ตอนที่ 6 ไร้เดียงสา
เช้าวันรุ่งขึ้น ธานินทร์กลับมาถึงบ้านแต่เช้า เขาเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางปกติ
"อ้าวบอส...กลับมาแล้วเหรอครับ" เสียงยุทธเอ่ยทักทายเจ้านายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอวดฟันขาวแต่เช้า
"อือ...อาบน้ำก่อนเดี๋ยวลงมา ในครัวทำอะไรกินโคตรหิวเลย"
"มีหลายอย่างเลยครับ" ธานินทร์พยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านไป ทำธุระส่วนตัวตามปกติ
ทางด้านน้ำหนึ่ง เธอลงมารับประทานอาหารเช้าตามเวลาปกติ เห็นคุณอาหนุ่มนั่งรออยู่ก่อนแล้วถึงกับงง...กลับมาแล้วเหรอ? เธอคิดในใจ
น้ำหนึ่งมองหน้าคุณอานิ่งๆ ไม่ได้พูดหรือถามอะไร ถึงในใจจะอยากรู้ก็ตาม เธอเลือกที่จะเดินเข้ามาแล้วนั่งลงที่เดิมที่เธอเคยนั่ง ตอนนี้อาหารบนโต๊ะยกมาเสิร์ฟให้ครบแล้วเรียบร้อย ข้าวก็ตักรอไว้แล้ว เหลือแค่ลงมือตักเข้าปาก ทั้งสองเริ่มลงมือรับประทานอาหาร...ยัยหลานสาวก็เอ่ยพูดกับคุณอาขึ้นมาว่า...
"คุณอาขา...หนึ่งมีการบ้านที่ทำไม่ได้อยู่หลายข้อเลยค่ะ" น้ำเสียงของเธอค่อนข้างแผ่วเบา รู้สึกเกรงใจไม่รู้ว่าคุณอาทำงานมาเหนื่อยหรือเปล่า กลัวว่าจะไปรบกวนเขามากเกินไป แต่เธอเลือกที่จะบอกเอาไว้ก่อนไม่ได้รีบยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน
"ช่วงบ่ายได้มั้ย อิ่มแล้วว่าจะขึ้นไปงีบสักหน่อย" น้ำหนึ่งอมยิ้มพยักหน้ารับทราบแล้วถามคุณอาต่อว่า...
"คุณอาไปทำงานมาเหนื่อยมากมั้ยคะ" เสียงเล็กๆเอ่ยถามคนตัวโตตรงหน้า คำว่าทำงานทำให้ธานินทร์หันไปมองคนในบ้านที่อยู่แถวๆนั้นทันที ซึ่งทุกคนก็หลบหน้าหลบตาเดินหนีไปคนละทางสองทาง
"เหนื่อยอยู่ ง่วงด้วย"
"ถ้าคุณอาเหนื่อยการบ้านของหนึ่งเอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ" เด็กหญิงตอบด้วยรอยยิ้มสดใส วันนี้น้ำหนึ่งดูสดใสกว่าวันที่ผ่านๆมามาก แกน่าจะเริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว
"ไม่เป็นไร อาของีบแค่แป๊บเดียว ตื่นแล้วจะมาสอนให้" เสียงทุ้มเอ่ยบอกหลานสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างนึกเอ็นดู
"ค่ะ"
"อาซื้อขนมมาฝากด้วยนะ อยู่ในรถลืมเอาลงมา...ยุทธ ยุทธ ไปหยิบขนมในรถมาให้น้ำหนึ่งหน่อย มีของทุกคนด้วยนะ" ในบ้านมีเด็ก เด็กน่าจะชอบกินขนม เขาเห็นว่ามันน่ากินดีจึงซื้อมาฝาก
"ขนมอะไรเหรอคะ" น้ำหนึ่งได้ยินว่าขนมใบหน้าของแกก็ดูตื่นเต้นทันที
"เค้กที่โรงแรมน่ะ อาเดินผ่านเห็นมันน่ากินดี ก็เลยซื้อมาฝาก"
"คุณอาไปทำงานที่โรงแรมมาเหรอคะ" ทำงานอีกและ!...ธานินทร์คิดในใจ เขาไม่ค่อยชอบพูดโกหก ถ้าไม่อยากพูด ไม่อยากตอบ ส่วนมากก็จะเงียบหรือไม่ก็จะพูดเลี่ยงๆเอา เมื่อคืนเขาแค่ไปผ่อนคลายตามประสาผู้ชายโสดมานิดหน่อย
"ทำไมขี้สงสัยจังเลย อยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้ว เป็นยังไงบ้าง" ธานินทร์เปลี่ยนเรื่องคุย
"ค่ะ ทุกคนในบ้านใจดีกับหนึ่งมากยกเว้นคุณอา"
"ขนมครับ คุณหนู" เป็นจังหวะที่ยุทธเอาจานขนมเค้กมาวางลงให้ที่ด้านหน้าของน้ำหนึ่งพอดี
"ไม่ต้องกิน" คุณอาแกล้งหยิบจานขนมเค้กที่ยุทธเอามาวางให้ยกลอยขึ้นทันที
"เอ๊ะ!"
"พูดใหม่ก่อน..." ใบหน้าของคุณอามีรอยยิ้มบ่งบอกว่าเขาแค่แกล้งน้ำหนึ่งเล่นเท่านั้น
"คุณอาก็ใจดีค่ะ ไปทำงานทั้งคืนขากลับยังมีน้ำใจแวะซื้อขนมมาฝากหนึ่งด้วย" ไปทำงานอีกและ! ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ธานินทร์ก็ยอมวางขนมเค้กจานนั้นลงให้ ส่วนชบากับยุทธแอบหัวเราะกันคิกคักสองคนเบาๆ กับประโยคเมื่อสักครู่นี้ของน้ำหนึ่ง ทำเอาธานินทร์ต้องหันไปมองสองคนด้วยสายตาดุๆ
"โอ้โห...น่ากินจังเลย" น้ำเสียงดีใจของน้ำหนึ่งทำให้ธานินทร์เบนสายตากลับมาสนใจเด็กหญิงตรงหน้าต่อ
"ขนมชิ้นเมื่อคืนอร่อยมั้ยครับบอส" ยุทธยังนึกสนุกอยู่ เอ่ยแซวเจ้านายของเขาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
"ไอ้ยุทธ!" ห้ามพูดต่อหน้าเด็ก! ธานินทร์ส่งสายตาด่ากลับไป แต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก คำถามนี้เขายินดีตอบถ้าตรงนี้ไม่มีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ด้วย ส่วนน้ำหนึ่งตอนนี้แกกำลังเพลิดเพลินอยู่กับเค้กชิ้นตรงหน้า ตักเข้าปากอย่างต่อเนื่องท่าทางเอร็ดอร่อย
"ล้อเล่นครับ...ขอบคุณสำหรับขนมนะครับ ว่าแต่บอสจะเอาสักชิ้นมั้ยครับ"
"ไม่เอาๆ อิ่มข้าวจะไปนอนแล้ว" เขาหยิบแก้วน้ำยกขึ้นดื่ม จากนั้นจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเลย
"เย่!! คุณอาไปแล้ว...หนึ่งคิดถึงข้าวกล้องจะแย่ ตอนนี้ข้าวกล้องอยู่ไหนคะ" น้ำหนึ่งทำท่าดีใจ รีบเอ่ยถามหาข้าวกล้องทันที
"อยู่ในห้องพี่ครับ" เป็นเสียงยุทธช่วยตอบให้ เมื่อคืนชบาเอาข้าวกล้องไปนอนกอดอยู่ในที่นอนด้วย
"นั่งลงทานด้วยกันสิคะ เค้กที่คุณอาซื้อมาอร่อยเนอะ" น้ำหนึ่งตักเค้กเข้าปากไปบ่นไป...บ่นว่าอร่อย
"อร่อยก็ทานเยอะๆนะคะคุณหนู ปกติพี่ไม่เคยเห็นจะได้กินอะไรแบบนี้เลย" ปกติธานินทร์มักจะกลับมาตัวเปล่าแต่วันนี้กลับมีขนมมาฝากน้ำหนึ่งและทุกคนด้วย
"คุณอาขี้เหนียวเหรอคะ" คำถามของน้ำหนึ่ง ทำให้ชบาต้องรีบส่ายหน้าทันที
"คิกคิก...ไม่ใช่ค่ะ พี่หมายถึงว่าปกติพี่ไม่เคยเห็นคุณนินจะซื้อขนมมาฝากแบบนี้ค่ะ ส่วนมากเป็นพวกพี่ที่ออกตลาดจะซื้อมาฝากเขามากกว่าค่ะ" ชบาอธิบาย
"ปกติคุณอาไปทำงานค้างคืนแบบนี้บ่อยมั้ยคะ" ที่ถามไม่ใช่อะไร แค่จะรอกินขนมครั้งหน้าอีกก็เท่านั้น
"ไม่บ่อยค่ะ แต่ไปทุกเดือน เดือนละครั้งสองครั้งแล้วแต่ค่ะ คุณหนูถามทำไมเหรอคะ" พูดไปยิ้มไป ป้าแก้วเริ่มมองหน้าชบา กลัวว่าชบาจะพูดอะไรที่ไม่สมควรออกไป
"ก็ถ้าคุณอาไปทำงานอีก ครั้งหน้าเขาก็จะได้ซื้อขนมอร่อยๆแบบนี้มาฝากพวกเราอีกไงคะ" นี่คือความคิดของเด็ก มันช่างไร้เดียงสาเสียจริง
"อ๋อ..." ชบาลากเสียงยาว ใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
"ชบา..." ป้าแก้วทำเสียงดุๆส่งมา นั่นจึงทำให้ชบาต้องหุบปากลงทันที
"พี่ยุทธคะ" แววตามีคำถามของน้ำหนึ่งมองมาที่พี่ยุทธ
"เอ่อคุณหนู พี่ว่าพี่ไปลดน้ำต้นไม้หน้าบ้านดีกว่า อิ่มพอดีเลย" ว่าแล้วยุทธก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีไป วางจานขนมเค้กทิ้งไว้ให้เมียเก็บให้
"พี่ยุทธเป็นอะไรคะ หนึ่งยังไม่ทันได้ถามอะไรเลย ลุกหนีไปซะแล้ว" ชบาได้แต่อมยิ้มส่งไปให้คุณหนู ไม่ได้พูดอะไรต่อกลัวป้าแก้วจะเอ็ดเอา
หลังจากที่น้ำหนึ่งนั่งรับประทานอาหารและขนมจนอิ่มเธอก็ลุกไปเล่นกับข้าวกล้องท่าทางมีความสุข จนลืมเวลาไปเลย ไม่รู้ว่านั่งเล่นอยู่กับข้าวกล้องนานเท่าไหร่แล้ว รู้ตัวอีกทีเหมือนมีใครบางคนมายืนมองอยู่
"คุณอา..." น้ำหนึ่งหน้าซีดทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่มายืนมองอยู่เป็นคุณอา...เขาจะว่าเรื่องที่เธอเอาลูกแมวมาเลี้ยงมั้ยนะ
"ชอบแมวเหรอ..." คนตัวสูงเอ่ยถามคนตัวเล็ก ที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับลูกแมวท่าทางมีความสุข
"ค่ะ มันน่ารักดี หนึ่งขออนุญาตเลี้ยงมันได้มั้ยคะ" น้ำหนึ่งกลัวคุณอาจะว่าเอา เธอจึงรีบเอ่ยขออนุญาตด้วยสีหน้าเศร้าๆกลัวคุณอาจะให้เธอเอาข้าวกล้องไปปล่อย
"มันเป็นภาระนะ ตัวเองยังเลี้ยงไม่ได้เลย จะเลี้ยงแมวเนี่ยนะ" เขาบ่น...
"หนึ่ง...หนึ่งแค่เหงา อยากเลี้ยงมันไว้คุยเล่นเป็นเพื่อนค่ะ" น้ำเสียงน่าสงสารของน้ำหนึ่งทำให้คุณอาที่ไม่ชอบการเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมากแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ชบา!..." ธานินทร์กวักมือเรียกชบาเสียงดังให้เดินเข้ามาหา
"คุณอาคะ หนึ่งขอร้อง อย่าเอามันไปปล่อยเลยนะคะ รถด้านนอกก็เยอะ มันต้องตายหรือไม่ก็ต้องหิวโซแน่ๆ" น้ำหนึ่งรีบพูดขอร้อง หวังว่าคุณอาจะเมตตา
"แล้วใครบอกว่าอาจะให้ชบาเอาไปปล่อย อาจะให้ชบาเอาตังไปซื้ออาหารสำหรับแมวมาให้มันกิน ให้กินข้าวเหมือนคนขนร่วงอาไม่ชอบ" คำตอบของคุณอาทำให้น้ำหนึ่งคลี่ยิ้มออกมาทันที
"จริงเหรอคะ" น้ำเสียงดีใจเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างน่ารัก
"เอาตังไปซื้อทรายสำหรับให้มันอึให้มันฉี่ด้วย มันจำเป็นต้องใช้อะไรบ้างก็ไปซื้อมาแล้วกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้อะไรบ้างไม่เคยเลี้ยง แล้วอย่าให้มันไปเดินเพ่นพ่านเด็ดขาด" ธานินทร์หยิบเงินในประเป๋าส่งให้ชบาไปซื้อของใช้จำเป็นสำหรับเจ้าแมวตัวเล็กตัวนี้
"ค่ะ" ชบารับเอาเงินที่ธานินทร์ส่งให้มาถือไว้ แล้วแอบอมยิ้มให้คุณหนูหนึ่งด้วย
"คุณอาขา...หนึ่งขอบคุณแทนข้าวกล้องด้วยนะคะ" น้ำหนึ่งยกมือไหว้คุณอาด้วยรอยยิ้ม ดีใจที่คุณอาเมตตาให้เธอเลี้ยงข้าวกล้องต่อได้
"ชื่อข้าวกล้องเหรอ" คนตัวโตเลิกคิ้วสูงถาม
"ค่ะมันชื่อข้าวกล้อง หนึ่งเป็นคนตั้งชื่อให้มันเองค่ะ" ธานินทร์พยักหน้ารับทราบ
"พี่ชบาคะ ขอหนึ่งไปด้วยได้มั้ยคะ"
"ให้ยุทธขับรถพาไป ส่วนหนึ่งไปเอาการบ้านที่ทำไม่ได้มา อาจะช่วยสอนให้"
"ก็ได้ค่ะ" ไม่ได้ไปกับพี่ชบาด้วยก็ไม่เป็นไร แค่นี้น้ำหนึ่งก็ดีใจมากแล้ว...
10 ปีผ่านไป...
ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ/4ช่วงเย็น ธานินทร์และน้ำหนึ่ง กลับจากบริษัทก็มาแวะรับลูกๆกลับจากโรงเรียน และได้พากันไปเดินซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้าก่อนกลับบ้าน...โซนของเล่นเด็ก ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าสองคนไม่พลาดโซนนี้อย่างแน่นอน"หม่ามี๊ครับ เหนืออยากซื้อของเล่นครับ""น้ำขิงก็ด้วยค่ะ" เสียงเล็กๆของลูกสาวและลูกชายฝาแฝด ร้องขอเสียงหวาน"ให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นค่ะ" น้ำหนึ่งอนุญาตให้ซื้อได้คนละหนึ่งชิ้นเท่านั้น เนื่องจากว่าที่บ้านมีเยอะจนไม่มีที่จะเก็บแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ เจ้าแฝดก็มักจะขอซื้ออีกแบบนี้เป็นประจำ"ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ" น้ำเหนือและน้ำขิงรีบวิ่งไปเลือกของเล่นชิ้นที่ตัวเองได้เล็งเอาไว้ด้วยสายตา น้ำเหนือวิ่งไปที่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่ ส่วนน้ำขิงเลือกวิ่งไปที่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มีเสียงเพลง เด็กๆทั้งสองกำลังตั้งหน้าตั้งตาเลือก เนื่องจากว่ามันมีหลายแบบหลายสีมากจนเลือกไม่ถูกสักที เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ลูกๆของเธอก็ยังตัดสินใจไม่ได้"ตัวนี้ก็สวย ตัวนี้ก็ชอบ" เสียงน้ำเหนือบ่นกับตัวเอง ส่วนน้ำหนึ่งเธอเริ่มยืนเท้าเอวมองลูกๆของเธอแล้ว..."ว้าว...สวยๆทั้งนั้นเลย เลือกไม่ถูกทำยังไงดี" น้ำขิงก็ด้วย..."
ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ/3เมื่อเวลาผ่านไป...น้ำหนึ่งครบกำหนดคลอด เธอเลือกวิธีผ่าตัดคลอด เนื่องจากเด็กในท้องมีสองคน คุณหมอจึงแนะนำวิธีนี้เพื่อความปลอดภัยสามวันหลังจากวันคลอด ธานินทร์ก็ได้พาภรรยาและลูกๆของเขากลับบ้าน เจ้าฝาแฝดร้องไห้งอแงน่าจะหิวนม ส่วนน้ำหนึ่งเธอยังคงเจ็บแผลผ่าตัดอยู่ ขยับตัวได้ยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก"ป๊าอุ้มน้ำเหนือมาให้หนึ่งก่อนค่ะ" เจ้าแฝดร้องไห้หิวนมไม่ยอมหยุด คนเป็นพ่อจึงค่อยๆช้อนตัวลูกชายอุ้มขึ้นมาให้ผู้เป็นแม่ให้นมก่อน เพราะว่าร้องเสียงดังกว่าทันใดนั้นเสียงของน้ำเหนือก็เงียบกริบลงทันที แกนอนดูดนมแม่นิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่น้ำขิงยังคงร้องไห้งอแงอยู่อย่างนั้น ธานินทร์จึงเลือกที่จะอุ้มลูกสาวขึ้นมาปลอบโยน ครั้นจะให้ดูดพร้อมกัน น้ำหนึ่งก็ยังคงเจ็บแผลอยู่มาก"อดทนหน่อยนะหนึ่ง" ธานินทร์มองไปที่ภรรยาเด็กของเขาก็นึกสงสาร อายุของเธอนิดเดียวแต่กลับต้องมานั่งเลี้ยงลูกถึงสองคน แถมยังทรมานเจ็บทั้งแผลผ่าคลอด ปวดเต้านมที่กำลังคัดอยู่ตอนนี้ส่วนช่วงกลางคืนเธอได้นอนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเจ้าแฝดสองคนผลัดกันหิวนมไม่ได้หยุด".........." น้ำหนึ่งไม่ได้ตอบหรือพูดอะไรกลั
ตอนที่ 43 ตอนพิเศษ/2@โรงพยาบาลเอกชนธานินทร์พาน้ำหนึ่งมาพบคุณหมอตามนัด วันนี้คุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์ดูเรื่องเพศและการเจริญเติบโตของเจ้าแฝดในท้องตามอายุครรภ์"คุณหมอครับ ลูกผมผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" คุณหมอกำลังอัลตร้าซาวด์อยู่ ธานินทร์ทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหวจึงเอ่ยถามคุณหมอ ทันใดนั้นคุณหมอก็หันมายิ้มให้แล้วพูดว่า..."ยินดีด้วยนะครับ เด็กในท้องเป็นแฝดชายหญิงครับ การเจริญเติบโตเป็นไปตามอายุครรภ์ เด็กๆแข็งแรงดีครับ" คุณหมอเก็บอุปกรณ์ สิ่งที่คุณหมอบอก ทำให้คนเป็นพ่อและแม่หันมาส่งยิ้มให้กัน ทั้งสองดีใจมากที่ได้ลูกฝาแฝดชายหญิง คุณปู่อยากได้หลานชาย ส่วนคุณย่าอยากได้หลานสาว คงสมใจพวกท่านทั้งสองคน"ได้สองเพศเลยเหรอครับคุณหมอ" ธานินทร์ดีใจมาก เขาตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้ใหม่ ไม่รู้จะพูดอะไร จึงถามคุณหมออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ครับ...ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ" ตรวจครรภ์เสร็จรอรับยาบำรุง จากนั้นทั้งสองก็พากันกลับบ้าน...@บ้าน ธานินทร์เดินจูงมือน้ำหนึ่งเข้ามาในบ้านตามปกติ เห็นคุณพ่อกับคุณแม่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อ พวกท่านทั้งสองกำลังรอคำตอบว่าหลานในท้องของพวกท่านเป็นหญิงหรือชาย"ยัยหนูหนึ่ง...หลานแม่
ตอนที่ 42 ตอนพิเศษ/1หลังจากที่น้ำหนึ่งเรียนจบ เธอก็แต่งงานและได้ตั้งท้องฝาแฝด เรื่องงานที่เธอจะต้องทำจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะสามีของเธอยังไม่ยอมให้เธอเข้าบริษัทไปทำงานจนกว่าลูกจะมีอายุหนึ่งขวบเต็มในทุกๆวันคนว่างงานก็เริ่มเบื่อ เธอจึงชอบไปเซอร์ไพรส์คุณอาของเธอที่บริษัทอยู่เป็นประจำ ไปเที่ยวเล่นจนคนในบริษัทจำเธอได้หมดแล้ว"คุณหนูมาได้ยังไงครับ" ยุทธยังคงครองตำแหน่งเลขาเหมือนเดิม เอ่ยถามคุณหนูหนึ่งตามหน้าที่"พี่ยุทธ ถามอะไรคะเนี่ย หนึ่งก็ต้องนั่งรถมาสิ คุณอาล่ะคะ" ใบหน้าสวยยิ้มหวานอย่างเคย เอ่ยถามหาสามีของเธอทันที"ประชุมเพิ่งเสร็จครับ แต่บอสยังไม่ได้เดินออกมา น่าจะยังอยู่ด้านในเข้าไปได้ครับ" ยุทธผายมือไปทางห้องประชุมที่ยุทธเพิ่งเดินออกมา"ขอบคุณค่ะ" น้ำหนึ่งท้องห้าเดือน เธอเดินเร็วๆเข้าไปหาผู้เป็นสามีของเธอ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนอย่างเคย เข้าไปถึงไม่ได้มองซ้ายมองขวาเห็นคุณอานั่งอยู่คนเดียว เธอเดินเข้าไปทางด้านหลังแล้วลักหอมแก้มเขาฟอดใหญ่"ฟอด!""อุ้ย!" ธานินทร์ตกใจรีบหันมามอง เห็นเป็นภรรยาสุดที่รักของเขานั่นเอง รีบส่งยิ้มให้ทันที แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีเขาคนเดียวยังมีคนอื่นอยู
ตอนที่ 41 คืนวิวาห์ ห้องหอในคืนแต่งงานถูกจัดขึ้นที่บ้านเพื่อความสะดวกสบาย หลังจากที่ผู้ใหญ่เข้ามาอวยพรตามประเพณีเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกท่านก็ขอตัวแยกย้ายกันออกไปพักผ่อน เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน เหนื่อยล้ามาหลายวัน ในที่สุดทั้งสองก็ได้มีวันนี้"เหนื่อยมั้ย" ธานินทร์เอ่ยถามภรรยาของเขาด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆอยู่ด้วย"นิดหน่อยค่ะ" น้ำหนึ่งขี้อ้อน เธอขยับตัวเข้าไปเอาหน้าซบอยู่ที่หน้าอกของเขา เธอกอดคุณอาเอาไว้หลวมๆ ธานินทร์นั่งให้เธอกอดอยู่สักครู่ ซึ่งเขาก็กอดตอบเธอเช่นกัน"มีความสุขจังค่ะ" น้ำหนึ่งเป็นผู้หญิงขี้อ้อน ธานินทร์มองว่าเธอน่ารักมาก แต่ในเมื่อเธอตั้งท้องแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องหักห้ามใจไว้บ้าง"คุณอาเป็นของหนึ่งแล้วนะคะ" เธอดูภูมิใจจนเขานึกขำ เขาต่างหากต้องภูมิใจที่ได้เธอเป็นภรรยา ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีความรู้สึกนั้นอยู่แล้ว"ฮึ...อาเป็นของหนึ่งตั้งนานแล้วนะ" เป็นตั้งแต่วันนั้นที่เขากับเธอตกลงปลงใจเป็นของกันและกัน ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่คิดอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านอีกเลย"หนึ่งรักคุณอานะคะ""อาก็รักหนึ่งนะครับ""ขอบคุณนะคะ""ขอบคุณอาเรื่องอะไร
ตอนที่ 40 งานวิวาห์@งานแต่งณ โรงแรมหรูติดชายทะเลบรรยากาศดี ภายในงานช่วงเช้าถูกจัดขึ้นตามแบบประเพณีไทย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีเฉพาะเพื่อนสนิทและผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเท่านั้นบรรยากาศช่วงเช้าถูกจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของทางโรงแรม มีพิธีสงฆ์ พิธีหลั่งน้ำสังข์ ทั้งหมดถูกจัดขึ้นในแบบเรียบง่ายเจ้าสาวแต่งชุดไทยโบราณสีขาวทั้งชุด ใบหน้าและทรงผมถูกตกแต่งโดยช่างเสริมสวยมืออาชีพ ส่วนเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีครีม แต่ก็ยังคงสวมแว่นตาเหมือนเดิม ทรงผมถูกตกแต่งทรงหล่อเนี๊ยบ ทั้งสองนั่งเคียงคู่กันทำพิธีมงคลในช่วงเช้าแต่ก็แอบมีคนพูดลับหลังเรื่องอายุของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนพูดอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีนี่สิคงแปลก แต่ทั้งสองเลือกที่จะไม่ให้ค่าคำพูดของคนพวกนั้นคำนินทาแว่วๆ ได้ยินไม่ค่อยชัดแต่ก็พอได้ยิน โดยคนส่วนมากจะพูดไปในทางเดียวกันคือว่าเจ้าบ่าวอย่างโน้นอย่างนี้ก็ชื่อเสียงของธานินทร์ในด้านไม่ดีโด่งดังมานาน แต่กลับสงสารเจ้าสาวอายุยังน้อย โน่นนี่นั่น...ก็พูดกันไปเรื่อยตามปากของคนชอบพูด"คุณอา..." น้ำหนึ่งสะกิดคุณอาของเธอด้วยน้ำเสียงและสายตา"ว่าไงคะ คนสวยของอา" ไม่ใช่แค่เธอที่ได้ยิน