Share

บทที่ 7

Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น
ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกรายล้อมไปด้วยชายสามคนที่เปลือยเปล่าเช่นกัน

สิ่งที่ตามมาก็คือ คำพูดหยาบคายทุกประเภท

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จางหยวนก็แอบถุยน้ำลายในใจ

“คนในเมือง ช่างเล่นสนุกเก่งจริง ๆ ”

ภาพแบบนี้ สมัยก่อนมีให้เห็นแค่ในภาพยนต์เล็ก ๆ บางเรื่องเท่านั้น

คิดไม่ถึงว่าการปีนเขาในครั้งนี้จะได้เห็นของจริง

หลังจากแอบมองสักพัก จางหยวนก็วางแผนที่จะจากไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะได้ยินการสนทนาระหว่างคนหลายคน

“นายน้อยหวัง เกิดอะไรขึ้น? คุณอารมณ์ไม่ดีเลย? คุณคิดถึงผู้หญิงแซ่ฉู่คนนั้นอยู่เหรอ”

“เด็กผู้หญิงแซ่ฉู่ยังเป็นนกน้อยตัวหนึ่งอยู่ นายน้องหวังชอบแบบนี้”

“เฮยเฮย……”

ชายทั้งสามกำลังถกเถียงกัน

ผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: "นายน้อยหวัง ไม่ต้องกังวล ครังนี้ฉันได้ชวนเธอออกมาด้วย และได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอให้ค่ำก่อน ฉันจะมอมเหล้าเธอ พอถึงเวลานั้น คุณก็รู้ว่าควรจะทำยังไง... "

เพียะ

นายน้อยหวังตบตูดของผู้หญิงคนนั้นไปหนึ่งที แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "ดีมาก เมื่อเรื่องนี้เสร็จสิ้น ผมจะตอบแทนคุณอย่างงาม"

ผู้หญิงคนนั้นก็เบิกบานใจขึ้นมาทันที การเคลื่อนไหวของเธอก็ร้อนแรงมากขึ้น

ท่าทางที่ร้อนแรง ทำให้คนข้าง ๆ ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่ได้ยินการสนทนาระหว่างคนสองสามคนแล้ว จางหยวนก็หันกลับมามองเต็นท์ที่เขาเพิ่งเดินผ่านไป ก็เห็นร่างของหญิงสาวที่อยู่ใกล้ ๆ เต็นท์อย่างคลุมเครือ

ดูเหมือนว่า นี่จะเป็นผู้หญิงที่แซ่ฉู่คนนั้น

หญิงสาวแซ่ฉู่คนนั้นมีรูปร่างที่ดีมาก

แต่กลับต้องมาเสร็จพวกผู้ชายเหล่านี้

จางหยวนไม่ชอบเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น และไม่มีความคิดที่จะมีฮีโร่มาช่วยสาวงาม

เขาหยิบจอบขึ้นมา แล้วเดินไปข้างหน้าในทิศทางเดิม

ขณะที่เขาเดินอยู่นั้น ก็ได้กลิ่นหอมจาง ๆ

คนธรรมดา จะไม่ได้กลิ่นแน่นอน

แต่ตอนนี้ประสาทสัมผัสทั้งหกของจางหยวนไวมาก โดยเฉพาะกับกลิ่นของยาสมุนไพรจีนบางชนิด เขาสามารถจดจำสมุนไพรได้ด้วยการดมกลิ่น

ด้วยกลิ่นนี้ เขาก็กล้าสรุปได้เลยว่า ละแวกนี้จะต้องมีสมุนไพรอันล้ำค่าอยู่

เขาเริ่มค้นหาตามกลิ่นหอมนั้น

เส้นทางบนภูเขาเดินเหินลำบาก โดยเฉพาะบริเวณที่สมุนไพรเติบโต ทั้งชั้นทั้งห่างไกล

จางหยวนค้นหามาตลอดทาง ไม่รู้ว่าผ่านสถานที่อันตรายมากมายเท่าไหร่ ในที่สุดก็มาถึงสถานที่ที่กลิ่นหอมของยาสมุนไพรฟุ้งกระจาย!

หากสมรรถภาพทางกายของเขาไม่ได้ดีขึ้น ก็คงจะไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้!

เมื่อมองไปยังตำแหน่งที่ไม่โดดเด่นบนกำแพงภูเขาสูงชันที่อยู่เบื้องหน้า จางหยวนก็จ้องแง่งโสมที่โผล่ออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี

โสม!

มันคือโสมป่าจริง ๆ !

สมัยนี้ โสมป่ามีราคาแพงมาก!

โสมป่าใด ๆ ก็ตามที่มีอายุมากกว่าสิบปี สามารถขายได้เป็นแสนบาท!

ถ้ามันหลายปีกว่านี้ ถ้าจะขายมันในราคาห้าหกแสนก็คงจะไม่เป็นปัญหา!

จางหยวนจ้องมองโสมป่าด้วยสายตาที่สดใส ถ้านำโสมป่าไปขายที่ร้านขายยาประจำเขต จะต้องขายได้เงินมากมายอย่างแน่นอน

ตอนนี้ครอบครัวของพวกเขากำลังขาดแคลนเงินพอดี แถมจางต้าซานพ่อของเขายังวางแผนที่จะขายที่ดินติดถนนอีกด้วย

หากมีโสมป่าอันนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องขายที่ดินแล้ว!

จางหยวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และระงับความตื่นเต้นไว้ในใจ

แม้ว่าจะค้นพบโสมป่า แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการเก็บเกี่ยวโสม

หากต้องการรักษาคุณสมบัติทางยาของโสมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ควรเลือกเก็บเกี่ยวตอนพลบค่ำ!

จางหยวนไม่เพียงสืบทอดศาสตร์ทางการแพทย์จากพี่เทพธิดาเท่านั้น แต่ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรจีนหลายชนิดอีกด้วย!

เขาตัดสินใจไปเก็บสมุนไพรรักษาอาการป่วยของพ่อก่อน พอถึงช่วงเวลาพลบค่ำแล้ว ค่อยมาเก็บโสมป่า!

เพื่อป้องกันไม่ให้คนขุดโสมป่าไป ก่อนออกเดินทางจางหยวนยังตั้งใจทำของปลอมขึ้นมา

เมื่อตอนใกล้เที่ยง ในที่สุดจางหยวนก็พบสมุนไพรในการรักษาอาการป่วยของพ่อเขาทั้งหมด

แถมยังเก็บสมุนไพรที่ใช้กันทั่วไปเพื่อเก็บเอาไว้ใช้ในอนาคต

หลังจากตะลอนบนภูเขาตลอดทั้งเช้า หน้าตาของจางหยวนก็สกปรกมอมแมม

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปที่ตะกร้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพร เขารู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก

ถ้ามีสมุนไพรเหล่านี้ ขาของจางต้าซาน อีกไม่ช้าก็จะสามารถหายเป็นปกติได้

พ่อของเขาก็จะสามารถเดินได้เหมือนคนปกติ!

แม้ว่าจางต้าซานจะไม่เคยบ่นตัดพ้อ แต่จางหยวนกลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในใจของเขา!

ผู้ชายอกสามศอกคนหนึ่ง ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว กลับทำได้แค่นอนอยู่บนเตียงทุกวันเหมือนคนไร้ประโยชน์ ความรู้สึกนี้ไม่ต้องพูดถึงว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน!

จางหยวนฮัมเพลง แล้วเดินลงภูเขาไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่เดินอยู่นั้น เมื่อเขาเข้ามาใกล้เต็นท์ที่เขาเดินผ่านก่อนหน้านี้ นัยน์ตาของเขาก็เป็นประกายทันที!

เพราะภาพเงาที่สวยงามปรากฏขึ้นในสายตาของจางหยวน

เมื่อมองดูใบหน้าของอีกฝ่าย จางหยวนถึงกับตกตะลึง

ทุกคนต่างก็บอกว่าจางหลินสาวสวยประจำหมู่บ้านหน้าตาสะสวย แต่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า สวยกว่าจางหลินเสียอีก!

ผิวขาวผ่องราวกับหิมะ ใบหน้าประณีตสวยงามเกือบจะสมบูรณ์ และดูเหมือนจะสูงส่งมาแต่กำเนิด

เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยเดินออกมาจากในภาพวาด!

เสื้อแขนสั้นสีขาวแมทซ์กับกางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าผ้าใบสีชมพูคู่หนึ่ง ทำให้ดูสวยและอ่อนเยาว์เล็กน้อย

ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือ สาวสวยหยาดเยิ้มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ระหว่างคิ้วกับเผยความเย่อหยิ่งออกมา

เหมือนหงส์ขาวที่หยิ่งยโสตัวหนึ่ง!

หลังจากนั้นไม่นาน จางหยวนก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเป็นอย่างมาก

เพราะ “หงส์ขาว” ที่อยู่ตรงหน้าเขาตัวนี้ กำลังใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมองเขา ราวกับว่ากำลังมองคางคกตัวหนึ่ง!

“ทำไมถึงได้เจอคนชนบทที่ทั้งยากจนทั้งสกปรกแบบนี้ด้วย!”

ในขณะนี้ จางหยวนดูเหมือนจะเข้าใจความหมายที่อยู่ในสายตาของอีกฝ่าย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จางหยวนได้เห็น สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจแบบนั้น

นับตั้งแต่จางหยวนกลายเป็นคนโง่ ผู้คนมากมายในหมู่บ้านก็มองเขาด้วยสายตาแบบนี้!

สีหน้าของจางหยวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

จะหน้าตาสะสวยหรือสง่างามแค่ไหนแล้วมันเป็นยังไง?

ดูถูกคนในชนบท ทำอย่างกับว่าผมเป็นคางคก?

ระวังผมจะกินคุณนะ!

จู่ ๆ จางหยวนก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงแซ่ฉู่ที่ชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนพูดถึงก่อนหน้านี้!

สีหน้าท่าทางของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจขึ้นมา

ถ้าสาวน้อยคนนี้รู้ว่า เธอจะถูกเพื่อนร่วมทางจัดการคืนนี้

ไม่รู้ว่าเธอยังจะมีท่าทางที่เย่อหยิ่งเหมือนตอนนี้หรือเปล่า!

จางหยวนทิ้งรอยยิ้มขี้เล่นเอาไว้ ขี้เกียจสนใจหญิงสาวคนนี้ จากนั้นก็เดินผ่านเธอไปอย่างรวดเร็ว

นิสัยเดิมของจางหยวน ถ้ารู้ว่าผู้ชายที่มาจากในเมืองเหล่านั้นจะทำร้ายคน

เขาจะต้องยื่นมือเข้าช่วยอย่างแน่นอน!

แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของหญิงสาวคนเมื่อกี้ ทำให้จางหยวนล้มเลิกความคิดที่จะช่วยเหลือ

เขาไม่ใช่แม่พระซะหน่อย!

การถูกคนปฏิบัติอย่างกับว่าเป็นคางคก แล้วยังจะไปประสบเอาใจ เรื่องที่แปลกประหลาดแบบนี้มีเพียงแม่พระเท่านั้นที่ทำได้

ปล่อยให้สาวน้อยคนนี้เป็นไปตามยถากรรมก็แล้วกัน?

ไม่รู้ว่า คนที่ถูกเรียกว่านายน้อยหวังคนนั้น จะยอมนำหงส์ขาวตัวนี้ออกมาแบ่งปันให้กับอีกสองคนหรือเปล่า

ถ้าสามคนลงมือพร้อมกัน สาวน้อยแซ่ฉู่คนนี้คงจะโดนเล่นงานจนเละแน่!

จางหยวนสามารถมองออกว่า หงส์ขาวตัวนี้ยังคงเป็นผักกาดอ่อนที่ไม่เคยมีหมูแตะต้องมาก่อน

แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับจางหยวนเลย

หลังจากตัดสินใจได้แล้วก็กลับบ้าน จางหยวนก็ต้มยาให้พ่อของเขาจางต้าซาน

หลังจากที่จางต้าซานกินยา ภายในเวลาไม่นาน ก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างเริ่มร้อน

จางหยวนรู้ว่า นี่เป็นสัญญาณว่าเลือดที่ขาทั้งสองข้างเริ่มไหลเวียนได้อย่างราบรื่น

ถ้ารักษาด้วยการฝังเข็มและยาต้ม ผ่านไปอีกสิบวัน พ่อของเขาก็จะสามารถลงจากเตียงแล้วเดินได้!

พอจางต้าซานรู้เรื่องนี้แล้วก็น้ำตาไหลรินอีกครั้ง

เขารอคอยวันนี้ มานานมากแล้ว!
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status