ผับใหม่ใจกลางเมือง
อันดามันก้าวลงมาจากแท็กซี่ กวาดสายตามองด้านนอกของผับใหม่ด้วยความสนใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนเพื่อบอกว่าเธอมาถึงแล้ว คุยกันเล็กน้อยก็กดวางสาย สรุปได้ว่ายังไม่มีใครมาถึงร้านสักคนทำให้เธอต้องเข้าไปก่อน
"5 คนค่ะ" เธอแจ้งกับพนักงานหน้าร้านหลังจากถูกการ์ดตรวจบัตรเช็กกระเป๋าเรียบร้อย
"เอาเป็นโต๊ะนั่งหรือยืนคะ"
"ยืนค่ะ"
จะมาเที่ยวทั้งทีเธอก็ไม่อยากนั่งหงอยๆ อยู่กับโต๊ะ ต้องโยกต้องเต้นมันถึงจะสนุก
ร่างเล็กสวมกางเกงขายาวเอวสูงสีน้ำเงิน ด้านบนเป็นเสื้อครอปสายเดี่ยวตัวเล็กสีขาวสะอาดตา อวดเอวบางคอดกิ่วด้วยความภาคภูมิใจเดินตามพนักงานไปถึงโต๊ะ พลางมองการตกแต่งของร้านไปด้วย
เวลาสองทุ่มและเป็นร้านใหม่ทำให้ยังมีคนไม่มากนัก การตกแต่งก็ถือว่าหรูหรามีระดับ เป็นผับชั้นเดียวกว้างขวาง โซนสำหรับคนไม่ชอบเบียดเสียดกับใครก็เป็นโซฟากลมสีขาวตั้งล้อมโต๊ะไว้ชิดกำแพงร้านฝั่งหนึ่ง
เธอจัดการเปิดเหล้าอย่างไม่รู้สึกเก้อเขินใดๆ แม้จะมายืนอยู่เพียงคนเดียว ระหว่างที่กลุ่มเพื่อนกำลังเดินทางมาก็มีเหล่าชายหนุ่มหลายคนแวะเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักบ้าง แต่ระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ ทำให้คนตัวเล็กไม่มีกะใจจะหยอกล้อ
"หิมะตกแน่ๆ มึงมาคนแรก" จ๊ะจ๋าเดินเข้ามาพร้อมกับการ์ตูนทักขึ้น
"อีชากับกะเทยล่ะ"
"ชาไปหาที่จอดอยู่ อีกะเทยติดผู้จ้า เลตแน่นอน"
"ลำไย แล้วมาเร่งกู" อันดามันเบะปากขณะเติมเหล้าให้ตัวเอง
ไม่ถึง 5 นาทีเพื่อนสาวคนสุดท้ายในกลุ่มก็เดินเข้ามาพร้อมผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอแนะนำตัวว่าชื่อเมฆ เป็นคนที่บริษัทเดียวกันซึ่งกำลังคุยๆ กันอยู่ ไม่มีใครว่าอะไรที่เพื่อนพาผู้ชายมาทำความรู้จัก มีแซวบ้างตามประสา ทั้งกลุ่มเป็นกันเองกับชายหนุ่ม ไม่นานเขาก็หายเกร็ง
"พวกมึง สรุปกูตกลงหมั้นแล้วนะ" อันดามันเอ่ยขึ้นมากลางวง ทำเพื่อนฝูงแตกตื่นตกใจยกใหญ่
"เฮ้ย! ไหนค้านแทบตาย สรุปตกลงง่ายๆ งี้เหรอ"
"เมาท์ด่วน เป็นไงมาไง"
"ใจเย็น กำลังจะเล่านี่ไง"
"อีเดซี่งอแงแน่นอน"
"ปล่อยมัน สายเอง...เอ้า พร้อมแล้วลุย" การ์ตูนยกยิ้มสะใจ พลางเร่งให้หญิงสาวเปิดปากเล่า
"แม่ก็มายื่นข้อเสนอให้นิดหน่อย บอกแค่หมั้นกันชั่วคราว ถ้าพวกท่านกลับมาจากต่างประเทศจะถอนหมั้นก็จะตามใจ แถมจะช่วยคุยกับพ่อให้ด้วย ว่าหลังจากนี้จะไม่หาเรื่องมาบังคับอะไรกูอีก"
"ก็ไม่แย่นี่ ถือว่าได้ศึกษาดูใจด้วย ไม่เวิร์กก็ค่อยว่ากัน" จ๊ะจ๋าพยักหน้าตาม
"แล้วทำไมต้องหมั้นแค่ช่วงเขาไม่อยู่ด้วยวะ"
"แม่บอกไม่มีใครอยู่บ้าน ไอ้พีพีก็จะไปอยู่หอ เลยอยากให้กูย้ายไปอยู่กับคู่หมั้น" ร่างเล็กหันไปตอบคำถามณชา
"หูยยยยย คือจะส่งมึงไปอยู่บ้านผู้ชายเลยว่างั้น"
"กูว่าไม่เกิน 3 วัน เสร็จอีอันแน่นอน" การ์ตูนหัวเราะร่า ทำนายเอาไว้เรียบร้อย
"จริง!"
"ถึงตอนนั้นอย่ามาติดใจ ร้องไม่ยอมถอนหมั้นให้กูเห็นนะ"
"นี่เพื่อนไง เห็นกูเป็นคนยังไงกันแน่วะ" เธอหน้ามุ่ยกอดอกไม่พอใจที่ถูกเพื่อนรักสบประมาท
"ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองสักทีดิ๊" จ๊ะจ๋าสาวเป๋อประจำกลุ่มกระซิบบอกด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ซุกซน แม้ตัวเองจะไร้ประสบการณ์เช่นกัน
"ลองอะไร"
"เซ็กซ์ไง จะได้รู้ว่าเข้ากันได้ไหม นิสัยดีเซ็กซ์ห่วยก็ไม่ได้นะ ชีวิตคู่เรื่องนี้ก็สำคัญเถอะ"
"นี่ พูดอะไรกันเกรงใจเมฆหน่อยเถอะ" ณชาแทรกเสียงเข้ม ย้ำเตือนให้สาวๆ ในโต๊ะรู้ว่ายังมีหนุ่มคนนอกยืนฟังบทสนทนานี้ด้วย
จ๊ะจ๋าหันมาส่งยิ้มแหยให้ชายหนุ่ม พร้อมส่งสายตาขอโทษขอโพยไปทางเขา
"ขอโทษนะ เราลืมตัว"
"ไม่เป็นไรครับ"
"เบื่อจังเลย ชาก็ดันเป็นคนเรียบร้อยคนเดียวในกลุ่มเสียด้วย ไม่ค่อยเข้าใจเลยพูดอะไรกัน" ณชาเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยพลางหันไปอ้อนหนุ่มข้างกาย ทำเพื่อนทุกคนพร้อมกันหันไปด่าด้วยความหมั่นไส้
"จ้า! อีเรียบร้อย แม่ชีมากกกกกกกก"
ทั้งหมดหันมาสนใจกับเครื่องดื่มตรงหน้า ลูกค้าก็ทยอยมาเรื่อยๆ ไม่นานบรรยากาศในร้านก็ดูคึกคัก ดีเจเปิดเพลงสไตล์ฮิปฮอปจังหวะเร้าอารมณ์ หลังแอลกอฮอล์เข้าปากอันดามันก็เริ่มเลื้อยร่อนเอวไปตามเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน
ลีออนโอบประคองเอวหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาเลือกนั่งที่บริเวณโซฟา ก่อนสายตาคมจะเหลือบไปเห็นร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่ค่อนข้างโดดเด่น มุมปากแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเธอเอาไว้พร้อมกดส่งไปให้เพื่อนรัก ก่อนจะหันมานั่งกระดิกเท้าคลอเคลียสาวข้างกายอย่างอารมณ์ดี
ผ่านไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง มาเฟียเจ้าสำราญก็หัวเราะลั่นเมื่อพบเพื่อนสนิทร่างสูงเดินหน้าบึ้งตรงเข้ามาหา
"ฮ่า ฮ่า เชี่ยมาจริงดิ อะไรกัน หลงเสน่ห์ว่าที่คู่หมั้นเหรอวะ" เขาถามออกไปอย่างแทบไม่เชื่อสายตาพลางกลั้นขำ
"กูแค่เบื่อๆ อยู่แถวนี้พอดีเลยแวะมาเหอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับยัยนั่น"
วิคเตอร์อธิบายแก้ต่างให้ตัวเองเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ตีหน้านิ่งไม่สนใจสายตาล้อเลียนของลีออน รินเหล้าเติมใส่แก้วให้ตนเองด้วยท่าทางเรียบเฉย
"ของขวัญวันเกิดปีนี้เอาปลอกคอไหม หางมึงเริ่มงอกแล้ว"
"หางเหี้ยอะไร เดี๋ยวได้เจอตีนกู"
"ฮ่า ฮ่า แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นฉุนเฉียวใส่ ดูทำน้องมิ้นกลัวเลย" ว่าจบก็หันไปกระชับเอวสาวให้ขยับมาใกล้ชิด ใช้ปลายจมูกโด่งซุกไซ้แก้มเนียนอย่างหยอกล้อ
"อ๊ายยยย คุณลีออนทะลึ่งอ่า"
"น้องมิ้นไม่รู้หรอก ว่าถ้าพี่ลีออนทะลึ่งจริงๆ เป็นยังไง"
"อยากรู้ใจจะขาดแล้วค่ะ"
"เฮอะ!" วิคเตอร์แค่นเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิด ขัดอารมณ์ชายหนุ่มหญิงสาวที่นัวเนียกัน
"ให้กูช่วยหาสาวมานั่งด้วยไหมล่ะ เอาคนนั้นดีไหม ที่ผมสั้นๆ ตัวเล็กๆ ใส่เสื้อขาว~" สายตาซุกซนเหลือบไปมองทางอันดามันขณะบรรยายลักษณะของเธอ
"ไม่!"
"ไม่ปฏิเสธ?"
"ไม่เสือก!" วิคเตอร์กระแทกเสียงตอบด้วยอารมณ์คุกรุ่นจากการถูกเพื่อนแซวไม่เลิก คว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มดับอารมณ์ร้อนรุ่มในใจ
"ครับ คร้าบบบบ~ ไม่ยุ่งก็ได้ เชิญมึงนั่งเฝ้าเจ้านายไปนะหมาน้อย"
"ไอ้ลีออน" เขาเรียกชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาคมดูดุดันเอาจริง แต่ลีออนก็ไม่ได้เกรงกลัวสักนิด ยิ้มระรื่นลอยหน้าลอยตา
วิคเตอร์บอกกับตัวเองรอบที่แปด เหตุผลที่เขาโผล่มาผับนี้เพราะตนเองกำลังเบื่อหน่ายและไม่มีอะไรทำอยู่พอดี ไม่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวตัวเล็กสักนิด แม้เขาจะต้องคว้ากุญแจรถขับตรงออกมาจากคอนโดหลังจากเตรียมอาบน้ำนอนแล้วก็ตาม
มาเฟียหนุ่มให้ลูกน้องตามดูพฤติกรรมเธอได้เพียง 2 วัน ก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องงี่เง่าไร้สาระ แถมต้องมาทนรำคาญกับสายตากะลิ้มกะเหลี่ยราวรู้ทันความคิดของลูกน้องยามต้องมารายงาน สุดท้ายจึงต้องยกเลิกไป
สายตาเอาเรื่องเหลือบมองไปที่ร่างบางเป็นระยะ จับจ้องทุกการกระทำราวกับเธอเป็นนักโทษ พลางก่นตำหนิเธอในใจ
'ยัยขี้เมา ออกเที่ยวได้ทุกวัน ไม่เห็นได้เรื่อง แม่คิดยังไงจับหมั้นกับผู้หญิงเหลวไหลแบบนี้'
หรือตอนที่เธอเซเกือบล้มจนต้องคว้าแขนหนุ่มโต๊ะด้านหลังเอาไว้เพื่อพยุงตัว
'เฮอะ คออ่อนแล้วยังไม่เจียม หาเรื่องอ่อยผู้ชายชัดๆ แม่ง! ยัยเปี๊ยกนี่สมควรถูกจับมาลงโทษจริงๆ เป็นพ่อแม่จะฟาดให้ก้นลาย ส่งสายตาหวานเชื่อมแบบนั้นให้ผู้ชายได้ไง!'
"เอ้า! จ้องขนาดนั้น กินเข้าไปเลยไหม"
"ฮะ!" วิคเตอร์เหมือนหลุดออกจากภวังค์หันมามองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
"มึงเล่นจ้องเขาขนาดนั้น เลยถามว่าจะกินเข้าไปหรือไง"
"กินบ้ากินบอ กูไม่ได้จ้อง! ก็แค่มองไปเรื่อย ขี้เหล้าขนาดนั้นกระเดือกไม่ลงหรอก" เขาแก้ตัวกลับน้ำขุ่นพลางแสร้งขยับเปลี่ยนท่าหันไปมองรอบร้าน ทำเพื่อนแทบกลั้นรอยยิ้มล้อเลียนไว้ไม่ไหว
"ถ้าชอบก็เข้าไปคุยสิวะ นั่นคู่หมั้นมึง ใจคอจะไม่ทำความรู้จักอะไรกันบ้างเลยเหรอ"
"ใครชอบ! อย่ามาพูดมั่วๆ อีกอย่างทำไมกูต้องเข้าหาก่อนด้วย ไม่ได้เต็มใจหมั้นสักหน่อย"
"ตามใจ ฟอร์มเยอะแบบนี้ระวังหมาตัวอื่นคาบไปแดกก่อนแล้วกัน"
"เหอะ! ได้ก็ดี กูไม่อยากเอาชีวิตไปผูกกับผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน" คำพูดแฝงแววประชดถากถางขณะหันไปมองพฤติกรรมของเธออีกครั้งด้วยแววตาไม่พอใจ
"หึหึ แล้วจะคอยดู ไอ้พวกปากเก่งแบบนี้ เป็นหมามาหลายรายแล้ว"
"เฮอะ ก่อนจะสอนคนอื่นเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อน"
"กูมีความสุขดี ขอบใจที่เป็นห่วง"
สองมาเฟียมองหน้ากันด้วยสายตาดุดันกันราวกับเกลียดชังมาตั้งแต่ชาติปางก่อน จนมิ้นหญิงสาวที่นั่งข้างลีออนขยับกายออกห่างเตรียมวิ่ง ด้วยความกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็หันกลับไปสนใจแก้วเหล้าตัวเอง
เวลาเกือบเที่ยงคืน
"กูกลับก่อน" วิคเตอร์หันมาบอกกับเพื่อนเสียงเรียบและลุกออกจากโต๊ะไป โดยไม่รั้งรอให้ลีออนส่งสายตาล้อเลียนใดๆ มาอีก
หนุ่มอารมณ์ดีได้แต่กระตุกยิ้มรับชมเรื่องสนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จับจ้องแผ่นหลังกว้างของเพื่อนเดินออกนอกร้าน ตามหลังกลุ่มของอันดามันที่เพิ่งกลับไปก่อนหน้าไม่ถึง 2 นาที
ร่างกำยำสอดส่ายสายตาอยู่สักพักก็พบหญิงสาวที่กำลังเมาแอ๋โบกไม้โบกมือให้เพื่อนที่มาส่งขณะปีนขึ้นรถยนต์คันหนึ่งด้วยความทุลักทุเล สายตาโหดเหี้ยมจ้องตรงไปยังตำแหน่งคนขับรถ อารมณ์ความโกรธเกรี้ยวไร้ที่มาก็ไหลพล่านทั่วร่างเมื่อพบชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเธอนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ไม่รู้ว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกันก่อนที่รถยนต์คันนั้นจะเคลื่อนตัวออกไป
ไม่รอช้าวิคเตอร์คว้ารีโมตปลดล็อกประตูรถสปอร์ตสีแดงของตัวเอง เหยียบคันเร่งตามรถคันหน้าไม่ให้คลาดสายตา
"ยัยผู้หญิงกร้านโลกหน้าไม่อาย กล้ากลับบ้านกับผู้ชายสองต่อสองได้ไง ฉันถอนหมั้นเธอแน่!" ร่างสูงก่นด่าพฤติกรรมของเธอไปตลอดทาง สายตาก็จับจ้องที่รถยุโรปสีบรอนซ์เงินไม่วางตา
จนรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่หน้าประตูรั้วเหล็กสูง ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไป วิคเตอร์ชะลอความเร็วลง ขับช้าๆ ไปเทียบที่หน้าประตูเพื่อมองไปยังด้านในพื้นที่บ้าน ก็พบอันดามันเปิดประตูด้านหลังลงมาก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าบ้านหลังใหญ่ โดยชายหนุ่มที่ทำหน้าที่คนขับนำรถไปจอดที่โรงรถและแยกไปอีกทาง
"เฮ้อออออ~"
ร่างสูงถอนหายใจออกมา อารมณ์เดือดพล่านสงบลงอย่างไร้สาเหตุ ไม่รู้เพราะโล่งใจหรือผิดหวังกันแน่ ตอนแรกคิดว่าอันดามันจะไปมีสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าวตนจึงได้ขับรถตามมาดูให้เห็นกับตาเพื่อจะได้มีข้ออ้างไปยกเลิกการหมั้นหมายกับมารดา นั่นคือสิ่งที่วิคเตอร์สะกดจิตบอกตัวเองเพื่ออธิบายการกระทำแปลกประหลาดของตนในช่วงนี้ แต่สุดท้ายชายคนนั้นเป็นเพียงคนขับรถของเธอเท่านั้น
รถสปอร์ตสีแดงจอดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ทำไมเจ้าของรถจึงรั้งรอจนสาวตัวเล็กเดินเข้าบ้านไปแล้วถึงค่อยขับออกไป มุมปากชายหนุ่มระบายยิ้มสบายใจ ก่อนรถสีแดงจะพุ่งทะยานหายไปในความมืด โดยไม่มีใครรับรู้ถึงวีรกรรมหน้าแตกของเขาในวันนี้
อันดามันและวิคเตอร์ช่วยกันพาลูกแฝดอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนจะจูงมือกันกลับห้องของตัวเอง บรรยากาศในห้องเงียบเชียบมีเพียงแค่แสงไฟจากภายนอกลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่เท่านั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปตั้งแต่เย็นทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอาการกรึ่มเล็กน้อย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำวาวของหญิงสาวช้อนมองสามีอย่างสื่อความหมาย ก่อนจะเป็นฝ่ายพาเขามายังเตียงกว้างริมฝีปากของทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันอัตโนมัติ ไม่ต้องมีสัญญาณหรือคำบอกกล่าวใดๆ ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ลมหายใจชายหนุ่มปั่นป่วน รวบร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อนกอดแนบแน่น บรรจงถ่ายทอดความรู้สึกมากล้นให้อกให้เธอรับรู้ผ่านจุมพิตหวานซาบซ่านร้อนแรงท่อนแขนบางก็โอบรอบลำคอเขาเอาไว้ แหงนหน้าสุดความสามารถเพื่อตอบสนองรสจูบจากสามีที่สูงกว่าเกินฟุตกลีบปากฉ่ำนุ่มขบเม้มหยอกล้อกันไปมา ก่อนที่เรียวลิ้นทั้งคู่จะกระหวัดเกี่ยวรั้น รุกไล้ไล่ต้อนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นจากทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และอาการตื่นตัววาบหวามตอนนี้ เพียงแค่ลิ้นร้อนแทรกลึกเข้ามากวาดต้อนตักตวงน้ำลายใสในโพรงปาก ท้องน้อยเธอก็วูบหวิวเสียวสะท้านขึ้นมาจนต้องจิกขยุ้ม
สัปดาห์ต่อมากลุ่มเพื่อนของวิคเตอร์เหมือนว่าจะเหงาอยากหาเรื่องเจอกัน จึงได้นัดรวมตัวกันที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของวิคเตอร์ในเย็นของวันเสาร์ ทำให้ทั้งวันอันดามัน ต้องเตรียมสถานที่ คือสวนข้างบ้านเอาไว้รองรับเพื่อนฝูงและบรรดาลูกๆ ของพวกเขา อันดามันไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนนัก อาหารส่วนใหญ่จึงโทรสั่งเอา พวกข้าวผัด น้ำแกง และพวกซีฟู้ด บาบีคิวของสดทั้งกุ้ง หอย ปู เอาไว้ให้หนุ่มๆ ได้ปิ้งย่างเป็นกับแกล้มส่วนของเด็กๆ ก็ได้เตรียมพวกขนม น้ำหวานและอาหารรสอ่อนเอาไว้ให้ ทั้งของทอด สปาเกตตีหมูสับ จนกระทั่งเกือบบ่าย 3 โมง มิลินและไคโรก็เดินทางมาถึงเป็นคู่แรกพร้อมน้องมีอาและมาติน เด็กทั้งคู่ท่าทางสดใสร่าเริงฉีกยิ้มกว้างทักทายเจ้าของบ้าน ก่อนจะแยกไปหาลูกแฝดของเธอที่เล่นน้ำคลายร้อนยังสระว่ายน้ำข้างบ้าน ไคโรและวิคเตอร์จึงตามออกไปดูความปลอดภัย ปล่อยให้สองสาวเม้าท์กันตามประสาสาวๆ“นี่เมื่อวานลินหมักซี่โครงหมูไว้ด้วย ตั้งใจเอามาย่างเย็นนี้” มิลินเอ่ยพลางชูถุงในมือให้ดู ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนทำให้หญิงสาวชอบเข้าครัว และทดลองทำอาหารเมนูใหม่ๆ เสมอ ผิดกับเจ้าของบ้านที่ทอดไข่ยังไม่สุก“ดีๆ
หลังจากรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่คิดตลอดหลายวันเป็นแค่ความเพ้อเจ้อของตัวเองเท่านั้น ทำให้เธอถูกวิคเตอร์ไล่กลับไปทำงานก่อน ซึ่งเธอก็สลดพอที่จะไม่โต้เถียงอะไรสามีต่อ ขณะขับรถกลับบริษัทก็ได้โทรไปอัปเดตเรื่องราวหน้าแตกให้กลุ่มเพื่อนฟัง และแน่นอนทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะเยาะเธอ และเทคะแนนสงสารไปทางวิคเตอร์จนหมดยิ่งทุกคนได้รู้ว่าเธอทำอะไรเขาบ้างก็รุมด่าประณามเสียร่างเล็กหูชา กับความใจร้อนไม่คิดหน้าคิดหลังของเธอ เมื่อถึงบริษัทก็ได้โทรย้ำกับม่านฟ้าภรรยาคนสวยของน้องสามีว่าช่วยไปรับลูกแฝดของเธอให้ตรงเวลา และระวังอย่าให้ลูกๆ เธอคลาดสายตา ไม่เช่นกันบ้านคุณปู่อาจจะเละได้ อีกฝ่ายรับคำขันแข็ง แต่พอคิดอีกทีว่าวันนี้ลูกจะไปอยู่ในความดูแลของคุณอาตัวป่วนก็อ่อนใจ หวังว่าโซเฟียและคาร์ลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในบ้านได้ ไม่ต้องโทรเรียกรถดับเพลิงมากลางดึกอีกอารมณ์หญิงสาวเปลี่ยนจากเคร่งเครียดเป็นเบิกบานใจ เฝ้าจับตามองนาฬิการอคอยเวลาเลิกงานด้วยใจจดจ่อ มุมปากบางคลี่ยิ้มหวานขณะเซ็นกองเอกสารมากมายอย่างมีความสุขผิดจากทุกวันแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อโทรศัพท์มือถือที่วางคว่ำไว้บนโต๊ะส่งเสียงร้อง คุณแม่คนสว
เครื่องยนต์รถยุโรปราคาแพงส่งเสียงกึกก้องขณะสาวคนขับเหยียบคันเร่งตามด้วยความร้อนใจ เมื่อรถของคนเป็นสามีนำหายไปไม่เห็นฝุ่น เส้นทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปทำโทสะในตัวคุณแม่ลูกแฝดพุ่งสูง เพราะนั่นคือเส้นทางไปโรงแรมวิลล์พาราไดซ์สายตาคุกรุ่นจ้องมือถือสลับกับท้องถนนเบื้องหน้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีความอดทนอดกลั้นนั่งรอในรถร่วม 3 ชั่วโมงอันดามันผ่อนความเร็วลงทิ้งระยะห่างมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์จากเพลิงโทสะ เมื่อสัญญาณ GPS จอดนิ่งยังลานจอดของโรงแรม ก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาระมัดระวังไม่ให้ผู้เป็นสามีสังเกตเห็นรถยนต์ของตน ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดเช่นเดียวกันหญิงสาวรื้อหาหมวกหรือแว่นกันแดดที่จะพอช่วงอำพรางสายตาของสามีได้ ก่อนจะคว้ากระเป๋าบีบมือถือในมือแน่นมุ่งดิ่งสู่ตัวโรงแรมเธอกวาดสายตาไปมาท่ามกลางแขกมากมายที่เดินกันขวักไขว่เพื่อมองหาร่างที่ดูคุ้นตา ก่อนจะเห็นชายร่างสูงสวมเชิ้ตขาวเดินหายไปยังลิฟต์ อันดามันไม่รอช้าวิ่งตรงไปทันที ภายในอกบีบรัดแน่น อึดอัด จุกเสียด หวาดกลัวกับความจริงที่เผชิญแต่ก็ไม่ต้อง
สองวันต่อมาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งไขว่ห้างสายตาจับจ้องไอแพดอยู่ในห้องนั่งเล่นใหญ่กลางบ้านด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง โดยก็มีลูกแฝดทั้งสองของเขาวิ่งวนรอบโซฟาหนังสีครีม ในมือทั้งคู่ถือปืนอัดลมที่ทำจากพลาสติก คนพี่หลบหลังโซฟาโผล่หน้าออกมาจ่อปืนของเล่นไปทางน้องสาว ส่วนอีกคนก็หลบอยู่มุมเสา เมื่อเสียงปังๆ ออกจากปากพี่ชายเงียบไป เธอก็ชะโงกตัวออกไปยิงบ้าง ก้มตัวหมอบคลานไปตามพื้นหินอ่อนเพื่อที่จะได้เข้าประชิดตัวพี่ชาย ที่ใช้คุณพ่อตัวใหญ่เป็นเกราะกำบังอย่างขี้โกง"ปัง ปัง""ปัง!""นี่แน่ะ อเล็กซ์ถูกจับได้แล้ว" ร่างเล็กกระโดดโถมตัวทับพี่ชาย ซึ่งเขาก็ยกปืนของเล่นยิงสวนกลับในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มกลิ้งลงไปบนพื้นพร้อมกัน"ปัง ปัง ปัง!" อเล็กซ์ตะโกนเลียนแบบเสียงปืนย้ำไปทางน้องสาวที่คร่อมร่างเขาไว้"อเล็กซ์แพ้แล้ว ทิ้งปืนซะ!""ไม่! แอลต่างหากโดนยิง แอลแพ้!""ว้ายยย แต่แอลไม่ตาย แบร่ๆ นี่แน่ะๆ อเล็กซ์นั่นแหละแพ้"คนน้องดื้อดึงไม่รับความจริง ใช้ท่อนแขนเล็กป้อมรัดมือก่ายขาพี่ชายให้ยอมจำนนอย่างขี้โกง จนคนพี่ต้องตะโกนร้องฟ้องพ่อที่นั่งอ่านเอกสารอยู่"ป๊าาาาา! แอลขี้โกงอีกแล้ว!""อเล
Zonic Pubแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ผับแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นไม่เคยเปลี่ยน ลีโอได้ทำการปิดปรับปรุงรีโนเวทร้านใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น แต่โซนวีไอพีชั้นสองที่เป็นเหมือนจุดขายของร้านก็ยังคงมีอยู่ เพิ่มเติมคือความหรูหราและราคาค่าเปิดโต๊ะที่แพงหูฉีกกว่าเดิมแต่นั่นก็ยิ่งทำให้บรรดาลูกคนรวยมีเงินจับจองไม่เคยว่างเว้น เป็นการประกาศศักดาถึงฐานะไปในตัวกลุ่มชายหนุ่มทั้งห้าที่อายุเข้าสู่เลข 3 กันแล้ว นั่งล้อมวงบนโซฟาหนังอย่างดี พูดคุยกันสนุกสนานไม่ต่างจากสมัยยังเป็นวัยรุ่น กาลเวลาที่ผ่านพ้นยิ่งส่งเสริมให้พวกเขาดูหล่อเหลามีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว ทุกท่วงท่าการขยับร่างกายแต่ละที ทำหัวใจสาวๆ วัยละอ่อนด้านล่างเคลิบเคลิ้ม แย่งกันส่งสายตาเป็นสัญญาณเชิญชวน แต่ก็ไม่มีใครในโต๊ะให้ความสนใจ"ไง~ ได้ข่าวลูกยกพวกตีกันเหรอ" ไคโรนั่งไขว่ห้างแสยะยิ้มร้ายแซวเพื่อนที่ตัวใหญ่สุดในกลุ่มอย่างล้อเลียน ทำให้ลีออนและโอนิกซ์ที่ไม่รู้ข่าวหันมามองด้วยความสนใจ"ถามจริง ลูกมึงแสบขนาดยกพวกตีกันตั้งแต่เด็กเลยเหรอ" ลีออนขมวดคิ้วถามกลับด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เรื่องอเล็กซ์แอลลี่แสบซนแก่นแค่ไหน เขาเองก็ทร
รถยุโรปเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวตัดดำสวยสะกดตา เด็กๆ เปิดประตูรถวิ่งกรูกันเข้าบ้านด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมต่างจากผู้เป็นแม่ที่ถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน แล้วก้มเข้าไปหยิบแฟ้มงานยังเบาะหลังก่อนจะปิดประตูรถที่ลูกๆ เปิดทิ้งเอาไว้ ก้าวตามหลังเด็กน้อยทั้งสองเข้าบ้าน"ปะป๊า~ เย้ๆๆๆๆ วันนี้ปะป๊ากลับบ้านเร็ว เรามาเล่นอะไรกันดีคะ"เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวดังขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงลอยมาให้ได้ยินก่อนที่อันดามันจะเข้าบ้านด้วยซ้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสามีตัวใหญ่อุ้มลูกสาวชูสุดมือหมุนตัวไปมาให้ร่างเล็กลอยวืดกลางอากาศ แอลลี่หัวเราะคิกคักเสียงใสชอบใจ ทำให้อเล็กซ์เริ่มอิจฉา กระตุกชายเสื้อบิดาอยากเล่นบ้าง"ป๊า อเล็กซ์อยากลอยบ้าง""ได้สิครับ""ปะป๊าไม่เอา~ แอลยังไม่อยากลง ให้อเล็กซ์รอก่อน""แต่อเล็กซ์ก็อยากให้ปะป๊าอุ้มลอยบ้างนี่น่า"ลูกแฝดสองคนเริ่มถกเถียงกันทำให้วิคเตอร์ตัดสินใจย่อตัวลง อุ้มลูกทั้งสองนั่งบนบ่าแกร่งกำยำคนละข้าง พร้อมช้อนประคองหลังของทั้งคู่แน่นระมัดระวังไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งร่วงตกลงมาอันดามันวางข้าวของในมือกอดอกมองสามพ่อลูกนิ่งๆ ด้วยแววตาลึกล้ำยากจะสื่อความหมาย ห
แชท 'สมาคมแม่บ้าน'Andaman: ใครว่างบ้าง ฉันโดนเรียกพบผู้ปกครองอีกแล้ว นี่กะว่าจะรอแฝดเลิกเรียนเลยCLEO: เอ้า! มีเรื่องอะไรอีก LinLin: ลินกำลังออกจากบ้านไปรับมีอากับมาตินพอดีเลย อันอยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปเจอAndaman: ยกพวกตีกันAndaman: @LinLin นั่งอยู่คาเฟ่บีข้างโรงเรียนPraeWa: ถามจริง? เด็ก 5 ขวบเนี้ยนะCLEO: ช็อกจ้า! ให้เดาไหมว่าใครแกนนำAndaman: ไม่ต้องสืบ มีอยู่คนเดียวPraeWa: สงสารนะ แต่ทำไมพี่แอบขำ 55555Ivy: เฮ้ย! น้องแอลลี่เหรอ ยังไงกันอันดามันเลยต้องนั่งเล่าวีรกรรมแสบของลูกแฝดให้กลุ่มบรรดาเมียๆ ของเพื่อนสามีฟัง ถือเป็นการระบายอารมณ์ไปในตัว สุดท้ายมิลินและแพรวาก็ออกปากว่าเดี๋ยวแวะเข้ามาหา คลีโอติดธุระเรื่องงานจึงฝากมิลินรับลูกเธอกลับมาให้ด้วย ส่วนไอวี่ต้องไปรับลูกสาวอีกที่หนึ่งจึงไม่สะดวกมาหาลูกๆ ของมิลินและคลีโอเรียนอยู่อนุบาลเดียวกับลูกเธอ แต่เรียนคนละห้องและคนอยู่ละชั้น ส่วนน้องอัศวินลูกของแพรวากับโอนิกซ์เข้าชั้นประถมไปแล้วจึงเลิกเรียนช้ากว่าเด็กอนุบาล คุณแม่สุดสวยจึงพอมีเวลาว่างแวะมาเจอสาวๆ ในแก๊งได้บ้างหลังจากสั่งกาแฟเย็นดื่มให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง
MD Agencyอันดามันในวัย 28 ปี สวยสะพรั่งเต็มที่ เธอยังคงตัดผมสั้นประบ่าเช่นเดิม ใบหน้าสวยจัดยังคงดูไม่ต่างจาก 5 ปีก่อนแม้แต่น้อย หญิงสาวสวมเสื้อสูทสีเทาเข้มคู่กับกางเกงขายาวเอวสูงดูสง่าผ่าเผยเหมาะกับตำแหน่งที่ได้รับ เอวบางคอดกิ่วไม่เหมือนคนที่เคยผ่านการท้องลูกแฝดมาก่อน คุณแม่สุดเปรี้ยวนั่งอยู่ในห้องทำงานยังชั้นบนสุดของบริษัท ตอนนี้เธอเข้ามารับตำแหน่งรองประธานบริษัทโฆษณาเต็มตัวแล้ว โดยสิมิรันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกสาวดูแลกิจการ ส่วนตัวเธอเองก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลสามีที่ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อหลายปีก่อนอนาคตประธานบริษัทรุ่นใหม่ไฟแรงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับตัวเลขมากมายจนเริ่มเวียนหัว ยอมรับตามตรงว่าเธอชอบทำงานใช้แรง ออกสถานที่จริงมากกว่าอุดอู้อยู่แต่ในห้องทำงาน จ้องเอกสารที่มีแต่ตัวหนังสือหลายสิบเท่า แต่งานก็คืองาน อันดามันต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเธอสามารถดูแลบริษัทของมารดาได้โดยไม่มีปัญหาในขณะที่วุ่นวายเช็กทวนบัญชีอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ส่งเสียงร้อง ทำให้ดวงตากลมโตต้องยอมละจากงานตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้ว ตงิดใจแปลกๆ เมื่อเห็นรายชื่อคุณครูของคู่แฝดโ