นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
Lihat lebih banyakภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู ใจกลางเมืองชิคาโก้ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลากหลายวงการ พากันตบเท้าเข้ามาร่วมงานฉลองมงคลสมรส ของมิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ ทายาทลำดับที่สาม รุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของสามทวีปอเมริกา กับฮาน่า อลินา อารอน สาวสวยลูกครึ่งไทยอเมริกัน งานนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะถือว่าเป็นทายาทคนแรกของตระกูลวินเทอร์ ที่สละโสดก่อนพี่ชายทั้งสอง
“เอเบลคะ แล้วคุณไม่อยากแต่งบ้างเหรอคะ” ซูเปอร์โมเดลสาวของเมืองชิคาโกเอ่ยถามพี่ชายของเจ้าบ่าวออกมา “พอดีว่าผมยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะครับลูน่า” เขาบอกเธอยิ้มๆ ก่อนที่จะยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่ม “คืนนี้... ลูน่าว่างนะคะ ถ้าคุณอยาก...ก็เชิญแวะมาได้ คุณรู้ใช่ไหม...ว่าลูน่ารอคุณอยู่เสมอ” คำพูดของซูเปอร์โมเดลสาว ไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มเลยแม้แต่นิด เพราะตอนนี้เขาเอาแต่จดจ้องมองไปยังกลุ่มอดีตเพื่อนร่วมงานของฝ่ายเจ้าสาว ซูเปอร์โมเดลสาวชาวอเมริกันมองตามสายตาของมาเฟียหนุ่มไป ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้ เพราะใครๆ ต่างก็รู้ดี ว่าเอเบลคนนี้นั้น ไม่ใช่ผู้ชายที่ใครอยากจะครอบครองเขาได้ง่ายๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จักเขามา เธอไม่เคยเห็นว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย แม้แต่ตัวเธอเองก็ตาม “คุณสนใจใครในกลุ่มคนไทยนั่นเหรอคะ” เธอตัดสินใจเอ่ยถามมาเฟียหนุ่มออกมา เมื่อมองตามสายตาของเขาไป ก็พบว่าในกลุ่มนั้นมีสาวไทยยืนอยู่ด้วยกันหลายคน “ทำไม... ถ้าผมสนใจใครในนั้นแล้วคุณจะช่วยผมเหรอ” เสียงเข้มถามหญิงสาวกลับ ลีน่าคิดไปเองว่า ถ้าหากมาเฟียหนุ่มได้เชยชมผู้หญิงที่เขาสนใจแล้ว เขาก็จะเลิกสนใจคนคนนั้นไปเอง “แล้วถ้าลีน่าช่วยได้ เอเบลจะมีอะไรตอบแทนลีน่าไหมคะ” นางแบบสาวยกมือขึ้นมาพลางใช้นิ้วเขี่ยลงบนหน้าอกหนั่นแน่น ผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา มือหนาคว้ามือของเธอเอาไว้แล้วปล่อยมือเธอลงด้วยความรู้สึกหงุดหงิด “คุณคิดว่าคนอย่างผมจะไม่มีปัญญาเข้าหาคนคนนั้นด้วยตัวเองหรือไง ถ้าผมอยากจะได้อะไรขึ้นมา มีหรือที่ผมจะปล่อยให้หลุดมือไป” นางแบบสาวหน้าเสียทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น มาเฟียหนุ่มผละเดินหนีไปหากลุ่มพี่ชายคนโตของตนทันที โดยที่ไม่หันกลับมาสนใจอดีตคู่ขาอีกเลย ลีน่านึกหงุดหงิด แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวได้แต่มองไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทว่าก็ยังคาดเดาไม่ได้ ว่าผู้หญิงคนไหนในนั้น ที่สามารถดึงดูดสายตาของมาเฟียหนุ่ม ให้มองไปอย่างสนใจได้ “คนนั้นใครน่ะ สวยถูกใจผมจัง” คนถูกถามหันไปมองตามสายตาของน้องชายคนกลาง แล้วก็ได้เห็นว่าน้องชายกำลังสนใจนางแบบสาวชาวไทย ซึ่งเคยเป็นรุ่นพี่ในวงการนางแบบของน้องสะใภ้ และปัจจุบันก็ยังคงเป็นนางแบบในสังกัดของน้องชาย “นางแบบในสังกัดของเอเดนมัน ถ้าแกไม่จริงจังก็อย่าไปยุ่งกับเธอจะดีกว่า พี่ไม่อยากให้น้องชายของเรามีปัญหาตามมาทีหลัง” เอวานปรามน้องชายออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่อยากให้เอเบลไปยุ่งกับผู้หญิงที่อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย เพราะผู้หญิงไทยไม่ใช่ทุกคน ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน และเท่าที่ดูเธอคนนั้น ก็ไม่น่าจะใช่ผู้หญิงประเภทที่สามารถใช้เงินซื้อเธอได้ “แล้ว...ถ้าผมไม่เล่นล่ะ ผมก็อยากมีภรรยาเป็นคนไทยเหมือนกันนะ” เอเบลบอกพี่ชายออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลางยกแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบ “เหอะ!! เพลย์บอยอย่างนายนะเหรอ อยากมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน บอกเด็ก...เด็กมันยังไม่เชื่อเลยฮ่าๆๆๆ” เอวานหัวเราะออกมาให้กับความคิดของน้องชาย “ผมจริงจังนะเอวาน เห็นเอเดนมันแต่งงาน มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว ผมก็อยากมีบ้าง มันจะดีแค่ไหนกัน ถ้ามีเด็กตัวเล็กๆ มาคอยเรียกเราว่าปะป๊ะ แดดดี้....อ๊าก......” เอเบลทำหน้าตาเพ้อฝันในขณะที่บอกเล่าถึงจินตนาการของตนเองออกมา แต่แล้วเขากลับต้องร้องเสียงหลง เพราะถูกพี่ชายใช้ฝ่ามือตีไปที่ศีรษะเพื่อเรียกสติที่กำลังล่องลอยไปไกลให้กลับคืนมา จนเขาเกือบหน้าคะมำไปข้างหน้า “เลิกเพ้อฝันแล้วไปช่วยเอเดนมันรับแขกเถอะ ป่านนี้น้องสะใภ้คงใกล้จะออกมารับแขกด้านหน้างานแล้วมั้ง” เอเบลถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะมองไปยังนางแบบสาวชาวไทย คนที่เขารู้สึกถูกใจตาละห้อย จากนั้นจึงเดินตามพี่ชายไปที่ด้านหน้างาน เป็นเพราะเจ้าชู้มานานตั้งแต่เข้าสู่วัยรุ่น เขาเองก็อยากจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนเหมือนกัน แต่ทำไมพี่ชายถึงไม่เชื่อเขาล่ะเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมา เป็นท่วงทำนองแสนหวาน แขกที่มาร่วมงาน ต่างเฝ้ามองไปยังเวที ที่ทอดยาวไปข้างหน้า แสงไฟจากสปอตไลท์สาดส่องไปยังเจ้าบ่าวในชุดสูทสีขาว ที่เดินเข้ามาพร้อมกันกับเจ้าสาว แสนสวย ด้านหลังของทั้งคู่ ยังมีเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวเดินตามมาด้วยระหว่างทางเอเบล เหลือบมองเจ้าสาวของเขาเป็นระยะ วันนี้อิงวราในชุดเจ้าสาวแบบสากลสวยมากจริงๆ เธอทำให้เขาตกหลุมรักเธอ จนนับครั้งไม่ถ้วน จะพูดไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะต่างก็ไม่มีใครคิดว่าคำพูดของเขาในวันนั้นจะเป็นเรื่องจริงจัง แต่ในวันนี้เขากลับได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาตกหลุมรักนางแบบสาวชาวไทยตั้งแต่แรกเห็น และมีความคิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอจริง ๆสองบ่าวสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงกลางเวที พิธีการดำเนินไปอย่างชื่นมื่น พิธีกรดำเนินรายการไปตามขั้นตอน มีพิธีการตัดเค้ก และดื่มแชมเปญ เพื่อแสดงความยินดี บ่าวสาวจุมพิตกันจากนั้นวงดนตรีก็เริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้น ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกผู้มาร่วมงานพากันจับคู่เต้นรำ อิงวราอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าบ่าวสุดหล่อ“คุณเชื่อไหม...ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ คือภา
หลังจากอิงวราแต่งงานกับเอเบลได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน นางศิริลักษณ์ก็ตัดสินใจละทางโลก มุ่งหน้าสู่ทางธรรม ปลงผมบวชชี ตามความตั้งใจเดิม ที่วัดป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนืออิงวราได้เดินทางมาส่งมารดา เธอรู้สึกตื้นตันใจ ที่ในท้ายที่สุดแล้ว มารดาก็ได้เลือกเดินไปบนเส้นทางแห่งธรรม ยอมละทิ้งทางโลก ที่มีแต่กับดักทำให้คนตกลงไปที่ผ่านมามารดาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ไม่ยอมรับสถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดภาระหนี้สิน ที่สร้างความลำบากให้แก่เธอมากมายแต่อิงวราก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองมารดาเลย ก่อนที่อิงวราจะลามารดากลับกรุงเทพฯ แม่ชีศิริลักษณ์ก็ได้อวยพรให้ลูกสาว มีความสุขในชีวิต อิงวราก้มกราบเท้ามารดา แล้วจึงออกเดินทางกลับเพื่อไปทำหน้าที่ของตนต่อผู้จัดการส่วนตัวที่มาด้วยกัน มองใบหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นกังวลของนางแบบสาวก็พอเข้าใจ เพราะอีกไม่ถึงสองเดือน อิงวราก็ต้องเดินทางไปแต่งงานที่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วและหลังจากนั้น หญิงสาวก็ต้องติดตามสามี ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะเอเบล สามีของเธอทำธุรกิจ และมีอำนาจของตระกูลอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ทำให้อิงวราต้องติดตามเอเบลไปอาศัยอยู
“บัดนี้ขอประกาศว่า มิสเตอร์เอเบล วินเทอร์ และนางสาวอิงวรา หงส์สิริภา เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ขอพระเจ้าอวยพร”หลังจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวมแหวนให้กันและกัน บาทหลวงก็ได้ประกาศสถานะ ให้แก่คนทั้งสอง จากนั้นเจ้าบ่าวจึงรั้งร่างบางของเจ้าสาว ให้เข้ามาในอ้อมแขน แล้วมอบจุมพิตอันแสนหวานให้กับเธอมีเสียงปรบมือพร้อมกับเสียงโห่แซวดังขึ้น ช่างภาพภายในงานที่มีอยู่กันหลายคน ต่างก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศแห่งความประทับใจของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในครั้งนี้เอาไว้หลังจากพิธีอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ได้เชิญให้ทุกคน อยู่กินเลี้ยงร่วมกันต่อดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นมา เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เต้นรำ เพื่อนๆ พากันรุมล้อมทั้งสองเอาไว้นางศิริลักษณ์มองไปยังบุตรสาวที่กำลังเต้นรำกับชายหนุ่มที่สวมสูทสีขาวสะอาด นัยน์ตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยความสุข และความรู้สึกปล่อยวางได้เห็นอิงวราในวันที่มีความสุขเช่นนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดให้เธอต้องเป็นห่วงหรือกังวลใจในตัวบุตรสาวอีกแล้วนางศิริลักษณ์ดึงสายตากลับมา พูดคุยกับมาดามเอวาน่า ตอนนี้เธอกำลังนั่งร่วมโต๊ะ อยู่
สามเดือนต่อมาณ ชายทะเลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย สถานที่แห่งนี้ถูกเนรมิต ให้กลายเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน ของทายาทมาเฟียระดับโลก อย่างลูกชายคนที่สอง ของตระกูลวินเทอร์ กับนางแบบสาวชาวไทย แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานในวันนี้ กลับมีเพียงแค่คนสนิทของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวเท่านั้นนั่นก็เป็นเพราะความต้องการของเจ้าสาว ที่อยากจะจัดพิธีแต่งงานเล็ก ๆ ในสถานที่ที่ถูกเจ้าบ่าวขอแต่งงาน มีคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานแต่อีกสองเดือนหลังจากนี้ พิธีฉลองมงคลสมรสที่แท้จริง จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ที่เมืองชิคาโก้ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าบ่าวมิสเตอร์และมิสซิสวินเทอร์ อย่างนายลูเซียโน และมาดามเอวาน่า พร้อมด้วยครอบครัวของเอเดน และเอวาน พี่ชายคนโตของเอเบล ก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน ให้กับทายาทคนที่สองของตระกูลวินเทอร์ ที่กำลังจะแต่งงานสร้างครอบครัวของตัวเอง“เอวาน...น้อง ๆ ก็แต่งงาน มีครอบครัวกันหมดแล้ว เราล่ะ...เมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอย่างเขาสักที”นายลูเซียโน เอ่ยปากถามบุตรชายค
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจังเลยค่ะ”“ชอบไหม” อิงวราหันกลับไปมองใบหน้าหล่อเหลา“ชอบค่ะ”"ชอบผมหรือชอบทะเลกว่ากัน" เสียงทุ้มดังมาจากข้างใบหู"ก็ต้องชอบคุณมากกว่าอยู่แล้วสิคะ" เสียงหวานตอบออกมาเจือความขบขันเอเบลโน้มใบหน้าลงไป จุมพิตที่แก้มเนียนของเธอ อิงวราหลับตาพริ้ม ซึมซับความสุขที่มาเฟียหนุ่มมอบให้ ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะยืนกอดกัน มองพระอาทิตย์ดวงโต ที่ค่อยๆ จมหายไปกับท้องทะเลหลังจากที่พระอาทิตย์ยามเย็น หายไปในท้องทะเลแล้ว แสงจากหลอดไฟบนเสาไฟสูง ที่เรียงรายอยู่ริมชายหาด ก็ถูกเปิดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เอเบลจูงมืออิงวรา พาเธอเดินกลับไปยังสถานที่เดิมตอนนี้สถานที่ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนที่ทั้งสองคนเดินไปถึง เบื้องหน้าจึงมีซุ้มดอกไม้สีขาว ผ้าสีขาวปลิวไสว รายล้อมไปด้วยไฟประดับและบนหาดทรายมีเทียนที่ถูกปักเอาไว้ เป็นคำว่า Will You Marry Me? อิงวราได้เห็นภาพเบื้องหน้าก็ใจเต้นแรง เธอหันกลับมามองแฟนหนุ่มเอเบลคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นทราย เข่าอีกข้างหนึ่งชันขึ้น มือหนาล้วงกล่องแหวนออกมาจาก
เสียงคลื่นซัดสาดกระทบเข้าฝั่ง ดังปะปนไปกับเสียงของเพลงเบาๆ หลังจากที่เอเบลกินอิงวราจนเป็นที่พอใจ และนอนพักผ่อนเอาแรง จนพละกำลังฟื้นกลับคืนมาเต็มที่แล้ว เขาก็ได้พาหญิงสาว ออกมานั่งกินปิ้งย่างที่ริมทะเล ตามความต้องการของเธอนางแบบสาวนั่งหน้างออยู่ที่โต๊ะ แต่สุดท้ายแล้วใบหน้าสวย ก็คลี่คลายความขุ่นเคือง ที่มีอยู่บนใบหน้าลง นั่นก็เป็นเพราะกุ้งตัวใหญ่ในจานตรงหน้า ซึ่งเอเบลเป็นคนที่คอยแกะเปลือก ให้กับเธอด้วยมือของเขาเอง“กินเยอะๆ นะที่รัก ผมว่าคุณผอมเกินไปแล้ว” เอเบลเอ่ยขณะวางกุ้งเผาแกะเปลือกตัวที่สอง ลงบนจานให้กับแฟนสาว“อิงค์ผอมเหรอคะ อิงค์ว่าหลังจากที่คุณกลับไปครั้งก่อน น้ำหนักอิงค์ก็ขึ้นมาตั้งสองกิโล” อิงวราตาโต พลางถามเขาออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเอเบลไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียงส่งยิ้มให้กับเธอ มือหนายังคงแกะกุ้ง ที่จอร์ชกับเดวิดทำหน้าที่ย่าง ให้กับพวกเขาจนสุกแล้ว วางลงบนจานให้กับเธออย่างต่อเนื่องบอดี้การ์ดทั้งสี่ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง แดนกับเพื่อนชาวไทยของเขา คอยดูแลความสงบเรียบร้อย รอบๆ บริเวณนี้ ให้แก่เจ้านายทั้งสอง&ldq
Komen