"ฝีมือใช้ได้นี่...เธอก็ทำมาใหม่แล้วไม่ใช่เหรอก็กินจานนั้นเลยสิ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก โดยไม่ได้สนใจใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าขวัญข้าวจะพยายามแย้งขึ้น เรื่องที่เขานั้นใช้ช้อนส้อมของเธอ แต่ชายหนุ่มกลับยกมือขึ้นห้ามให้เธอหยุดพูด ขวัญข้าวจึงปล่อยเลยตามเลยและนั่งลงกินข้าวต่อจานใหม่ ที่เธอตั้งใจทำมาให้กับเขา
นับจากนี้ไปคนทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต แต่ที่แน่ๆ ในเวลานี้มีใครบางคนแอบดีใจไม่น้อย ที่มารดาได้ส่งหญิงสาวให้มาฝึกงานกับเขา แม้ว่าชายหนุ่มจะประกาศให้ใครต่อใครทราบว่าขวัญข้าวเป็นน้องสาว แต่ความจริงย่อมเป็นสิ่งไม่ตาย เมื่อเธอกับเขานั้นต่างสายเลือด ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง
เช้าของวันใหม่ซึ่งวันนี้เป็นวันอาทิตย์และมันก็เป็นวันหยุดของอัครเดชด้วย เขาจึงสามารถตื่นสายได้เป็นพิเศษ ชายหนุ่มจึงเลือกตัดสินใจที่จะจัดงานปาร์ตี้ขึ้นในคืนวันเสาร์ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา ขวัญข้าวตื่นแต่เช้ามาเก็บกวาดบริเวณสระน้ำจนเรียบร้อย ปกติแล้วบ้านหลังนี้ไม่มีแม่บ้าน พวกเสื้อผ้าของเขาชายหนุ่มจะเรียกใช้ร้านซักรีด ที่จะคอยบริการรับส่งผ้าให้กับเขาอาทิตย์ละครั้ง ส่วนคนทำความสะอาดนั้นเขาก็จ้างพิเศษแม่บ้านที่ออฟฟิศมาทำให้
ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาบิดขี้เกียจ ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดผ้าม่านแล้วมองลงไปที่ด้านล่าง ภาพที่เห็นนั้นทำให้อัครเดชถึงกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อหญิงสาวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ตัวเล็กๆ ผิวขาวปากนิดจมูกหน่อยกำลังเก็บกวาด ในสิ่งที่เขากับเพื่อนๆ ทำสกปรกเอาไว้ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยที่เขานั้นไม่ได้ปริปากขอให้เธอช่วยเลยสักคำ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะทำให้ด้วยความเต็มใจ และเธอก็ทำได้อย่างเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน จนเขานั้นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก เพื่อบอกแม่บ้านว่าไม่ต้องมาทำความสะอาดที่บ้านแล้ว
จากนั้นอัครเดชจึงหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำทำธุระส่วนตัว สักพักใหญ่ๆ ชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับใส่ชุดลำลอง เมื่ออยู่บ้านเสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดา แต่เมื่ออยู่บนตัวอัครเดชแล้วมันดูดีและมีเสน่ห์เอามากๆ
พอเดินลงมาด้านล่าง กลิ่นอาหารที่โชยมากำลังทำให้บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาค่อยๆ ก้าวเข้าไปในครัว ขณะที่ขวัญข้าวกำลังขะมักเขม้น ในการปรุงรสอาหารเลยไม่ได้สังเกตว่ามีชายร่างสูงใหญ่ ยืนอยู่ด้านหลังบังตัวของเธอจนมิด
"ทำอะไรทานหอมจัง" เสียงทุ้มของชายหนุ่มทำให้ขวัญข้าวถึงกับสะดุ้ง
"ว้าย!" ขวัญข้าวร้องอุทานออกมาเสียงหลงด้วยความตกใจ ขณะที่แผ่นหลังของเธอนั้นกระแทกเข้ากับอกแกร่งของชายหนุ่มเต็มเปา จนสัมผัสได้ถึงมวลกล้ามของพี่ชาย และมันก็กำลังทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ซึ่งชายหนุ่มเองก็ได้รวบเธอมาไว้ในอ้อมกอดของเขาอย่างอัตโนมัติ เพราะกลัวว่าขวัญข้าวจะล้มลงไป
"มีอะไรกินบ้างทำไมหอมจัง หอมไปถึงหน้าบ้านเลยท่าทางจะอร่อย" เสียงของชาร์ลดังขึ้น เมื่อเขาเดินเคียงคู่มากับเควิน ชายหนุ่มทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านอัครเดชพร้อมกัน ราวกับว่าได้นัดหมายกันเอาไว้ ทั้งที่ปกติคนทั้งคู่จะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เพราะมันคือวันหยุด ซึ่งเสียงของชาร์ลทำให้อัครเดชรีบผละอ้อมกอดออกจากขวัญข้าว ด้วยความรู้สึกเสียดาย แม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้ตั้งใจให้เขากอดก็ตามทu
"ไอ้พวกเพื่อนเวรมากันทำไมแต่เช้าวะ!" ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ขณะที่ขวัญข้าวรู้สึกอาย ที่เผลอไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาเมื่อสักครู่ แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มนั้นจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วรีบเดินออกไปจากห้องครัวตรงไปหาเพื่อนทั้งสองของเขาในทันที
"พวกมึงสองคนมาหากูทำไมแต่เช้า วันนี้วันหยุดไม่พักผ่อนหรือไง" อัครเดชถามเพื่อนออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่ต้อนรับแขกเลยสักนิด ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟากลางห้องโถงของบ้านข้างๆ กับชาร์ล ซึ่งชายหนุ่มจัดมุมตรงนี้เอาไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ เพราะมันโล่งแล้วทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย หลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งวัน
"พวกกูสองคนไม่ได้มาหามึง แต่มาหาน้องสาวมึงต่างหาก ขวัญข้าวอยู่ในครัวใช่ไหม" เควินพูดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน เพื่อเตรียมตัวเดินเข้าไปในครัว
"หยุดเลยไอ้เควินเดี๋ยวกูไปช่วยน้องขวัญข้าวเอง มึงไม่ถนัดเรื่องทำอาหารไม่ใช่เหรอ" ชาร์ลพูดพร้อมกับรีบลุกขึ้นเดินไปฉุดแขนเควินเอาไว้
"บ้านกูก็เปิดร้านอาหาร ทำไมกูจะทำกับข้าวไม่เป็น เนี่ยเชฟเควินมึงรู้จักหรือเปล่า...เฮ้ยไอ้ชาร์ล!" ในเวลานี้สองหนุ่มกำลังพยายาม แย่งกันเข้าไปในครัว อีกคนก็พยายามผลักส่วนอีกคนก็พยายามดึง จนอัครเดชนั้นรู้สึกหมั่นไส้ขวัญข้าวขึ้นมา ทั้งที่เธอนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
"พวกมึงสองคนหยุด! แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารไม่อย่างนั้น จะได้แดกตีนกู! แทนข้าวเลือกเอา" ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยแต่น้ำเสียงของเขานั้น กลับกระแทกกระทั้น เสียจนเพื่อนทั้งสองมองมาที่เขาพร้อมทั้งแสดงสีหน้าอารมณ์เสียออกมาอย่างจำใจ ที่จะต้องไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารด้วยกันทั้งคู่
"เสร็จหรือยัง มัวแต่ใส่เสน่ห์ลงไปหรือไง ถึงได้ทำนานจังแค่ข้าวต้ม ฉันหิวจนไส้จะกิ่วอยู่แล้วเนี่ย" ชายหนุ่มพูดเอ็ดขวัญข้าวออกมา ทั้งที่เธอนั้นกำลังตักข้าวต้มใส่ชาม
"เสร็จแล้วค่ะ เพื่อนพี่มากี่คนขวัญจะได้ยกเอาไปให้ถูก" หญิงสาวพูดพร้อมกับโรยผักชีลงไปที่ชามข้าวต้ม
"ของฉันไม่ใส่ผักชี" ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่รีบพูดขึ้นในทันที เพราะกลัวว่าเธอจะใส่ผักชีลงไปในชามข้าวต้มของเขา เมื่อชายหนุ่มนั้นไม่ชอบกลิ่นของมันเลยสักนิด
"โอเคค่ะ ชามของพี่ไม่ใส่ผักชี เดี๋ยวขวัญจะยกไปให้ พี่ไปนั่งรอเลยค่ะ" ขวัญข้าวพูดพร้อมหยิบถาดขึ้นมา ซึ่งในถาดนั้นสามารถใส่ข้าวต้มได้ทีละสองชาม
"กูว่ามึงมาจำนนให้กับเท้ากูนี่มา! หาเรื่องเจ็บตัวแต่เช้าเลยนะมึง จะลุกไปทำงานดีๆ หรือจะให้กูเตะเข้าไป!" อัครเดชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง พร้อมกับคว้าข้อมือเรียวของขวัญข้าว ให้เธอมายืนอยู่ทางด้านหลังของเขา โดยมีชาร์ลนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า พร้อมกับสายตาที่เอือมๆ เมื่อเพื่อนกำลังหวงน้องสาวราวกับว่าเธอนั้นเป็นแฟนของเขาจนน่าแปลกใจ "น้องขวัญโตแล้วนะ เรียนจบแล้วสมควรที่จะมีแฟนได้แล้วด้วย มึงจะหวงอะไรนักหนา ทีมึงยังคบผู้หญิงมากหน้าหลายตา และพร้อมกันทีละหลายคนเลยไอ้เสือ!" ชาร์ลยังคงลอยหน้าลอยตาพูดออกมา โดยไม่รู้ว่าเพื่อนนั้นกำลังกัดฟัน เพื่อระงับความโกรธเอาไว้ "มึงเสือกอะไรด้วย และที่สำคัญน้องกูมีแฟนแล้วมึงห้ามยุ่ง!" คำพูดของชายหนุ่มทำให้ขวัญข้าวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ชายถึงพูดกับชาร์ลออกไปแบบนั้น "มีแล้วก็เลิกได้...แค่แฟนไม่ใช่ผัว พี่ไปทำงานก่อนนะครับน้องขวัญแล้วเจอกัน...บ๊าย
"ฉะ ฉันขอโทษ" อัครเดชถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย พร้อมกับแววตาที่รู้สึกผิด ก่อนจะกล่าวขอโทษหญิงสาวออกมา ขณะที่น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด ดวงตากลมโตเหม่อลอยมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ราวกับว่าเธอกำลังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ขวัญ! พูดอะไรออกมาสักคำสิ! เธอจะด่าจะว่า หรือตบตีฉันยังไงก็ได้ แต่อย่าเฉยชาชอบแบบนี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับลูบลงไปที่แก้มนวล แล้วค่อยๆ ปาดน้ำตาให้เธออย่างเบามือ แต่ทว่าขวัญข้าวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่พูดไม่จาไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา จนทำให้ชายหนุ่มนั้นเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี "ขวัญ....พี่จะพยายามเก็บอารมณ์และมีเหตุผล ให้มากกว่านี้ พี่ขอโทษนะขวัญ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโอบร่างอรชรเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เขาควรจะบอกเธอออกไปดีไหมว่าการกระทำเมื่อครู่มันเกิดจากความหึงหวง และกลัวว่าจะมีใครเข้ามาจีบเธอ โดยที่เขานั้นยังไม่กล้าเผยความในใจให้กับเธอได้รู้ "ฮึก...ฮื้อ พี่ทำกับขวัญแบบนี้ได้ยังไง พี่ทำได้ยังไง...ฮื้อ" หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายออกมา เมื่อเธอกำลังคิดว่าสิ่งที่เขาทำไป
หญิงสาวรวบผมมัดหางม้าต่ำ ทำให้แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เธอปัดแก้มโทนสีตุ่นๆ ทาปากด้วยสีชมพูนู้ด พร้อมทั้งปัดคิ้วให้ดูตั้งตามเทรน แต่ไม่ฟูจนเวอร์ รับรองว่าใครเห็นต่างก็ต้องตกตะลึงในความงามของเธอที่ดูสวยโดดเด่นเซ็กซี่ในลุคของสาวมั่น เปลือกตาเธอปัดด้วยอายแชโดว์สีชมพูอ่อนดูวิ้งค์เป็นประกายนั้น ยิ่งทำให้ดวงตากลมโตมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นชายใดได้จ้องคงต้องตกอยู่ในวังวน จนเก็บเอาไปเพ้อฝันจินตนาการอยากได้เธอมาอยู่ข้างกายอย่างแน่นอน ขวัญข้าวหยิบต่างหูห่วงสีทองมาใส่ ซึ่งเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวในตัว แต่มันกลับทำให้ใบหน้าของเธอนั้นโดดเด่นเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นมาอีก จากนั้นหญิงสาวจึงหยิบสูทสีเทาแขนยาวมาสวมทับ ยิ่งทำให้ขวัญข้าวนั้นดูดีกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เธอหยิบรองเท้าคัทชูสีแดงออกมาจากในตู้แล้วเดินลงไปด้านล่าง พร้อมสำหรับการรับประทานอาหารมื้อเช้า ก่อนออกไปทำงานในวันแรกของชีวิต พอขวัญข้าวเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร อัครเดชถึงกับมองตาค้าง เขาไม่คิดว่าเธอจะสวยเซ็กซี่และดูดีมา
"อื้ม...แล้วเธอล่ะได้หรือยัง เราไปหาที่นั่งคุยกันก่อนดีไหม" ชายหนุ่มถามหญิงสาวออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ขณะที่ขวัญข้าวชำระเงินเสร็จพอดี "แม่ให้เรามาทำงานกับพี่เสือ พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรก เอาไว้ค่อยคุยกันนะ เราต้องรีบกลับเพราะพี่เสือรออยู่ที่รถนานแล้ว" ขวัญข้าวรีบปฏิเสธภูผาออกไป เพราะเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อน เมื่อเธอกับเขาสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมจวบจนมหา'ลัย แม้เขาเพิ่งจะบอกความในใจเธอได้ไม่นาน แต่ขวัญข้าวก็พอจะรู้และพยายามที่จะถอยห่าง เมื่อเธอนั้นไม่อยากสานสัมพันธ์กับเขา "เดี๋ยวเราเดินไปส่ง" "ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เองเราเดินไปเองได้ เธอรีบไปทำธุระตัวเองเถอะ" ขวัญข้าวพยายามปฏิเสธชายหนุ่มออกมา เพราะหญิงสาวกลัวว่าพี่ชายจะดุ ถ้าหากเขาเห็นผู้ชายมาส่งเธอที่รถแบบนี้ "เอามานี่เดี๋ยวเราถือให้"
ขวัญข้าวไม่ได้สนใจเสือหนุ่มกับคู่ขาของเขา เธอเดินตรงเข้าหาพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรให้ โดยที่ไม่ได้สังเกตชุดที่พนักงานเลือกไว้ "จ่ายด้วยบัตรใบนี้นะคะ" "คุณผู้หญิงจะไม่ดูชุดก่อนเหรอคะ ถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับชุดที่ดิฉันเลือกเอาไว้ให้ แต่ก็มั่นใจว่าคุณจะใส่ได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเล็กๆ แบบนี้ ใส่ชุดไหนก็สวยแถมคุณยังเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว" พนักงานสาวกล่าวชื่นชมขวัญข้าวออกมาจากใจเพราะเธอมองมุมไหนหญิงสาวก็สวยสะดุดตา มีเพียงแค่แพมคู่ขาของเสือหนุ่ม ที่มองเห็นเธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้ "ขอบคุณนะคะ ชุดไหนขวัญก็ใส่ได้ทั้งนั้นละค่ะ ขวัญเองก็เชื่อใจคุณพี่ว่าจะเลือกให้ตรงตามที่สาวออฟฟิศเขานิยมใส่กัน" หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับพนักงาน เพราะเธอเองก็ไม่ถนัดเลือกชุดสักเท่าไหร่
"เลือกได้หรือยังแม่คุณ! แค่เลือกกระเป๋าก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้วนะขวัญข้าว ชอบใบไหนก็หยิบมาเถอะ! จะเลือกอะไรนักหนาก็ไม่รู้" คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ขวัญข้าวแอบชำเลืองหางตามองค้อนไปที่ใบหน้าคม ด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเธอไปตลาดคงได้มาหลายใบ แต่ตอนนี้คงต้องทำใจหยิบมาสักใบ เพื่อไม่ให้เขานั้นว่าเธอได้ "เอาใบนี้ก็แล้วกันค่ะ" หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสีดำ ยื่นให้พนักงานไปหนึ่งใบ "ใบนี้ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ ราคาจะเหลือแค่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเท่านั้น ตกลงคุณผู้หญิงรับใบนี้ใช่ไหมคะ" พนักงานสาวสวยถามขวัญข้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม "ใช่ค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบบัตรเครดิตออกมา ซึ่งเธอใช้มันอย่างประหยัด จะรูดบัตรเฉพาะในยามที่จำเป็นเท่านั้น"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจ่ายเอง เอาใบนี้ ใบนี้ แล้วก็ใบนี้ด้วยทั้งหมดรวมเป็นเจ็ดใบ" อัครเดชที่สังเกตการณ์อยู่นาน เขาพอจะเดาได้ว่าทำไมเธอถึงไม่เลือกสักที