ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่พอตื่นขึ้นมาได้ ก็ไม่เห็นคนที่ชอบนอนกอดเธออยู่ในห้อง เจ้าของร่างบางจึงเปิดประตูออกไปดู ว่าคิมหันต์กำลังทำอะไรอยู่?
หญิงสาวเดินดูทุกห้อง ในขณะที่เรียกชื่อเจ้าของร่างใหญ่ไปพร้อมกัน
“คิม...คุณอยู่ไหนคะ?”
อาหารที่ว่าถูกจัดวางเอาไว้บนโต๊ะอย่างดี โดยมีภาชนะครอบไว้ อยู่ภายในโซนของห้องครัว
ปลายฟ้าเดินวนไปมา เพื่อตามหาชายหนุ่มไปทั่วห้องพักขนาดกว้าง ภายในคอนโดหรูที่อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เห็นแม้เงาของเขา
ในขณะที่เจ้าของร่างบางกำลังเดินผ่านกระจกบานสูง ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ในจังหวะนั้นเองสายตาของหญิงสาวก็ดันเหลือบไปเห็นคิมหันต์ กำลังพูดคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ด้วยกันที่ลานจอดรถด้านล่าง
หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ และรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง เมื่อคิมหันต์แสดงให้เธอได้เห็นว่า เขาปล่อยให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าโผเข้ามากอดพร้อมกับทำสีหน้าออดอ้อนเชิงร้องขอ แล้วพอเป็นอย่างนั้นคิมหันต์ก็ได้กอดเธอกลับไปทันที ก่อนที่จะยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นไปลูบหลังเธอเชิงปลอบใจในจังหวะเดียวกัน
และในวินาทีนั้นเองที่ปลายฟ้ารู้สึกว่าโลกทั้งใบ ได้แตกสลายลงไปต่อหน้า แข้งขาพาลอ่อนกำลังจนต้องทรุดกายลงนั่งและร้องไห้ออกมาอย่างไม่คิดจะยั้ง
ทั้งอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังกัดฟันลุกขึ้นยืน และฝืนทนมองทั้งสองคนผ่านกระจกกั้นอีกครั้ง
จนกระทั่งได้เห็นคิมหันต์ เดินตามหลังผู้หญิงคนนั้นไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ใกล้กัน โดยไม่ได้หันกลับมามองคนข้างหลัง ที่กำลังยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจยังไงบ้าง...
และนั่นคือครั้งสุดท้าย ที่ปลายฟ้าได้เห็นว่าชายคนรัก เดินจากไปพร้อมกับผู้หญิงอีกคน...
ต่อจากนี้ปลายฟ้าคงจะกลายเป็นแค่ความทรงจำสีจางๆ หรือบางทีหญิงสาวอาจจะไม่ได้อยู่ในความทรงจำของเขาอีกต่อไป...
นับแต่วันนั้น...
จนกระทั่งปัจจุบัน ความทรงจำเหล่านั้นกำลังไหลเวียนไปมาอยู่ในสมองของเธอ เพื่อให้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทรมานที่เคยได้รับ ซึ่งมันก็ได้ห่างหายไปนานนับปี แต่ในเวลานี้มันกำลังฟื้นคืนกลับมา
หญิงสาวมีอาการกระสับกระส่ายทั้งที่ยังครองสติไม่ได้ เพราะในความฝันยังรู้สึกถึงความเจ็บปวด ที่ถูกทอดทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใยแต่ความเจ็บปวดและชอกช้ำเหล่านั้น กลับทำให้เจ้าตัวตื่นขึ้นมาจากห้วงแห่งความฝันได้
ดวงตากลมโตลืมตาตื่นขึ้นมามองฝ้าเพดาน กับแสงสว่างที่กำลังเจิดจ้าอยู่ภายในห้องที่เป็นของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ซึ่งมันเคยเป็นห้องพักเมื่อหกปีก่อน แต่ตอนนี้มันได้ถูกรีโนเวทให้กลายเป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัยไปเสียได้ นั่นจึงทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจ
“ยายปลาย ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้างยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าฮึ?”
เสียงของบิดาซึ่งยืนอยู่ข้างกาย ทำให้ปลายฟ้ารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น และมันก็บ่งบอกได้ในทันทีว่าเจ้าตัวยังมีลมหายใจ
“คุณพ่อขา พวกของไอ้ชลทิศมันตามมาฆ่าหนู” ปลายฟ้าบอกกับบิดาทันทีที่รู้สึกตัว
“ไม่ต้องกลัวแล้วลูก ไม่มีใครทำอันตรายหนูได้ แล้วตอนนี้หนูก็ปลอดภัย เห็นมั้ยว่าลูกไม่ได้เป็นอะไร”
ปลายฟ้าลองขยับเคลื่อนไหวร่างกาย พร้อมกับกวาดนัยน์ตามองไปทั่วตัว จากนั้นจึงเลื่อนสายตากลับมามองต้นแขนของตนที่มีผ้าพันแผลปิดเอาไว้อยู่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเชิงสงสัยในเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านมา
“ตอนนั้นหนูถูกพวกมันยิงนี่คะคุณพ่อ”
“มันเป็นแค่แผลเฉี่ยวของกระสุนน่ะลูก และคุณหมอก็ได้ช่วยทำแผลให้ลูกแล้ว แต่ที่หนูเป็นลมก็เพราะหนูตกใจ โชคดีเหลือเกินที่คนของพ่อไปช่วยหนูไว้ได้ทัน”
ปลายฟ้านิ่วหน้าพลางทบทวนความจำที่ผ่านมา เมื่อนึกถึงใบหน้าสุดท้ายก่อนที่ภาพนั้นจะหายไป จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
ภาพใบหน้าของผู้ชายที่เธอเคยรักมาก แต่เขามาจากเธอไป และทอดทิ้งเธอไว้พร้อมกับลูกในท้อง
ผู้ชายสารเลวที่ได้ครอบครองพรหมจรรย์ของเธอ!
ภาพที่เธอนั่งรอคิมหันต์อยู่ในห้อง เป็นเวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ กำลังไหลเข้ามาในสมองของเธอเป็นฉากๆ
ด้วยความชอกช้ำจากคนที่เธอรักมาก แล้วได้เห็นตำตาว่าเขามีผู้หญิงอื่น อีกทั้งเธอยังต้องฝืนทนมองดูเขายืนกอดกันอย่างไม่รู้สึกอาย ทั้งๆ ที่เพิ่งจะทำเรื่องบนเตียงกับเธอไปแท้ๆ
แต่ที่น่าจะหนักใจมากไปกว่านั้นนั่นก็คือปลายฟ้า กำลังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้ชายคนนั้นอาศัยอยู่ในท้องของเธอ
เพราะมัวแต่เฝ้ารอเขาและเอาแต่เศร้าเสียใจ ปลายฟ้าจึงหลงลืมไปว่าครั้งสุดท้ายในวันนั้น เธอและคิมหันต์ต่างก็ไม่ได้ป้องกัน
หากเป็นเพราะวันนั้นถุงยางอนามัยที่เคยมีไว้มันดันหมดพอดี บวกกับที่ใจของหญิงสาวก็มัวแต่จดจ่ออยู่กับเรื่องราวเลวร้าย เธอจึงไม่ได้สนใจกับเรื่องอะไรทั้งนั้น และจำไม่ได้ด้วยมันจะต้องกินต่อไป แต่พอนึกขึ้นมาได้เวลามันก็ผ่านมาแล้วหลายสัปดาห์ และผลที่ตามมาจึงทำให้ปลายฟ้า ต้องกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง
เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนช่วงหัวค่ำ ทั้งสองคนจึงเดินไปส่งแป้งร่ำที่ห้องนอน ก่อนจะอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวสักพัก จนเจ้าตัวหลับไปแล้วนั่นแหละ ทั้งสองคนถึงได้พากันกลับมาที่ห้องเพราะคิมหันต์ต้องการทำให้ปลายฟ้าเซอร์ไพรส์ เขาจึงตีเนียนหน้าตาย หลังจากที่เก็บงำความลับนี้ไว้กับตัวมาหลายวัน“คุณไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ เหนื่อยกับลูกมาทั้งวัน ผมว่าจะไปดูความเรียบร้อยด้านล่างนั่นสักหน่อย เดี๋ยวผมมา”หญิงสาวทำเป็นเมิน ก่อนเดินจ้ำเท้าเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำหลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ปลายฟ้าก็มานั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกเงาราวชั่วโมงกว่าๆ แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าคนเป็นสามีจะเข้ามาในห้องไวเท่าความคิดเมื่อได้ยินเสียงของลูกบิดประตู ที่ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนเป็นสามีและเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกกักเก็บเอาไว้ก็ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่รู้ตัวงอนผัว!...แล้วเขาจะรู้ตัวตอนกี่โมง?ด้วยความหมั่นไส้หญิงสาวจึงทำท่าจะเดินหนีเขาไปอีกทาง แต่ถูกเจ้าของร่างใหญ่คว้าตัวมากอดไว้ได้จากทางด้านหลัง“คุณกำลังงอนผมอยู่ใช่มั้ย?” เขาฝังจมูกโด่งไล้ลงตามข้างแก้มของเธอเบาๆ ตอนถาม ส่วนห
ห้องรับรองแขกชัญญ่ายอมคายความลับของพี่ชายให้ปลายฟ้าได้รับรู้ทุกอย่าง กระทั่งสถานะของตนซึ่งรวมไปถึงเหตุผลของการมาที่เกาะปลาดาวแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน“ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้ ว่าตัวจริงจะสวยงามตามที่พี่คิมเขาเล่าให้ฉันฟังมากแค่ไหน ฉันไม่อยากเห็นพี่ปลายแค่รูปถ่ายนี่นา พอดีว่าพี่คิมเขาอยากได้งาน เขาจึงวางแผนการให้ฉันได้มาที่นี่ ถ้าพี่ปลายจะโกรธพี่คิมก็โกรธไปสิคะ แต่พี่อย่าโกรธฉันเลยนะ...ฉันขอโทษ ”เมื่อโบ้ยความผิดให้คนเป็นพี่ชายเสร็จสรรพ เจ้าตัวก็ขยับเข้าไปใกล้คนที่เรียกว่าพี่สะใภ้ทีละนิดๆ แถมยังเรียกชื่อกันซะสนิทเชียว“แน่ใจนะว่าเป็นแผนของคิมหันต์แค่เพียงคนเดียว เธอไม่ได้มีเอี่ยวด้วยน่ะ” ปลายฟ้าเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาตอนถาม เพราะยังไม่อยากจะเชื่อชัญญ่าตามนั้น“พี่ปลายยังไม่รู้อะไร พี่คิมน่ะเขาเป็นคนเจ้าแผนการจะตายไป พี่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไง ที่พี่คิมเขายอมมาเป็นคนคุ้มกันให้กับพี่ ทั้งที่มีผู้ว่าจ้างแถบตะวันออกกลาง ยอมจ่ายค่าตัวให้พี่คิมเขาต่างหาก ซึ่งมันมากถึงเก้าหลักเลยนะพี่ปลาย แต่พี่คิมเขาก็ไม่เอา...”เรื่องนี้คิมหันต์ไม่เคยเล่าให้ปลายฟ้าฟัง อีกทั้งเธอเองก็ยังอยากจะร
เมื่อได้ยินคำถามนั่นชัญญ่าถึงกับทำหน้าตาเลิ่กลั่ก จากนั้นจึงหันซ้ายแลขวาซึ่งดูทีท่าแล้วไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ปลายฟ้าต้องการจับคนทั้งคู่ให้มั่น แล้วคั้นให้ตายไปพร้อมกันเลยทั้งสองคนเพราะสิ่งที่เธอกำลังกังวลใจ มันน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งไม่มีวันที่เธอจะยอมปล่อยผ่านมันไปง่าย ๆ“คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องที่พวกคุณแอบไปกินกันลับหลังฉันมันเป็นเรื่องผิด แล้วทำไมพวกคุณยังคิดที่จะทำ เคยนึกถึงความถูกต้องกันบ้างมั้ย อายุขนาดนี้แยกแยะชั่วดีกันไม่ได้เลยหรือไง”ยิ่งได้ว่าออกไปมันก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้า ของขึ้นเสียจนอยากจะฆ่าทั้งสองคนให้ตกตายตามกันไป“เดี๋ยวนะคะ ในเมื่อมันเป็นเรื่องงาน ทำไมคุณจะต้องโกรธขนาดนั้นด้วยละคะ คุณไม่ดีใจเหรอที่สามีของคุณทำหน้าที่ของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”ชัญญ่ามองใบหน้าของปลายฟ้า ที่แสดงความเจ็บปวดผ่านทางสายตาออกมาให้เห็น เช่นเดียวกันกับคำพูดของเธอซึ่งฟังดูแล้วมันคล้ายกับกำลังดูหนังคนละม้วน ชวนพูดคนละเรื่องเดียวกันยังไงยังงั้นเลย...แล้วชัญญ่าก็ยังไม่คิดที่จะเฉลยให้อีกฝ่ายได้ฟัง ว่ากำลังเข้าใจอะไรผิดๆ และคงปล่อยให้ปลายฟ้าคิดไปเองตามนั้น“เอาแบบนี้ดีกว่านะคะคุณปล
เช้าวันต่อมาคิมหันต์ตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพราะเขามีงานบางอย่างที่จำเป็นต้องไปจัดการ และทำให้เสร็จทันก่อนที่จะถึงวันสำคัญของตัวเอง“เดี๋ยวผมขอตัวเข้าไปทำธุระที่ฝั่งโน้นสักหน่อยนะ สัญญาว่าจะรีบกลับมาให้ทันมื้อค่ำของเรา”คิมหันต์บอกกับปลายฟ้า ที่ยังไม่ทันจะหายจากอารมณ์หงุดหงิด แต่แล้วสามีก็ยังคิดจะทิ้งเธอกับลูกไป ทั้งที่งานสำคัญจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้“คุณจะไปที่ไหน? กับใคร? แล้วธุระที่ว่านั่นมันคือธุระอะไร? และสำคัญกับคุณแค่ไหนเหรอ? ”เธอซักไซ้เขาราวกับว่าอีกฝ่าย ได้กลายเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับไปไม่เป็น “อ่า...ผมแค่จะไปคุยธุระกับคนที่รู้จักกันแค่นั้นเอง” คิมหันต์ตอบไม่ตรงประเด็น และปลายฟ้าก็เห็นว่าเขาไม่ยอมสบตากับเธอตอนพูด“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานในวันพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวผมจะให้ออแกไนซ์มาคุยรายละเอียดเรื่องงานกับคุณ เธอชื่อ ชัญญ่า ผมฝากคุณด้วยละกัน”เขาฝากฝังปลายฟ้าเรื่องงาน หรือฝากให้เธอดูแลออแกไนซ์นั่นกันแน่...แถมเรียกแม่นั่นว่า ชัญญ่า อย่างสนิทสนมเจอกันแค่เพียงวันเดียว แต่สามีกลับฝากฝังผู้หญิงคนนั้น ไว้กับเธอได้อย่างหน้าตาเฉย เธอก็เลยตอบเขากลับไปว่า“ได้ค
เช้าวันรุ่งขึ้นคิมหันต์มองเรือลำใหญ่ที่วิ่งออกมาจากชายฝั่งผ่านกล้องส่องทางไกล จนกระทั่งเรือลำนั้นได้เข้ามาจอดเทียบท่าที่เกาะปลาดาวซึ่งคนที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว ก็คือคณะที่มาจากบริษัทจัดทำออแกไนซ์ และเวลานี้ทุกคนต่างก็ช่วยกันขนของ ทยอยลงมาจากเรือลำที่เขาเป็นคนส่งให้ไปรับมาจากอีกฝั่งรูปร่างบอบบางของหญิงสาวเชื้อสายจีน-อิตาลี ได้ก้าวเท้าลงมายืนอยู่ที่บนพื้นทราย ขณะกวาดสายตามองหาใครบางคน จนได้พบกับเป้าหมายจากนั้นจึงเดินเข้าไปหาเจ้าของร่างใหญ่ พร้อมกับกล่าวคำทักทายซึ่งคล้ายกับคนคุ้นเคย“สวัสดีค่ะรุ่นพี่ สบายดีไหมคะ?”“สบายดีแล้วเราล่ะชัญญ่า ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะเรา” คิมหันต์เอ่ยทักและถามอีกฝ่ายกลับไปเช่นเดียวกัน“ฉันสบายดีค่ะ แล้วก็มีบางอย่างที่ฉันตั้งใจจะเอามาฝากพี่ด้วยนะ ไม่รู้ว่าพี่จะสนใจไหม?”ประโยคบอกเล่ากึ่งคำถามทำให้อีกคนต้องหันซ้ายแลขวา เหมือนกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้าจากนั้นเจ้าของร่างสูงก็เดินจูงมือหญิงสาวปริศนา แล้วพาไปพูดคุยกันในมุมลับตาแต่ไม่ว่าคิมหันต์จะขยับตัวไปทางไหน มันก็ยังอยู่ในสายตาของใครบางคน ปลายฟ้าได้เห็นการกระทำของคนทั้งคู่จากบนอาคารที่อยู่สูงสุด เธอถึงกับส
เกาะปลาดาวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธุ์ครอบครัวของปลายฟ้า ก็มักจะพากันมาจัดงานรำลึกถึงผู้วายชนม์ นั่นก็คือคนเป็นบิดาของเธอในทุกๆ ปี และสถานที่จัดงานก็คือเกาะปลาดาวเหมือนที่ผ่านมาแต่ปีนี้ปลายฟ้าต้องการทำบรรยากาศของงานให้มีความสนุกครึกครื้นเพิ่มขึ้นมาบ้าง ซึ่งระยะหลังก็สามารถทำใจกันได้แล้วนั่นแหละส่วนตัวของคิมหันต์เองก็ได้กลายเป็นคุณพ่อติดลูก ซึ่งความผูกพันธ์อันนี้ที่ทำให้เขาตัดสินใจ ลาออกจากองค์กรของบอดี้การ์ดและนักฆ่า ซึ่งเขาคิดว่าคงจะไม่กลับเข้าไปทำอาชีพนั้นอีกแล้วคิมหันต์ไม่ต้องการเสี่ยงอันตราย แล้วทำให้คนในครอบครัว ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยในตัวเขาเหมือนที่ผ่านมาการจัดงานครั้งนี้คิมหันต์จึงเสนอปลายฟ้า ให้เธอว่าจ้างบริษัทที่รับจัดงานออแกไนซ์ แล้วหลังจากที่ตกลงกันได้ เขาจึงนำโบชัวร์มาให้เธออ่านถึงรายละเอียดต่างๆ พลางปล่อยให้เธอเลือกเอา ตามที่ใจของเธอต้องการหญิงสาวนั่งอ่านมันอย่างขะมักเขม้น ก่อนเหลือบไปเห็นคนเป็นสามีจ้องมองมาที่เธอ ด้วยสายตาที่เจ้าตัวอ่านเขาได้ไม่ยากนักหากแต่ทำเป็นสนใจกับเอกสารตรงหน้า ขณะที่สายตาก็คอยชำเลืองมองสามีของตัวเองเป็นระยะๆ“คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”ก็รู้แห