นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
View Moreภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู ใจกลางเมืองชิคาโก้ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลากหลายวงการ พากันตบเท้าเข้ามาร่วมงานฉลองมงคลสมรส ของมิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ ทายาทลำดับที่สาม รุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของสามทวีปอเมริกา กับฮาน่า อลินา อารอน สาวสวยลูกครึ่งไทยอเมริกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะถือว่าเป็นทายาทคนแรกของตระกูลวินเทอร์ ที่สละโสดก่อนพี่ชายทั้งสอง
“เอเบลคะ แล้วคุณไม่อยากแต่งบ้างเหรอคะ” ซูเปอร์โมเดลสาวของเมืองชิคาโกเอ่ยถามพี่ชายของเจ้าบ่าวออกมา “พอดีว่าผมยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะครับลูน่า” เขาบอกเธอยิ้มๆ ก่อนที่จะยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่ม “คืนนี้... ลูน่าว่างนะคะ ถ้าคุณอยาก...ก็เชิญแวะมาได้ คุณรู้ใช่ไหม...ว่าลูน่ารอคุณอยู่เสมอ” คำพูดของซูเปอร์โมเดลสาว ไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้เขาเอาแต่จดจ้องมองไปยังกลุ่มอดีตเพื่อนร่วมงานของฝ่ายเจ้าสาว ซูเปอร์โมเดลสาวชาวอเมริกันมองตามสายตาของมาเฟียหนุ่มไป ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ เพราะใครๆ ต่างก็รู้ดี ว่าเอเบลคนนี้นั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ใครอยากจะครอบครองเขาได้ง่ายๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จักเขามา เธอไม่เคยเห็นว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย แม้แต่ตัวเธอเองก็ตาม “คุณสนใจใครในกลุ่มคนไทยนั่นเหรอคะ” เธอตัดสินใจเอ่ยถามมาเฟียหนุ่มออกมา เมื่อมองตามสายตาของเขาไป ก็พบว่าในกลุ่มนั้นมีสาวไทยยืนอยู่ด้วยกันหลายคน “ทำไม... ถ้าผมสนใจใครในนั้นแล้วคุณจะช่วยผมเหรอ” เสียงเข้มถามหญิงสาวกลับ ลีน่าคิดไปเองว่า ถ้าหากมาเฟียหนุ่มได้เชยชมผู้หญิงที่เขาสนใจแล้ว เขาก็จะเลิกสนใจคนคนนั้นไปเอง “แล้วถ้าลีน่าช่วยได้ เอเบลจะมีอะไรตอบแทนลีน่าไหมคะ” นางแบบสาวยกมือขึ้นมาพลางใช้นิ้วเขี่ยลงบนหน้าอกหนั่นแน่น ผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา มือหนาคว้ามือของเธอเอาไว้แล้วปล่อยมือเธอลงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด “คุณคิดว่าคนอย่างผมจะไม่มีปัญญาเข้าหาคนคนนั้นด้วยตัวเองหรือไง ถ้าผมอยากจะได้อะไรขึ้นมา มีหรือที่ผมจะปล่อยให้หลุดมือไป” นางแบบสาวหน้าเสียทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น มาเฟียหนุ่มผละเดินหนีไปหากลุ่มพี่ชายคนโตของตนทันที โดยที่ไม่หันกลับมาสนใจอดีตคู่ขาอีกเลย ลีน่านึกหงุดหงิด แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวได้แต่มองไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทว่าก็ยังคาดเดาไม่ได้ ว่าผู้หญิงคนไหนในนั้น ที่สามารถดึงดูดสายตาของมาเฟียหนุ่ม ให้มองไปอย่างสนใจได้ “คนนั้นใครน่ะ สวยถูกใจผมจัง” คนถูกถามหันไปมองตามสายตาของน้องชายคนกลาง แล้วก็ได้เห็นว่าน้องชายกำลังสนใจนางแบบสาวชาวไทย ซึ่งเคยเป็นรุ่นพี่ในวงการนางแบบของน้องสะใภ้ และปัจจุบันก็ยังคงเป็นนางแบบในสังกัดของน้องชาย “นางแบบในสังกัดของเอเดนมัน ถ้าแกไม่จริงจังก็อย่าไปยุ่งกับเธอจะดีกว่า พี่ไม่อยากให้น้องชายของเรามีปัญหาตามมาทีหลัง” เอวานปรามน้องชายออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่อยากให้เอเบลไปยุ่งกับผู้หญิงที่อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย เพราะผู้หญิงไทยไม่ใช่ทุกคน ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน และเท่าที่ดูเธอคนนั้น ก็ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงประเภทที่สามารถใช้เงินซื้อเธอได้ “แล้ว...ถ้าผมไม่เล่นล่ะ ผมก็อยากมีภรรยาเป็นคนไทยเหมือนกันนะ” เอเบลบอกพี่ชายออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลางยกแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ “เหอะ!! เพลย์บอยอย่างนายนะเหรอ อยากมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน บอกเด็ก...เด็กมันยังไม่เชื่อเลยฮ่าๆๆๆ” เอวานหัวเราะออกมาให้กับความคิดของน้องชาย “ผมจริงจังนะเอวาน เห็นเอเดนมันแต่งงาน มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว ผมก็อยากมีบ้าง มันจะดีแค่ไหนกัน ถ้ามีเด็กตัวเล็กๆ มาคอยเรียกเราว่าปะป๊ะ แดดดี้....อ๊าก......” เอเบลทำหน้าตาเพ้อฝันในขณะที่บอกเล่าถึงจินตนาการของตนเองออกมา แต่แล้วเขากลับต้องร้องเสียงหลง เพราะถูกพี่ชายใช้ฝ่ามือตีไปที่ศีรษะเพื่อเรียกสติที่กำลังล่องลอยไปไกลให้กลับคืนมา จนเขาเกือบหน้าคะมำไปข้างหน้า “เลิกเพ้อฝันแล้วไปช่วยเอเดนมันรับแขกเถอะ ป่านนี้น้องสะใภ้คงใกล้จะออกมารับแขกด้านหน้างานแล้วมั้ง” เอเบลถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะมองไปยังนางแบบสาวชาวไทย คนที่เขารู้สึกถูกใจตาละห้อย จากนั้นจึงเดินตามพี่ชายไปที่ด้านหน้างาน เป็นเพราะเจ้าชู้มานานตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น เขาเองก็อยากจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนเหมือนกัน แต่ทำไมพี่ชายถึงไม่เชื่อเขาล่ะเอเบลเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนที่จะอุ้มหญิงสาว พาเธอเดินมุ่งหน้าไปยังเตียงนอน วางเธอลงแล้วโถมกายหนาตามไป มือทั้งสองข้างจับเรียวขาทั้งสองข้าง ให้แยกออกจากกันจากนั้นเขาจึงซุกใบหน้าหล่อเหลาลงไปตรงจุดกลางกายสาว มือทั้งสองข้างย้ายมาสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวของเธอ ช่วยเปิดทางให้ลิ้นของเขาเข้าไปได้อย่างง่ายดายอิงวราเงยหน้าขึ้น พยายามขบเม้มริมฝีปาก ทว่าเธอก็ยังคงส่งเสียงครางหวานออกมาอยู่ดี เอเบลปรนเปรอเธอทั้งลิ้นและนิ้วเรียวยาว เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ริมสระว่ายน้ำร่างบางเกร็งกระตุก ปลดปล่อยน้ำรักออกมา จนน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนที่นอน ร่างเพรียวระหง อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเอเบลเอื้อมมือไปหยิบกล่องถุงยางอนามัย ที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง จากนั้นจึงหยิบออกมาหนึ่งชิ้น ฉีกซองออก สวมใส่ลงไปบนแก่นกายแข็งขึงของตนอย่างรวดเร็วมือหนาจับเรียวขาของหญิงสาว ที่กำลังนอนตาปรืออยู่บนเตียงให้แยกออก จากนั้นจึงใช้นิ้วเรียวเปิดทางถ้ำงาม ซึ่งตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายธารแห่งความสุข ที่เธอเพิ่งจะปลดปล่อยออกมาก่อนหน้า“เจ็บหน่อยนะที่รัก”เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆ กดแก่นกาย ให้แทรกผ่านเข้าไป
สองหนุ่มสาวใช้เวลาอยู่ที่สระว่ายน้ำตามลำพัง นานเกือบสองชั่วโมง อิงวราดื่มไวน์เข้าไป จนจำไม่ได้แล้วว่า นี่เป็นแก้วที่เท่าไหร่ รู้เพียงแต่ว่า เธอไม่ได้รู้สึกว่าตนเองเมาอย่างที่ควรจะเป็นเอเบลคอยเหลือบมองหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา เพราะเขารู้ดีว่า เธอนั้นคอไม่แข็งเท่ากับเขา ทว่าวันนี้เธอกลับดื่มเก่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก“อิงค์...ถ้าคุณเมาแล้ว กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องก่อนก็ได้นะครับ” มือหนาคว้าข้อมือบางที่กำลังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเอาไว้ แก้วไวน์แก้วนั้น จึงทำได้เพียงแค่จ่ออยู่ที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ“อิงค์ยังไม่เมาค่ะ ใครบอกว่าอิงค์เมา” อิงวราดื้อดึง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเมา ยกไวน์แก้วนั้นขึ้นมาดื่มจนหมดเดิมทีที่เธอตัดสินใจดื่ม ก็เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย และความกระอักกระอ่วน ที่ต้องมองเขาเปลือยท่อนบน เปิดเผยเรือนร่างน่ามองอยู่ในสายตาของเธอ ทว่าดื่มไปดื่มมาก็ชักจะติดลม การดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะทำให้คนเรารู้สึกมึนเมา แต่ก็สามารถทำให้คนเราหลงลืมความเขินอายไปได้เช่นกัน“แต่หน้าคุณแดงมากเลยนะ” เอเบลลุกขึ้นจากเตียงไม้ตัวยาวที่เขานั่งอยู่ ไปนั่งลงบนเตียงไม้ตัวเดียวกับหญิงสาวแทน“กะ...ก็อากาศร้อนนี่คะ” เธอ
อิงวราเห็นเขาเลิกสนใจเธอแล้ว เธอจึงเดินออกไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงระเบียงห้อง ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศในเวลานี้ มีแสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมากระทบผิวน้ำ ประกายระยิบระยับให้ความสวยงาม อิงวราสูดลมหายใจเข้าออกอย่างรู้สึกผ่อนคลายจวบจนมื้อเที่ยง แอนนิก้าจึงได้มาตามเจ้านายและหญิงสาว ให้ไปรับประทานมื้อเที่ยง ที่พวกเธอจัดเตรียมเอาไว้ให้ที่ห้องอาหาร เอเบลเผลอหลับไปเช่นเดียวกับอิงวรา ที่กลับเข้าห้องมาก็ล้มตัวนอนบนเตียง แล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว“หลังจากมื้อเที่ยงแล้ว เราจะไปไหนกันดีคะ” อิงวราถามออกมาในขณะที่กำลังเดินตามเขาไปยังห้องอาหารที่อยู่คนละฝั่งกับห้องนอน“คุณอยากนอนพักอีกสักนิดหรือเปล่า ถ้าไม่อยากผมจะพาคุณไปว่ายน้ำย่อยอาหารกันสักนิด”อิงวรามองออกไปข้างนอกผ่านกำแพงกระจกใส แสงแดดไม่แรงมากเหมือนประเทศไทย คงจะไม่ร้อนเท่าไหร่ ออกไปว่ายน้ำเล่นก็ยังดีกว่าอยู่ในห้องกับเขาตามลำพัง บอกตามตรงว่าเธอค่อนข้างรู้สึกอึดอัด เพราะรู้สึกเหมือนกับว่า เธอถูกสายตาของเขาจับจ้องอยู่ตลอดเวลา“กินมื้อกลางวันเสร็จ พวกเราไปว่ายน้ำกันก็ได้ค่ะ”เธอดึงสายตากลับมาจากด้านนอก
อิงวราถูกมาเฟียหนุ่ม กึ่งลากกึ่งจูงเข้าไปในห้อง ก็รู้สึกตื่นตระหนก แม้ว่าคืนนั้นเธอกับเขา จะเกินเลยกันไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะยอมปล่อยให้เรื่องผิดพลาดแบบคืนนั้น เกิดขึ้นซ้ำอีกหน อีกทั้งเธอก็ยังรู้จักเขาไม่มากพอ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเธอไม่อยากเป็นเพียงแค่ของเล่นของใคร“ดะ...เดี๋ยวค่ะ ที่คุณบอกว่า คืนนี้ ‘เรา’ จะพักที่นี่ด้วยกัน อย่างนั้นเหรอคะ” อิงวราเอ่ยถามพลางชะงักเท้า และพยายามชักแขนของตนเองกลับ“ก็ใช่น่ะสิครับ”ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงใหญ่หันกลับมาอุ้มเธอขึ้นจากพื้น แล้วพาไปยังเตียงนอน อิงวรายิ่งรู้สึกตกใจในการกระทำของมาเฟียหนุ่มตอนแรกเอเบลเพียงแค่อยากจะแกล้งหญิงสาวเท่านั้น ทว่ากลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอ กลับชวนให้เขาหลงใหล เกิดความอยากที่จะแนบชิดกับเธอจริงๆ ขึ้นมาร่างเพรียวระหง ถูกวางลงบนเตียงนุ่มอย่างช้าๆ ก่อนที่คนตัวโต จะโน้มกายลงไปใกล้ชิด ริมฝีปากหนามีจุดมุ่งหมายคือริมฝีปากอิ่มของหญิงสาว ทว่ายังไม่ทันจะได้แนบชิดกัน อิงวราก็ใช้มือขวางกั้นเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัว“ยะ...อย่าค่ะ” อิงวราห้ามเขา นัยน์ตากลมโตจ้องมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่หลบหลีก เอเบลฉีกยิ้มทรงเสน่ห์“ทำไมล่ะครับ คน
หลังจากที่เครื่องบินลอยอยู่เหนือท้องฟ้านานเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็นักบินก็ประกาศลงจอดเสียที อิงวราถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เอเบลที่จิบไวน์อยู่ แอบปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาขบขัน ทว่าเขากลับเลือกที่จะไม่เปิดโปงให้เธอได้อาย“ถึงแล้วครับ ผมรับรองว่าคุณต้องชอบ” เอเบลลุกขึ้นยืนพลางยื่นมือไปให้หญิงสาวจับอิงวรารู้สึกว่าตนเองวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย จากการนั่งเครื่องบินเล็กที่ไม่คุ้นชิน จึงยอมวางมือลงไปบนมือหนาของเขาแต่โดยดีสองหนุ่มสาวเดินกุมมือกัน ลงจากเครื่องบินส่วนตัวไป ทว่าบรรยากาศด้านนอก นอกจากที่อิงวราจะได้เห็นวิวของท้องทะเลสีฟ้าครามแล้ว ยังมองเห็นว่ามีบรรดาชายชุดดำ ยืนเรียงแถวกันอยู่ยาวเหยียดสองฝั่งซ้ายขวา ราวกับว่ากำลังรอต้อนรับพวกเขาอยู่และก็เป็นไปอย่างที่อิงวราคิด พอเอเบลพาเธอก้าวเท้า ลงมาจากบันไดเครื่องบินเล็กส่วนตัว ชายชุดดำทั้งหมดก็ส่งเสียง กล่าวทักทายมาเฟียหนุ่มขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน อิงวราถึงกับสะดุ้ง เอเบลหันกลับไปมองคนข้างๆ ก่อนที่จะสั่งให้ลูกน้อง แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน จากนั้นจึงเดินกุมมืออิงวรา มุ่งหน้าไปยังบ้านพักส่วนตัว“เกาะนี้เจ้านายยังไม่เคยพาผู้หญิงคนไ
อิงวรากลับมาถึงห้องพัก ก็พบว่าพี่ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ไม่ได้อยู่ที่ห้องพักอย่างที่เธอคาดเดา นางแบบสาวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะเธอยังไม่พร้อม ที่จะตอบคำถามของผู้จัดการส่วนตัวในตอนนี้ ร่างระหงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำก่อนเข้านอนระหว่างที่เธอกำลังใช้ไดร์เป่าผม ที่ยังคงเปียกชื้นอยู่นั้น เสียงของสมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่ถูกวางเอาไว้บนเตียงก็ดังขึ้น หญิงสาวจึงวางไดร์เป่าผมลง แล้วเดินไปหยิบสมาร์ทโฟนที่กำลังส่งเสียงร้องอยู่ ขึ้นมาดูรายชื่อ ของผู้ที่ติดต่อเข้ามามุมปากยกขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะสัมผัสหน้าจอ เพื่อเป็นการรับสาย สงสัยเขาคงจะกลับถึงเพ้นท์เฮ้าส์ท์แล้ว ถึงได้โทรมาหาเธอในตอนนี้“ฮัลโหล...” เสียงหวานส่งไปยังปลายสาย“คุณนอนหรือยัง ผมถึงเพ้นท์เฮ้าส์ครับ” มาเฟียหนุ่มรายงานออกมา เขาไม่เคยปฏิบัติกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน นอกจากมารดาคนเดียวเท่านั้น“ยังค่ะ...ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เอ่อ...เรื่องนี้ คุณไม่เห็นจะต้องโทรมารายงานฉันเลยค่ะ” อิงวราตอบปลายสายกลับไปยิ้มๆ ระหว่างที่เธอเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง“ผมกลัวว่าคุณจะเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ หรือว่าคุณไม่ได้สนใจอะไร”
“ผมชื่อเอเบล วินเทอร์ ชื่อเล่นว่า เดฟ อายุสามสิบสองปี อาชีพนักธุรกิจ เกิดที่เมืองชิคาโก้ แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ ครอบครัวของผมก็อย่างที่คุณรู้ มีพี่ชายหนึ่งคนและน้องชายหนึ่งคน”เอเบลแนะนำตนเองออกมาให้หญิงสาวฟังบ้าง นี่ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ของมาเฟียหนุ่ม เพราะเขาไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน“เดฟ...”อิงวราเรียกชื่อเล่นของเขาออกมาพลางยิ้มหวานให้ มาเฟียหนุ่มใจเต้นแรงตอนที่มองเห็นรอยยิ้มนี้อีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน“นี่ก็ดึกแล้ว อิงค์ว่าเรากลับกันเถอะค่ะ”เพราะเธอเอ่ยปากชวนเขากลับนั่นเอง เขายังรู้สึกว่าเวลาที่เขาได้ใช้กับเธอ เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย“กลัวผู้จัดการลงโทษเหรอครับ กลับดึกนิดหน่อยเธอคงไม่ว่าหรอก อีกอย่างคุณก็ไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำงานเสียหน่อย” เอเบลเย้าแหย่หญิงสาวตรงหน้า“การนอนดึกมันไม่ดีต่อสุขภาพน่ะค่ะ”อิงวราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้เวลากับเขาให้มากจนเกินไป เพราะถ้าถึงวันที่เธอต้องกลับประเทศไทย เธอกลัวว่าความรู้สึกที่เธอมีให้เขาจะเปลี่ยนไป“วันนี้เดตวันแรก ผมจะไม่ขัดใจคุณก็แล้วกัน แต่ถ้าวันต่อๆ ไป ต้องแล้วแต่ผ
ณ ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองชิคาโก้ วันนี้ทางร้านได้มีโอกาสต้อนรับทายาทมาเฟียตระกูลดังอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้พนักงานทุกคนต่างพากันตัวเกร็ง ไม่กล้ากระทำการใดๆ ให้มาเฟียหนุ่มหน้าตาดี ที่ควงสาวสวยชาวเอเชีย มาดินเนอร์ที่นี่ต้องรู้สึกขุ่นเคืองใจวันนี้เอเบลลงทุนปิดร้านอาหารชื่อดังร้านนี้ ก็เพื่อมาเดตกับอิงวราโดยเฉพาะ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนมากเท่าเธอมาก่อน และดูเหมือนว่าพวกพนักงานที่เคยได้ยินข่าวมาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ว่าหญิงสาวที่มาเฟียหนุ่มควงมาในวันนี้ ดูเป็นคนสำคัญของเขามากกว่าคู่ขาหรือคู่ควงทั่วไป“นี่คุณปิดร้านนี้เหรอคะ” อิงวราถามเขาออกมาด้วยความแปลกใจ เพราะมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีลูกค้าที่อยู่ในร้านเลยสักคน“ก็คุณบอกผมว่าไม่อยากเป็นข่าว ผมทำแบบนี้คงไม่ผิดหรอกใช่ไหม”อิงวราหมดคำจะเอ่ย บริกรของร้านเข้ามารับรายการอาหารอย่างกล้าๆ กลัวๆ อิงวรามองอาการของพนักงานแล้วก็รู้สึกเห็นใจ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้านั้นเป็นคนโหดร้ายถึงขนาดไหน ถึงได้ทำให้คนอื่นรู้สึกเกรงกลัวเขาได้ขนาดนี้สองหนุ่มสาวนั่งดินเนอร์กันใต้แสงเทียน เสียงดนตรีดังขึ้นให้บรรยากาศโรแมนติก อิงวรา
“ไม่ยากจริงๆ นั่นแหละ เห้ย!! รีบออกรถสิ ฉันง่วงนอนแล้ว”เอเบลพึมพำออกมา ก่อนที่เขาจะส่งเสียงดังสั่งลูกน้อง เขาง่วงนอนจริงๆ เพราะเมื่อคืน เขาต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ล่วงเกินหญิงสาว จนเขาต้องลุกไปช่วยเหลือตัวเองอยู่หลายครั้ง ชีวิตเขาไม่เคยต้องมาอดทนอดกลั้นเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงได้ขนาดนี้ หากนี่ไม่ใช่การที่เขาตกหลุมรักเธอคนนี้แล้วจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมันจะเรียกว่าอาการอะไรไปได้อีกบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองสะดุ้ง ผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถรีบออกรถทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของเจ้านาย นี่สิถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้านายที่พวกเขารู้จัก ถึงแม้เจ้านายจะเป็นคนที่ขี้เล่น และทำตัวสบายๆ มากกว่าพี่น้องคนอื่น แต่ก็มีนิสัยจริงจังและโหดเหี้ยมอยู่ในสายเลือดไม่แพ้กัน ถ้าไม่อย่างนั้นจะดูแลลูกน้องทั้งทวีปได้อย่างไรอิงวรากลับถึงห้องพักของโรงแรมหลังจากที่เดินขึ้นลิฟต์มาได้เพียงห้านาที ผู้จัดการส่วนตัวนั่งรอเธออยู่อย่างกระวนกระวายใจ เพราะได้ข่าวแค่ว่าเธอเกิดเรื่อง แล้วถูกเอเบลช่วยเหลือเอาไว้จากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอได้แต่โทษตัวเองที่ปล่อยให้นางแบบสาวที่เธอดูแล กลับโรงแรมตามลำพัง“พี่ธัญญ่า อย่
Comments