Share

บทที่ 233

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว ทว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกลับเมินเฉย ขณะที่จดจ่ออยู่กับการเตรียมงานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ นางก็ยังวางแผนที่จะออกจากวังไปพร้อมกันด้วย

หากมีนางเพียงคนเดียว ก็สามารถออกไปได้เลยทันที

ทว่าตอนนี้ยังจะต้องคำนึงถึงตระกูลเฟิ่ง

หากนางจากไป ตระกูลเฟิ่งจะต้องรับผิด

วิธีที่ปลอดภัยที่สุด นั่นคือการแกล้งตายและหลบหนี

หากเป็นเช่นนั้น ทั้งตระกูลเฟิ่งและเซียวอวี้จะไม่ตามหานางอีก

นางจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลด้วย

ทว่า ร่างกายของนางก็ยังดีอยู่ การตายอย่างกะทันหัน จะทำให้คนเกิดความสงสัยอย่างแน่นอน

ดังนั้น โอกาสนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก

นางกำลังรอโอกาสนี้...

“ฝ่าบาทเสด็จ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบเก็บของเข้าที่ พร้อมกับลุกขึ้นต้อนรับ

เซียวอวี้มาถึงตำหนักหย่งเหอ

เมื่อเห็นนางมีรอยคล้ำใต้ดวงตา จึงรู้ว่าหลายวันมานี้นางคงนอนหลับไม่เต็มอิ่มนัก

เพื่องานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ นางคงเหน็ดเหนื่อยจริง ๆ

แต่หารู้ไม่ว่า การที่เหน็ดเหนื่อยไม่พักผ่อนนั้น กลับทำเพื่อจะได้ออกจากวัง

“ฝ่าบาททรงมีสิ่งใดจะรับสั่งหรือเพคะ?” แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งราวกับน้ำไร้ระลอกคลื่น

เซียวอวี้นั่งอยู่ตรงที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ไม่สะทกสะท้านค่ะอีดอก
goodnovel comment avatar
Noo Siri Siri
อย่าปลดบทอัตโนมัติเอง แก้หลายรอบแล้วนะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 234

    ณ เมืองซาง จวนตระกูลเมิ่งโชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแจ้งให้รู้ทันกาล ฮูหยินเมิ่งจึงเตรียมการล่วงหน้า ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เคยรู้ว่าหลานชายของนางตายก่อนวัยอันควรหญิงชรานั่งเอนกายอยู่บนเตียง พร้อมกุมมือลูกสะใภ้“คนแก่ชราอย่างข้า เหตุใดเจ้ายังอุตส่าห์นึกถึง ทั้งเดินทางรอนแรมมาไกล มาอยู่ฉลองวันไหว้พระจันทร์เป็นเพื่อนข้าอีก”ฮูหยินเมิ่งยิ้มน้อย ๆ “ท่านพี่ก็คิดถึงท่าน สามปีนี้ไม่เคยกลับบ้าน หวังว่าท่านจะเข้าใจและให้อภัย”“การภักดีต่อกษัตริย์และการตอบแทนต่อแผ่นดิน ลูกหลานทุกคนในตระกูลเมิ่งของข้าก็เป็นเช่นนี้ นั่นสิ สิงโจวเป็นอย่างไรบ้าง สู้รบกับรัฐเหลียงครั้งนี้ เขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”หญิงชราเป็นห่วงหลานชาย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลใจ กลัวว่าจะได้ยินข่าวร้าย ฮูหยินเมิ่งย่อมแจ้งแต่ข่าวดีไม่แจ้งข่าวร้ายจากนั้น หญิงชราพลันเอ่ยอีกว่า“สิงโจวอายุครบ 20 ปีแล้ว พวกเจ้าในฐานะพ่อแม่ ก็ควรต้องคิดถึงเรื่องการแต่งงานของเขาได้แล้ว”ฮูหยินเมิ่งข่มความโศกเศร้าในใจ ยิ้มพร้อมพยักหน้า“ท่านแม่พูดถูก พอกลับไปข้าจะไปหารือกับท่านพี่ เพียงแต่ หลานชายของท่านตั้งมาตรฐานสูงนัก และช่างเลือกเจ้าค่ะ”ฮูหย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 235

    “สวรรค์! เลือด!” นางสนมจวงผู้ขวัญอ่อนกรีดร้องออกมาก่อนทุกคนต่างหันไปมองจึงเห็นว่า เศษกระเบื้องในมือของนางกำนัลผู้นั้นกรีดโดนมือของฮองเฮา จนมีเลือดไหลออกมา...นางกำนัลยิ่งหวาดกลัว และคุกเข่าลงอีกครั้งเหลียนซวงโมโหจนหายใจหอบ: “เจ้าเจตนา!”เซียวอวี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มังกรมีสีหน้าเย็นชา และมองไปทางนางกำนัลที่ทำผิดผู้นั้น“พวกรนหาที่ตาย ลากตัวออกไป!”นางกำนัลตะโกนขอชีวิต จากนั้นนางกำนัลอีกคนหนึ่งก็ก้าวขึ้นมา เพื่อจัดการบาดแผลให้เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูเรียบเฉย แสร้งทำเป็นไม่เห็นการกระทำของนางกำนัลผู้นั้นบิดามารดาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางนั้นด้วยความเป็นห่วงไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น สาวใช้ที่อยู่ข้างบิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนถือเข็มเงินเล่มหนึ่งอยู่ในมือ นางอาศัยจังหวะกำลังเทสุรา เล็งไปที่มือของบิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนซึ่งวางอยู่บนโต๊ะอาหาร...มือของนางรวดเร็วฉับไว จนยากจะหลบหลีกได้บิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันรู้สึกเจ็บขึ้นมา และยกมือขึ้นตามสัญชาตญาณทว่ามองเห็นแมลงเปลือกแข็งตัวหนึ่งอยู่บนพื้น เขากลับคิดว่าอาจจะถูกมันกัด จึงไม่ได้สนใจเซียวอวี้พูดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนว่า“ฮองเฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 236

    เมื่อเห็นถุงหอมและผ้าเช็ดหน้า สีหน้าของเซียวจั๋วพลันเปลี่ยนไป เขารู้ทันทีว่า ตนเองกับฮองเฮาถูกกลั่นแกล้งแล้วบิดามารดาเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ต่างมองหน้ากัน สีหน้าดูหวาดหวั่นและสงสัยข้าหลวงที่ทำของขวัญพลิกคว่ำผู้นั้นรู้ตัวว่าทำผิด จึงรีบเก็บของขึ้นมาด้วยท่าทางลนลานองค์ชายน้อยจากเหล่าราชนิกุลที่อยู่ด้านข้างซุกซนอยู่ไม่นิ่ง เขาวิ่งมาด้านหน้า และหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นขึ้นมา เขาคิดว่าตนรู้จักตัวอักษรบนนั้น จึงอ่านออกมาด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา“‘ขุนเขาสองฝั่งรอรับส่ง ผู้ใดรู้ซึ้งถึงการจากลา น้ำตาพี่เอ่อล้น น้ำตาน้องเอ่อคลอ สองใจผูกพันมิทันหมั้นหมาย กระแสน้ำใยจึงพัดพาไป’”“ท่านพ่อ บทกลอนนี้เศร้านัก! ไม่เหมือนได้อยู่พร้อมหน้าในวันไหว้พระจันทร์!”เหล่าพระสนมตกใจมากถึงกับอ้าปากค้าง และพากันมองหน้ากันบทกลอนรักนี้ บ่งบอกถึงความโศกเศร้าของคนที่มีใจรักมั่นต่อกันแต่ไม่อาจครองคู่กันของขวัญนี้ฮองเฮาเป็นคนจัดเตรียม และมอบให้กับอดีตรัชทายาทนั่นหมายความว่า...ฮองเฮายังคิดถึงอดีตรัชทายาทไม่เสื่อมคลาย!เซียวอวี้มองเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเย็นชานางจะมีความรู้สึกต่ออดีตรัชทายาทได้อย่างไร?!เฟิ่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 237

    ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ทุกคนจึงต้องเปิดของขวัญทว่าการเปิดแต่ละคนมีก่อนหลัง ไม่นานนักก็มีคนพบ “ยาทาผิวแตก! ของหม่อมฉันมียาทาผิวแตกเพิ่มมาหนึ่งตลับ!” เมื่อมู่หรงฉานได้ยินดังนั้น แววตาดูเปลี่ยนไปโชคดีที่ในเวลานี้ หนิงเฟยที่อยู่ฝ่ายเดียวกับนางเอ่ยขึ้นว่า“ฝ่าบาท ต่อให้พบบางอย่างจริง ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าฮองเฮา...”“หนิงเฟย ของเจ้าเป็นอะไร!”นางสนมเจียที่อยู่ด้านข้างมือไม้ว่องไว นางฉวยจังหวะขณะที่หนิงเฟยกำลังพูด เปิดของขวัญของนาง และพบเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ“เอ๊ะ! เหตุใดจึงมีหนูตาย !”ใบหน้าหนิงเฟยซีดลงทันทีจากนั้น พระสนมคนอื่น ๆ พากันส่งเสียงกรีดร้อง “เหตุใดขนมไหว้พระจันทร์ชิ้นนี้จึงเคยถูกกัด! น่าสะอิดสะเอียน!”“นี่มันสิ่งใดกันอีก?”กระทั่งในของขวัญของไทเฮา ก็ยังมีสายรัดเอวขององครักษ์อยู่หนึ่งเส้นไทเฮาทรงสบตากับไทฮองไทเฮาผู้เป็นแม่สามี จากนั้นเอ่ยต่อฮ่องเต้ในทันทีว่า“ข้าอายุมากถึงเพียงนี้แล้ว ไม่มีทางทำเรื่องสกปรกในวังหลังเด็ดขาด! ฝ่าบาท ท่านต้องสืบสวนให้กระจ่าง!”วุ่นวาย!วุ่นวายไปหมดแล้ว!มู่หรงฉานเห็นปฏิกิริยาของทุกคน ในมือแอบกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่นนางรีบหันไปมองเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 238

    บนบัลลังก์มังกร เซียวอวี้ดูหนังสือร้องเรียนนั้นอย่างละเอียด ไม่พลาดแม้แต่ตัวอักษรเดียวผ่านไปไม่นาน เขาเงยหน้าขึ้น คนแรกที่หันไปมอง ก็คือฮองเฮาเฟิ่งจิ่วเหยียนหลุบสายตาลง ท่าทางดูนอบน้อม“หม่อมฉันก็ไม่ทราบว่า หนังสือร้องเรียนนี้ผู้ใดนำเข้ามาในวัง อีกทั้งเหตุใดจึงใส่เข้าไปในของขวัญของจิ้งกุ้ยเหริน”หนิงเฟยมองฮองเฮาด้วยความประหลาดใจนางบอกกับฮองเฮาว่า มู่หรงฉานคิดจะสับเปลี่ยนของขวัญของอดีตรัชทายาทดังนั้นฮองเฮาจึงสับเปลี่ยนของขวัญของคนอื่นด้วย เพื่อสร้างความวุ่นวาย และล้างมลทินให้กับตนเอง นางไม่แปลกใจเลยว่าฮองเฮาลงมือทำแบบนี้ และยังคิดด้วยว่าเรื่องจะจบลงเพียงเท่านี้ทว่าหนังสือร้องเรียนนี้ เกินความคาดหมายของนางอย่างมากการใส่หนังสือร้องเรียนไว้ในของขวัญของมู่หรงฉาน...เป็นแผนซ้อนแผนอันร้ายกาจของฮองเฮาจริง ๆ ! ในตอนนี้ นางรู้สึกโชคดีที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับฮองเฮา...แม้หนิงเฟยจะสำนึกได้ในภายหลัง นางก็ยังแอบร่วมมือกับเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างลับ ๆ“ฝ่าบาท หากท่านไม่ขอให้พวกเราเปิดของขวัญ หนังสือร้องเรียนนี้คงถูกจิ้งกุ้ยเหรินนำกลับไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่านางจะจัดการกับสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 239

    “คุ้มกันฮ่องเต้!” เฉินจี๋อารักขาอยู่ด้านหน้าจักรพรรดิเซียวอวี้ลุกขึ้นยืน เขามองลงมาจากด้านบนไม่มีร่องรอยของความตื่นตระหนกแม้แต่น้อยแต่คนอื่น ๆ ในท้องพระโรงไม่ได้สงบนิ่งเช่นนั้น พวกเขาตื่นตระหนก และมองหาที่ซ่อนเซียวอวี้สั่งว่า: “คุ้มกันไทฮองไทเฮากลับตำหนักก่อน!”ไทเฮาได้ยินคำพูดนี้รู้สึกขมขื่นฮูหยินเฟิ่งนั้น สิ่งแรกที่นึกถึงคือบุตรสาวของตน ทว่ากลับถูกบิดาเฟิ่งจิ่วเหยียนดึงตัวออกไป พร้อมทั้งตะคอกใส่ว่า“มีองครักษ์อยู่ตั้งมากมาย!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับนักฆ่าอยู่บ่อยครั้ง นางสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์รอบด้านได้ จึงมีลางสังหรณ์ว่า หากเป็นการลอบสังหารที่วางแผนรอบคอบ การยิงลูกธนูสะเปะสะปะจะต้องเป็นการพรางตา และเบี่ยงเบนความสนใจแผนการสังหารที่แท้จริง จะซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่นึกไม่ถึงทันใดนั้นเอง นางก็มองเห็นแล้ว!ชายผู้หนึ่งดูลักษณะเหมือนขันที เขากำลังอาศัยความโกลาหลซ่อนตัวอยู่หลังเสา พร้อมกับเล็งเกาทัณฑ์แขนเสื้อ[1]ไปยังฮ่องเต้ที่อยู่ในตำแหน่งสูง ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่สงบนิ่งไร้ระลอกคลื่นอีกต่อไปในสมองของนางปรากฎอยู่สี่คำ--- คุ้มกัน! โอกาส!จากนั้นนางรีบวิ่งไปโดย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 240

    แม้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะสั่งให้ดึงลูกธนู แม้ว่าบาดแผลจะอยู่บนตัวนาง หมอหลวงกลับรอฟังคำสั่งของฮ่องเต้สีหน้าของเซียวอวี้เยือกเย็นจนขีดสุด เขาพยักหน้าในทันที“ดึงออก”เมื่อมีคำอนุญาตจากเขา หมอหลวงจึงอาศัยมุมและกำลังที่แม่นยำ ดึงลูกธนูดอกนั้นออกมาเฟิ่งจิ่วเหยียนกำผ้าห่มใต้ร่างไว้แน่น ได้ยินแค่เสียงร้องอู้อี้เท่านั้น กลับไม่มีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใด ๆเม็ดเหงื่อราวกับเมล็ดถั่วนั้น ทำให้เส้นผมตรงขมับของนางเปียกชุ่มต่อมาหมอหลวงเริ่มตรวจดูที่ลูกธนูหัวโลหะดอกนั้น หลังจากนั้นมือไม้ของเขาเริ่มสั่น และเอ่ยกับเซียวอวี้ว่า“ฝ่าบาท ตรงตามที่กระหม่อมคาดการณ์ไว้จริง ๆ ด้านบนนี้มีพิษ!”“เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่” เซียวอวี้ถามในขณะที่ยืนอยู่หมอหลวงตอบว่า: “โชคดีที่ดึงมันออกมาได้เร็ว ฮองเฮาทรงยังไม่เป็นอะไรร้ายแรง”หลังจากพูดจบ หมอหลวงรีบทำการรักษาบาดแผลทันทีเซียวอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา เฝ้ามองด้วยสายตาหม่นหมองหมอหลวงตัดอาภรณ์ด้านหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ขาด เขาจะต้องใช้ยาน้ำพิเศษเฉาะล้างหลาย ๆ รอบ เพื่อขับพิษที่ซึมอยู่ในบาดแผล จากนั้นค่อยโรยผงยาลงไป พร้อมทั้งพันผ้าปิดบาดแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 241

    หนิงเฟยรีบคุกเข่าลงบนพื้นในทันที ใบหน้ายังคงแสดงสีหน้าตื่นตระหนกตกใจออกมาไทเฮาหาได้มีท่าทีใจดีเหมือนเดิมไม่ พระนางเพียงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่แสดงท่าทีเคร่งขรึมลง“เจ้าอธิบายออกมาเสีย เรื่องราวในคืนนี้ เจ้ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด!”หนิงเฟยที่คิดอยากปฏิเสธออกมานั้น“ท่านป้า ข้ามิได้...”ไทเฮาพลันเอ่ยตัดบทนาง“เมื่อมีข่าวลือขึ้นมาเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกว่าผิดปกติยิ่งนัก“ต่างพากันกล่าวว่าฮองเฮาและอดีตองค์รัชทายาทไร้ความสามารถผู้นั้น พบหน้ากันที่ตำหนักฉือหนิงทั้งยังรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ ขึ้นมาอีก วันนั้นยามที่อดีตองค์รัชทายาทขอเข้าเฝ้าข้า ข้าได้สั่งไว้มิให้เขาเข้าพบ ทั้งยังสั่งให้คนไล่เขากลับไป ทว่า ไยเขาเอาแต่รั้งรออยู่ด้านนอกอยู่ตลอดเวลา! หากเขารีบกลับไปละก็ เขาจักได้พบกับฮองเฮาหรือไม่เล่า?”“หลังจากที่ข้าคบคิดเรื่องนี้อยู่นาน ผู้ที่สามารถยื่นมือเข้าไปสอดเรื่องราวในตำหนักฉือหนิงได้นั้น มีเพียงเจ้าเท่านั้น! เป็นเจ้าที่ปลอมแปลงคำสั่งของข้าออกไป”หนิงเฟยพลันรีบร้อนแก้ตัวพลันวัน “ท่านป้า ข้า ...”“อย่าริสอดปากพูดขึ้นมา! ข้ายังพูดไม่จบ!”“เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าคงไม่พอใจฮ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1218

    องค์ชายเจ็ดทรงนำทัพออกศึกแล้ว ยามดึกเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปค้นหาที่จวนขององค์ชาย ก็ไม่มีองครักษ์เฝ้าอยู่มากนักค้นหาติดต่อกันสามคืนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสใดเลยพวกอู๋ไป๋ก็ไปค้นหาที่จวนขององค์ชายองค์อื่น ๆ ทว่าก็ไม่มีข่าวดีเช่นเดียวกันทางด้านวังหลวงจนถึงตอนนี้ก็ยังสืบหาไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมกับการคุมขังคนหยิ่นลิ่วไปสืบหาในจวนองค์ชายสี่ ก็แอบได้ยินองค์ชายสี่ทรงเอ่ยตัดพ้อกับที่ปรึกษา“เสด็จพ่อทรงโปรดปรานน้องเจ็ด ข้าจะแย่งชิงได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ยังมีฮ่องเต้ฉีคอยแนะนำข้า ตอนนี้แม้แต่จะพบฮ่องเต้ฉีก็ยังไม่อาจทำได้เลย!”หยิ่นลิ่วจับจุดสำคัญนี้ได้ จึงรีบกลับไปที่โรงพักแรมเพื่อทูลรายงาน“ฮองเฮา มิต้องสงสัยเลยว่า องค์ชายสี่ผู้นี้จะต้องทราบว่าฝ่าบาททรงถูกขังอยู่ที่ใด!”เมื่อเทียบกับหยิ่นลิ่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นยิ่งกว่านางต้องการยืนยันอีกครั้ง “องค์ชายสี่ทรงเอ่ยคำพูดเช่นนี้จริงหรือ”หยิ่นลิ่วมั่นใจอย่างยิ่งอู๋ไป๋เริ่มรู้สึกร้อนใจ“นายท่าน ข้าน้อยจะไปจับตัวองค์ชายสี่ และสอบสวนอย่างลับ ๆ !”ด้วยการทรมานอย่างหนัก องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนไม่มีทางที่จะไม่บอกความจริงเฟิ่งจิ่วเหยียนยกม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1217

    ช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ กองทัพเยี่ยนเคลื่อนเข้ามาใกล้ชายแดน เหล่าทหารมีจิตใจที่ฮึกเหิม ใช้การยึดคืนเมืองที่เสียไปเป็นเป้าหมาย และแย่งกรูกันเข้าไปทางเมืองชายแดนของหนานฉีองค์ชายเจ็ดของเป่ยเยี่ยนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ ควบคุมทั้งสามกองทัพในการรบครั้งนี้ ฮ่องเต้เยี่ยนทรงคาดหวังต่อเขาอย่างมาก ก่อนออกรบทรงตักเตือนและกำชับไว้มากมาย“เจ้าเจ็ด หากชนะสงครามครั้งนี้ ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิ ก็ต้องเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว! เหล่าพี่น้องของเจ้าก็จะยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งเช่นกัน!”องค์ชายเจ็ดพยักหน้าอย่างนอบน้อม“กระหม่อมจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง”ฮ่องเต้เยี่ยนมองบุตรชายด้วยความพึงพอใจ ในบรรดาเหล่าองค์ชายที่เหลืออยู่ มีเพียงองค์ชายเจ็ดที่มีลักษณะของความเป็นจักรพรรดิมากที่สุดองค์ชายสี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองดูฉากเหตุการณ์นั้นด้วยสายตาอันคมกริบฮ่องเต้ฉีเอ่ยไว้ถูกต้องจริง ๆ เสด็จพ่อดีต่อน้องเจ็ดเหลือเกิน!ขอเพียงทหารสามารถรบชนะ ไม่ว่าใครจะเป็นแม่ทัพใหญ่ ก็จะได้รับความดีความชอบไปด้วยชัดเจนว่าเสด็จพ่อทรงให้โอกาสกับน้องเจ็ดแล้วเขาเล่า? เขาเป็นองค์ชายสี่นะ?เหตุใดเสด็จพ่อทรงมองไม่เห็นเข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1216

    อาจือถูกส่งเข้าวังมาตั้งแต่เล็ก และคอยรับใช้ข้างกายองค์หญิงเซี่ยนอี๋ที่จริงนางถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะและชื่อเสียง ทว่าคนในตระกูลทำผิด จึงกลายมาอยู่ในสถานะต่ำต้อยอาจือคอยติดตามรับใช้องค์หญิง ทว่ากลับมองตนเองว่าพิเศษกว่าคนทั่วไปอาจารย์สอนศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับองค์หญิง ไม่ว่าทำอย่างไรองค์หญิงก็ทรงร่ำเรียนไม่สำเร็จ ส่วนนางเรียนรู้ไม่นานก็ทำได้หมัวมัวในวังก็มักจะมองนางด้วยความเสียดาย---อาจือ หากเจ้าไม่อยู่ในสถานะต่ำต้อย ก็คงมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์กว่าองค์หญิงเป็นแน่ทว่า คนที่อยู่ในสถานการณ์มักจะมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจนอาจือฉลาดก็จริง ทว่าไม่ถือว่าฉลาดถึงขั้นสุดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอย่างเซียวอวี้ จึงกลายเป็นคนฉลาดเพียงเล็กน้อยคนที่มีทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลับมั่นใจเกินไป เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็นกลับจมน้ำอาจือก็มีจุดอ่อนที่อันตรายถึงแก่ชีวิตเช่นกันนางเข้าใจว่าตนเองพูดไม่กี่คำ ก็สามารถได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ฉีแล้ว กลับไม่รู้ว่า อีกฝ่ายวางแผนลวงไว้ตั้งแต่แรกแล้วเมื่อมองจักรพรรดิรูปงามที่อยู่เบื้องหน้า ในใจอาจือเริ่มว้าวุ่นเมื่อใจเริ่มว้าวุ่น แม้จะมีความฉลาดอยู่เล็กน้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1215

    ณ เป่ยเยี่ยนจวนขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับพระราชทานแล้ว นางไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปจึงย้ายเข้าไปในเรือนหลังใหม่มิใช่ว่าองค์หญิงทุกพระองค์จะสามารถเปิดจวนได้ นี่เป็นความโปรดปรานที่เสด็จพ่อมีต่อนางเป็นพิเศษและสิ่งที่นางยินดีเป็นอย่างยิ่งคือ ฮ่องเต้ฉีก็ถูกส่งมาที่จวนของนางด้วยเช่นกันถึงแม้เสด็จพ่อจะส่งคนมาคุ้มกัน ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกห้องลับที่คุมขังฮ่องเต้ฉีตามอำเภอใจ ทว่า นี่คือจวนของนาง นางย่อมต้องหาโอกาสได้จากคุกลับมาที่จวนองค์หญิง เซียวอวี้ถูกคนคลุมศีรษะมาตลอดทางบวกกับเป็นเวลาค่ำคืน ก็ยิ่งไม่มีผู้ใดรู้องค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง โดยยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องลับ ราวกับเชื้อเชิญให้เข้ามาติดกับ และยิ่งเหมือนนายพรานที่สร้างกรงขัง กำลังมองดูเหยื่อเดินเข้ามาในกรงด้วยความพอใจขณะที่เซียวอวี้เดินผ่านตัวนาง นางก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดี“ฮ่องเต้ฉี พวกเรายังมีอนาคตร่วมกันอีกยาวไกล”เซียวอวี้มีท่าทีเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าเป็นมิตรแม้แต่น้อยทว่านางก็ชอบท่าทางดื้อรั้นเช่นนี้ของเขาและว่ากันตามตรง ห้องลับก็ดูสะอาดกว่าคุกลับองค์หญิงเซี่ยนอี๋ทรงเกเรเอาแต่ใจ ทว่าก็มีความจริงใจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status