ในตอนเช้าหลินเสี่ยวเหยารีบตื่น เพื่อมาทำอาหารเช้าและข้าวกล่องให้ลูกชาย ซาลาเปาน้อยในตอนนี้ตุ้ยนุ้ยเกินไป เธอเกรงว่าเขาจะอ้วนเกินมาตรฐานแล้วจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
เมื่อทำอาหารเสร็จเธอก็ขึ้นไปปลุกลูกชาย อาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อย แล้วก็ให้เจียวหนิงช่วยดูแลตอนที่จางจ้าวเหวินทานข้าว ส่วนเธอรีบไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะว่าเธอจะไปส่งเจ้าตุ้ยนุ้ยที่โรงเรียน "ทานข้าวอิ่มหรือยังคะคนเก่ง ?" "อิ่มแล้วครับแม่" "ถ้างั้นไปกันเถอะ วันนี้แม่จะไปส่งหนูที่โรงเรียน" "จริงเหรอครับแม่ ?" "จริงสิครับ" ซาลาเปาน้อยแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่อย่างดีใจ หลินเสี่ยวเหยาจึงนั่งคุกเข่าลงและกอดลูกชายเอาไว้แน่น เธอจูบแก้มป่องซ้ายขวาข้างละที ก่อนจะบอกกับลูกชายเสียงอ่อนโยน "ต่อไปนี้แม่จะไปส่งหนูที่โรงเรียนทุกวัน" เจียวหนิงมองภาพที่หลินเสี่ยวเหยากับจางจ้าวเหวินกอดกันแล้วก็น้ำตารื้น เธออยากเห็นภาพนี้มานานแล้ว และเธอก็สมหวังสักที "ไปกันเถอะเดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย" "ครับแม่" สองแม่ลูกจูงมือกันเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่จอดรออยู่หน้าคฤหาสถ์ ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถจางจ้าวเหวินจับมือแม่เอาไว้ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าแม่จะหายไป หลินเสี่ยวเหยาก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจความรู้สึกของลูกชาย เธอจึงดึงตัวของเขาเข้ามากอด สี่ปีที่ผ่านมาซาลาเปาน้อยโดดเดี่ยวมาตลอด ไม่รู้ว่าอ้อมกอดที่อบอุ่นนี้จะชดเชยให้เด็กน้อยได้หรือไม่ "หลินเสี่ยวเหยาล่ะ ?" จางเหวินชิงเอ่ยถามเกาถาน เพราะวันนี้เขาไม่เห็นเธอเสนอหน้ามาส่งเขาไปทำงานเหมือนทุกวัน "คุณนายไปส่งคุณชายน้อยที่โรงเรียนค่ะคุณผู้ชาย" พอได้ยินคำตอบจากเกาถาน จางเหวินชิงก็ยิ้มเยาะออกมา พลางคิดกับตัวเองในใจ ไม่รู้ว่าหลินเสี่ยวเหยาจะมาลูกไม้อะไรกับเขาอีก การที่ไปส่งจางจ้าวเหวินที่โรงเรียนแบบนี้ คงจะมีแผนอะไรบางอย่างแน่นอน เขาไม่ได้พูดอะไรอีก ก้าวยาว ๆ ไปขึ้นรถคันหรูที่มาจอดรอ และพอเขามาถึงบริษัท จางเหวินชิงก็พบว่ากู่เยี่ยนถิงมารอเขาอยู่ก่อนแล้ว ร่างสมส่วนในชุดเดรสสีขาวนั้นเดินตรงเข้ามาหาเขา เธอส่งรอยยิ้มอ่อนโยนบริสุทธิ์นำมาก่อน "เหวินชิง" พร้อมกับเอ่ยเสียงอ่อนโยนออกมา จางเหวินชิงส่งกระเป๋าแล็บท็อปให้ม่อหนานผู้ช่วยของเขา กู่เยี่ยนถิงเดินมาเกาะแขนแข็งแกร่งนั้น แล้วทั้งสองคนก็ก้าวเข้าไปในลิฟท์ โดยมีม่อหนานเดินตามเข้าไป พนักงานในบริษัทต่างก็ซุบซิบกัน เพราะมีหลายคนรู้ว่ากู่เยี่ยนถิงเป็นใคร "ว้าว..คนรักตัวจริงของประธานจางกลับมาแล้ว" "ดูเหมาะสมกันมากเลยอ้ะเธอ" "นั่นน่ะสิ ไม่เหมือนคุณหลินเสี่ยวเหยา" พนักงานที่นี่ไม่มีใครชอบหลินเสี่ยวเหยาสักคน เพราะว่าเธอเคยมาเหวี่ยงวีนอาละวาด และสร้างวีรกรรมเอาไว้เยอะ ทั้งหยิ่งและหึงหวงจางเหวินชิงไปทั่ว "คุณครู จางเหวินชิงเป็นยังไงบ้างคะที่โรงเรียน ?" หลินเสี่ยวเหยาเอ่ยถามครูประจำชั้นของซาลาเปาน้อย วันนี้เธออยู่รอพบคุณครูเพื่อจะสอบถามถึงพฤติกรรมของลูกชายตอนอยู่โรงเรียน "ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ แต่ว่าเหวินชิงไม่ค่อยมีความมั่นใจแล้วก็ไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นัก" "ขอบคุณมากค่ะคุณครู" หลินเสี่ยวเหยาพูดคุยกับครูอีกเล็กน้อยก็ขอตัวกลับ ที่ซาลาเปาน้อยเป็นแบบนี้ก็เพราะผลพวงจากที่พ่อกับแม่ไม่ดูแลเอาใจใส่ และที่สำคัญไม่เคยมอบความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยให้เขาเลย "คุณนายจะไปไหนต่อไหมครับ ?" คนขับรถถาม ขณะที่หลินเสี่ยวเหยาก้าวขึ้นมานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว "ไม่ล่ะค่ะ กลับบ้านเลย" "ครับผม" พอกลับมาถึงบ้าน หลินเสี่ยวเหยาก็ได้ค้นเอกสารสำคัญต่าง ๆ ทั้งของเธอเองและของลูกชาย เพราะเธอวางแผนบางอย่างเอาไว้ในใจ พอได้ครบทุกอย่างแล้วเธอก็มานั่งพิจารณาดูเอกสารเหล่านั้น โดยเฉพาะทะเบียนสมรสของเธอกับจางเหวินชิง เขาให้เธอเก็บเอาไว้ทั้งสองเล่ม เพราะว่าไม่อยากมองเห็นให้ขวางหูขวางตา หลินเสี่ยวเหยามองทะเบียนสมรสในมือแล้วก็ถอนหายใจออกมา ที่เจ้าของร่างนี้มีชะตาแบบนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไปแทรกแซงชะตาชีวิตของจางเหวินชิงกับกู่เยี่ยนถิง หลังจากนั้นก็เช็คดูเงินในแอพบัญชีธนาคาร พอเห็นตัวเลขจำนวนเงินแล้วเธอก็ตาโต มีเงินมากขนาดนี้มีชีวิตสองคนกับลูกโดยไม่ต้องทำงานทั้งชีวิตเลยก็ยังได้ เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เธอขายหุ้นของบริษัทในเครือสกุลหลิน ตั้งแต่วันที่แต่งเข้าสกุลจาง หลินเสี่ยวเหยาไม่เคยสนใจดูเงินก้อนนี้เลย เพราะว่าค่าใช้จ่ายของเธอและของจางจ้าวเหวินนั้น ทางตระกูลจางเป็นคนจัดการ ในฐานะที่เธอเป็นภรรยาของจางเหวินชิง แต่ว่าในเร็ว ๆ วันนี้เธอคงต้องพึ่งเงินก้อนนี้ หลินเสี่ยวเหยามีบ้านหลังหนึ่งตรงแถบชานเมือง เป็นบ้านที่พ่อกับแม่ของเธอมอบให้ก่อนที่พวกท่านจะเสียชีวิต หากเธอคิดจะออกจากสกุลจางก็คงไม่ลำบากแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุระกิจของสกุลหลินก็ตาม บริษัทของเครือสกุลหลินในตอนนี้มีหลินชุนเหิง ซึ่งเป็นน้องชายพ่อของเธอเป็นผู้บริหาร หุ้นในส่วนของเธอที่ตกทอดมาจากพ่อกับแม่เธอก็ขายหมดแล้ว บางทีอาจจะใช้เงินส่วนนี้ลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง หลินเสี่ยวเหยาร่างเดิมเรียนจบทางด้านแฟชั่นจากต่างประเทศ หรือเธอจะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าดี แต่ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องการทำธุระกิจ เธอต้องจัดการเรื่องหย่าให้ได้เสียก่อน การที่จะหย่ากับจางเหวินชิงนั้นไม่ง่ายนัก เพราะคุณย่าของเขาคงไม่ยอมแน่ แต่ว่าถ้าเธอกับจางเหวินชิงช่วยกันพูดกับท่าน ก็คงพอจะมีหนทางอยู่บ้าง เวลา 15:30 น. จางจ้าวเหวินรีบเดินออกมาที่หน้าประตูโรงเรียน เด็กน้อยสอดส่ายสายตามองหาแม่ของเขาด้วยใจเต้นระทึก กลัวว่าแม่จะไม่มารับเขาตามคำสัญญา แต่ทว่าพอจางจ้าวเหวินเดินออกไปพ้นประตูรั้วโรงเรียน ความกลัวของเด็กน้อยก็หายไป เพราะว่าในตอนนี้แม่ของเขากำลังยืนยิ้มรอเขาอยู่ เด็กน้อยรีบวิ่งไปหาแม่ทันที แล้วก็กอดเอวของแม่เอาไว้แน่น "ป้ะกลับบ้านกัน คนเก่งของแม่" แล้วสองแม่ลูกก็เดินไปขึ้นรถ จางจ้าวเหวินหัวใจพองโตคับอกเพราะว่าแม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ นั่นก็คือการที่แม่มารับเขา หลินเสี่ยวเหยาพาลูกชายแวะทานหม้อไฟก่อนเข้าบ้าน เพราะอยากให้เจ้าตุ้ยนุ้ยได้เปิดหูเปิดตาหนึ่งเดือนต่อมา จางเหวินชิงกับหลินเสี่ยวเหยาได้มาเที่ยวที่ต่างประเทศด้วยกันลำพังสองคน ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะลองให้โอกาสกันและกันดู แล้วก็ลองศึกษาดูนิสัยใจคอกันใหม่ด้วย ซึ่งคุณย่าทวดและจางจ้าวเหวินต่างก็เห็นดีเห็นงามด้วยกับทั้งคู่โดยก่อนที่หนุ่มสาวทั้งสองจะเดินทางมาต่างประเทศ คุณย่าทวดก็ได้กำชับหนักแน่นว่าให้หลินเสี่ยวเหยารีบมีน้องของจางจ้าวเหวินเร็ว ๆ และพอบอกเรื่องนี้กับเจ้าตุ้ยนุ้ย เด็กน้อยก็เฝ้ารอคอยน้องชายกับน้องสาวอยู่ตลอดเวลา"เหวินชิง คุณดูนั่นสิ"หลินเสี่ยวเหยาชี้ชวนให้จางเหวินชิงดูกุหลาบแดงช่อใหญ่ ที่วางขายอยู่ตรงริมฟุตบาท เขามองดูเธอด้วยสายตารักใคร่ เพราะเธอทั้งสดใสน่ารักและก็ไม่ใช่คนเอาแต่ใจอย่างที่ผ่านมาเลย "อยากได้เหรอ ?"เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยน พร้อมกับจูงมือเธอพาเดินไปที่กุหลาบสีแดงช่อนั้น "อืม..ก็มันทั้งสวยแล้วก็หอมด้วย"เธอตอบเขาพลางก้มลงมองกุหลาบช่อนั้นใกล้ ๆ จางเหวินชิงจึงถามราคาจากคนขายแล้วก็จ่ายเงิน เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาก็ส่งกุหลาบแดงช่อนั้นให้เธอ หลินเสี่ยวเหยารับมันมาถือเอาไว้แนบอก ก้มลงดอมดมกลิ่นหอมของมัน"ขอบคุณมากค่ะ"เธอกล่าวขอบคุณเขาออกมาด้วย
ในตอนเช้าหลินเสี่ยวเหยางัวเงียตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของจางเหวินชิง จึงรีบขยับตัวเพื่อจะออกจากอ้อมแขนของเขา "จะรีบลุกไปไหน ยังเช้าอยู่เลย ?"แต่ว่าจางเหวินชิงกลับไม่ยอมปล่อย เขากลับกอดกระชับอ้อมแขนแกร่งรัดตัวเธอให้แน่นขึ้น "คุณ..ปล่อยนะ"เธอบอกเขาเสียงห้วน สายตามองหาร่างอ้วนกลมของลูกชาย ก็พบว่าจางจ้าวเหวินนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียง"เมื่อก่อนคุณรังเกียจฉันอย่างกับอะไรไม่ใช่หรือไง ?"จบประโยคของเธอ จางเหวินชิงจึงได้คลายอ้อมแขนออก สายตามีแวววูบไหวอยู่ในนั้น แต่หลินเสี่ยวเหยาไม่ได้สนใจท่าทางของเขา ปีนลงจากเตียงและไปปลุกลูกชายให้ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนจางเหวินชิงจึงได้ลุกขึ้น เขากลับไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องนอนของตัวเอง และไปนั่งรอสองแม่ลูกที่โต๊ะทานข้าว"วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ ?"คุณย่าเอ่ยถาม เพราะเห็นว่าวันนี้เขาใส่ชุดลำลอง เสื้อยืดสีเทาแขนยาวแล้วก็กางเกงสแล็คสีกรมท่า ไม่ใช่ชุดสูทสำหรับไปทำงาน"ผมจะไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนของจ้าวเหวินครับ""คุณย่าไปด้วยไหมครับ ?"จางจ้าวเหวินเดินเข้ามาพร้อมแม่ ทันได้ยินที่คุณย่าคุยกับพ่อ เขาจึงชวนท่านไปด้วย "ไม่ล่ะ หนูไปกับคุณพ่อค
"ฉันคุยกับคุณย่าแล้ว ท่านไม่มีปัญหาค่ะ รอแค่เราสองคนพร้อมเท่านั้น ท่านเคารพการตัดสินใจของเรา"คำพูดของหลินเสี่ยวเหยาสะท้อนกลับไปกลับมาในโสตประสาทของจางเหวินชิง จู่ ๆ เขาก็ไม่อยากหย่ากับเธอขึ้นมา ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยจะว่าไปแล้วที่หลินเสี่ยวเหยามีนิสัยที่ไม่ดีหลายอย่าง ทั้งตามหึงหวง เหวี่ยงวีนผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ความผิดส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเขาเอง เขาไม่เคยให้เกียรติเธอในฐานะภรรยา เย็นชาและไม่เคยพูดดีกับเธอเลยสักครั้ง แถมยังท้ทเธอหย่าเกือบทุกวัน จนเธอต้องสร้างเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่พอมาวันนี้เธอหยุดทำแบบนั้นและเป็นคนเอ่ยปากเรื่องหย่าขึ้นมาเองเขากลับรู้สึกเจ็บจางเหวินชิงยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก อยากจะข่มตาให้นอนหลับ แต่มันก็หลับไม่ลง เขาเลื่อนมือลงไปลูบตรงสะบักเอวของตัวเองเบา ๆ'ไตของเธอข้างหนึ่งอยู่กับเขา'หลินเสี่ยวเหยาคงรักเขามากจริง ๆ แม้แต่อวัยวะในร่างกายยังยอมเสียสละให้เขาได้ นี่เขาตามืดบอดมองไม่เห็นความรักของเธอได้ยังไงกัน แต่กับกู่เยี่ยนถิงเขากลับหลงเชื่อและงมงาย คิดว่าเธอรักเขาจริง ๆ แต่แท้จริงแล้วเธอวางแผนทุกอย่างเพื่อใช้เขาเป็นสะพานไปสู่ความต้
หลังจากเรื่องของกู่เยี่ยนถิงผ่านไป ถึงแม้ว่าความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลินเสี่ยวเหยาและจางเหวินชิงก็ไม่ได้ดีขึ้นจากแต่ก่อนเลยหลินเสี่ยวเหยาโกรธที่จางเหวินชิงไม่ยอมจัดการตอนที่รู้ว่ากู่เยี่ยนถิงปองร้ายจางจ้าวเหวิน ส่วนตัวจางเหวินชิงนั้นเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เรื่องราวไม่ดีต่าง ๆ เกิดขึ้นมา รวมทั้งเรื่องที่ความจริงแล้ว คนที่มอบไตให้เขาก็คือหลินเสี่ยวเหยาไม่ใช่กู่เยี่ยนถิงด้วยจางเหวินชิงกินนอนที่บริษัทเป็นส่วนใหญ่ เขาแทบไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เลย แม้แต่คุณย่าเองที่เมื่อก่อนจะเป็นเดือดเป็นร้อนทุกครั้งที่เขาไม่ยอมกลับบ้าน มักจะคอยโทรตามขอร้องกึ่งบังคับให้เขากลับ แต่ตอนนี้ท่านกลับไม่ทำแบบนั้นเลย"พ่อคร้าบบ"วันนี้เป็นวันเสาร์ จางจ้าวเหวินไม่ได้ไปโรงเรียน เขาจึงมาหาจางเหวินชิงที่บริษัท เนื่องจากว่าพ่อไม่กลับบ้านนานนับเดือนแล้ว เจ้าตุ้ยนุ้ยคิดถึงพ่อมาก จึงขอให้แม่พาเขามา "จ้าวเหวิน มาได้ยังไง ?"ร่างอ้วนกลมของจางจ้าวเหวินวิ่งเข้าไปหาพ่อที่ห้องทำงาน จางเหวินชิงก้าวยาว ๆ ไปหาลูกชาย แล้วก็ย่อตัวลงอุ้มเจ้าตุ้ยนุ้ยขึ้นมา เขากอดคอพ่อเอาไว้แล้ว
ราว ๆ ห้าโมงเย็นจางเหวินชิงก็กลับมาถึงคฤหาสน์ เขารีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก เพราะเกาถานแจ้งว่า กู่เยี่ยนถิงอยู่ที่นั่น"เยี่ยนถิง คุณมาทำไม ?"เขาถามเธอออกไปด้วยความโมโห แล้วก็กระชากแขนเธอให้ลุกขึ้น"ก็คุณไม่ยอมไปหาฉัน พอฉันไปหาคุณที่บริษัทคุณก็ไล่ฉันกลับ ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณโกรธฉันเรื่องอะไร ?"กู่เยี่ยนถิงถามเขาเสียงเครือ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาคลอหน่วย "เยี่ยนถิง เพราะอะไรคุณรู้ดีที่สุด"จางเหวินชิงบอกกับเธอเสียงเย็นชา กู่เยี่ยนถิงชะงักไป อย่าบอกนะว่าเขารู้อะไรมา แต่ว่าเธอก็ยังคงบีบน้ำตาและถามเขาออกมาเสียงสั่น ดูช่างน่าสงสาร"รู้อะไรคะ ?""เลิกเสแสร้งเถอะ ผมรู้เรื่องหมดแล้วทั้งเรื่องที่คุณวางยาจ้าวเหวินเพื่อจะโยนความผิดให้เสี่ยวเหยา แล้วก็ที่คุณวางยาเดวิด เพราะว่าคุณเป็นคนสั่งให้เขามาจับตัวเสี่ยวเหยา คุณย่าและจ้าวเหวิน"เขาพูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ ย้ำชัด ๆ ให้ผู้หญิงตรงหน้าได้ยิน แต่ว่ากู่เยี่ยนถิงกลับปฏิเสธ"ไม่จริงค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น แม้แต่มดสักตัวฉันยังไม่เคยฆ่า แล้วฉันจะวางยาเดวิดกับลูกชายคุณได้ยังไง !?""คุณหยุดพูด และกลับไปเสียเถอะแล้วก็อย่ามายุ่งกับผมอีก ผมไม่
"เหวินชิงคะ"กู่เยี่ยนถิงมาดักรอพบเขาที่บริษัท แต่ว่ารปภ. ไม่ยอมให้เธอเข้าไปเพราะจางเหวินชิงสั่งเอาไว้ เธอไม่มีข้ออ้างแล้วด้วยเพราะงานถ่ายแบบที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับจางกรุ๊ปนั้นถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงหวานทันทีที่เขาก้าวลงมาจากรถ กู่เยี่ยนถิงมารอเขาที่ลานจอดรถตั้งแต่เช้าแล้ว เพราะว่าจางเหวินชิงไม่ยอมไปหาเธอเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวคนในครอบครัวเขา พอเธอโทรหาและถาม เขาก็บอกว่างานยุ่ง"เยี่ยนถิง มาทำไม ?"น้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมานั้น กู่เยี่ยนถิงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน แม้จะโกรธแต่ก็ต้องระงับเอาไว้ เอ่ยบอกเขาเสียงอ่อนหวาน"ฉันคิดถึงคุณ"พูดจบก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อจะเกาะแขนเขา แต่จางเหวินชิงสะบัดแขนออก"กลับไปเถอะเยี่ยนถิง แล้วก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก""อะไรกันคะเหวินชิง ทำไมพูดแบบนี้ คุณโกรธเรื่องอะไร ?"เธอรีบถามเขาเสียงแผ่ว น้ำตารื้นขึ้นมาทันที สบตากับเขาใบหน้าแดงก่ำ ราวกับเจ็บปวดนักหนา ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน จางเหวินชิงจะรีบกอดและเอ่ยปลอบใจเธอทันที แต่ว่าวันนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"คุณกลับไปเถอะ"เขาพูดเพ