“เป็นไงบ้างเหนื่อยไหม!” ทันทีที่แฟนหนุ่มเดินเข้าบ้านแฟนสาวที่ตอนนี้รับหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวดูแม่ที่ป่วยเดินเข้าไปสวมกอดแฟนหนุ่มด้วยความคิดถึง
หลังจากวันนั้นทั้งสองก็ได้จดทะเบียนสมรส และย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านฝ่ายชายโดยที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
เพราะจำนวนเงินก้อนโต ที่สไนเปอร์มอบให้มันมากมายจนพวกเขาไม่สนใจในตัวลูกสาว
จะมีแค่เพียงผู้เป็นน้องสาวที่ไม่พอใจเพราะตัวเองก็แอบรักสไนเปอร์ตั้งแต่ยังเป็นแค่เพื่อนกับพี่สาว
คิดหาทางที่จะแย่งสามีพี่ทุกวิถีทาง
“เปอร์ไม่เหนื่อยแล้วซอนบีล่ะเหนื่อยไหม วันนี้แพ้ท้องมากไหม ขอโทษนะช่วงนี้เรามีงานทุกวันเลยไม่มีเวลาดูแล” มือหนาลูบหัวแฟนสาวอย่างอ่อนโยน
“นิดหน่อย แต่พรุ่งนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันนะ พอดีป๊ากับหม่าม้าอยากคุยเรื่องแต่งงานของเรา ส่วนเรื่องหม่าม้าเราให้เพื่อนมาช่วยดูแลแทนวันหนึ่ง” แฟนสาวพูดอย่างออดอ้อน
“ไม่มีปัญหา อะไรที่ทำให้คุณแม่สบายใจ พ่อคนนี้ทำให้ได้ทุกอย่าง!”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดพลางปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนวล ก่อนกลีบปากนุ่มจะประทับจูบมอบจุมพิตอันแสนหวานให้แฟนสาว
พรึบ!
“ก่อนมื้อค่ำ” ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังห้องนอน เพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาเสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกจากตัวไม่เหลือสักสิ้น
สองร่างเปลือยเปล่าจ้องหน้าสบตากันก่อนจะมอบบทเพลงรักอันหอมหวาน มอบความสุขทางกายผ่านท่วงท่าอันเร่าร้อนให้แก่กันและกัน
วันรุ่งขึ้น...
“พี่เปอร์ สวัสดีค่ะ” ซึนยอนวิ่งเข้ามาเกาะแขนแฟนพี่สาวทันทีที่เขาลงจากรถ
“.....” ชายหนุ่มไม่พูดอะไรปัดมือหญิงสาวออกแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้แฟนสาว
“ขอบคุณค่ะ!”
ยิ่งชายหนุ่มเมินใส่ยิ่งสร้างความแค้นในใจให้ซึนยอน แต่เธอก็ทำได้เพียงยืนกำหมัดและแอบยกยิ้มมุมปากเพราะนี่มันเป็นแผนการที่เธอกับเพื่อนสาววางไว้
ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเป็นแค่เพียงการนัดทานข้าวพูดคุยฉันครอบครัวแต่ทว่า....
“สวัสดีค่ะทุกคน” ทันทีที่แขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัว สไนเปอร์ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
“นับดาว! มาได้ไงอะ” ซึนยอนพูดทักทายเพื่อนสาว
“พอดี...ดาว” แต่เธอกลับเอาแต่จ้องหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งนิ่งกำหมัดแน่น
จนแฟนสาวสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ด้วยสัญชาตญาณเธอรับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาคิดยังไงกับสามีเธอ
“เปอร์ว่าเราไปกันเถอะ เปอร์อยากอยู่กับซอนบีตามลำพัง!”
พรึบ!
สิ้นคำพูดร่างสูงลุกพรวดจูงมือแฟนสาวออกจากตรงนั้นทันที เพราะเขาไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองได้นานแค่ไหน แต่เห็นหน้าผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้นเขาก็อยากจะระเบิดอารมณ์โทสะใส่เธอ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” แฟนสาวเอ่ยขึ้นหลังจากเดินห่างออกจากตรงนั้น ด้วยความเป็นห่วง
“ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ทำให้หม่าม้าเจ็บ!” สายตาเย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้
ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้แฟนสาวฟัง
“แล้วแบบนี้แสดงว่าเธอ...” แฟนสาวพอได้ฟังก็ถึงกับช็อกอ้าปากค้าง
“แต่ช่างเถอะตอนนี้เปอร์ไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากเรื่องของเรา”
ชายหนุ่มดึงร่างแฟนสาวเข้ามากอดด้วยความหวงแหน เขาเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่มีเธอผู้หญิงที่แสนดีเป็นแฟนและพร้อมที่จะยืนเคียงข้างเขาไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน
“ไปเดินเล่นทางโน้นกันดีกว่า”
สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันชื่นชมบรรยากาศชายทะเล พูดกระซิบหยอกล้อเล่นกันเหมือนคู่รักหนุ่มสาวทั่วไป
โดยไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนจับตามองดูการกระทำของทั้งคู่อยู่
.
.
“ทำตามที่ฉันบอกถ้าเธออยากได้เขาเป็นของตัวเอง!” หญิงสาวกร้านโลกพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่เห็นชายหนุ่มที่เธอหมายปองไม่สนใจเธอทำเหมือนเธอเป็นเศษดินไร้ค่า เลยคิดที่จะยืมมือเพื่อนสาวกำจัดมารหัวใจให้พ้นทาง
และเมื่อทุกอย่างสำเร็จชายหนุ่มก็จะเป็นของตัวเอง
“เออ ๆ แค่นี้ก็ต้องใช้อารมณ์”
“แต่อย่าลืมนะว่านั่นพี่สาวฉันแค่เล่น ๆ นะไม่ใช่เอาจริง!” ซึนยอนถึงจะอยากได้แฟนพี่จนตัวสั่น แต่ก็ไม่ถึงกับอยากทำร้ายให้ถึงขนาดเลือดตกยางออก
“รู้แล้วน่ะ พอพี่สาวเธอออกไปเธอก็จัดการรวบหัวรวบหางร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายแค่นั้นก็จบ” เพื่อนสาวพูดอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นอีกคนทำท่าลังเล
“แล้วทำไมต้องนัดพี่ซอนบีออกไปไกลขนาดนั้นด้วย” ซึนยอนถามอย่างสงสัย
“โอ๊ยตกลงจะเอาไหมผู้ชายถ้าไม่เอาจะได้กลับ!” เมื่อเห็นเพื่อนเซ้าซี้อีกฝ่ายก็ทำท่าจะไม่ช่วย!
“เอา ๆ ๆ ๆ ช่วยฉันหน่อยนะ” เพราะความอยากได้ผู้ชายของพี่ทำให้ความผิดชอบชั่วดีในใจของซึนยอนหายไปหมด
ส่วนคนที่ดีใจที่สุดจะเป็นใครที่ไหนได้นอกจากเพื่อนรักที่แอบยิ้มร้าย ถ้าเธอได้ลงมือไม่มีคำว่าเล่นเพราะทุกอย่างเธอได้วางแผนไว้หมดแล้วเหลือแค่รอเวลา
ตอนเย็น
“พี่เปอร์คะพอดีโทรศัพท์ซึนยอนหายอยู่แถวนี้ เอ่อคือว่าขอยืมโทรศัพท์พี่โทรหาได้ไหม”
ซึนยอนที่เห็นสไนเปอร์ออกมาคุยงานเลยใช้โอกาสนี้เพื่อทำตามแผนที่วางไว้
“อย่านานนะ” สไนเปอร์พูดอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้หญิงสาวโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะเดินกลับไปหาแฟนสาวที่อยู่ไม่ไกล
“หึ... ทำเป็นเมินไปเถอะ! ยังไงพี่ก็ต้องเป็นของซึนยอน!” หญิงสาวได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างตาละห้อยก่อนจะมองหน้าจอแล้วยิ้มร้าย
“คืนนี้เจอกันที่ริมชายหาดผมมีอะไรจะให้คุณ!”
(ข้อความถูกส่งออก)
“หึ... แค่นี้ก็เรียบร้อย!” ซึนยอนยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินถือโทรศัพท์ไปคืนให้เจ้าของเครื่อง และมองพี่สาวที่กำลังนอนพักผ่อนโดยมีแฟนหนุ่มคอยพัดวีให้
ด้วยที่รู้จักพี่สาวดี ที่ส่งข้อความไปแบบนั้นเธอจะไม่ถามแฟนหนุ่มเพราะปกติแฟนหนุ่มจะชอบเซอร์ไพรส์เธอแบบนี้เป็นประจำ…
“หึ... มีเซอร์ไพรส์อะไรนะ!” ซอนบีเปิดอ่านข้อความ ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้าง แฟนหนุ่มต้องเซอร์ไพรส์ขอเธอแต่งงานแน่นอนเพราะเธอเห็นกล่องแหวนที่เขาเอาติดตัวมาด้วยและตอนนี้แฟนหนุ่มก็กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เปอร์ เดี๋ยวเราไปรอข้างนอกนะ!” เธอตะโกนบอกแฟนหนุ่ม เพราะนัดกันไปที่ชายหาดจริง ๆ
“ครับ! แล้วเปอร์จะรีบตามไป ดูแลตัวเองด้วยเปอร์เป็นห่วง” เขาขานรับอย่างอารมณ์ดีเพราะทุกอย่างเขาได้เตรียมการที่จะขอแฟนสาวแต่งงานจริง
“งั้นไปนะ!” หญิงสาวยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหยิบเสื้อคลุมเดินออกจากห้องไป
“แฟนพี่ฉันขอนะ!” ซึนยอนที่แอบอยู่รีบเอากุญแจสำรองที่แอบไปขอกับทางโรงแรม ทางผู้จัดการเห็นมาด้วยกันและยังเป็นครอบครัวเดียวกันเลยให้มาโดยไม่ได้คิดอะไร
เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องและไม่ลืมที่จะล็อกประตูเพื่อที่จะจัดการกับชายหนุ่มที่กำลังอาบน้ำ โดยไม่รู้ตัวว่าแฟนสาวกำลังมีอันตราย!
ตอนเช้า“ตื่นสายนะเรา”“เพราะใครล่ะ ดาวถึงตื่นสายแบบนี้ แล้วลูกล่ะคะไปไหนแล้ว”“ตื่นมาก็ถามหาแต่ลูกสนใจผัวบ้างไหม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม“ก็ผัวอยู่ตรงนี้ ดาวไม่เห็นลูกก็ต้องถามหาลูกสิ พี่จะมางอแงทำไมกัน” นับดาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง“หึ ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ แบบนี้มันน่าเอา” สายตาเจ้าเล่ห์มองต่ำไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“ลามก พี่หยุดลามกแล้วตอบดาวมาก่อนลูกไปไหน” นับดาวพูดจริงจัง“อยู่กับหม่าม้า เธอตื่นสายฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลยพาลงไปเล่นข้างล่าง” มือหนาลูบที่หัวเมียแล้วเอาแต่ยิ้มกริ่ม“ยิ้มอะไรคะ พี่ดูแปลก ๆ นะดาวว่า” นับดาวพยายามจับผิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้ม“ไปอาบน้ำพ่อกับตะวันรอนานแล้วนะ” เมื่อได้ยินพ่อของลูกพูดแบบนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนสักแห่ง“พี่จะพาดาวไปไหนเหรอ”“ไปอาบน้ำไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ให้เวลา 20 นาทีเดี๋ยวไปเล่นกับลูกรอ” เขายักคิ้วกวน ๆ พร้อมจุ๊บปากบาง แล้วเดินออกจากห้องทันที นับดาวได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหอบผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำ30 นาทีผ่านไป“ช้า” ทันทีที่เห็นเมียเดินมาคุณพ่อคนหล่อก็บ่นเสียงดุ“…….” แต่เม
“แดดดี้อยากจะขอบคุณเบบี๋ที่ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้กลับตัวกลับใจ เป็นคนดี ขอบคุณที่เบบี๋ยอมไว้ใจฝากชีวิตไว้กับแด๊ด ขอบคุณที่มอบสิ่งมีค่าที่สุดให้แด๊ด” กันต์มองไปที่ลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมียรักที่มองหน้าเขาน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ“แดดดี้ขอมอบเพลงนี้แทนความรู้สึกที่แด๊ดมีต่อเบบี๋” กันต์เดินเข้าไปนั่งลงคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้าเมียสุดที่รัก พร้อมลูกสาวจอมแสบ อย่างญี่ปุ่นที่วิ่งเข้าไปกอดหอมพ่อเพื่อให้กำลังใจ‘ที่ผ่านมานานเท่าไรกาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจเปลี่ยนไปจากเธอคงเป็นไปไม่ได้เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอแม้จะนอนและฝัน ฉันมีแต่เธอเท่านั้นไม่อาจแบ่งใจเผื่อไว้ให้ใครใจเมื่อเจอเธอแล้ว เหมือนคนที่เจอจุดหมายเมื่อมีเธอไม่ต้องการใครเมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอพรุ่งนี้ก็รักเธอ เพราะใจที่มีเธอไม่มีอีกแล้ว ใครจะมาเข้าใจฉันได้ดีอย่างเธอตอบแทนเธอรักเดียวใจเดียว’“เบบี๋รักแดดดี้ ขอบคุณนะคะที่แดดดี้ทำทุกอย่างเพื่อเบบี๋กับลูก ๆ” เบบี๋พูดเสียงสะอื้น มันตื้นตันใจจนห้ามน้ำตาไม่ได้ ก่อนสี่คนพ่อแม่ลูกจะกอดหอม แสดงความรักอย่างไม่อายสายตาทุกสายตาที่มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม“……” มีแต่สไนเปอร์นั่งทำหน้าขรึมไม่
1 ชั่วโมงผ่านไป“แม่จ๋า พี่ตะวัน คุณตาขา” ร่างอ้วนกลมวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ประคองคุณตาเดินเข้าบ้าน“ไปดูลูกก่อน บ่นถึงเธอทั้งวัน” สไนเปอร์เดินเข้าไปประคองพ่อตาทันที“คิดถึงจังเลย วันนี้ภูพิงค์ของแม่จ๋าดื้อไหม” นับดาวยิ้มรับพร้อมเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงสีชมพูน่ารัก“ไม่ค่ะ หนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเยย” แล้วทำไมต้องอ้อนขนาดนี้ด้วย แค่นี้แม่ก็หลงลูกไม่ไหวแล้ว“พี่ตะวันกอดหนูหน่อย” พร้อมอ้าแขนป้อม ๆ ยื่นไปหาพี่ชายอีกคน“คุณตาด้วยกอดหนูหน่อยคิดถึงคุณตาที่สุดในโลกเลย” พี่ชายกับคุณตาได้แต่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วยิ้ม ก่อนจะกอดหอมกันพักใหญ่แล้วขึ้นไปพักบนห้องที่กันต์เตรียมไว้ให้“ยิ้มอะไรคะ แล้วภูผาล่ะ ตั้งแต่มาดาวยังไม่เห็นลูกเลย” นับดาวชะเง้อคอมองหาลูกชาย“อยู่กับพี่กันต์ โดนญี่ปุ่นลวนลามทั้งวัน” สไนเปอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ พร้อมทำหน้าบูดบึ้งเพราะหวงลูกชาย“แม่จ๋าหนูหิวหม่ำแม่” ระหว่างที่พ่อกับแม่พูดถึงพี่ชายเด็กน้อยตัวอ้วนกลับงอแงเอาเสียดื้อ ๆ“อะไรกันคะ” นับดาวจับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่งัวเงีย“พี่เปอร์ลูกนอนกลางวันไหม”“……” สไนเปอร์ได้แต่ส่ายหัว เพร
หลายวันผ่านไป“พี่กันต์พี่บอกลูกสาวพี่ให้หยุดวอแวลูกชายผมสักทีได้ไหมวะ” สไนเปอร์ที่เอาลูกขี่หลัง หลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เซอร์ไพรส์เมียที่ออกไปรับพ่อกับน้องชาย บ่นพี่ชายที่ไล่วิ่งตามจับลูกสาวตัวแสบที่เอาแต่แกล้งคนนั้นกวนคนนี้ โดยเฉพาะภูผาลูกชายสุดที่รักพ่อเปอร์ ที่ตอนนี้กอดคอพ่อแน่นส่วนลูกสาวตัวอ้วน ๆ เล่นอยู่กับป้า ๆ หัวเราะคิกคักตามประสาผู้หญิง“เออ กูรู้แล้วไอ้เปอร์ กูก็ตามอยู่เนี่ย!”“ญี่ปุ่นแด๊ดไหว้ละ ลูกไปอยู่กับหม่ามี้ แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ” กันต์มือเท้าเอวจ้องหน้าลูกสาว ที่ทำหน้านิ่งไม่ได้สนใจฟังที่พ่อพูดเลย“ภูผา เราไปวิ่งเล่นกันดีกว่าญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเลย พี่พาร์ทก็ไม่เล่นด้วยเอาแต่รักฟองเบียร์ น้องตอร์ชก็ไม่เล่นด้วยหยิกญี่ปุ่นตลอดเลย” เด็กน้อยทำหน้าน่าสงสาร“พอร์ช ลูกพอร์ช ไม่ใช่ตอร์ช คำอื่นแด๊ดก็เห็นหนูพูดชัดแล้วทำไมเรียกพอร์ชแบบนั้น” กันต์พูดอย่างเหนื่อยใจ“ตอร์ช ตอร์ช ญี่ปุ่นจะเรียกตอร์ช!!!!!”“เฮ้อ กูจะบ้าตายใครก็ได้เอาปืนมายิงกูที!!!” แต่ก็ทำได้แค่บ่น ท่องไว้กันต์ท่องไว้ ลูกกู ลูกกู ก็คือลูกกู แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจะตายให้ได้ จะทำยังไงลูกสาวตัวน้อยจะเหมือนลูกคนอื่น
“กูยอมลูกมึงไอ้เปอร์ กูว่าญี่ปุ่นอ้อนแล้วลูกมึงสุดจริง” กันต์ได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นน้องชายมีวันนี้ มีความสุขเหมือนคนอื่นได้สักที“เข้าไปกราบหม่าม้าสิ ไม่ต้องกลัว” มือหนาลูบลงที่หัวแม่ของลูกอย่างห่วงใย พร้อมเดินจูงมือเมียเข้าไปกราบแม่“หม่าม้าขอโทษ อย่าไปไหนอีกนะ คงจะลำบากมากสินะผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกเพียงลำพัง” เสียงพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย หลังจากที่คิดอะไรได้หลายอย่างและไม่ควรมองคนแค่ภายนอก มือบางลูบลงที่หัวนับดาวที่ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอจะได้อยู่กับคนที่รัก“เปอร์ขอบคุณหม่าม้าที่ยอมรับในตัวนับดาว” สไนเปอร์โผเข้ากอดแม่ โดยมีพี่ทั้งสองคนนั่งมองแล้วยิ้ม“พอ ๆ ๆ ๆ จะดึงเศร้าทำไม” กันต์พูดแทรกขึ้น“ภูพิงค์มาหาลุงสิคะ ไหนดูสิไม่เจอกันนานมาให้ลุงกอดหน่อย มาค่ะคนสวยภูผาด้วย คืนนี้นอนบ้านลุงนะรู้ไหม” พร้อมผายมือเรียกหลานรักให้เข้าไปหา“ดีเลยค่ะ ญี่ปุ่นจะได้มีเพื่อน พี่พาร์ทด้วยนอนกับญี่ปุ่นนะคะ ญี่ปุ่นอยากมีเพื่อนเล่น” ไม่พูดเปล่าญี่ปุ่นเดินเข้าไปหาภูผาที่เอาแต่นั่งกอดอก มองหน้าญี่ปุ่นอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูก” สไนเปอร์จ้องหน้าลูกอย่างส
ตอนเช้า“แม่จ๋า” เด็กหญิงตัวน้อยงัวเงียตื่น คลานเข้าไปกอดแม่ที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต“ว่าไงคะ” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มให้ลูกน้อยตะแคงข้างกอดตัวอ้วนกลมแนบอก“พ่อจ๋าหนูล่ะ พ่อจ๋าไปไหน” เด็กน้อยงอแงเรียกหาพ่อทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา“พ่อจ๋าอยู่นี่ครับมาหาพ่อมา ภูผาด้วยมาให้พ่อนอนกอดหน่อย” สไนเปอร์ยิ้มรับพร้อมอ้าแขนรับลูก“หนูจะนอนตรงนี้” เด็กหญิงตัวอ้วน ลุกขึ้นไปนอนบนตัวพ่อ“ภูพิงค์น้องตัวหนักเดี๋ยวพ่อก็หายใจไม่ออกเหมือนพี่หรอก”“พ่อจ๋า พี่ภูผาว่าหนูอ้วน” เมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็บูดบึ้งทันที“พี่ไม่ได้ว่าสักหน่อย” เมื่อเห็นน้องงอนพี่ชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เห็นแบบนี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“ชิ หนูงอนแย้ว พี่ภูผาต้องง้อหนูเยย”“พ่อจ๋า วันนี้พ่อจ๋าพาไปหาคุณตาหน่อยนะคะ” แต่ไม่ทันไรกลับเปลี่ยนเรื่องพูดเสียงเจื้อยแจ้วเรื่องอื่นลืมว่าตัวเองกำลังงอนพี่ชายเอาเสียดื้อ ๆ“ครับพ่อจ๋าพาไปแน่นอน แต่ขอพ่อจ๋านอนกอดภูพิงค์กับภูผาให้หายคิดถึงก่อน” ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของลูกทั้งสองคนไว้แนบอก ทำเอานับดาวได้แต่นั่งมองมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกบ้านกันต์หลังจากที่พาลูกและ