ผู้หญิงหิวเงิน"

"..."

"ใครมีเงินเข้าหน่อยก็รีบอ้าขาให้ทันทีไม่ใช่เหรอ"

"..."ตอนนี้น้ำตาฉันไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว

"อย่ามาทำสำอ่อยกับกู!"เขาตวาดใส่หน้าฉันเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหย่ง

"กูไม่อยากเห็นน้ำตาผู้หญิงอย่างมึง"น้ำตาฉันยังคงไหลออกมา ไม่ว่าฉันพยายามจะกลั้นเอาไว้สักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถหยุดไหลได้เลย

"เฮ้อ..."ชายหนุ่มหน้าเข้มพ่นลมหายใจออกมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง ฉันยืมมองแผ่นหลังชายหนุ่มร่างสูงอย่างโล่งใจ พอประตูปิดฉันก็ฟุบกายลงนั่งแล้วร้องไห้โฮออกมา

ฉันไม่เข้าใจทำไมคุณทอร์ชจะต้องพูดจาดูถูกดูแคลนฉันขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเขาเคยรู้จักฉันมาก่อน ฉันเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ? ฉันเป็นผู้หญิงหิวเงิน? ฉันไม่ใช่สาวบริสุทธิ์? ฉันเคยมีสามี? คำถามเต็มหัวฉันไปหมด ทำไมฉันจึงจำเรื่องราวไม่ได้สักทีนะ ตอนนี้ฉันได้แต่นั่งร้องไห้น้อยใจ และแค้นใจตัวเองมาก

'ฉันต้องทนกับสภาพแบบนี้อีกนานแค่ไหน'

กลางดึกระหว่างที่ฉันนอนหลับอยู่บนเตียงก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงประตูในห้องนอนเปิดเข้ามา จึงเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่ตั้งอยู่ที่หัวเตียง ก็ปรากฎร่างชายหญิงคู่หนึ่งเดินกอดจูบกันเข้ามา ชายหนุ่มอยู่ในสภาพมึนเมา

"พี่ทอร์ชมีคนอยู่นี่คะ"ชายหนุ่มหน้าเข้มชะงักจากซอกคอหญิงสาวแล้วหันมาที่ฉัน

"ออกไป!"แล้วตวาดไล่ฉัน

"ค่ะ"ฉันรีบลงจากเตียงแล้วพาตัวเองออกมาข้างนอก ปัง ! ประตูถูกปิดลง ฉันเดินมานั่งที่โซฟา แล้วพ่นลมหายใจเบา ๆ

"อ้างงง พี่ทอร์ชขา"เป็นเสียงหญิงที่อยู่ในห้อง ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงหยาบโลนดังออกมา

ปึก! ปึก! ปึก!

"อะ อ๊ะ อื้อออ" ปึก ปึก ปึก

"อ่า" ปึก! ปึก! ปึก!

ฉันต้องทนฟังเสียงบ้า ๆ นี่แทบทั้งคืน กว่าเสียงจะเงียบลงก็เกือบสว่าง และแล้วฉันก็นอนหลับบนโซฟารับแขกนั้นแหละ

ตอนเช้า ฉันตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงประตูเปิดออกมา จึงรีบหยัดตัวลุกขึ้น คุณทอร์ชออกมาพร้อมกับหญิงสาวคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าตัวเมื่อคืน

"เข้าไปทำความสะอาดในห้องด้วย'เขาหันมาสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวฉันแล้วหันไปที่หญิงสาวที่โอบเอวอยู่

"แวะไปหาอะไรกินกันก่อนนะครับ'แล้วพูดกับเธออย่างสุภาพ

"พี่ทอร์ชน่ารักที่สุด"ว่าจบหญิงสาวก็หอมแก้มชายหนุ่มหน้าเข้มฟอดใหญ่ ก่อนที่จะพากันออกไปจากห้อง ส่วนฉันก็พาตัวเองเข้ามาในห้องนอนเพื่อทำความสะอาดตามคำสั่ง พอเดินเข้าไปฉันก็ต้องยืนตะลึง เมื่อถุงยางทีใช้แล้วเกลื่อนกราดเต็มพื้น ผ้าปูเตียงก็ยับยู่ยี่ไปหมด

"เฮ้อ"ฉันพ่นลมหายใจออกมาก้อนที่จะดึงทิชชูเก็บถุงยางทั้งหมดใส่ในถังขยะ

____________________________________

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แค้นฝังรัก   5 คนพ่อแม่ลูก nc20++(จบ)

    เขาว่ากันว่า...'ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ'หลังจากที่ผ่านเรื่องราวร้าย ๆ มาอย่างหนักหน่วง แทบเอาชีวิตไม่รอดแต่สุดท้ายฉันก็ผ่านมามันได้ และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้วฉันมีสามี และลูกที่น่ารักของฉันทั้งสอง นั้นก็คือ รณ และทอยฉันรักน้องทอยราวกับลูกแท้ ๆ ให้ความรักเท่ากับรณ หนึ่งเดือน สองเดือนแรกหลังจากที่อันเสีย น้องทอยร้องไห้หาแม่ของเขาบ่อยมาก และดูเศร้า ไม่สดใสเหมือนก่อน บ่นคิดถึงแต่แม่ แต่ด้วยความรักและความอบอุ่นที่ฉันกับพี่ทอร์ชคอยโอบกอดเขาไว้ในยามที่เขาเศร้า ทำให้เด็กน้อยกลับสดใสได้ไม่นาน รณมักจะชวนพี่คุย ชวนพี่เล่น เวลาเห็นน้องทอยนั่งหงอยเหงา แม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่รณก็มีความผูกพันธิ์กับพี่ชายต่างมารดาราวกับพี่ชายแท้ ๆ จึงมีความรักและเป็นห่วงน้องทอยมากเป็นพิเศษพอเข้าเดือนสามน้องทอยก็กลับมาสดใสยิ้มแย้ม มีความสุขเหมือนเดิม ยังขอเข้าเฟรมถ่ายรูปกับฉันและพี่ทอร์ชให้วันแต่งงานด้วย ต่างจากรณลูกชายฉันขานั้นไม่ชอบเข้ากล้องจะอุ้มมาถ่ายด้วยกันก็ไม่ยอมงานแต่งของฉันไม่ได้จัดใหญ่โตเหมือนกับงานของอัน ฉันต้องการให้งานแต่งของฉันเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตอนนี้ฉันกับพี่ทอร์ชก็ได้จดทะเบีย

  • แค้นฝังรัก   จุดจบ(54)

    ภาพในกล้องวงจรปิด...เวลา 17.20นอันเดินออกมาจากรั้วบ้านแล้วกำลังจะเปิดประตูรถที่จอดไว้หน้าบ้าน จู่ ๆ ก็มีรถยนต์อักคันขับเข้ามาจอดที่ท้ายรถของเธอ เจ้าของรถดังกล่าวลงมาแล้วเดินไปหาอัน วงจรปิดที่หน้าบ้านได้ถ่ายใบหน้าไว้ชัดเจน แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนั้นก็คือ'นัน'อดีตแฟนเก่าของอันนั้นเอง ทั้งคู่เหมือนมีปากเสียง จนกระทั่งอันได้ตบเข้าที่ใบหน้านันอย่างจัง ทำให้ชายหนุ่มโกรธ จึงผลักอันจนร่างเซ แล้วชักปืนที่เอวออกมา ราวกับขมขู่ให้อันมอบกระเป๋าที่สะพายอยู่ให้ ระหว่างที่อันกำลังจะส่งกระเป๋าให้กับนัน อยู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนใจ เอากระเป๋าฟาดไปที่ใบหน้าอดีตแฟนเก่าแล้วหันหลังวิ่งหนี ปัง! นันที่กำลังโมโหสุดเดือดจึงลั่นไกยิงไปที่แขนอัน แต่อาจจะแค่ถาก ๆ อันก็วิ่งตะโกนขอความช่วยเหลือ กล้องวงจรปิดอีกตัวบันทึกภาพต่อ เห็นอันวิ่งหนีสุดชีวิต ขณะที่นันก็วิ่งตามไปติด ๆ เธอวิ่งอย่างรนรานทำให้พลาดล้มลง แล้วศีรษะฟาดเข้าที่พื้นอย่างแรง จากนั้นเธอก็สลบไป จนนันมาถึงตัวเธอก็ใช้เท้าเขี่ยร่างอันที่นอนแน่นิ่ง ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าอันขึ้นมา แล้วหยิบของมีค่าไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ ที่อันสวมใส่ ทั้งหมดที่เห็นทำให้ฉัน

  • แค้นฝังรัก   จับมือไว้ให้แน่น(53)

    สามวันต่อมา...ตอนนี้หมอให้น้องรณกลับบ้านได้แล้วหลังจากที่อาการน้องดีขึ้น หมอกำชับว่าให้น้องรณอยู่ในพื้นที่อบอุ่นสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เพราะช่วงนี้อากาศยังเย็นอยู่ พี่ทอร์ชได้บอกกับหมอไปว่า"ผมจะพาลูกกลับไปอยู่กรุงเทพแล้วล่ะครับ"ใช่แล้ว สรุปฉันตัดสินใจที่จะไปกับพี่ทอร์ชด้วยความที่เขาอ้อนวอนทุกวันจนฉันใจอ่อน"ต่อไปนี้พี่จะจับมือเธอไว้ให้แน่น เธอห้ามปล่อยมือเด็ดขาด"แม่ขออยู่ที่นี่เพราะเธอชอบบรรยากาศท่านอ้างว่าอยู่กรุงเทพรู้สึกอึดอัด ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ฉันก็ตามใจท่านและสัญญาว่าจะมาเยี่ยมท่านบ่อย ๆกรุงเทพมหานคร...พี่ทอร์ชพาฉันกับลูกมายังตึก4ชั้นซึ่งมีพ่อ แม่ รออยู่ ฉันรู้สึกเกร็ง ๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย ขณะที่มือหนาจับมือฉันไว้ตลอดติ๊ด...พอประตูลิฟต์เปิดพี่ทอร์ชที่อุ้มลูกมืออีกข้างจับมือฉันเดินเข้ามาในห้องรับแขก"สวัสดีดีค่ะ น้าโดส น้าเทียน"ฉันสลัดมือออกจากมือพี่ทอร์ชแล้วยกมือไหว้พ่อแม่พี่ทอร์ช"สวัสดีจ๊ะหนูเร"แม่พี่ทอร์ชเอ่ยแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ ส่วนพ่อของเขาก็ผงกหัวรับ แล้วให้ฉันนั่งลงที่โซฟา ก่อนที่พี่ทอร์ชจะเดินไปยืนตรงหน้าพ่อกับแม่ แล้วพูดกับลูกให้ไหว้ปู่กับย่า แต่รณนิ่งแต่หันมามอ

  • แค้นฝังรัก   รักลูกเท่ากัน(52)

    "พรุ่งนี้พี่จะเข้ามาแต่เช้า เรอยากกินอะไรพิเศษไหม"พี่ปอนด์เอ่ยถามขณะที่ฉันเดินออกมาส่งเขากับผอ.ดริฟที่นอกห้องพักฟื้นของเด็กเล็ก โดยมีพี่ทอร์ชเฝ้าดูลูกอยู่ในห้อง"ไม่ค่ะ ขอบคุณนะคะ"ฉันตอบปฏิเสธไปเพราะตอนนี้ไม่อยากกินอะไรเลย เป็นห่วงแต่ลูกและยังกังวลเรื่องที่พี่ทอร์ชบอกว่าจะหย่ากับอัน"คุณเร..จริง ๆ แล้วพ่อของดริฟท่านบอกให้พี่ทอร์ชพาคุณและลูกไปหาท่าน"ผอ.ดริฟพูดขึ้น"...."ฉันก้มหน้างุดเพราะไม่อยากไปเลยจริง ๆ"ดริฟเข้าใจคุณเรนะคะ ดริฟเคารพการตัดสินใจของคุณเรค่ะ"ฉันเงยแล้วยิ้มหวานให้อย่างจริงใจและดีใจที่มีคนเข้าใจฉัน"พี่ไปก่อนนะ"พี่ปอนด์พูดขึ้นแล้วจับมือแฟนสาวหันหลังเดินไป ฉันลอบมองแผ่นหลังทั้งคู่แล้วถอนลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะกลับเข้ามาในห้อง พอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพ่อลูกกำลังนั่งหยอกล้อกันอยู่บนเตียง รณยิ้มให้พี่ทอร์ชด้วย น้อยคนมากที่จะเห็นรอยยิ้มเด็กคนนี้"เร พี่คิดว่าลูกจะยิ้มไม่เป็นซะอีก"พอฉันเดินมาที่ข้างเตียงพี่ทอร์ชก็หันมาบอกฉันแล้วยกยิ้มพอใจแววตามีแต่ความสุข"รณ เป็นคนยิ้มยากน่ะ"ฉันยกมือกอดอกแล้วพูดขึ้นสายตามองไปยังลูกชายที่กำลังหันมาทำหน้านิ่งใส่ฉันเฉย"อ้าว ไม่ยิ้มให้แม่บ้างล่ะครับ

  • แค้นฝังรัก   สารภาพ(51)

    Part อัน"ฮือออ อันมีเรื่องจะบอกกับทุกคน ฮึก"แม่พี่ทอร์ชวางช้อนแล้วเดินมาประคองฉันไปนั่ง"มีเรื่องอะไรหรือหนูอัน"พอฉันนั่งลงน้าเทียนแม่พี่ทอร์ชก็เดินไปนั่งที่ตัวเองในขณะที่คนที่นั่งอยู่หันมาที่ฉันเป็นตาเดียวยกเว้นพี่ทอร์ช ที่ไม่สนใจอะไรฉันเลย"หยุดร้องไห้ แล้วพูดมาหนูมีเรื่องอะไร"ฉันพยายามหยุดร้องไห้ตามคำสั่งแม่พี่ทอร์ช แล้วหันไปที่พี่ทอร์ช"พี่ทอร์ช...เรมีลูกกับพี่อีกคน"แล้วพูดขึ้น แต่สิ้นเสียงช้อนส้อมที่พี่ทอร์ชถือก็ร่วงหล่นลงมาแล้วหันขวับมาที่ฉัน"เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ"ไม่ใช่แค่พี่ทอร์ชคนเดียวที่ตกใจพ่อแม่เขารวมถึงพี่เหนือก็ตกใจเช่นเดียวกัน"เรมีลูกกับพี่อีกคน..และตอนนี้ลูกของเรก็ป่วยหนัก ฮึก.."พรึ่บ พี่ทอร์ชลุกขึ้นทันที"เร...เรกับลูกของฉันอยู่ที่ไหน"คำพูดของเขาทำให้หัวใจฉันเหมือนโดนกรีด ลูกของฉัน? ฉันก้มหน้าลงแล้วส่ายหัว ซึ่งฉันไม่รู้จริง ๆ"ดริฟรู้ค่ะ"เสียงหวานน้องสาวสามีดังเข้ามาพร้อมเสียงลากกระเป๋า"ยัยดริฟ?"แม่พี่ทอร์ชพูดด้วยความสงสัย"แกรู้ได้ยังไง แล้วเรมีลูกกับพี่จริง ๆ หรือเปล่า ตอบพี่มา"พี่ทอร์ชเอ่ยถามน้องสาวอย่างใจร้อน"จริง คุณเรให้กำเนิดลูกของพี่อีกคน และตอนนี้เขากำ

  • แค้นฝังรัก   ไม่น่าเชื่อ(50)

    ตอนนี้ฉันเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องตรวจด้วยหัวใจที่สั่นหวิว น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเป็นห่วงและสงสารลูก ที่ตอนนี้เขาป่วยหนักมากเพราะหลายวันมานี้ ที่นี่อากาศเย็นมาก ยิ่งบริเวณพื้นที่ ที่ฉันอยู่มีหมอกลงตลอด จึงทำให้รณหนาวมีอาการชักขึ้นมา ฉันจึงให้ผึ้งรีบขับรถพาฉันกับลูกมาที่โรงพยาบาลทันที ตลอดทางฉันกอดลูกแล้วห่มหนาให้เพื่อให้อบอุ่น เพราะอาการค่อนข้าวหนาวมาก"พี่เรใจเย็น ๆ น้องรณถึงมือหมอแล้ว"ผึ้งเดินเข้ามาลูบแขนฉันแล้วพูดปลอบใจ"พะ พี่เป็นห่วง ฮืออ"ฉันร้องไห้ซบลงที่ไหล่ผึ้งอย่างกั้นไว้ไม่อยู่"น้องรณต้องไม่เป็นไร"สาวทอมพูดพร้อมเอามือมาลูบที่หลังฉัน"ผึ้งโทรบอกคุณปอนด์แล้วนะ"พอผละออกจากไหล่ ผึ้งก็พูดขึ้น"อืม"ฉันตอบกลับสั้น ๆ แต่สายตายังคงจดจ้องไปที่ห้องตรวจที่หมอกำลังรักษาลูกชาย"คุณปอนด์บอกว่าจะรีบมา"ผึ้งพูดต่อฉันก็ได้แต่ผงกหัว ไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนี้ฉันห่วงลูกน้อยอยู่เวลาผ่านไป..พอหมอเดินออกมาจากห้องตรวจ ฉันก็รีบวิ่งไปดักหน้าแล้วถามอาการลูกชายทันที"หมอคะ ลูกฉันเป็นยังไงบ้าง""พ้นขีดปลอดภัยแล้วครับ น้องน่าจะไม่ถูกกับอากาศเย็น ๆ...."พอพูดจบหมอก็คลี่ยิ้มบาง ๆ"...หมอจะให้พักฟื้นที่นี้ก่อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status