“ขอบคุณนะคะ ที่ยอมให้หนูติดรถมาด้วย แต่...” เธอยกมือขึ้นไหว้เขาทันที ที่รถจอด และเผยใบหน้าที่มีความกังวลขึ้นมา
“...” เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับเป็นเลิกคิ้วมองเธอแทน
“หนูเข้าไม่ได้คะ” เธอเอ่ยตอบเขาไปตามตรง เพราะเธออายุยังไม่ถึง ที่จะสามารถเข้าไปในสถานบันเทิงแห่งนี้ได้
“เข้าไม่ได้! แต่เธอมาที่นี่ทำไม สรุปเธออายุเท่าไหร่” เขาจึงถามหาความจริงจากเธอ เพราะดูจากลักษณะท่าทาง เธอก็น่าจะเข้ามหา’ลัยแล้ว
“สิบแปดคะ” เธอตอบเขาออกไป แต่ไม่กล้าสู้หน้า เสมองออกไปข้างนอกแทน
“สิบแปด! แต่เธอให้ฉันพามาที่นี่” ธีรเมธตวาดเสียงดังขึ้นมาทันที เพราะตกใจที่รู้ว่าเธออายุไม่ถึงยี่สิบ นี่สายตาเขามองผิดขนาดนั้นเชียวเหรอ หรือว่าเธอจะโกหกเขา
“หนูมาตามดูคนคะ”
“ใคร แฟนหรือ” เขาเลิกคิ้วถามขึ้นมาทันที
“...” แต่เธอกลับไม่กล้าตอบเขาออกไป
“หึ คงจะใช่สินะ” เมื่อเห็นอาการสบประมาทของเธอ เขาก็เดาขึ้นมาทันที พร้อมกับเสียงแค่นหัวเราะอยู่ในลำคอ
“ไม่ใช่แฟนหรอกคะ แต่หนูไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี” เธอรีบปฏิเสธทันควัน และไม่ได้อธิบายบอกเขา เพราะเธอคิดว่าคงไม่จำเป็น
เมื่อไม่รู้จะทำเช่นไรต่อ เธอได้แต่นั่งเงียบอยู่ภายในรถ จนธีรเมธลงจากรถไปแล้ว และกำลังจะปิดประตูรถ ก็เอ้ยขึ้นมา
“ตามฉันมา...” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอก ก่อนที่จะปิดประตูรถ
“คุณจะพาหนูเข้าไปหรือคะ” เธอถามขึ้นมาทันที ที่ลงจากรถมายืนข้าง ๆ เขา
“...เรียกฉันว่าพี่ธีร์” เขาพยักหน้าเป็นคำตอบแทน แล้วเอ่ยบอกให้เธอเปลี่ยนคำเรียกเขา ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
เธอไม่พูดอะไรตอบ และรีบตามเขาเข้าไปทันที เขาพาเธอเข้าจากทางด้านหลังของผับ ขืนเจ้าไปด้านหน้า หญิงสาวที่มาด้วยคงเข้าไม่ได้แน่ และอีกอย่างเพราะเขารู้จักกับเจ้าของ ซึ่งเป็นลูกคค้าประจำระดับวีไอพีของไร่เขาด้วย
หญิงสาวเบิกตากว้างตื่นตากับสิ่งที่ได้เห็นสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก เมื่อเข้ามายังด้านในเป็นครั้งแรกในชีวิต
“ทางนี้” เขาบอกพร้อมกับคว้ามือของเธอ ให้เดินขึ้นไปทางด้านบนยังห้องวีไอพีที่จองเอาไว้ทันที
“คุณธีรเมธสวัสดีครับ” หนุ่มเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ ทักทายขึ้นมาทันที ที่เห็นเขาเข้ามาในห้องที่จัดเตรียมไว้ให้เขา
สุทธิรักษ์ หนุ่มโสดเจ้าของกิจการแห่งนี้ วัย 35 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้และธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย แถมยังเป็นคู่ค้าทางธุรกิจกับธีรเมธอีกด้วย
“ครับ” เขาตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะดันเธอเข้าไปนั่งด้านในทันที เมื่อเห็นสายตาของสุทธิรักษ์มองเธอตาแทบไม่กระพริบ
“คืนนี้ พาสาวน้อยที่ไหนมาด้วยครับเนี่ย ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาเลย ปกติจะเห็นคุณมากับเพื่อน ๆ กัน” สุทธิรักษ์เอ่ยแซวออกมา พร้อมกับมองสำรวจหญิงสาวอย่างพิจารณา
“เก็บได้ข้างทางครับ เลยพกติดมาด้วย” เขาไหวไหล่เอ่ยตอบแบบท่าทีเล่นที ไม่รู้สึกอะไร
“น้องอายุถึงยี่สิบแน่นะครับคุณธีรเมธ” สุทธิรักษ์หันมาถามเอาคำตอบจากธีรเมธทันที เมื่อได้สำรวจดูหญิงสาวอย่างชัด เธออาจจะเป็นคนหุ่นเจ้าเนื้อ แต่ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางแต่งเติม ดูด้วยตาเปล่าเขาก็มองออกว่าไม่ถึงยี่สิบอย่างแน่ เพราะเขาเจอมาเยอะ
“ไม่ถึงครับ” ธีรเมธจึงต้องยอมบอก เพราะถึงอย่างไรคนอย่างสุทธิรักษ์ที่คลุกคลีอยู่แต่กับสาว ๆ ย่อมมองออกอยู่แล้ว
“อ้าว...แล้วแบบนี้ ผมจะไม่ซวยหรือครับคุณธีรเมธ หากตำรวจเข้าตรวจ” สุทธิรักษ์มีความวิตกขึ้นมาทันที
“ผมไม่ได้อยู่นานหรอกครับ หากมีอะไรเกิดขึ้นผมรับผิดชอบเอง พอดีมันจำเป็นจริง ๆ ครับ” ธีรเมธบอกออกไปเพื่อให้สุทธิรักษ์สบายใจ
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เมื่อสุทธิรักษ์ออกไปแล้ว เหลือเพียงแค่ทั้งคู่ ที่ต่างคนไม่ยอมพูดจาอะไรกันเลยแม้แต่น้อย
“คนโต๊ะนั่นมีอะไรดี ถึงจ้องขนาดนั้น” ธีรเมธจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง เมื่อสังเกตุเห็นหญิงสาวเอาแต่จ้องมองไปยังโต๊ะของหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังคลอเคลียกันอยู่
“คนรู้จักคะ” เธอเอ่ยตอบเขา แต่กลับไม่ได้หันมามองหน้าเขาเลย
“แฟนเหรอ”
“พี่ชายคะ”
“พี่! พี่มีแฟนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ถึงขั้นต้องตามมาดูแบบนี้” เขาถามเธอออกไป เพราะแค่สถานะพี่ ทำไมเธอถึงต้องตามมาดูแบบนี้
“หนูแค่อยากรู้เฉย ๆ ว่าพี่ชายติดสาวคนไหน ถึงขั้นไม่สนใจน้องในไส้แบบหนู จะลงไปถามความจริงคะ” เธอเอ่ยตอบเขาออกไปตามตรง พร้อมกับคว้าเอาแก้วเครื่องดื่มของธีรเมธขึ้นไปกระดกทันที เพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนที่จะรีบเดินออกจากห้องไปทันที
“ดะ เดี๋ยวชะเอม”
กว่าเขาจะลุกขึ้นยืนเรียกเธอเอาไว้ ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะสาวน้อยวิ่งออกจากห้อง มุ่งหน้าไปยังโต๊ะเป้าหมายด้านล่างที่มีสองร่างชายหญิงกำลังนัวเนียกันอยู่
“ตัวแสบ เธอกำลังจะทำให้ฉันซวยน่ะ” เขาพูดเพียงแค่นั้น ก็รีบตามเธอออกไปทันที เพราะกลัวจะเกิดเรื่องเข้า และเขาก็พลอยจะเดือดร้อนเอา ซึ่งเขาก็เป็นท พาเธอเข้ามาด้วย
“นี่เธอ ยัยอมีนา!!!” เอมิกาอ้าปากค้างทันที เมื่อจับไหล่ของหญิงสาวที่พี่ชายกำลังคลอเคลียอยู่หันมาเผชิญหน้ากัน
อมีนา หญิงสาววัย 32 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของหญิงที่มาทำให้ครอบครัวเธอพัง และแม่เธอต้องตรอมใจตาย เพราะว่าแม่ของเธอนั้นเอง
“ชะเอม” เป็นเสียงพี่ชายของเธอ
เอกราช ชายหนุ่มวัย 30 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเธอนั่นเอง ทั้งคู่อายุห่างกันตั้ง สิบสองปี เดิมทีพ่อและแม่ของเธอตั้งใจมีลูกแค่คนเดียว เพราะแม่ของเธอร่างกายไม่แข็งแรง แต่เธอดันหลงเกิดมาในช่วงที่แม่อายุเยอะแล้ว
มารดาของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เธอพึ่งเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมปลาย และบิดาก็มีครอบครัวใหม่ทันที แล้วจึงส่งเธอเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำ แถมพาครอบครัวใหม่เข้าไปอยู่ในบ้านแทน
“พี่เอก นี่มันอะไรกัน” เธอคาดคั้นถามเอาความจริงจากพี่ชายทันที
“เธอเข้ามาได้ยังไงชะเอม” แทนที่เอกราชจะตอบคำถามเธอ แต่กลับถามเธอกลับแทน
“เข้ามายังไงมันไม่สำคัญหรอกคะ ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะ ทำไมพี่เอกต้องไปคว้าเอานังลูกเมียน้อยมาทำเมียด้วย” เธอไม่ได้ตอบคำถามของเอกราชพี่ชายเธอ แต่เธอกลับต่อว่าหญิงสาวที่อยู่กับพี่ชายเธอทันทีอย่างเหลืออด
“ชะเอม กลับเถอะคนมองใหญ่แล้ว” เป็นเสียงของธีรเมธที่เดินมาถึง แล้วรีบห้ามเธอเอาไว้
“ปล่อย พี่ธีร์ไม่ต้องมายุ่ง นี่มันเรื่องครอบครัวฉัน” เธอสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมจากคนตัวสูงที่เดินมาตาม
“จะไม่ให้ยุ่งได้ยังไง ก็ฉันเป็นคนพาเธอมานะ” เสียงเข้มเอ่ยบอก พร้อมกับสายตาขู่เธอออกไปด้วย
“หึ ขนาดอยู่โรงเรียนประจำเธอยังมีเวลาออกมาเที่ยวเตร่ได้เลยยัยเอม กลับไปซะ อย่ามายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ และอีกอย่างนะ ถ้าจะมีผัวก็ขอให้เรียนจบก่อน” เอกราชบอกเธอออกไปอย่างใจเย็น
“นี่พี่กล้าไล่เอมเหรอพี่เอก” แต่คนที่ฟังเริ่มที่จะควบคุมตัวเองไม่อยู่ เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และหญิงสาวข้างกายพี่ชายที่ทำให้เธอโมโหจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
อมีนาเมื่อรู้ว่าคนที่ตามเอมิกามานั้นคือใคร กลับต้องแปลกใจทันที ที่ทั้งคู่มาด้วยกัน เพราะเธอรู้จักหนุ่มเจ้าของไร่เป็นอย่างดี เมื่อครั้งยังเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอลอบมองเขาเพียงเล็กน้อยเพื่อเก็บอาการเอาไว้ ไม่ให้เอกราชผิดสังเกตุ
“ไม่ไล่เธอ จะไล่ใครละ ไอ้เด็กใจแตก” อมีนามองมาที่เธอ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยวาจาที่ดูถูกดูแคลน เหยียดเธอ
“หึ...รู้จักอีเด็กใจแตกหน่อยดีไหม” เธอยกม้วนแขนเสื้อของตัวเองขึ้นมา พร้อมจะจัดการหญิงสาวปากดีตรงหน้า
“ชะเอม!” ธีรเมธอุ้มเธอออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้ทันที เพราะผู้คนเริ่มมอง และเธอก็เริ่มที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้ ร้องโหวกเหวกวยวายออกมาเสียงดังแทบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ลืมแม้กระทั้งตัวเองที่อายุไม่ถึง แต่กลับเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้
ธีรเมธเกรงว่าสุทธิรักษ์จะเดือดร้อนเอา หากเรื่องราวใหญ่ไปมากกว่านี้ จึงรีบพาเธอที่อารมณ์กำลังโกรธออกมาจากตรงนั้นก่อน
พ่อแม่มือใหม่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่มีเอมิกาและลูกชายตัวน้อยมาอยู่ที่ไร่ด้วย ธีรเมธแทบจะไม่เข้าไปในไร่ชาของเขาเลย แถมยังไม่ยอมออกจากบ้านอีก เพราะต้องคอยช่วยเธอดูแลลูกขณะที่เธอยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างถนัด และก็เป็นพ่อและแม่มือใหม่ที่วุ่นวายกันเลยทีเดียวเขาอยากจ้างพี่เลี้ยงมาคอยช่วยเธอ เพราะอยากให้เธอได้มีเวลาพักบ้าง แต่เธอยืนกรานที่จะเลี้ยงเอง แล้วเขาก็ไม่อยากขัด จึงต้องยอมสละงานตัวเองมาช่วยเธอ เพราะสงสารที่เธอต้องดูแลลูกเองคนเดียว เวลาพักผ่อนของเธอก็แทบจะไม่มีเลยเขามองใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทีไร ก็รู้สึกผิดต่อเธอตลอด หญิงสาวที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว มีอนาคตที่ไกลกว่านี้ แต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกอดหลับอดนอน เพราะความมักง่ายของเขาแท้ ๆ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยให้เขาได้ยินสักคำเลย“เธอนอนพักเถอะชะเอม เดี๋ยวพี่ดูลูกต่อเอง” เขาเอ่ยบอกเธอขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าลูกน้อยได้หลับไปแล้ว หลังจากที่ร้องมานาน กว่าจะหลับลงได้ ก็ทำเอาเขาและเธอเพลียกันเลยทีเดียว“แต่...”เมื่อเธอยังคงปฏิเสธ เขาจึงสาวเท้าเดินไปหาเธอ แล้วช้อนเธอขึ้นมา อุ้มไปวางที่เตียงแล้วคร่อมทาบทับตัวเธอเอาไว้ท
เซอร์ไพรส์จากพ่อและแม่เมื่อลูกน้อยร้อง เขาจึงยอมเป็นฝ่ายลุกขึ้นเอง แล้วเดินไปอุ้มลูกที่นอนอยู่บนเตียงกว้างของเขาที่พรรณวนาอุ้มขึ้นมาส่งตอนที่มาถึง แล้วเขาก็ช้อนลูกชายตัวน้อยขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เดินมาหาเอที่นั่งอยู่ ได้ให้เธอได้เอาเข้าเต้า เพราะน่าจะหิวแล้ว แล้วเขาก็นั่งลงตำแหน่งเดิม ข้าง ๆ เธอ“เอมจะให้นมลูก พี่ธีร์ออกไปก่อนสิ” เธอหันมาบอกเขาที่ยังคงนั่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับเธอไม่ยอมออกห่างจากเธอและลูกเลยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็นั่งจ้องดูลูกขณะที่เธอกำลังเปิดเสื้อให้นมลูก เธออาย แต่ไม่กล้าเอ่ยบอกเขา เพราะมีพยาบาลอยู่ด้วย แต่ตอนนี้อยู่ที่บ้านเขาก็ยังมานั่งจ้องอีก“ทำไมพี่ต้องออกไปด้วย พี่ก็อยากดูลูกกินนมเหมือนกัน” เขาพูดขึ้นมาแบบไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แถมยังทำหน้าตาท่าทีกวน ๆ ใส่เธออีก“พี่ธีร์” เธอได้ค้อนใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากนัก เพราะมีลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขน เกรงว่าจะตกใจเข้า“อะไรอีก” เขาเลิกคิ้วถามเออย่างท่าทีคงเฉยชา“แต่เอมอาย...” เธอบอกเขาออกไป“จะอายทำไม พี่เห็นของเธอมาหมดทุกส่วนแล้ว ต้องให้บอกไหม ว่าเธอมีไฝตรงจุดไหนบ้างของร่างกาย” นอกจากเขาจะไม่รู้สึกรู้อะไรแล้ว เขายังพูดจากำก
พาลูกเมียเข้าไร่เช้าของวันที่สาม ก่อนที่จะได้กลับบ้าน เขาได้กลายเป็นพ่อแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเชิญเจ้าหน้าที่เขตเข้ามาที่ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลที่เอมิกาพักอยู่ เพื่อดำเนินการเรื่องจดทะเบียนสมรสของเขาและเธอ หลังจากที่เขาได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับบิดาวันก่อน ตั้งแต่ที่ออกจากห้องคลอดส่วนบิดาของเขาตอนแรกก็ตกใจไม่น้อย ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นปู่แบบกระทันหัน เพราะคิดว่าโดนเขาอำเล่น แต่เมื่อได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เขาโทรศัพท์ไปเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ท่านจึงได้แนะนำให้เขาจดทะเบียนสมรส แล้วลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้กว่าจะจบด้วยวิธีนี้ ธีรเมธก็โดนบิดาต่อว่าเอาอยู่ไม่น้อย เรื่องทำผู้หญิงท้อง ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขามาก แต่เมื่อเขาสารภาพว่าทำหญิงสาวอายุไม่ถึงสิบแปดท้อง ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยินแบบนั้น แทบจะจับเขาเข้าคุกเสียเองที่ทำอะไรยั้งคิดลงไปแบบนั้นส่วนเรื่องชื่อของลูกชาย เขาเป็นคนไปจัดการเรื่องแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาก็เป็นคนตั้งชื่อให้ด้วยตัวเอง พร้อมกับให้ใช้นามสกุลของเขา เขาจัดการเองทุกอย่างเสร็จสับ โดยที่เธอไม่สามารถปฏิเสธหรือห้ามอะไรเขาได้เลย“เด
เป็นพ่อแบบไม่ทันตั้งตัวแปดเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกมาจากแผนกสูติฯ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่มาตรวจครรภ์ตามนัดทุกเดือน“สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันแล้วนะลูกแม่ ว้ายยย...” เสียงเอ่ยเดินก้มหน้าพูดกับท้องกลม ๆ ของตัวเอง โดยไม่ได้มองทางข้างหน้าเลย จนชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าให้ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้น เป็นหญิงสาวท้องแก่ จึงรีบคว้าเธอเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะแกรงว่าจะล้มลง และได้รับอันตรายเข้า“ขอโทษครับ เป็นอะ... ชะเอม!!!” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนในอ้อมแขนไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าคนนั้น ๆ คือใคร ซึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด“พี่ธีร์!” เธออุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานั้นเอง“ชะเอม เธอท้อง!!!” ตกใจที่ได้เจอเธอ แต่ยิ่งตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเธอท้อง กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย“...” เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่จ้องมองเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย“หมายความว่า...” เขากำลังเอ่ยปากถามหาคำตอบ หรือคำยืนยันจากเธอ“ลูกหนูคะ เขาเป็นลูกของหนูคนเดียว” เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน“หึ เธอจะบ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมา เธอจะท้องคนเดียวได้ยังไง...” เขา
หายไป...สองวันต่อมา ที่ไร่ธีรเมธ🌿“วันนี้คุณธีร์มีนัดหรือครับ” นิกรถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่เดินออกมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงจอดรถ“มีธุระด่วนนิดหน่อย” เสียงเรียบนิ่งกลับเพียงแค่สั้น ๆ“ธุระอะไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย” นิกรถามขึ้นมาทันที เพราะเขาจะรู้ทุกเรื่องของธีรเมธหากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานในไร่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็มีบ้างที่ไม่อาจรู้นอกเสียจากผู้เป็นเจ้านายจะเล่าบอกเอง“แกจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องของฉันไหมไอ้กร ไปดูแลแม่ฉันที่บ้านด้วย ถ้าท่านถามถึงก็บอกว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก” ธีรเมธตวาดใส่ลูกน้องคนสนิททันทีอย่างเหลืออด และสั่งการให้นิกรไปดูแลมารดาของเขาแทนธีรเมธเดินขึ้นรถไป และขับออกไปทันทีอย่างรีบร้อน ส่วนมารดาของเขานั้นเดินทางมาหาเขาได้สามวันแล้ว แต่การมาครั้งนี้มารดาของเขาเดินทางมาคนเดียว ไม่มีผู้เป็นสามีและลูกสาวสุดที่รักตามมาด้วยเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยมา“กินอะไรมาว่ะ ระเบิดลงแต่เช้าเลย” นิกรได้แต่เอ่ยบ่นให้เจ้านายเมื่อรถแล่นออกไปได้ไกลแล้วธีรเมธขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนตามบัตรประจำตัวหอพักนักเรียนของเธอที่ตกอยู่ภายในห้องนอนของเขา ในตอนช่วงเช้าท
ความซวยมาเยือนเขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์ตับ ตับ ตับและเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขาเมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย