ภายในรถตู้คันหรูสีดำ ที่ติดกระจกนิรภัยกันกระสุนรอบคัน มีหญิงสาวร่างบางนั่งตัวตรงอยู่ตรงเบาะข้างๆ ของชายหนุ่มรูปร่างกำยำ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ จนชายหนุ่มอดที่จะเหลือบมองใบหน้าสวยที่เอาแต่สนใจมองไปข้างหน้าไม่ได้ ก่อนที่เขาจะถือวิสาสะยกมือหนาขึ้นมา แล้วใช้นิ้วเขี่ยแก้มเนียนของเธอเบาๆ หญิงสาวสะดุ้งเหลียวมองคนข้างกาย ก่อนที่จะเอ่ยปากถามเขาเสียงดัง
“ทำอะไรคะ” แววตาของเธอที่มองมายังเขา อย่างไม่เกรงกลัว ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกว่าน่าสนใจ เพราะที่ผ่านมาเขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหน ที่น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนแมวเหมียวได้ขนาดนี้ “มากกว่านี้พวกเราก็ทำกันมาแล้ว คุณยังจะมาหวงอะไรกับแค่การที่ผมใช้นิ้วเขี่ยแก้ม หรือคุณชอบให้ผมใช้นิ้วเขี่ยข้างล่างของคุณมากกว่า” อิงวราหน้าตึงทันที จะยกมือขึ้นปิดปากเขาก็ไม่ทัน ลูกน้องสองคนที่นั่งข้างหน้าคงจะได้ยินกันหมดแล้ว ใบหน้าสวยร้อนผ่าวพลันสะบัดใบหน้าหนีมาเฟียหนุ่มทันที ไม่รู้ว่าเธอจะเดตกับเขาไหวหรือเปล่า ก็ในเมื่อเขาปากสว่างเสียขนาดนี้ เอเบลหัวเราะดังในลำคอ ก่อนที่เขาจะหลับตาลง เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับ เป็นเพราะหญิงสาวข้างๆ คนเดียว ที่ทำให้เขาต้องหักห้ามใจ ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงอยากจะปืนขึ้นเตียงกับเขา และอยากได้นั่นได้นี่จากเขามากมาย แต่ทว่าเธอคนนี้กลับไม่อยากให้เขาแสดงความรับผิดชอบใดๆ ต้องเป็นเขาเองที่ยัดเยียดตัวเองให้เธอ “ตอนเย็นผมจะมารับที่ล๊อบบี้ของโรงแรม กรุณารักษาสัญญาด้วยนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาทั้งๆ ที่เปลือกตาก็ยังคงปิดอยู่ อิงวราหันไปมองคนพูด ก่อนที่เธอจะลอบสำรวจใบหน้าของเขา คิ้วโก่งเข้มสีบรอนด์ทอง ขนตายาว จมูกโด่งสันเป็นคม ริมฝีปากเรียวอมชมพู สันกรามของเขามองอย่างไรก็รู้สึกทำให้ใจสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ‘นี่สินะที่เขาเรียกว่าใบหน้าลูกรักของพระเจ้า’ ตอนที่เธอได้เห็นคุณเอเดนครั้งแรก เธอก็คิดว่าเขาเป็นชาวต่างชาติที่หล่อมากแล้ว แต่ทว่าพี่ชายทั้งสองของเขากลับหล่อเหลาไม่แพ้กัน แม้จะดูเป็นคนร้ายๆ กว่าคุณเอเดนมาก จะเรียกว่านางแบบสาวรุ่นน้องโชคดีหรือเปล่านะ ที่ได้ผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยนแค่กับเธอแบบนั้นเป็นสามี “มองมากๆ ระวังผมเปลี่ยนใจพากลับเพ้นท์เฮาส์แทนนะคุณ” เสียงทุ้มดังออกมาจากคนที่ถูกลอบมอง อิงวรากระแอมไอพลันเบือนหน้าหนีทันที สมแล้วที่เป็นมาเฟีย สามารถรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวรอบๆ กายโดยที่ไม่ลืมตามองด้วยซ้ำ “อะ...แฮ่ม... ฉันเป็นคนที่รักษาสัญญาอยู่แล้วค่ะ คุณเองก็ช่วยรักษาคำพูดด้วยก็แล้วกัน” “แน่นอน อะไรที่คุณไม่ชอบผมไม่ทำหรอก สบายใจได้...ที่รัก” เกือบจะวางทิฐิลงได้อยู่แล้วเชียว แต่เขากลับทำให้เธอรู้สึกโมโหอยู่ลึกๆ ภายในใจ ที่ผ่านมาเขาคงเรียกคู่ควงว่าที่รักทุกคน ถึงได้เรียกเธอออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด สายตาที่มองออกไปข้างนอกกระจกรถ ที่กำลังเคลื่อนผ่านถนนสายสำคัญต่างๆ ก็พอได้คลายความขุ่นเคืองภายในใจลง ไม่ถึงสามสิบนาที รถตู้คันหรูของตระกูลวินเทอร์ ก็ขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าโรงแรมใจกลางเมืองชิคาโก้ พนักงานต้อนรับรู้จักสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ด้านหน้ากระจกรถของตระกูลมาเฟียดี เขาจึงรีบกุลีกุจอมารอต้อนรับ ทว่าผู้ที่ลงมาจากรถกลับเป็นแขกสาวชาวไทย ที่เพิ่งมาเข้าพักที่นี่ได้เพียงแค่สองวัน ไม่รู้ไปทำอย่างไร มาเฟียหนุ่มอย่างเอเบล วินเทอร์ ทายาทลำดับที่สอง ของตระกูลวินเทอร์ถึงได้มาส่งเธอถึงที่นี่ แต่เป็นแบบนี้แล้วมีหรือที่เขาจะมองสถานการณ์ตรงหน้าไม่ออก ผู้หญิงชาวเอเชียคนนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นการเป็นผู้หญิงของมาเฟียหนุ่มอีกคนแน่นอน แต่ดูจากความสำคัญ ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะแตกต่างจากคู่ควงคนอื่นอยู่ไม่น้อย ไม่แน่ว่าเธออาจจะกลายเป็นว่าที่นายหญิงของมาเฟียหนุ่มก็ได้ “ยินดีต้อนรับครับ” พนักงานหนุ่มรีบทักทายแขกสาว ประตูรถตู้ยังไม่ทันได้ปิดลง ทำให้เอเบลมองเห็นการกระทำของพนักงานชาย เขาขมวดคิ้วพลางจ้องไปยังหญิงสาว เธอส่งยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย จากนั้นจึงรีบเดินกลับเข้าไปในโรงแรม ทว่าก่อนที่ประตูโรงแรมจะปิดลง เสียงเข้มดังคำรามจนคนหันมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน แค่เพียงแวบเดียวทุกคนก็รีบเบือนหน้าหนี ก็ใครบ้างล่ะที่อยากจะมีปัญหากับมาเฟียที่มีชื่อเสียงในอเมริกาอย่างเขา “ที่รัก...คุณลืมให้ช่องทางติดต่อกับผม” “หากคุณต้องการ...ของแค่นั้นคงหาได้ไม่ยากเกินความสามารถของคุณหรอกมั้งคะ” พูดจบอิงวราก็รีบสาวเท้าเดินกลับเข้าไปในโรงแรม โดยที่ไม่หันกลับมามองชายหนุ่มที่เธอร่วมใช้ค่ำคืนที่สับสนและมึนงงกับเขาอีกเลย เอเบลฉีกยิ้มออกมา ผู้หญิงใจกล้าอย่างสาวไทยคนนี้หายาก เขามั่นใจว่าถ้าแต่งงานกับเธอแล้ว ชีวิตของเขาต้องมีสีสันไม่น่าเบื่อเหมือนที่ผ่านมาแน่ ๆ สองบอดี้การ์ดหนุ่มลอบมองเจ้านาย ก่อนที่จะหันมามองหน้ากันด้วยความงุนงง ก็ตั้งแต่ที่พวกเขาติดตามเจ้านายมา ก็ยังไม่เคยเห็นว่าเจ้านายจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ จากมาเฟียที่ไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน กลับมาตามตอแย ทำตัววุ่นวายกับผู้หญิงที่เขาไม่สนใจตัวเอง สงสัยคงจะเป็นความท้าทายแบบใหม่ของเจ้านายแน่นอนเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมา เป็นท่วงทำนองแสนหวาน แขกที่มาร่วมงาน ต่างเฝ้ามองไปยังเวที ที่ทอดยาวไปข้างหน้า แสงไฟจากสปอตไลท์สาดส่องไปยังเจ้าบ่าวในชุดสูทสีขาว ที่เดินเข้ามาพร้อมกันกับเจ้าสาว แสนสวย ด้านหลังของทั้งคู่ ยังมีเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวเดินตามมาด้วยระหว่างทางเอเบล เหลือบมองเจ้าสาวของเขาเป็นระยะ วันนี้อิงวราในชุดเจ้าสาวแบบสากลสวยมากจริงๆ เธอทำให้เขาตกหลุมรักเธอ จนนับครั้งไม่ถ้วน จะพูดไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะต่างก็ไม่มีใครคิดว่าคำพูดของเขาในวันนั้นจะเป็นเรื่องจริงจัง แต่ในวันนี้เขากลับได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาตกหลุมรักนางแบบสาวชาวไทยตั้งแต่แรกเห็น และมีความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอจริง ๆสองบ่าวสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางเวที พิธีการดำเนินไปอย่างชื่นมื่น พิธีกรดำเนินรายการไปตามขั้นตอน มีพิธีการตัดเค้ก และดื่มแชมเปญ เพื่อแสดงความยินดี บ่าวสาวจุมพิตกันจากนั้นวงดนตรีก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้น ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกผู้มาร่วมงานพากันจับคู่เต้นรำ อิงวราอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าบ่าวสุดหล่อ“คุณเชื่อไหม...ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ คือภา
หลังจากอิงวราแต่งงานกับเอเบลได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน นางศิริลักษณ์ก็ตัดสินใจละทางโลก มุ่งหน้าสู่ทางธรรม ปลงผมบวชชี ตามความตั้งใจเดิม ที่วัดป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนืออิงวราได้เดินทางมาส่งมารดา เธอรู้สึกตื้นตันใจ ที่ในท้ายที่สุดแล้ว มารดาก็ได้เลือกเดินไปบนเส้นทางแห่งธรรม ยอมละทิ้งทางโลก ที่มีแต่กับดักทำให้คนตกลงไปที่ผ่านมามารดาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ไม่ยอมรับสถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดภาระหนี้สิน ที่สร้างความลำบากให้แก่เธอมากมายแต่อิงวราก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองมารดาเลย ก่อนที่อิงวราจะลามารดากลับกรุงเทพฯ แม่ชีศิริลักษณ์ก็ได้อวยพรให้ลูกสาว มีความสุขในชีวิต อิงวราก้มกราบเท้ามารดา แล้วจึงออกเดินทางกลับเพื่อไปทำหน้าที่ของตนต่อผู้จัดการส่วนตัวที่มาด้วยกัน มองใบหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นกังวลของนางแบบสาวก็พอเข้าใจ เพราะอีกไม่ถึงสองเดือน อิงวราก็ต้องเดินทางไปแต่งงานที่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วและหลังจากนั้น หญิงสาวก็ต้องติดตามสามี ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเอเบล สามีของเธอทำธุรกิจ และมีอำนาจของตระกูลอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้อิงวราต้องติดตามเอเบลไปอาศัยอยู
“บัดนี้ขอประกาศว่า มิสเตอร์เอเบล วินเทอร์ และนางสาวอิงวรา หงส์สิริภา เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ขอพระเจ้าอวยพร”หลังจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมแหวนให้กันและกัน บาทหลวงก็ได้ประกาศสถานะ ให้แก่คนทั้งสอง จากนั้นเจ้าบ่าวจึงรั้งร่างบางของเจ้าสาว ให้เข้ามาในอ้อมแขน แล้วมอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับเธอมีเสียงปรบมือพร้อมกับเสียงโห่แซวดังขึ้น ช่างภาพภายในงานที่มีอยู่กันหลายคน ต่างก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศแห่งความประทับใจของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในครั้งนี้เอาไว้หลังจากพิธีอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้เชิญให้ทุกคน อยู่กินเลี้ยงร่วมกันต่อดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นมา เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เต้นรำ เพื่อนๆ พากันรุมล้อมทั้งสองเอาไว้นางศิริลักษณ์มองไปยังบุตรสาวที่กำลังเต้นรำกับชายหนุ่มที่สวมสูทสีขาวสะอาด นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยความสุข และความรู้สึกปล่อยวางได้เห็นอิงวราในวันที่มีความสุขเช่นนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดให้เธอต้องเป็นห่วงหรือกังวลใจในตัวบุตรสาวอีกแล้วนางศิริลักษณ์ดึงสายตากลับมา พูดคุยกับมาดามเอวาน่า ตอนนี้เธอกำลังนั่งร่วมโต๊ะ อยู่
สามเดือนต่อมาณ ชายทะเลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่แห่งนี้ถูกเนรมิต ให้กลายเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน ของทายาทมาเฟียระดับโลก อย่างลูกชายคนที่สอง ของตระกูลวินเทอร์ กับนางแบบสาวชาวไทย แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในวันนี้ กลับมีเพียงแค่คนสนิทของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวเท่านั้นนั่นก็เป็นเพราะความต้องการของเจ้าสาว ที่อยากจะจัดพิธีแต่งงานเล็ก ๆ ในสถานที่ที่ถูกเจ้าบ่าวขอแต่งงาน มีคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานแต่อีกสองเดือนหลังจากนี้ พิธีฉลองมงคลสมรสที่แท้จริง จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองชิคาโก้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าบ่าวมิสเตอร์และมิสซิสวินเทอร์ อย่างนายลูเซียโน และมาดามเอวาน่า พร้อมด้วยครอบครัวของเอเดน และเอวาน พี่ชายคนโตของเอเบล ก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ให้กับทายาทคนที่สองของตระกูลวินเทอร์ ที่กำลังจะแต่งงานสร้างครอบครัวของตัวเอง“เอวาน...น้อง ๆ ก็แต่งงาน มีครอบครัวกันหมดแล้ว เราล่ะ...เมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างเขาสักที”นายลูเซียโน เอ่ยปากถามบุตรชายค
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจังเลยค่ะ”“ชอบไหม” อิงวราหันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลา“ชอบค่ะ”"ชอบผมหรือชอบทะเลกว่ากัน" เสียงทุ้มดังมาจากข้างใบหู"ก็ต้องชอบคุณมากกว่าอยู่แล้วสิคะ" เสียงหวานตอบออกมาเจือความขบขันเอเบลโน้มใบหน้าลงไป จุมพิตที่แก้มเนียนของเธอ อิงวราหลับตาพริ้ม ซึมซับความสุขที่มาเฟียหนุ่มมอบให้ ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะยืนกอดกัน มองพระอาทิตย์ดวงโต ที่ค่อยๆ จมหายไปกับท้องทะเลหลังจากที่พระอาทิตย์ยามเย็น หายไปในท้องทะเลแล้ว แสงจากหลอดไฟบนเสาไฟสูง ที่เรียงรายอยู่ริมชายหาด ก็ถูกเปิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เอเบลจูงมืออิงวรา พาเธอเดินกลับไปยังสถานที่เดิมตอนนี้สถานที่ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนที่ทั้งสองคนเดินไปถึง เบื้องหน้าจึงมีซุ้มดอกไม้สีขาว ผ้าสีขาวปลิวไสว รายล้อมไปด้วยไฟประดับและบนหาดทรายมีเทียนที่ถูกปักเอาไว้ เป็นคำว่า Will You Marry Me? อิงวราได้เห็นภาพเบื้องหน้าก็ใจเต้นแรง เธอหันกลับมามองแฟนหนุ่มเอเบลคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นทราย เข่าอีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือหนาล้วงกล่องแหวนออกมาจาก
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบเข้าฝั่ง ดังปะปนไปกับเสียงของเพลงเบาๆ หลังจากที่เอเบลกินอิงวราจนเป็นที่พอใจ และนอนพักผ่อนเอาแรง จนพละกำลังฟื้นกลับคืนมาเต็มที่แล้ว เขาก็ได้พาหญิงสาว ออกมานั่งกินปิ้งย่างที่ริมทะเล ตามความต้องการของเธอนางแบบสาวนั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะ แต่สุดท้ายแล้วใบหน้าสวย ก็คลี่คลายความขุ่นเคือง ที่มีอยู่บนใบหน้าลง นั่นก็เป็นเพราะกุ้งตัวใหญ่ในจานตรงหน้า ซึ่งเอเบลเป็นคนที่คอยแกะเปลือก ให้กับเธอด้วยมือของเขาเอง“กินเยอะๆ นะที่รัก ผมว่าคุณผอมเกินไปแล้ว” เอเบลเอ่ยขณะวางกุ้งเผาแกะเปลือกตัวที่สอง ลงบนจานให้กับแฟนสาว“อิงค์ผอมเหรอคะ อิงค์ว่าหลังจากที่คุณกลับไปครั้งก่อน น้ำหนักอิงค์ก็ขึ้นมาตั้งสองกิโล” อิงวราตาโต พลางถามเขาออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเอเบลไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียงส่งยิ้มให้กับเธอ มือหนายังคงแกะกุ้ง ที่จอร์ชกับเดวิดทำหน้าที่ย่าง ให้กับพวกเขาจนสุกแล้ว วางลงบนจานให้กับเธออย่างต่อเนื่องบอดี้การ์ดทั้งสี่ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง แดนกับเพื่อนชาวไทยของเขา คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รอบๆ บริเวณนี้ ให้แก่เจ้านายทั้งสอง&ldq