ไร่ธีรเมธ(ไร่ชา)🌿
“ไอ้กร!” เสียงเข้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นมา เมื่อเปิดประตูออกมาจากบ้านที่เขาอาศัยอยู่
บ้านสองหลังที่อยู่ในเขตบริเวณไร่นี้ เป็นบ้านทรงสไตล์โมเดิร์นสองชั้น ที่ทันสมัย ตั้งอยู่กลางไร่ชาของเขาเอง มีขนาดใหญ่ปานกลางไม่ใหญ่มากสักเท่าไหร่ ซึ่งสร้างคู่กันมากับหลังที่อยู่หน้าทางเข้าไร่ และหลังนั้นเขาไว้สำหรับรองรับแขก และญาติพี่น้องที่เดินทางมาหา
ส่วนหลังนี้ที่อยู่กลางไร่ จะมีเพียงเจ้าของไร่เท่านั้นที่อาศัยอยู่เพียงลำพังตามสไตล์หนุ่มโสด จะไม่มีบุคคลใดได้ย่างก้าวเข้ามา นอกเสียจากเพื่อนสนิท ที่คบกับมาและทำไร่ด้วยกัน แต่ก็นาน ๆ ที ที่จะมาเยี่ยมเยือนกัน
ถัดออกไป จะเป็นบ้านพักของคนงาน และพนักงานในไร่ มีสำนักที่อยู่ติดกันเยื่องออกไปอีกทางไม่ไกลกันมาก และโรงอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนในไร่อีกด้วย
“ครับคุณธีร์” เสียงทุ้มขานรับขณะกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้านของเจ้านายหนุ่ม
นิกร ชายหนุ่มวัยสามสิบปี ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าของไร่แห่งนี้ รับตำแหน่งเป็นเลขาฯ หัวหน้าคนงาน และสามารถทำงานทุกอย่างแทนเจ้านายได้เป็นอย่างดี
“เมื่อเช้า ใครเป็นคนขับกระบะเข้าเมือง” เจ้าของบ้านถามขึ้นมาทันที เมื่อรถกระบะที่จอดอยู่โรงจอดรถตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
“ไอ้วิทย์ครับ คุณธีร์ถามทำไมหรือครับ หรือว่าต้องการอะไรเพิ่ม” นิกรเอ่ยตอบเพียงสั้น ๆ
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก ไปทำงานของแกเถอะ” เขารีบเดินกลับเข้าไปด้านในทันที เมื่อรู้คำตอบ
ธีรเมธ ภัทราตระกูล หรือ ธีร์ ชายหนุ่มเจ้าของไร่ชา ในวัยเพียง 32 ปี เป็นลูกชายของ ธารา และ รดา มีพี่น้องร่วมกัน 2 คน เขาเป็นพี่ชายคนโต มีน้องสาวคือ ธีรดา ซึ่งอายุห่างตั้งกัน 5 ปี และน้องสาวก็มีครอบครัวไปแล้ว ปัจจุบันครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานครกันทั้งหมด
บิดามารดามีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง มีกิจการห้างสรรพสินค้ามากมายหลากหลายสาขาในเมืองหลวง และต่างจังหวัด และหนึ่งในนั้น ก็มีที่นี่รวมอยู่ด้วย
ชีวิตที่แสนอิสระ เพราะไม่มีใครมาคอยบงการชีวิตของเขา และทำอะไรก็ได้โดยที่ทางครอบครัวไม่รู้ เพราะเขาที่เป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว
“ตัวแสบ! โดนยับขนาดนั้นยังมีแรงลุกหนีไปได้อีก” เสียงทุ้มพ่นออกมาทันที เมื่อเข้ามาในบ้าน
ย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อคืน
ขณะที่เขากลับออกมาจากไร่ของ อคิราห์ ซึ่งเป็นเจ้าของไร่องุ่น เขากับเพื่อนอีกคนตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์และสังสรรค์ค้างแรมกันที่นั่น แต่กลับถูกอคิราห์เซอร์ไพรส์กลับแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ซึ่งอคิราห์คือเพื่อนที่มีครอบครัวเป็นคนแรกในกลุ่ม คงจะคือตัวจริงอย่างแท้แน่นอน ไม่เช่นนั้นคนอย่างอคิราห์ไม่มีทาง พามาอยู่ที่ไร่ด้วยเป็นเด็ดขาด
พวกเขาทั้งสาม จะไม่พาหญิงอื่นใดเข้ามาในเขตพื้นที่ของตนเป็นอันขาด นอกเสียจากคนในครอบครัว และหญิงคนรัก ซึ่งคนรักของพวกเขาก็ยังไม่มี เพราะยังครองโสดกันมาจนอายุปาเข้าไปเลขสามแล้ว
เขาและเพื่อน ซึ่งก็คือ เธียรวัฒน์ เจ้าของไร่ส้มจึงพากันเดินทางกลับออกมาจากไร่ของเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ แต่เขาไม่ได้มุ่งหน้ากลับไร่ของเขาเองเลย เขากำลังคิดที่จะหาสิ่งล่อตาล่อใจ ก็ในเมื่อนาน ๆ ที ที่เขาจะมีเวลาว่างได้ออกมาเพียงลำพัง โดยไม่มีคนสนิทตามมา เขาคงไม่กลับไร่ไปโดยที่ยังไม่ได้หาความสุขแน่
รถยนต์ราคาแพงจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อบนถนนเส้นใหญ่ใจกลางเมือง เขาแวะซื้อของใช้ส่วนตัว เมื่อพบว่าภายในรถไม่มีเหลือเลยแม้สักชิ้น คืนนี้เขาตั้งใจจะไปเที่ยวสถานบันเทิง เผื่อว่าจะมีเหยื่อที่ถูกตาต้องใจสักคน มาให้เขาได้ขย้ำบ้าง เพราะห่างหายจากการมีเซ็กส์มานานแล้ว
“ฮือออ...”
เสียงคร่ำครวญของใครคนหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาท เมื่อเท้ายาวกำลังจะเดินมาขึ้นรถ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ก่อนที่จะเปิดประตูรถออก
“ทำบ้าอะไรของเธอ!” เสียงตวาดออกมาทันที เมื่อเขากำลังจะเข้าไปนั่งในตำแหน่งประจำคนขับ แต่กลับมีหญิงสาวรายหนึ่งปรากฏตัวยืนขวางรถเขาไว้
หญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มวัยประมาณราว ๆ ยี่สิบ จากสายตาที่เขามองสำรวจว่าไม่ผิดแน่ โฉมงามแต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อยืดสีขาวสะอาดตา กับกางเกงยีนส์สีเข้มรัดรูป ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งเติม ดูเป็นธรรมชาติ
“หนูขอติดรถไปด้วยได้ไหมคะ” เสียงเล็กของหญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับยกมือขึ้นเหนืออกไหว้วอนขอเขาอย่างใจจริง
“ฉันมีธุระต้องไปที่อื่นต่อ คงไม่มีเวลาไปส่งเธอหรอก” เสียงเข้มตวาดตอบออกไป เมื่อจ้องหน้ากลับไป
“นะคะ ถ้าคุณไม่ให้หนูไปด้วย ถ้าอย่างนั้น...ฮืออออ...ไอ้ผัวไม่รักดี พี่จะหนีไปหาเมียน้อยอีกใช่ไหม ฮืออออ...” เธอหากได้สนใจคำพูดของเขา กลับทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง เมื่อเธอกำลังตระโกนร้องลั่นออกมา
“หยุด! หยุด! รีบมารถขึ้น!” เสียงเข้มรีบเอ่ยห้าม แล้วบอกเธอมาขึ้นรถทันที เพราะเกรงว่าคนที่เห็นเหตุการณ์จะเข้าใจผิดเอา
หญิงสาวยิ้มแป้นรีบปาดน้ำตาออกแบบลวก ๆ แล้ววิ่งขึ้นมาเปิดประตู ขึ้นไปนั่งบนรถของเขาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ด้วยความดีใจ
“จะให้ไปส่งที่ไหน” เขาถามเธอขึ้นมาทันที ก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไปจากตรงนี้
“XXX Club คะ” เธอเอ่ยตอบเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ
“พอดีเลยฉันก็กำลังไปที่นั่นพอดี” เขาขานรับเธอ และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายทันที เมื่อรู้ว่าจุดหมายปลายทางของเธอคือที่เดียวกัน
“ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบไปที่แบบนี้กันนัก ที่นั่นมันมีอะไรดี” เธอย่นคิ้วบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจ
คิ้วเข้มขมวดคิดวิตก และคอยชำเลืองมองคนที่นั่งมาด้วยเป็นครั้งคราว แต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ เธอน่าจะอายุราว ๆ ยี่สิบ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ไปในสถานที่แบบนั้นหรอก เมื่อภายในรถเกิดความเงียบ ไม่มีการสนทนาใด ๆ จากคนทั้งสอง
“เธอชื่ออะไร”
“คุณชื่ออะไร”
ทั้งสองปริปากขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยไม่ได้นัดหมาย เขาได้แต่ขบคิดอยู่ภายในใจ ที่เธอถามเขา นี่เธอไม่รู้จักเขาจริง ๆ เหรอ เขาแปลกใจที่เธอถามชื่อเขา เพราะคนในพื้นที่นี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่กลับเธอคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย แถมยังกล้าขึ้นรถมากับเขาที่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แบบไม่เกรงกลัวอะไรเอาเสียเลย
“หนูชื่อชะเอมคะ แล้วคุณละคะ” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยบอกเขาก่อน พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มหวานผุดขึ้นมา
ทำเอาหัวใจแกร่งของเขากระตุกวูบขึ้นมา จนแทบจะขับรถต่อไม่ได้ ซึ่งอาการนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่เพื่อนสมัยเรียนหายออกไปจากชีวิตเขา แล้วแบบนี้มันคืออะไร เขาป่วยเหรอ หรือว่าเขาจะตกหลุมรักเธอคนนี้เข้าแล้ว ธีรเมธได้แต่ก้นถามตัวเองอยู่ภายในใจ
"ให้ตายสิ จะมาใจแตกตอนอายุสามสิบกว่าไม่ได้นะไอ้ธีร์"
“นี่เธอไม่รู้จักฉันจริง ๆ หรือ” เขาถามเธอกลับไปด้วยความแปลกใจที่เธอไม่รู้จักเขา เพราะพวกหญิงสาวใหญ่ในเมืองนี้ ต่างเข้าหาเขา และรู้จักทั้งนั้น
“ถ้ารู้ หนูคงไม่ถามหรอกคะ” เธอสวนขึ้นมาทันที เพราะเธอไม่รู้จักเขาจริง ๆ ผิดหรือ
“ธีรเมธ เรียกธีร์เฉย ๆ ก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ พร้อมกับขับรถต่อไปเรื่อย ๆ
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงบอกเธอไปหมดแบบนั้น เพราะปกติ จะไม่มีใครเรียกเขาธีร์ นอกเสียจากครอบครัว และคนสนิท แต่เขากลับลั่นวาจาบอกเธอไปเสียทุกอย่างสะงั้น
พ่อแม่มือใหม่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่มีเอมิกาและลูกชายตัวน้อยมาอยู่ที่ไร่ด้วย ธีรเมธแทบจะไม่เข้าไปในไร่ชาของเขาเลย แถมยังไม่ยอมออกจากบ้านอีก เพราะต้องคอยช่วยเธอดูแลลูกขณะที่เธอยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างถนัด และก็เป็นพ่อและแม่มือใหม่ที่วุ่นวายกันเลยทีเดียวเขาอยากจ้างพี่เลี้ยงมาคอยช่วยเธอ เพราะอยากให้เธอได้มีเวลาพักบ้าง แต่เธอยืนกรานที่จะเลี้ยงเอง แล้วเขาก็ไม่อยากขัด จึงต้องยอมสละงานตัวเองมาช่วยเธอ เพราะสงสารที่เธอต้องดูแลลูกเองคนเดียว เวลาพักผ่อนของเธอก็แทบจะไม่มีเลยเขามองใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอทีไร ก็รู้สึกผิดต่อเธอตลอด หญิงสาวที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นอย่างเต็มตัว มีอนาคตที่ไกลกว่านี้ แต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกอดหลับอดนอน เพราะความมักง่ายของเขาแท้ ๆ โดยไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยให้เขาได้ยินสักคำเลย“เธอนอนพักเถอะชะเอม เดี๋ยวพี่ดูลูกต่อเอง” เขาเอ่ยบอกเธอขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าลูกน้อยได้หลับไปแล้ว หลังจากที่ร้องมานาน กว่าจะหลับลงได้ ก็ทำเอาเขาและเธอเพลียกันเลยทีเดียว“แต่...”เมื่อเธอยังคงปฏิเสธ เขาจึงสาวเท้าเดินไปหาเธอ แล้วช้อนเธอขึ้นมา อุ้มไปวางที่เตียงแล้วคร่อมทาบทับตัวเธอเอาไว้ท
เซอร์ไพรส์จากพ่อและแม่เมื่อลูกน้อยร้อง เขาจึงยอมเป็นฝ่ายลุกขึ้นเอง แล้วเดินไปอุ้มลูกที่นอนอยู่บนเตียงกว้างของเขาที่พรรณวนาอุ้มขึ้นมาส่งตอนที่มาถึง แล้วเขาก็ช้อนลูกชายตัวน้อยขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เดินมาหาเอที่นั่งอยู่ ได้ให้เธอได้เอาเข้าเต้า เพราะน่าจะหิวแล้ว แล้วเขาก็นั่งลงตำแหน่งเดิม ข้าง ๆ เธอ“เอมจะให้นมลูก พี่ธีร์ออกไปก่อนสิ” เธอหันมาบอกเขาที่ยังคงนั่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับเธอไม่ยอมออกห่างจากเธอและลูกเลยอยู่ที่โรงพยาบาลเขาก็นั่งจ้องดูลูกขณะที่เธอกำลังเปิดเสื้อให้นมลูก เธออาย แต่ไม่กล้าเอ่ยบอกเขา เพราะมีพยาบาลอยู่ด้วย แต่ตอนนี้อยู่ที่บ้านเขาก็ยังมานั่งจ้องอีก“ทำไมพี่ต้องออกไปด้วย พี่ก็อยากดูลูกกินนมเหมือนกัน” เขาพูดขึ้นมาแบบไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร แถมยังทำหน้าตาท่าทีกวน ๆ ใส่เธออีก“พี่ธีร์” เธอได้ค้อนใส่เขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่มากนัก เพราะมีลูกน้อยอยู่ในอ้อมแขน เกรงว่าจะตกใจเข้า“อะไรอีก” เขาเลิกคิ้วถามเออย่างท่าทีคงเฉยชา“แต่เอมอาย...” เธอบอกเขาออกไป“จะอายทำไม พี่เห็นของเธอมาหมดทุกส่วนแล้ว ต้องให้บอกไหม ว่าเธอมีไฝตรงจุดไหนบ้างของร่างกาย” นอกจากเขาจะไม่รู้สึกรู้อะไรแล้ว เขายังพูดจากำก
พาลูกเมียเข้าไร่เช้าของวันที่สาม ก่อนที่จะได้กลับบ้าน เขาได้กลายเป็นพ่อแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเชิญเจ้าหน้าที่เขตเข้ามาที่ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลที่เอมิกาพักอยู่ เพื่อดำเนินการเรื่องจดทะเบียนสมรสของเขาและเธอ หลังจากที่เขาได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับบิดาวันก่อน ตั้งแต่ที่ออกจากห้องคลอดส่วนบิดาของเขาตอนแรกก็ตกใจไม่น้อย ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นปู่แบบกระทันหัน เพราะคิดว่าโดนเขาอำเล่น แต่เมื่อได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เขาโทรศัพท์ไปเล่าให้ฟังอย่างละเอียด ท่านจึงได้แนะนำให้เขาจดทะเบียนสมรส แล้วลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปก่อน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้กว่าจะจบด้วยวิธีนี้ ธีรเมธก็โดนบิดาต่อว่าเอาอยู่ไม่น้อย เรื่องทำผู้หญิงท้อง ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรเขามาก แต่เมื่อเขาสารภาพว่าทำหญิงสาวอายุไม่ถึงสิบแปดท้อง ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยินแบบนั้น แทบจะจับเขาเข้าคุกเสียเองที่ทำอะไรยั้งคิดลงไปแบบนั้นส่วนเรื่องชื่อของลูกชาย เขาเป็นคนไปจัดการเรื่องแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาก็เป็นคนตั้งชื่อให้ด้วยตัวเอง พร้อมกับให้ใช้นามสกุลของเขา เขาจัดการเองทุกอย่างเสร็จสับ โดยที่เธอไม่สามารถปฏิเสธหรือห้ามอะไรเขาได้เลย“เด
เป็นพ่อแบบไม่ทันตั้งตัวแปดเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอุ้ยอ้ายเดินมาตามทางเดินของโรงพยาบาล เมื่อเดินออกมาจากแผนกสูติฯ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่มาตรวจครรภ์ตามนัดทุกเดือน“สัปดาห์หน้าเราจะได้เจอกันแล้วนะลูกแม่ ว้ายยย...” เสียงเอ่ยเดินก้มหน้าพูดกับท้องกลม ๆ ของตัวเอง โดยไม่ได้มองทางข้างหน้าเลย จนชนเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าให้ร่างสูงเมื่อเห็นว่าคนที่เขาชนนั้น เป็นหญิงสาวท้องแก่ จึงรีบคว้าเธอเข้ามากอดไว้แนบอก เพราะแกรงว่าจะล้มลง และได้รับอันตรายเข้า“ขอโทษครับ เป็นอะ... ชะเอม!!!” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนในอ้อมแขนไม่ทันจบ ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าคนนั้น ๆ คือใคร ซึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาตามหามาตลอด“พี่ธีร์!” เธออุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขานั้นเอง“ชะเอม เธอท้อง!!!” ตกใจที่ได้เจอเธอ แต่ยิ่งตกใจไปมากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าเธอท้อง กำลังจะเป็นแม่คนแล้วด้วย“...” เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาที่จ้องมองเธอ อย่างต้องการคำอธิบาย“หมายความว่า...” เขากำลังเอ่ยปากถามหาคำตอบ หรือคำยืนยันจากเธอ“ลูกหนูคะ เขาเป็นลูกของหนูคนเดียว” เธอรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน“หึ เธอจะบ้าหรือเปล่า พูดอะไรออกมา เธอจะท้องคนเดียวได้ยังไง...” เขา
หายไป...สองวันต่อมา ที่ไร่ธีรเมธ🌿“วันนี้คุณธีร์มีนัดหรือครับ” นิกรถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่เดินออกมาจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงจอดรถ“มีธุระด่วนนิดหน่อย” เสียงเรียบนิ่งกลับเพียงแค่สั้น ๆ“ธุระอะไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย” นิกรถามขึ้นมาทันที เพราะเขาจะรู้ทุกเรื่องของธีรเมธหากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานในไร่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็มีบ้างที่ไม่อาจรู้นอกเสียจากผู้เป็นเจ้านายจะเล่าบอกเอง“แกจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องของฉันไหมไอ้กร ไปดูแลแม่ฉันที่บ้านด้วย ถ้าท่านถามถึงก็บอกว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก” ธีรเมธตวาดใส่ลูกน้องคนสนิททันทีอย่างเหลืออด และสั่งการให้นิกรไปดูแลมารดาของเขาแทนธีรเมธเดินขึ้นรถไป และขับออกไปทันทีอย่างรีบร้อน ส่วนมารดาของเขานั้นเดินทางมาหาเขาได้สามวันแล้ว แต่การมาครั้งนี้มารดาของเขาเดินทางมาคนเดียว ไม่มีผู้เป็นสามีและลูกสาวสุดที่รักตามมาด้วยเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยมา“กินอะไรมาว่ะ ระเบิดลงแต่เช้าเลย” นิกรได้แต่เอ่ยบ่นให้เจ้านายเมื่อรถแล่นออกไปได้ไกลแล้วธีรเมธขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนตามบัตรประจำตัวหอพักนักเรียนของเธอที่ตกอยู่ภายในห้องนอนของเขา ในตอนช่วงเช้าท
ความซวยมาเยือนเขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์ตับ ตับ ตับและเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขาเมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย