เข้าสู่ระบบเธอต้องนอนถ่างขา แหวกกลีบให้เครื่องกำจัดขนทำงานได้ทุกซอกทุกมุม ทั้งยังต้องยิงเลเซอร์ให้ขาว ซึ่งมันก็ไม่ได้ดำนะ แต่พี่พยาบาลที่คลินิกบอกว่าทำให้ขาวอมชมพูน่ากิน
ได้ยินเช่นนั้น เธอก็จัดไปเต็มที่
ทั้งพอก ทั้งฉีด ทั้งอะไรต่อมิอะไร รับรองว่าเวลานี้จุดนั้นน่าจะขาวกว่าหน้าของเธอเสียอีก
แล้วไงตอนนี้ เจ็บกีฟรี แต่ไม่โดนXXX
อีบุญจะบ้าตาย
ไอ้ศาสตราจารย์ดอกเตอร์หัวกรวย
“ไอ้หรXมเล็ก”
“ใครหรXมเล็กคะ?”
เสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา บุญนำพาลืมตาโพลงมองหน้าแขกที่เข้ามาในห้องเธอโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง ทั้งยังลอยหน้าลอยตากวนอารมณ์
จะมีใครกล้าทำแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ยายหุ้นส่วนตัวดี ผู้ที่ช่วงชิงตำแหน่งลูกคนสุดท้องของบ้านจากเธอไป
“มาทันแต่เรื่องดี ๆ”
บุญนำพาไม่ใส่ใจกับคำพูดของน้องสาว เธอยังหลับตาพริ้มให้เครื่องนวดราคาหกหลักทำงานต่อไป
“พีช! มาดูเจ้หน่อย สติไม่ค่อยดีแล้ว”
ใบบุญญา[1]ตะโกนเรียกเพื่อนสนิท หรืออีกตำแหน่งคือเมียของพี่ชาย ที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า พี่สะใภ้
“เจ้ยังปกติ ไอ้ใบ เดี๋ยวจะโดน”
“งั้นเป็นอะไร ใครเอาหรXมเล็กมาอวดเจ้ หรือว่าอาจารย์วิชญ์กับเจ้ป้าบ ๆ กันแล้ว” ใบบุญญายังไม่เลิกเดาสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เธอจะเข้ามาในห้องทำงานของพี่สาว เธอแอบเมาท์กับพี่พิมมี่เรียบร้อย
ว่าวันนี้เจ้บุญคนสวยทะเลาะกับแฟน
“เหอะ!” บุญนำพาแค่นยิ้มทั้งยังเบะปาก อยากจะให้ปากคว่ำยิ่งกว่าตอนที่แม่ของเธอเล่นเป็นตัวร้ายในละครหลังข่าว
“เจ้ เล่าหน่อย” คนอยากเผือกเรื่องชาวบ้านสองอย่างลูกพีชขยับมาเขย่าแขนคนนอนนวด
“เขาบอกว่าฉันรวยเกินไป เก่งเกินไป หาเงินได้เยอะเกินไป แล้วก็ข่มเขา ถามหน่อยเถอะ ฉันต้องลดความเก่ง ความรวย ความสวย เพื่อไอ้หรXมเล็กอันนั้นเหรอวะ”
ถ้าได้ยินคำว่า ‘วะ’ ต่อท้ายประโยค แสดงว่าวันนี้เจ้บุญของเรากำลังบอกบุญไม่รับ
“ตลกอะ ยังมีคนแบบนี้อยู่อีกเหรอ”
ลูกพีชถามอย่างสงสัย ใบบุญญาพยักหน้าเพราะอาชีพอย่างเธอเจอมาเยอะ ยิ่งคนที่มีความคิดและความเชื่อประหลาด ๆ มีเยอะขึ้นทุกวัน
“มีสิ ไอ้หรXมเล็กนั่นไง ทำไมฉันจะนอนโรงแรมคืนละสองแสนมันผิดอะไร ฉันไม่ได้นอนทุกวัน พอไม่มีปัญญาจ่าย ฉันจะจ่ายให้ ก็หาว่าฉันไปข่มมัน”
บุญนำพาสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกพลังให้เครื่องจักรด่าได้ทำงานต่อ
“ทริปนี้มันทริปเสียสาวครั้งแรกนะโว้ย! ฉันผิดอะไรที่จะเลือกโรงแรมที่ตัวเองพอใจ ทำไมฉันต้องลดเกรดการใช้ชีวิตเพื่อมันด้วย หรXมเล็กไม่พอ ยังจนอีก”
เมื่อได้ด่าอย่างสบายใจแล้ว บุญนำพาก็พรูลมหายใจออกมาเพื่อผ่อนคลาย
“แล้วเจ้รู้ได้ไง” ลูกพีชกระแอมกระไอถาม
“เรื่องมันจนน่ะเหรอ?”
“เปล่า ๆ เรื่องเขาหรXมเล็กอะ”
“ลูกพีช!!!” ใบบุญญาหันไปเอ็ดพี่สะใภ้ มันใช่เรื่องที่ควรอยากรู้ไหมเนี่ย หมอใบจะบ้าตาย รอบตัวเธอมีแต่คนแบบนี้ได้อย่างไรกัน
คำถามของพี่สะใภ้ทำคนฟังอย่างบุญนำพากะพริบตาหลาย ๆ ครั้ง อดแปลกใจไม่ได้ว่าคนมีผัวมีลูกแล้วอย่างลูกพีชจะไม่รู้
นี่เป็นเรื่องระดับชาติที่ผู้หญิงทุกคนต้องรู้กันเลยนะ
“ใบ!” บุญนำพาเรียกน้องสาวในไส้
“อะไรเจ้”
“อธิบายลูกพีชสิ ฉันรู้ว่าแกรู้”
ลูกพีชหันมาสบตากับเพื่อนเพื่ออยากได้คำตอบ
แน่นอนว่าใบบุญญารู้ เพราะมันคือหลักกายวิภาคทั่วไป ถ้าใคร ๆ สังเกตก็จะรู้
“เออ ตามหลักอะนะ ทั่ว ๆ ไปที่เราสังเกตกัน” ใบบุญญาถอนหายใจ เรื่องที่รู้ใช่ว่าจะอธิบายออกมาได้อย่างง่ายดาย
บางเรื่องมันก็อายเกินกว่าจะพูดออกมา
“จะอ้อมโลกทำไมไอ้ใบ ตัวเล็ก มือเล็ก จู๋ก็เล็กตาม ตัวใหญ่ มือเล็ก ไอ้นั่นก็เล็กเหมือนกันนั่นแหละ แล้วไอ้พี่วิชญ์มันก็มือเล็ก ใด ๆ คือทั้งเล็กทั้งสั้นนั่นแหละ”
บุญนำพารำคาญคนอ้ำอึ้ง เลยอธิบายให้เองเสร็จสรรพ ง่าย ๆ ดูไอ้นั่นให้ดูมือก็แค่นั้น
“เจ้!!!” ลูกพีชคนมีผัวก่อนใครเพื่อนร้องเสียงดัง
“หน้าแดงทำไมก่อนลูกพีช เธอมีทั้งผัวทั้งลูก เจ้สิต้องอาย” บุญนำพาว่า
“ขออนุญาตค่ะบอส คุณกล้วยกับเพื่อนมาถึงแล้วค่ะ” เสียงของพิมมี่ทำคนนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้นวดขยับตัว
“บุญ ใบ ลูกพีช อยู่กันพร้อมหน้าเลย”
ธีริศรา[2] หรือกล้วย เอ่ยทักทั้งสามคนที่ถือว่าเป็นคนรู้จัก เพราะเธอทำงานกับบุญนำพาและยังเป็นคนสนิทของหมอไธม์
“ว้าว อินฟลูคนดัง”
ใบบุญญาเอ่ยแซวพร้อมเข้าสวมกอดหญิงสาวผู้มาใหม่ ส่วนลูกพีชได้เจอกันบ่อยอยู่แล้วเพราะธีริศราต้องไปไลฟ์กับบุญนำพาเป็นประจำ
“พี่หมอเบย์ค่ะ รุ่นพี่กล้วยเอง” ธีริศราแนะนำชายหนุ่มที่มาด้วยกันให้สามสาวรู้จัก
[1] ใบบุญญา นางเอกจากเรื่อง อยากเป็นแฟนหมอ โดย กาแฟหอมกรุ่น
[2] ธีริศรา หรือกล้วย นางเอกจากเรื่อง รักเราแค่เรื่องบนเตียง โดย กาแฟหอมกรุ่น
“น้องบิวกิ้นกับน้องมิกิชอบเล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยนี้จะชอบคิดว่าเป็นแฟน อย่าคิดมากเลยนะคะ ความรักของเด็ก ๆ น่ะค่ะ” คุณครูฝ่ายปกครองพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ในตอนดึกของคืนวันนั้น สองผัวเมียนอนกอดกันและคิดถึงเรื่องราวของลูกสาวและลูกชายในวัยอนุบาล จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “กว่าลูกจะโตเราต้องไปห้องปกครองกี่ครั้งกันเนี่ย” ปทัฏฐานผู้เป็นเด็กเรียนและเด็กดี ไม่เคยเข้าห้องฝ่ายปกครองเลยสักครั้ง พ่อแม่ไปโรงเรียนส่วนมากก็ไปรับใบประกาศเรียนดี “เรื่องปกติค่ะ” “แสดงว่าที่รักแสบมากใช่ไหมตอนเรียน นี่ลูกสาวเราคงเหมือนแม่” ปทัฏฐานแอบแซวทั้งยังกระชับอ้อมกอดให้เมียรักขึ้นมานอนเกยบนอก “แสบอยู่นะคะ พ่อเคยแอบไปหลายครั้งไม่บอกแม่ แม่เป็นดาราไงเดี๋ยวคนเอาไปเขียนข่าว” บุญนำพาหัวเราะคิกคัก “พี่ไม่ชินเลย” “พี่เบย์อย่าซีเรียสเรื่องปกติ เรื่องวันนี้พรุ่งนี้ก็เป็นอดีตแล้ว อะไรไม่ดีเราก็แก้ไข การเลี้ยงลูกก็เหมือนกันค่ะ บางทีเราต้องให้ลูกได้เรียนรู้โลกกว้างบ้าง เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป”
ปทัฏฐานต้องขมวดคิ้วทันที เมื่อที่โรงเรียนของลูกโทรมาแจ้งว่าลูกสาวสุดที่รักของเขาตีเพื่อน ลูกสาวสุดน่ารักของเขาเนี่ยนะตีเพื่อนเป็นไปไม่ได้ ต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่นอน น้องบูลผู้อ่อนหวานสุดน่ารักจะตีเพื่อนได้อย่างไร “ที่รัก ครูโทรมาบอกว่าให้ไปที่โรงเรียนคือลูกเราตีเพื่อน” เสียงของผู้เป็นสามีทำให้บุญนำพาเบนสายตาจากจอทีวีมองหน้าสามีที่คิ้วกำลังผูกโบ “ไปค่ะ” “ที่รักเชื่อเหรอว่าลูกเราตีเพื่อน” ปทัฏฐานถามเมื่อเห็นว่าภรรยาดูท่าทีไม่ตกใจ “อืม ก็อาจเป็นไปได้นะคะ” บุญนำพาทำท่าทางคิด “ตอนเด็กบุญก็ตีเพื่อน” คำพูดของเมียรักทำคนฟังอึ้งไปสักพัก เมียเขาตีเพื่อน “เดี๋ยวนะ การตีเพื่อนมันคือการใช้ความรุนแรงนะบุญ” สามีผู้เป็นหมออ่อนโยนไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันป่าเถื่อนที่ใช้กำลังแบบนี้ “อ้าว! ก็มันมาเปิดกระโปรงบุญ ไม่ให้ตีเหรอ” “เปิดกระโปรง!” ปทัฏฐานรู้สึกร้อนไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำว่ามาเปิดกระโปรงเมียรัก “ถ้าเกิดมีคนมาเปิดกระโปรงน้องบูล พี่เบย์จะไม่ให้ลูกตีเพื่อนเหรอ” “พี่จะเอามือจิ้มตามัน” เมื่อนึกถึงว่
ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห ปทัฏฐานรู้สึกถึงความกรุ่นโกรธจากคนนอนข้างกาย ปกติทั้งเขาและเธอต้องมีกิจกรรมกระชับรักหลังจากที่พาลูกเข้านอน “บุญจ๋า” เขาสอดแขนใต้ร่างบางดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด “อย่าค่ะ” เธอร้องห้ามเมื่อเขากำลังจะเลิกชุดนอนเธอขึ้น รู้ว่าเขาอยากจะทำอะไรหลังจากนี้ “ทำไมคะ” “ใครจะดูดนมบุญ ต้องเรียกบุญว่าแม่ก่อน” เธอทำตาดุใส่เขา ปทัฏฐานหัวเราะชอบใจ “แม่บุญครับ” เขาทำเสียงออดอ้อน “เชอะ” “เดี๋ยวต่อไปพี่จะสอนลูกเรียกแม่นะครับ บุญจ๋า” “เชื่อได้หรือเปล่า” เธอพูดอย่างกระเง้ากระงอด “ทำไมขี้งอนจัง เหมือนคนท้องเลย” คำพูดของเขาทำให้ทั้งสองมองหน้ากัน “เอ้ย!” เป็นบุญนำพาที่เด้งตัวจากที่นอนทันที ควานหาที่ตรวจสอบการตั้งครรภ์ที่ซื้อไว้ จากนั้นทั้งสองก็พุ่งเข้าห้องน้ำพร้อมกัน คนหนึ่งทำหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ตรวจ อีกคนพยายามให้ของเหลวในกายไหลออกมา “เป็นไงท้องไหมคะ” บุญนำพาซุกหน้ากับอกกว้างไม่อยากดูผลตรวจ “เดี๋ยว ๆ รอแป๊บ” ปทัฏฐานกอดเมียรักแน่นตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นตรงห
ทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ลำพูน ประสิทธิ์ยกที่ดินผืนหนึ่งให้ทั้งคู่เป็นที่ดินที่อยู่ระหว่างเชียงใหม่กับลำพูน หน้าบ้านเปิดเป็นคลินิกเล็ก ๆ รักษาคนทั่วไป บ้านและคลินิกปทัฏฐานได้สร้างไว้แล้วเมื่อปีก่อน เขามีความฝันอยากลาออกมาเปิดคลินิกรักษาโรคทั่วไปนานแล้ว มีความตั้งใจในคราแรกว่าจะย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐแถวลำพูนแล้วก็เปิดคลินิกคิดค่ารักษาถูก ๆ ถือว่าเป็นการทำบุญ แต่ที่ยังรอเวลาเพราะทำใจห่างจากดวงใจเขาอย่างบุญนำพาไม่ได้ ความฝันของเขามีเธออยู่ในนั้น เขาอยากให้เธอเดินทางไปกับเขาด้วยเช่นกัน เพียงไม่นานก่อนที่บุญนำพาจะคลอดได้แค่เดือนเดียว เธอก็ได้ซีอีโอที่เก่งกาจมาบริหารแทน พิมมี่และพอลย้ายตามเจ้านายไปทำหน้าที่กันถึงลำพูน เพราะที่บ้านค่อนข้างกว้างเกือบสิบไร่ ปทัฏฐานจึงแบ่งที่ดินให้พิมมี่กับพอลคนละหนึ่งไร่ บุญนำพาสร้างบ้านให้พวกเขาคนละหลังถือว่าเป็นโบนัสที่ทำให้เป็นทีมงานซัปพอร์ตความรักของทั้งคู่ น้องบูล หรือ บูรณิมา แปลว่าผู้มีบุญ คลอดด้วยน้ำหนักสามพันห้าร้อยกรัม แข็งแรง ตัวแดงและร้องดังมาก ผู้เป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายต่างดีใจ
“เรื่องนี้แหละที่พี่อยากคุยกับบุญ พี่อยากกลับไปเปิดคลินิกที่บ้าน คลินิกรักษาโรคทั่วไป คิดราคาไม่แพง ไม่ทิ้งอาชีพหมอแต่ก็มีเวลาเลี้ยงลูก พี่อยากให้บุญไปอยู่ด้วยกันได้ไหม ใช้ชีวิตง่าย ๆ มีเรามีลูก พี่ไม่อยากให้บุญเหนื่อย พี่เลี้ยงบุญกับลูกได้นะครับ” เธอรู้ว่าเขาพูดจริง เงินเก็บตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่ใช้อะไรฟุ่มเฟือยนอกจากลงทุนเพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต “จริง ๆ บุญทำงานที่บ้านก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็จ้างซีอีโอมาบริหาร ก็ดีเหมือนกันนะคะ อยากใช้เงินที่หามาบ้าง ต่อไปต้องเกาะพี่เบย์กินแล้วนะคะ” บุญนำพายิ้มหวานกอดเอวเขาไว้แน่น เธอต้องขอบคุณชื่อตัวเองหรือวาสนาตัวเองนะ ที่มีบุญได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิต “พี่เลี้ยงบุญได้จริง ๆ นะครับ” “บุญรู้ สามปีที่ผ่านมาใครหาข้าวให้บุญกินทุกมื้อ ถ้าไม่เรียกว่าเลี้ยงได้จะเรียกว่าอะไรคะ” บุญนำพาออดอ้อน ปทัฏฐานนั่งลงกับพื้นทราย ดึงร่างของเมียรักให้หย่อนกายนั่งบนตักเขา กอดเธอไว้แน่น เกยคางบนไหล่เล็ก “ครั้งแรกที่พี่เจอบุญ พี่กลัวมาก” “กลัวทำไม บุญน่ากลัวตรงไหน” เธอขยับกายนั่งพิงเขาอย่างอารมณ์ดี มอ
“ไปเดินเล่นกันเถอะ” เสียงทุ้มของคนเป็นสามีเอ่ยชวนคนท้องที่นอนเพิ่งตื่น แดดยามบ่ายใกล้เย็นทำให้อากาศร้อนลดลงไปมากแล้ว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสยิ่งให้ความรู้สึกดี กลิ่นทะเลที่เธอชื่นชอบ ทะเลที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน หาดทราย น้ำทะเลและท้องฟ้า “พี่ถ่ายรูปนะ บุญยืนตรงนี้ พี่จะเอาไว้ให้ลูกดู” ลูกจะอยากดูหรือเปล่าปทัฏฐานไม่รู้ แต่เขานี่แหละอยากเก็บภาพเธอกับชุดคลุมท้องสีโอรสนี้ไว้เป็นความทรงจำ ชุดคลุมท้องทุกชุดเขาเป็นคนซื้อให้เธอ เขาตั้งใจเลือกทุกชุดและเธอก็ชื่นชอบชุดที่เขาเลือกให้ทุกชุดเช่นกัน “ถ่ายสวย ๆ นะคะพี่หมอ อย่าให้อ้วน” เธอเอ่ยแซวซึ่งได้ยินเสียงเขาหัวเราะออกมา “นั่นสิ เดี๋ยวพี่จะพยายามถ่ายไม่ให้เห็นพุง” “ฮ่า ฮ่า บุญต้องเอียงด้านไหนเนี่ย” เธอว่าพลางหันซ้ายหันขวาให้เขา พยายามหลบซ่อนพุงยื่น ๆ ของตัวเอง “พี่ล้อเล่น เอาพุงยื่น ๆ แบบนั้นแหละ เมียพี่สวยอยู่แล้วต่อให้พุงใหญ่กว่านี้ก็ยังสวยมาก” คนปากหวานเอ่ยชม “ปากหวานตลอด” บุญนำพานึกถึงช่วงเวลาที่เธอกับเขาพบกันครั้งสองอย่างไม่ตั้งใจ เวลานั้นเธอ







