บทที่ 10. เจอกันอีกครั้ง
บทที่ 10. เจอกันอีกครั้ง มิรินกัดปากอย่างใช้ความคิด เมื่อชุดที่เธอสวมใส่อยู่ ไม่ต่างจากแก้ผ้าเดินเลยสักนิด หากพ่อของเธอรู้ คงรู้สึกไม่พอใจแน่ ๆ แต่ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว เธอขอลองดูสักตั้ง มิรินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเดินออกไป ช่างหน้าช่างผม ต่างมองเธอเป็นสายตาเดียวกัน มิรินในตอนนี้ช่างต่างกับตอนเดินเข้ามาครั้งแรกเสียจริง หน้าอกคัพซีที่แทบจะโพล่พ้นเนื้อผ้าบวกกับสะโพกงอนงามเผยความขาวเนียน ทำเอาผู้คนต่างมองเธอตาลุกวาว "รินขอชุดคลุมหน่อยได้ไหมคะ" มิรินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเขินอาย ก่อนที่บรู๊คตี้จะได้สติแล้ววิ่งไปหยิบชุดคลุมให้เธอ มิรินนั่งรอให้แสงพระอาทิตย์ขึ้นก่อนจะถึงเวลาเริ่มถ่าย เนื้อตัวเธอสั่นเทิ้มราวกับลูกนก เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อที่จะทำงานออกมาได้ดี "..." บรื้น...กรี๊ดดด ถึงสักที เสียงรถสปอร์ตคันหรูเปิดประทุนในยามเช้าตรู่ เพื่อรับบรรยากาศยามเช้าของริมทะเล มาร์ตินจอดทันทีก่อนที่เพื่อนจะวิ่งลงทะเลด้วยความดีใจ นานแค่ไหนแล้ว ที่พวกเขานั้น ไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ นานะและไวน์ วิ่งลงทะเลทันที ก่อนจะตามด้วยเจเลอร์และเฌอเบลล์ มาร์ตินยังคงจ้องมองเพื่อน ๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน "เอ้า! เร็ว ๆ แสงพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว" เสียงทีมงานตะโกนดังสนั่นไปทั่วเกาะ ก่อนที่นักท่องเที่ยวที่มาออกกำลังกายริมหาด ต้องหันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน รวมถึงกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งมาใหม่ "ตรงนั้นแม่งทำอะไรกันวะ มีนางแบบมาถ่ายปะ ไปว่ะไอ้ไวน์ ไปดูของดี" "ของดีอะไรของมึงวะ" "ริมทะเลแบบนี้ แม่งก็บิกินีดิวะ" ไวน์และเจเลอร์เอ่ยขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะวิ่งไปตรงนั้นทันที ไม่วายที่จะลากนานะเพื่อนสาวอีกคนไปด้วย "ติน ตรงนั้นเขาทำอะไรกันอะ มีดารามาถ่ายงานปะ เราไปดูกันไหม" เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีออดอ้อน ก่อนจะลากมาร์ตินมาด้วยกัน "นางแบบพร้อมนะครับ" เสียงทีมงานเอ่ยขึ้น ก่อนที่มิรินจะค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมออกและเดินไปที่เฟรม สายตานับร้อยมองมาที่เธอ ร่วมถึงกลุ่มเพื่อนที่เขามาใหม่ เจเลอร์และไวน์รวมถึงนานะ เอ่ยเรียกชื่อนางแบบตรงหน้า เป็นเสียงเดียวกัน "ยัยริน" เสียงของเพื่อนทั้งสาม ทำให้มาร์ตินละสายตาจากโทรศัพท์มือถือ และค่อย ๆ มองไปที่นางแบบ "มิริน" เฌอเบลล์เอ่ยเรียกชื่อหญิงสาว ก่อนจะมองท่าทีคนข้างกายของตัวเอง มาร์ตินจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่ต่างจากเดิม แม้จะดีใจที่ได้เจอเธอ แต่ต้องมาเจอในตอนที่เธออยู่ในสภาพหวาบหวิวแบบนี้ ก็ทำเอาชายหนุ่มขุ่นเคืองอยู่ภายในใจไม่น้อย มิรินยังคงถ่ายแบบตามปกติ โดยไม่รู้ว่า มีสายตาของเพื่อน ๆ จับจ้องมองเป็นสายตาเดียวกันอยู่ เธอโพสต์ท่าทางสุดยั่วยวน ตามคอนเซ็ปต์ที่ได้บรีฟมา ยุวดีมองเธอด้วยความภูมิใจ เรือนร่างขาวใส กระทบแดดยามเช้า ทำให้เธอดูสวยและเซ็กซี่มาก ๆ ขาเรียวสวยที่ขาวเนียน พอ ๆ กับเม็ดทราย ค่อยโพสต์ท่าต่าง ๆ นานา โดยมีนักท่องเที่ยวหลายกลุ่มชมว่าเธอสวย และดูดีมาก รวมถึงเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเธอเว้นซะแต่มาร์ติน ที่ยังคงจับจ้องเธออยู่อย่างนั้น มิรินถ่ายแบบอยู่อย่างนั้น นานหลายชั่วโมง จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงกลางวัน มิรินสวมใส่เสื้อคลุม ก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งรับรอง เธอรู้สึกถึงการถูกจ้องมอง ก่อนจะหันไปพบกับเพื่อน ๆ ทั้งห้าคน มิรินตกใจมาก เมื่ออยู่ ๆ เพื่อน ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ "มิริน เธอหายไปไหนมา พวกเราตามหาเธอทุกที่เลยนะรู้ไหม พวกเรารับรู้ปัญหาของเธอแล้วนะ" นานะเอ่ยถามขึ้น ก่อนจะตามด้วยเสียงของเฌอเบลล์ ที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์ที่เจอเท่าไหร่ "ถ้ามีชีวิตที่ดีแล้วอะ ก็น่าจะติดต่อกลับมาบอกพวกเราบ้าง เธอรู้ไหมว่าเพื่อน ๆ น่ะ ออกตามหาเธอเป็นปีเลยนะ ทำไมเธอถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้" "สบายดีใช่ไหม ริน" "เธอแม่งเอ็กซ์สุด ๆ อะริน" เจเลอร์และไวน์เอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น ก่อนจะยิ้มให้เธอด้วยความดีใจที่ได้เจอเธอที่นี่ มาร์ตินจ้องมองใบหน้าหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่ต่างจากเดิม ทำให้เธอรู้สึกอัดมาก เมื่อต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มิรินพยามยามหาทางที่จะหนี แต่หนีไม่ได้ เธอทำได้เพียงอ้ำอึ้งอยู่ในใจ ก่อนที่ทีมงานจะเข้ามาเรียกเธอไปบรีฟงานต่อ "น้องรินบรีฟคิวต่อไปหน่อยครับ" "ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกัน" มิรินเดินตามทีมงานออกไปทันที เธอยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรกับเพื่อนของเธอตอนนี้ บอกตามตรงว่าเธอยังรู้สึกผิดต่อเฌอเบลล์ ที่เผลอมีใจให้มาร์ติน เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างจ้องมองมิริน ที่ค่อย ๆ เดินออกไป มิรินไม่ใช่มิรินคนเดิมของพวกเขาอีกต่อไปแล้วมิรินเปลี่ยนไปมาก มากจนพวกเขานั้นจำไม่ได้แล้วว่าเธอคือใครและยังเป็นเพื่อนคนเดิมของพวกเขาอยู่หรือเปล่า เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงค่ำของวัน มิรินเดินกลับมาที่ห้องของตัวเองด้วยท่าทีเหนื่อยล้า วันนี้เธอถ่ายแบบท่ามกลางแสงแดดทั้งวัน มิรินนอนแผ่หลาอยู่บนที่นอนของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ยุวดีจะเปิดประตูเข้ามา "อ้าว! รินอาบน้ำแต่งตัวเลยไม่ทันแล้ว" ยุวดีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเร่งรีบ ก่อนจะหยิบชุดเดรสลายดอกสีดำที่ผู้จัดการสาวถือมาให้ เข้าไปในห้องน้ำ และจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย ใช้เวลาเพียงไม่นาน มิรินก็เดินย่างกรายออกมาจากห้องน้ำ "ท่านชื่อท่านธีระนะ เป็นเจ้าของงานนี้ และยังอีกหลาย ๆ โปรเจกต์เลยล่ะ เอาใจท่านนิดหน่อย ท่านจะได้เอ็นดู" ยุวดีเอ่ยขึ้นขณะยืนกำลังเดินไปที่ห้องกินเลี้ยงวีไอพี "เดี๋ยวรินยืนรอเสี่ยตรงนี้นะ ถ้าเสี่ยมาพาเสี่ยขึ้นไปก่อนเลย ไม่ต้องรอพี่ เดี๋ยวพี่ขอคุยโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง" ยุวดีเอ่ยขึ้น ก่อนจะกดรับสายเพื่อนสนิทอย่างมิราทั่งสองคุยเกี่ยวกับเรื่องของมิรินนานนับสิบนาที ก่อนที่ยุวดีจะชี้ไปที่รถลีมูซีนคันหนึ่งที่ขับเคลื่อนเข้ามา มิรินยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความเคารพ ก่อนที่เสี่ยธีระจะกุมมือเธอไว้แทนการรับไหว้ "นี่คงเป็นเด็กใหม่ของยุวดีใช่ไหม" "ใช่ค่ะ" มิรินดึงมือตัวเองกลับทันที ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาที่ถูกจ้องมองด้วยท่าทีหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด "พี่ยุวดีบอกว่า ขอคุยโทรศัพท์สักครู่ค่ะ เดี๋ยวตามขึ้นไปเชิญเสี่ยขึ้นไปทางนี้ก่อนดีกว่าค่ะ"มาร์ตินเดินย่างกรายออกไปจากห้องทันที ก่อนจะเห็นเฌอเบลล์และนานะนั่งรออยู่ก่อนแล้ว นานะรู้สึกไม่สบอารมณ์ทันที ที่ไม่เห็นมิรินเดินออกมาพร้อมกัน แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป"มีอะไร"มาร์ตินเอ่ยถามทั้งสองคนขึ้น เมื่อเห็นว่าพวกเธอมาหาเขาถึงที่นี่ เฌอเบลล์คิดหาข้ออ้างไม่ทัน จึงแกล้งชวนมาร์ตินคุยสัพเพเหระมิรินที่นั่งรอมาร์ตินนานพอสมควรจึงเดินสำรวจภายในห้อง ก่อนจะเหลือบไปเห็นเอกสารสัญญาจ้าง และภาพถ่ายงานของเธอ ต่าง ๆ นานา ที่เธอตั้งใจทำมัน มิรินกำรูปภาพเหล่านั้นด้วยความโกรธเคือง แปลว่าที่ผ่านมา มันไม่เคยมีสินค้าตัวไหนจ้างเธอจริง ๆ แต่มันจากมาร์ตินที่คอยจ้างเธอ ความโกรธเคืองและผิดหวังประเดประดังเข้ามาภายในใจ มิรินโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่ทำได้เพียงให้ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามา เอกสารการจ้างนักสืบพร้อมรูปถ่ายของเธอต่าง ๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะ อย่างเป็นระเบียบเพื่อคำอธิบายจากเขา"ตินเราออกไปกินข้าวกลางวันกันร้านเดิมไหม เบลล์หิวแล้ว"เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีออดอ้อน ก่อนจะเดินเข้าไปกอดแขนชายหนุ่ม แต่กลับได้กลิ่นน้ำหอมของอีกคน ซึ่งเธอจำได้ดีว่ามันเป็นน้ำหอมของมิริน เพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่ม หญิงสาวชะงักไปค
ใช้เวลาเพียงไม่นานเควินมาถึง สิ่งแรกที่เขามองหาก็คือเธอ แต่ก็ต้องแปลกใจที่มิราไม่ได้อยู่รอเขา"คิดว่าเมียจะวิ่งมากอดซะอีก"เควินสบถขึ้นในใจ ก่อนจะเดินไปหาเธอแม่มิรารีบเข้าไปกอดเมลลี่ทันที ก่อนที่ย่าก็ถามด้วยความเป็นห่วง" ปลอดภัยแล้วนะลูก""ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ"ปู่เรียกเควินไปคุยอะไรนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ก่อนจะบอกว่า"พรุ่งนี้ค่อยจัดการพวกมัน"" เควินไปหามิราเถอะ ไม่ต้องห่วงลูก มิราเขาปั๊มนมและฝากลูกกับแม่หนึ่งคืน"" ฝากด้วยนะครับ"เควินรีบขึ้นไปบนห้องด้วยความเร่งรีและตื่นเต้น เป็นในรอบหลายเดือนตั้งแต่เธอท้อง เขาก็ไม่เคยได้สอดแทรกเข้าไปในกายของเธอเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วขอจัดคืนนี้ให้หนำใจเลยแล้วกันเควินค่อย ๆ เปิดเข้ามาก่อนมองหาหญิงสาว แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อมิรานั้น ใส่ชุดนอนคอสเพลย์สุดเซ็กซี่ นั่งรออยู่ มิราจ้องมองเควินด้วยสายตายั่วยวน" มาแล้วเหรอคะ ทำไมถึงปล่อยให้รอนานจัง"มิราเอ่ยขึ้นก่อนจะย่างกรายเข้าไปชายหนุ่มพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อผ้าให้ช้า ๆ เควินที่รู้สึกอยากจะขย้ำเธอจึงลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ ทว่ามิรากลับห้ามเอาไว้"ใจเย็นๆสิคะ เรามีเวลาด้วยกันทั้งคืน ไปอาบน้ำก
วันเวลาผ่านไปไวเกือบสามเดือนแล้วที่มิรานั้นออกมาอยู่บ้านกับปู่และย่าของมาเฟียหนุ่ม เธอโดนบังคับมาโดยให้เหตุผลว่า อยู่ใกล้พวกเขาจะปลอดภัยกว่า มิราไม่มีทางเลือก ถึงยอมมาในขณะที่เธอกำลังให้นมลูกอยู่ในสวน อยู่ ๆ ก็มีย่ากับแม่และเมลลี่ผู้จัดการช่วยเลี้ยงลูกของเธอ ทุกๆ คนเห่อหลานมาก" อะมาร์เวลล์ค่าบ กินนมอยู่เหรอค่าบ"ทุกคนต่างหยอกล้อเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษ ก่อนจะฝังจมูกลงแก้มเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษตอนนี้น้ำนมของเธอเยอะมากๆ ทว่าลูกของเธอก็กินเก่งมากเหมือนกัน น้ำนมเอ่อไหลจนต้องปั๊มนมใส่ตู้เก็บไว้จำนวนมาก อยู่ๆ เธอก็คิดถึงตอนที่น้ำนมยังไม่มา ตอนนั้นเธอรู้สึกเครียดมาก แต่ก็ยังดีที่ได้กินน้ำขิงของนัทเชลล์ ทำให้เธอมีน้ำนมสต๊อกไว้ถึงสามตู้ฟรีชหลังจากที่มิราให้นมลูกของเธอเสร็จ เมลลี่ก็มาอุ้มมาร์เวลล์ออกไปทันที"มิไปพักเถอะ""มิแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย จะต้องพักด้วยเหรอ"มิราเอ่ยขึ้นทว่าเมลลี่ไม่สนใจเธอ เอาแต่หยอกล้อหลาน"วันนี้แด๊ดดี้ไปไหน ทำไมห่างลูกนานจังเลย ปกติมาทุกสิบนาที"ว่าจบเควินก็เดินเข้ามากอดมิราจากทางด้านหลัง ก่อนจะประกบริมฝีปากแนบชิด ทั้งสองสวีทหวานอย่างไม่อายใคร และทุกคนก็เริ่มชินแล้ว
ครอบครัวเควินและมิราย้ายมาอยู่บนเกาะด้วยกันแทบตลอดเวลา เควินเลือกที่จะเอางานมาทำที่เกาะและดูแลเธอแบบใกล้ชิดเพิ่มความปลอดภัยแบบเต็มกำลังเควินแทบไม่ให้หญิงสาวออกห่างจากตัว และยังสั่งให้เธอนอนดูซีรีส์ฟังเพลงอยู่โซฟาในห้องทำงาน แล้วถ้าเบื่อเขาก็พาออกไปเดินเล่น และไปหาแม่ที่อยู่อีกฟากของเกาะแม่เธอกับผู้จัดการก็มาอยู่ด้วยแต่ว่าขอให้สร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งของเกาะ พวกเขาอยากใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จริง ๆ ทั้งสองอยากอยู่ที่ญี่ปุ่นแต่มิราเป็นห่วงจึงขอร้องให้มาด้วยกัน แม่ก็ไม่อยากทำให้ลูกสาวกับเควินต้องเป็นห่วงเลยอยู่ใกล้ ๆ กันจะได้สบายใจ และเชื่อว่าเควินจะดูแลทุกคนได้ปู่และย่าเอ่ยถามถึงข่าวเควินหลานชายจากลูกน้อง เพราะเควินไม่มาหาเขาเลย ด้วยความคิดถึงหลานชายคนเดียวจึงให้คนเป็นย่าแกล้งป่วย"คิดถึงมันมากก็แกล้งป่วยสิ""แกล้งหรือไม่แกล้ง ฉันก็เหมือนคนป่วยอยู่แล้ว"คนแก่ทั้งสองเริ่มปลงและทำใจยอมรับมิราและยิ่งได้รู้ว่านางใจเด็ดและไม่ยอมแพ้ที่จะรักเควินก็ยิ่งรู้สึกชอบ เธอเหมือนย่าของเควินในตอนนั้น ตอนแรกย่าก็อยากได้เมติน่าคู่หมั้นเควินมากเพราะคิดว่าจะทำทุกอย่างได้เพื่อเควิน แต่จริง ๆ แล้วเธอ
. ลูกเควินนั่งดูหมอตรวจหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น มิราเองก็พยายามส่งสายตาให้ชายหนุ่มออกไป ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สนใจเธอเอาแต่จ้องมองบนจอ แต่พอเห็นภาพลูกหน้าจอทั้งสองคนก็เงียบไป เควินเอ่ยถามหมอขึ้นว่าเสียงหัวใจเป็นของใคร คุณหมอก็เอ่ยตอบว่า"เสียงของตัวเล็กครับ"เควินนั่งฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นครั้งแรกที่ดีใจจนแทบเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เควินฟังหมออธิบายวิธีดูแลเมียกับลูกอย่างตั้งใจ สงสัยอะไรก็ถามทำเอาคนเป็นแม่อย่างมิรารู้สึกใจเต้นแรงและไม่คิดว่ามาเฟียอย่างเขาจะสนใจลูกขนาดนี้ และนึกภาพไม่ออกเลยว่าเควินจะโกรธมากแค่ไหนถ้าเธอทำแท้งจริงๆเควินเอ่ยถามเพศลูกขึ้น"เพศอะไรครับ""น้องเป็นผู้ชายครับ"เควินพอรู้ว่าได้ลูกชายก็ดีใจมาก ๆ แต่ก็ยังคงเก็บอาการพออัลตราซาวด์เสร็จหมอก็เอ่ยถามมิราขึ้นทันที"ยังแพ้ท้องอยู่มั้ย""ก็มีบ้างค่ะ""แล้วมีวิธีที่ทำให้หายแพ้ไหม"เสียงมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามขึ้นทันที สร้างความมึนงงให้คนเป็นหมอเป็นอย่างมากมิรามองหน้าชายหนุ่มแบบงง ๆ"นี่โง่หรือแกล้งโง่ กันแน่ใครจะรักษาอาการแพ้ท้องได้"มิราเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีรำคาญ ทว่าหัวใจกลับเต้นแรงอย่างหนักที
36.มิราค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นก่อนจะนั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เธอไม่ได้รู้สึกตกใจกับอาการของตัวเอง เพราะเธอมักจะเป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆมิรารู้สึกเครียดมาก ๆ และไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทำได้เพียงคิดว่าเธอนั้นไปทำชั่วอะไรไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซ้อนขนาดนี้"จะมีผัวทั้งทีก็เป็นผัวคนอื่นซะงั้น"มิราสบถขึ้นแต่พอพูดถึงผัวเธอก็มองหามาเฟียหนุ่ม ทว่ากลับไม่เจอแล้วก็มีเสียงใครบางคนมาเคาะประตูปู่กับย่าของมาเฟียหนุ่มตั้งใจแอบมาคุยกับเธอตอนที่เควินไม่อยู่ พร้อมกับบังคับเธอให้ทำตามข้อตกลง"เควินควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอไม่เหมาะที่จะยืนข้างเควิน เธอมันอ่อนแอเกินไปที่สู้เพื่อเควิน ออกไปจากชีวิตหลานฉันซะ!""ทำไมฉันต้องทำตามที่พวกคุณต้องการนี่มันชีวิตของฉัน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันไปจากเควิน" "ความปลอดภัยของครอบครัวเธอมั้ง ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะคนที่จะเป็นเมียมาเฟียอย่างเควินจะต้องเป็นคนที่คู่ควร ดูแลตัวเองและลูกได้ ไม่เป็นภาระให้เควินเหมือนเธอ" "ยังไงเธอเองก็ไม่ได้รักหลานชายฉันอยู่แล้ว สู้เอาเงินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องมาเสี่ยงอันตราย ฉันจะให้เงิน