Share

บทที่ 2

Author: คันธรส สุภาสนันท์
“เซียวเป่ย คุณพูดมากก็ไม่มีประโยชน์ รีบเซ็นชื่อเถอะ”

เลขาหญิงดันข้อตกลงให้เซียวเป่ยด้วยความเดือดพล่าน พร้อมตะคอกด้วยสีหน้าเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เซ็น ประธานซูอยากหย่ากับคุณ ง่ายแค่นิดเดียว แต่ประธานซูยังคิดถึงความสัมพันธ์เก่าที่มีร่วมกันมา ไม่อยากทำให้วุ่นวายจนดูไม่ดี หวังว่าคุณจะไม่คิดไปเอง และหาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว!”

“หาเรื่องยุ่งยากใส่ตัว?”

เซียวเป่ยหัวเราะเยาะ สวยตาจับจ้องไปที่ซูหว่านที่ไม่พูดมาโดยตลอด “ประธานซู นี่ถือเป็นคำเตือนสำหรับผมเหรอ?”

ซูหว่านนิ่งเงียบอยู่ครู่แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันแค่อยากคุยกับคุณดีๆ ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ฉันก็จะคิดหาวิธีอื่น”

“มันต้องเด็ดขาดขนาดนี้เลยเหรอ?”

สุดท้ายเซียวเป่ยถามขึ้น เพื่ออยากดูว่าเธอยังมีความอาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่ไหม

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เห็นความอาลัยอาวรณ์ใดบนใบหน้าของเธอเลย

“พวกเราไม่เหมาะสมกันแล้ว เซ็นชื่อเถอะนะ สิ่งที่คุณขอ ฉันจะทำให้พอใจเท่าที่สามารถทำได้ หลังเซ็นเสร็จพวกเรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ” ซูหว่านคิดแล้วคิดอีกก่อนกัดริมฝีปากแดงพร้อมพูดขึ้น

ยังเป็นเพื่อนกันได้งั้นเหรอ?

พอได้ยินเช่นนี้ เซียวเป่ยยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตาไหลหล่นจากขอบตาทั้งสองข้าง

ที่แท้การแต่งงานตลอดสามปีเป็นเขาที่คิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว

ในสายตาเธอ เขาก็เป็นบันไดให้เธอได้ปีนป่ายแค่นั้น

“ผมเซ็น”

“บ้าน รถยนต์ เงินทอง ผมไม่เอาสักอย่าง ผมยังเลี้ยงตัวเองได้”

หลังเซียวเป่ยนิ่งอยู่ครู่ก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนชื่อตัวเองลงไปแบบลวกๆ

“คิดจะพึ่งร้านเล็กๆ ที่เปิดให้ดูโหงวเฮ้ง ดูฮวงจุ้ย และขายผ้ายันต์นั่นเหรอ?” ซูหว่านพูดพร้อมหัวเราะเยาะอย่างดูถูก

ปีนี้เซียวเป่ยตกต่ำมาก

เขาเปิดร้านเล็กๆ เพื่อสำหรับดูโหงวเฮ้งและดูฮวงจุ้ยให้คนอื่น ยังหลอกขายผ้ายันต์ที่ทำขึ้นเองอีก แถมยังบอกด้วยว่าสามารถปัดเป่าความชั่วร้ายและป้องกันภยันตรายได้

มันชั่งไร้สาระเสียจริง!

และนี่เป็นเหตุผลที่ซูหว่านต้องการหย่ากับเขา

เซียวเป่ยเปลี่ยนไป เขาเปลี่ยนไปเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีสติ ดูเหมือนคนทำอะไรไม่สมเหตุสมผล

“มีปัญหาเหรอ?”

เซียวเป่ยพูดด้วยความเย็นชาก่อนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและหันหลังกลับเดินออกจากออฟฟิศไป พอเขาเดินมาถึงหน้าประตู เขาก็หยุดลงแล้วเอ่ยถามด้วยความขมขื่น “ในสายตาของเธอ อะไรสำคัญที่สุด”

ซูหว่านมองแผ่นหลังของเซียวเป่ยแล้วพูดขึ้นด้วยแววตาอันมั่นคงและหนักแน่น “ฉันต้องทำให้ปิงฉิ้นกรุปเป็นที่โดดเด่นในงานประชุมแพทย์แผนจีนที่ตระกูลกู้จะจัดขึ้นที่เมืองจิงตู และขึ้นเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งสามอันดับแรกของประเทศให้ได้

เซียวเป่ยยิ้มเยาะและพูดขึ้นพร้อมหัวเราะเยาะตัวเอง “ประธานซู ระหว่างเราไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้อีกแล้ว ขอให้สิ่งที่ฝันกลายเป็นจริงนะ”

“นอกจากนี้ ขอให้คุณกับเขา มีความสุข”

พอพูดจบก็ก้าวเดินจากไป

ทุกย่างก้าวหนักแน่นและมั่นคง

ในเวลานี้ แววตาอันอ่อนโยนของเซียวเป่ยถูกแทนที่ความเย็นชา

รอจนกระทั่งแผ่นหลังของเซียวเป่ยหายไปจากสายตาของเธอ ซูหว่านถึงก้มลงเหลือบมองหมายเลขที่บันทึกไว้บนโทรศัพท์ของตนว่า “หรงเสี่ยวหาน” แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาเหรอ?”

ต้องอธิบายให้เขาฟังไหมนะ?

ชั่งเถอะ หย่ากันไปแล้ว จะเข้าใจผิดก็ให้เข้าใจผิดไปเถอะ

“เลขาหลี่ ฉันทำเกินไปหรือเปล่านะ?” ตาของซูหว่านแดงเล็กน้อย แววตาดูซับซ้อน

แม้ว่าได้หย่ากันแล้ว แต่ซูหว่านกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด

“ประธานซู ที่คุณทำไปมันไม่ผิดเลยสักนิดเดียว!เซียวเป่ยไม่คู่ควรกับคุณแล้ว การที่เขาอยู่เคียงข้างคุณมีแต่จะกระทบความก้าวหน้าในอนาคตของคุณ การที่คุณต้องการนำพาปิงฉิ้นกรุปไปสู่ระดับประเทศ จึงไม่สามารถมีความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ เด็ดขาด” เลขาหลี่พูดพร้อมพยักหน้าอย่างแรง

พอซูหว่านได้ยินเช่นนี้ เธอจึงพูดขึ้นเบาๆ ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนว่าฉันได้สูญเสียสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับฉันไป”

“คุณเพิ่งหย่า มันก็เป็นเรื่องปกติ”

เลขาหลี่อธิบาย

ซูหว่านสูดลมหายใจเข้าจนลึก สีหน้าของเธอจะกลับคืนเป็นประธานหญิงผู้สูงส่งและเย็นชาดังเดิมแล้ว ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ฉันไปส่งเขาสักหน่อย ถือซะว่าเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย”

เมื่อมาถึงประตูทางเข้าของบริษัท ซูหว่านก็มองเห็นเซียวเป่ยยืนอยู่ริมถนนดูเหงาหงอยเศร้าสร้อย

ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปหา ทันใดนั้นก็มีรถเฟอร์รารี่สีแดงคำรามมาแต่ไกล พร้อมดริฟท์จอดตรงหน้าเซียวเป่ยอย่างสวยงาม

ในเวลาต่อมา ประตูรถก็เปิดออก ขาวยาวเรียวสวมด้วยถุงน่องดำก้าวนำลงมาจากรถก่อน

ตามด้วยเรือนร่างสวมกระโปรงสั้นสีดำสุดเซ็กซี่ เด็กสาวผู้เด่นสง่าลงจากรถอย่างเร่งรีบ

เธอคนนี้อายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ผิวขาวราวหิมะ ใบหน้าประณีต รูปร่างเพอร์แฟคสุดๆ มีบุคลิกแบบคุณหนูบ้านรวย

“สวยมากเลย.....”

แม้แต่ซูหว่านก็อดตะลึงกับความสวยและเรือนร่างของเด็กสาวคนนี้ไม่ได้

เวลาต่อมา เธอก็เห็นเด็กสาวคนนั้นวิ่งไปอยู่ตรงหน้าเซียวเป่ย พร้อมตะโกนอย่างกระวนกระวายว่า “แพทย์เซียนเซียว ขอร้องล่ะ รีบช่วยคุณปู่ของฉันที ขอแค่คุณสามารถช่วยคุณปู่ของฉันให้ฟื้นได้ ฉันยอมแต่งงานกับคุณค่ะ” !

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status