แชร์

บทที่ 5 เล่านิทาน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-02 15:41:23

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยากับจางจ้าวเหวินก็รีบตรงไปที่ห้องนอนของเด็กน้อย เธอบอกให้เขาแปรงฟันก่อนนอน เจียวหนิงทำท่าจะมาช่วยหนูน้อย แต่ว่าหลินเสี่ยวเหยาบอกว่าเธอจะทำเอง

"เจียวหนิง เธอไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะดูแลจ้าวเหวินเอง"

"แต่ว่า..ตอนคุณชายน้อยจะนอนล่ะคะ ?"

"ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ฉันจะพาจ้าวเหวินเข้านอนเอง"

"ค่ะคุณหนู"

เจียวหนิงได้ยินแบบนั้นถึงแม้ว่าจะแปลกใจมาก แต่ก็ดีใจมากเหมือนกัน เธออยากให้คุณหนูของเธอเอาใจใส่คุณชายน้อยแบบนี้มานานแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคุณหนูของเธอจะไม่เคยทำมันเลย

เมื่อเจียวหนิงออกจากห้องไปแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็พาจางจ้าวเหวินไปแปรงฟัน พอแปรงฟันเสร็จแล้วทั้งสองคนก็ปีนขึ้นไปบนเตียง

"คืนนี้หนูจะฟังนิทานเรื่องอะไรคะ ?"

"อืม..เอาเรี่องลูกหมูสามตัวครับแม่"

หลินเสี่ยวเหยาจึงเอื้อมมือไปหยิบหนังสือนิทานเรื่องลูกหมูสามตัวที่วางอยู่ตรงหัวเตียง แล้วก็เริ่มอ่านให้เด็กน้อยฟัง

เธอทำเสียงสูงต่ำไปตามบทพูดของตัวละคร ซึ่งนั่นทำให้จางจ้าวเหวินชอบใจมาก เด็กน้อยไม่นึกเลยว่าแม่ของเขาจะเล่านิทานสนุกขนาดนี้

"สนุกจังเลยครับ ขออีกเรื่องหนึ่งได้ไหม ?"

เด็กน้อยอยากฟังนิทานอีก จึงขอให้แม่เล่าให้ฟังอีกเรื่อง หลินเสี่ยวเหยาเห็นว่ายังไม่ดึกมากจึงยอมตามใจ แต่ก่อนเล่าเธอได้กำชับกับจางจ้าวเหวินว่า

"เอาอีกแค่เรื่องเดียวนะครับ เพราะพรุ่งนี้หนูต้องไปโรงเรียน"

"ครับ"

หลินเสี่ยวเหยาจึงอ่านนิทานเรื่องเด็กเลี้ยงแกะให้ลูกชายของเธอฟัง พร้อมทั้งอธิบายถึงผลเสียของการเป็นคนขี้โหก

เมื่อนิทานเรื่องที่สองจบลง ซาลาเปาน้อยก็บอกกับแม่ของเขา

"แม่ครับหนูมีความสุขมาก แม่นอนกับหนูได้ไหม ?"

แม้จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ แม่ถึงได้เปลี่ยนไป แต่จางจ้าวเหวินก็ไม่สนใจหรอก ขอแค่แม่ใจดีแบบนี้ตลอดไปก็พอ เพราะตั้งแต่จำความได้ เด็กน้อยไม่เคยได้นอนในอ้อมกอดของแม่เลย

คนที่กล่อมเขานอนในทุกคืนที่ผ่านมาก็คือเจียวหนิง แต่ว่าอ้อมกอดของคนอื่น มีหรือจะอบอุ่นเท่าอ้อมกอดแม่

"ได้สิครับ ต่อไปนี้แม่จะนอนกับหนูทุกวันเลยดีไหม ?"

"ดีครับ"

หลินเสี่ยวเหยาก้มลงจูบหน้าผากนูนของลูกชาย แล้วก็เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง แล้วทั้งสองคนก็นอนกอดกันอย่างมีความสุข

ไม่นานจางจ้าวเหวินก็หลับไป แต่ว่านภาในร่างหลินเสี่ยวเหยายังคงไม่หลับ เธอคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

ที่หลินเสี่ยวเหยาคนเดิมปฏิบัติต่อลูกชายแบบนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่า จางจ้าวเหวินไม่สามารถทำให้จางเหวินชิงรักได้ เธอจึงพลอยเกลียดลูกชายไปด้วย

"เฮ้อ..!?"

เธอถอนหายใจออกมา มีแม่แบบนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสารซาลาเปาน้อยก้อนนี้ เธอหันไปจูบแก้มเด็กน้อย ก่อนจะข่มตาให้หลับลง

ทางด้านจางเหวินชิงนั้น เมื่อเห็นว่าทั้งหลินเสี่ยวเหยาและจางจ้าวเหวิน ลุกออกจากโต๊ะกินข้าวไปก่อน เขาก็รู้สึกแปลกใจ

เพราะปกติแล้วหลินเสี่ยวเหยาจะบอกให้จางจ้าวเหวินเข้ามาคุยเกาะแกะกับเขาเสมอ แต่ว่าวันนี้กลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะมองเมินเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เขาจึงรู้สึกแปลก ๆ

ความรู้สึกที่จางเหวินชิงมีต่อลูกชายนั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็อธิบายไม่ถูก เป็นเพราะเขาเกลียดหลินเสี่ยวเหยาผู้เป็นแม่

จึงทำให้เขาเกิดความรู้สึกห่างเหินเย็นชากับผู้เป็นลูก เขาไม่เคยกอดอุ้ม หรือแม้กระทั่งจะพูดคุยกับลูกชายก็แทบนับคำได้

และทุกครั้งที่จางจ้าวเหวินเข้ามาคุยกับเขา เขาก็มักจะบอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา แต่กระนั้นเด็กน้อยก็เพียรพยายามจะเข้าหาเขาอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นคำสั่งของหลินเสี่ยวเหยา จึงทำให้เขารู้สึกเกลียดเธอมากยิ่งขึ้น

แต่จางเหวินชิงคงลืมนึกไปว่าบางครั้งสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกนั้น ไม่จำเป็นต้องคอยให้ใครมาสั่ง ถึงยังไงผู้เป็นลูก ย่อมต้องการความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นพ่ออยู่แล้ว

จางเหวินชิงเดินเข้าห้องนอน เขายังไม่ได้นอนในทันที แต่เปิดแล็ปท็อบขึ้นมาเพื่อทำงานต่อ

ชีวิตของเขานั้นตั้งแต่ถูกกู่เยี่ยนถิงบอกเลิกเมื่อห้าปีก่อน ก็ดูเหมือนว่าเขาจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน จนร่างกายเคยชิน ถึงแม้ว่าในตอนนี้บริษัทในเครือตระกูลจางจะมั่นคงแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังทำงานจนดึกทุกวัน

ในระหว่างที่เขาทำงานกู่เยี่ยนถิงก็โทรมา จางเหวินชิงจึงกดรับ

"ว่าไง ? เยี่ยนถิง"

'เหวินชิง ฉันนอนไม่หลับเลย ที่โรงแรมนี่น่ากลัวมากเลย ยังไงพรุ่งนี้ฉันขอไปพักกับเธอที่บ้านได้ไหม?'

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ"

'อืม..ได้ ๆ ฉันคิดถึงเธอนะเหวินชิง'

จางเหวินชิงเงียบไปสักครู่ ก่อนจะกดวางสายแล้วก็ล้มตัวลงนอน

กู่เยี่ยนถิงปาโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงด้วยความโมโห เธอรู้สึกได้ว่าในตอนนี้จางเหวินชิงเริ่มเปลี่ยนไป เธอจะต้องรีบทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้

เมื่อห้าปีก่อนที่เธอทิ้งเขาไปนั้น ก็เป็นเพราะว่าในตอนนั้น จางเหวินชิงยังไม่ใช่ประธานจางเหมือนตอนนี้ ปู่ของเขายังเป็นผู้กุมบังเหียนธุระกิจของตระกูลจางอยู่

บวกกับที่มีผู้กำกับชาวต่างชาติมาเสนอกับเธอว่า หากเธอตามเขาไป เธอจะได้เป็นดาราฮอลลี่วู้ด เธอจึงบอกเลิกกับจางเหวินชิง และตามผู้กำกับชาวต่างชาติคนนั้นไป

แต่เมื่อไปถึงจริง ๆ แล้ว มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เธอต้องทนแสดงหนังเกรดบี แถมยังต้องคอยไปบำเรอกามให้ผู้กำกับหนังอีกหลายคน เพราะอยากได้บทดี ๆ แต่ผลสุดท้ายเธอก็ถูกหลอก

กู่เยี่ยนถิงทนอยู่ในสภาพแบบนั้นถึงห้าปี จนเธอเริ่มทนไม่ไหวในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ

เธอลองติดต่อหาจางเหวินชิงให้เขาไปรับเธอที่สนามบิน และเขาก็มาจริง ๆ แถมในตอนนี้เขาก็ยังเป็นประธานจางผู้ยิ่งใหญ่ เพราะปู่ของเขาเสียชีวิตเมื่อสี่ปีก่อน

เธอจึงคิดจะลองฟื้นความสัมพันธ์กับเขาอีกครั้ง เพราะเธอก็สืบทราบมาว่า จางเหวินชิงไม่ได้รักหลินเสี่ยวเหยาผู้เป็นภรรยาเลย

ถึงแม้ว่ากลับมาในครั้งนี้ เขาจะดูเย็นชากับเธอไปหลายส่วน แต่เธอเชื่อมั่นว่ายังไงถ่านไฟเก่าก็คุกรุ่นได้แน่นอน คิดมาถึงตรงนี้กู่เยี่ยนถิงก็ล้มตัวนอนลงบนเตียง และยิ้มออกมาเล็กน้อย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 29 บทสุดท้าย (จบบริบูรณ์)

    หนึ่งเดือนต่อมา จางเหวินชิงกับหลินเสี่ยวเหยาได้มาเที่ยวที่ต่างประเทศด้วยกันลำพังสองคน ทั้งสองคนตกลงกันว่าจะลองให้โอกาสกันและกันดู แล้วก็ลองศึกษาดูนิสัยใจคอกันใหม่ด้วย ซึ่งคุณย่าทวดและจางจ้าวเหวินต่างก็เห็นดีเห็นงามด้วยกับทั้งคู่โดยก่อนที่หนุ่มสาวทั้งสองจะเดินทางมาต่างประเทศ คุณย่าทวดก็ได้กำชับหนักแน่นว่าให้หลินเสี่ยวเหยารีบมีน้องของจางจ้าวเหวินเร็ว ๆ และพอบอกเรื่องนี้กับเจ้าตุ้ยนุ้ย เด็กน้อยก็เฝ้ารอคอยน้องชายกับน้องสาวอยู่ตลอดเวลา"เหวินชิง คุณดูนั่นสิ"หลินเสี่ยวเหยาชี้ชวนให้จางเหวินชิงดูกุหลาบแดงช่อใหญ่ ที่วางขายอยู่ตรงริมฟุตบาท เขามองดูเธอด้วยสายตารักใคร่ เพราะเธอทั้งสดใสน่ารักและก็ไม่ใช่คนเอาแต่ใจอย่างที่ผ่านมาเลย "อยากได้เหรอ ?"เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยน พร้อมกับจูงมือเธอพาเดินไปที่กุหลาบสีแดงช่อนั้น "อืม..ก็มันทั้งสวยแล้วก็หอมด้วย"เธอตอบเขาพลางก้มลงมองกุหลาบช่อนั้นใกล้ ๆ จางเหวินชิงจึงถามราคาจากคนขายแล้วก็จ่ายเงิน เมื่อเสร็จเรียบร้อยเขาก็ส่งกุหลาบแดงช่อนั้นให้เธอ หลินเสี่ยวเหยารับมันมาถือเอาไว้แนบอก ก้มลงดอมดมกลิ่นหอมของมัน"ขอบคุณมากค่ะ"เธอกล่าวขอบคุณเขาออกมาด้วย

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 28 กิจกรรมครอบครัว

    ในตอนเช้าหลินเสี่ยวเหยางัวเงียตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของจางเหวินชิง จึงรีบขยับตัวเพื่อจะออกจากอ้อมแขนของเขา "จะรีบลุกไปไหน ยังเช้าอยู่เลย ?"แต่ว่าจางเหวินชิงกลับไม่ยอมปล่อย เขากลับกอดกระชับอ้อมแขนแกร่งรัดตัวเธอให้แน่นขึ้น "คุณ..ปล่อยนะ"เธอบอกเขาเสียงห้วน สายตามองหาร่างอ้วนกลมของลูกชาย ก็พบว่าจางจ้าวเหวินนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียง"เมื่อก่อนคุณรังเกียจฉันอย่างกับอะไรไม่ใช่หรือไง ?"จบประโยคของเธอ จางเหวินชิงจึงได้คลายอ้อมแขนออก สายตามีแวววูบไหวอยู่ในนั้น แต่หลินเสี่ยวเหยาไม่ได้สนใจท่าทางของเขา ปีนลงจากเตียงและไปปลุกลูกชายให้ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนจางเหวินชิงจึงได้ลุกขึ้น เขากลับไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องนอนของตัวเอง และไปนั่งรอสองแม่ลูกที่โต๊ะทานข้าว"วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ ?"คุณย่าเอ่ยถาม เพราะเห็นว่าวันนี้เขาใส่ชุดลำลอง เสื้อยืดสีเทาแขนยาวแล้วก็กางเกงสแล็คสีกรมท่า ไม่ใช่ชุดสูทสำหรับไปทำงาน"ผมจะไปร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนของจ้าวเหวินครับ""คุณย่าไปด้วยไหมครับ ?"จางจ้าวเหวินเดินเข้ามาพร้อมแม่ ทันได้ยินที่คุณย่าคุยกับพ่อ เขาจึงชวนท่านไปด้วย "ไม่ล่ะ หนูไปกับคุณพ่อค

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 27 ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง

    "ฉันคุยกับคุณย่าแล้ว ท่านไม่มีปัญหาค่ะ รอแค่เราสองคนพร้อมเท่านั้น ท่านเคารพการตัดสินใจของเรา"คำพูดของหลินเสี่ยวเหยาสะท้อนกลับไปกลับมาในโสตประสาทของจางเหวินชิง จู่ ๆ เขาก็ไม่อยากหย่ากับเธอขึ้นมา ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลยจะว่าไปแล้วที่หลินเสี่ยวเหยามีนิสัยที่ไม่ดีหลายอย่าง ทั้งตามหึงหวง เหวี่ยงวีนผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ความผิดส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเขาเอง เขาไม่เคยให้เกียรติเธอในฐานะภรรยา เย็นชาและไม่เคยพูดดีกับเธอเลยสักครั้ง แถมยังท้ทเธอหย่าเกือบทุกวัน จนเธอต้องสร้างเรื่องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่พอมาวันนี้เธอหยุดทำแบบนั้นและเป็นคนเอ่ยปากเรื่องหย่าขึ้นมาเองเขากลับรู้สึกเจ็บจางเหวินชิงยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก อยากจะข่มตาให้นอนหลับ แต่มันก็หลับไม่ลง เขาเลื่อนมือลงไปลูบตรงสะบักเอวของตัวเองเบา ๆ'ไตของเธอข้างหนึ่งอยู่กับเขา'หลินเสี่ยวเหยาคงรักเขามากจริง ๆ แม้แต่อวัยวะในร่างกายยังยอมเสียสละให้เขาได้ นี่เขาตามืดบอดมองไม่เห็นความรักของเธอได้ยังไงกัน แต่กับกู่เยี่ยนถิงเขากลับหลงเชื่อและงมงาย คิดว่าเธอรักเขาจริง ๆ แต่แท้จริงแล้วเธอวางแผนทุกอย่างเพื่อใช้เขาเป็นสะพานไปสู่ความต้

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 26 จะเป็นยังไงต่อไป

    หลังจากเรื่องของกู่เยี่ยนถิงผ่านไป ถึงแม้ว่าความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยแล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลินเสี่ยวเหยาและจางเหวินชิงก็ไม่ได้ดีขึ้นจากแต่ก่อนเลยหลินเสี่ยวเหยาโกรธที่จางเหวินชิงไม่ยอมจัดการตอนที่รู้ว่ากู่เยี่ยนถิงปองร้ายจางจ้าวเหวิน ส่วนตัวจางเหวินชิงนั้นเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เรื่องราวไม่ดีต่าง ๆ เกิดขึ้นมา รวมทั้งเรื่องที่ความจริงแล้ว คนที่มอบไตให้เขาก็คือหลินเสี่ยวเหยาไม่ใช่กู่เยี่ยนถิงด้วยจางเหวินชิงกินนอนที่บริษัทเป็นส่วนใหญ่ เขาแทบไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เลย แม้แต่คุณย่าเองที่เมื่อก่อนจะเป็นเดือดเป็นร้อนทุกครั้งที่เขาไม่ยอมกลับบ้าน มักจะคอยโทรตามขอร้องกึ่งบังคับให้เขากลับ แต่ตอนนี้ท่านกลับไม่ทำแบบนั้นเลย"พ่อคร้าบบ"วันนี้เป็นวันเสาร์ จางจ้าวเหวินไม่ได้ไปโรงเรียน เขาจึงมาหาจางเหวินชิงที่บริษัท เนื่องจากว่าพ่อไม่กลับบ้านนานนับเดือนแล้ว เจ้าตุ้ยนุ้ยคิดถึงพ่อมาก จึงขอให้แม่พาเขามา "จ้าวเหวิน มาได้ยังไง ?"ร่างอ้วนกลมของจางจ้าวเหวินวิ่งเข้าไปหาพ่อที่ห้องทำงาน จางเหวินชิงก้าวยาว ๆ ไปหาลูกชาย แล้วก็ย่อตัวลงอุ้มเจ้าตุ้ยนุ้ยขึ้นมา เขากอดคอพ่อเอาไว้แล้ว

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 25 ความจริงเปิดเผย (ต่อ)

    ราว ๆ ห้าโมงเย็นจางเหวินชิงก็กลับมาถึงคฤหาสน์ เขารีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก เพราะเกาถานแจ้งว่า กู่เยี่ยนถิงอยู่ที่นั่น"เยี่ยนถิง คุณมาทำไม ?"เขาถามเธอออกไปด้วยความโมโห แล้วก็กระชากแขนเธอให้ลุกขึ้น"ก็คุณไม่ยอมไปหาฉัน พอฉันไปหาคุณที่บริษัทคุณก็ไล่ฉันกลับ ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณโกรธฉันเรื่องอะไร ?"กู่เยี่ยนถิงถามเขาเสียงเครือ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาคลอหน่วย "เยี่ยนถิง เพราะอะไรคุณรู้ดีที่สุด"จางเหวินชิงบอกกับเธอเสียงเย็นชา กู่เยี่ยนถิงชะงักไป อย่าบอกนะว่าเขารู้อะไรมา แต่ว่าเธอก็ยังคงบีบน้ำตาและถามเขาออกมาเสียงสั่น ดูช่างน่าสงสาร"รู้อะไรคะ ?""เลิกเสแสร้งเถอะ ผมรู้เรื่องหมดแล้วทั้งเรื่องที่คุณวางยาจ้าวเหวินเพื่อจะโยนความผิดให้เสี่ยวเหยา แล้วก็ที่คุณวางยาเดวิด เพราะว่าคุณเป็นคนสั่งให้เขามาจับตัวเสี่ยวเหยา คุณย่าและจ้าวเหวิน"เขาพูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ ย้ำชัด ๆ ให้ผู้หญิงตรงหน้าได้ยิน แต่ว่ากู่เยี่ยนถิงกลับปฏิเสธ"ไม่จริงค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น แม้แต่มดสักตัวฉันยังไม่เคยฆ่า แล้วฉันจะวางยาเดวิดกับลูกชายคุณได้ยังไง !?""คุณหยุดพูด และกลับไปเสียเถอะแล้วก็อย่ามายุ่งกับผมอีก ผมไม่

  • แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง   บทที่ 24 ความจริงเปิดเผย

    "เหวินชิงคะ"กู่เยี่ยนถิงมาดักรอพบเขาที่บริษัท แต่ว่ารปภ. ไม่ยอมให้เธอเข้าไปเพราะจางเหวินชิงสั่งเอาไว้ เธอไม่มีข้ออ้างแล้วด้วยเพราะงานถ่ายแบบที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับจางกรุ๊ปนั้นถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงหวานทันทีที่เขาก้าวลงมาจากรถ กู่เยี่ยนถิงมารอเขาที่ลานจอดรถตั้งแต่เช้าแล้ว เพราะว่าจางเหวินชิงไม่ยอมไปหาเธอเลยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวคนในครอบครัวเขา พอเธอโทรหาและถาม เขาก็บอกว่างานยุ่ง"เยี่ยนถิง มาทำไม ?"น้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมานั้น กู่เยี่ยนถิงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน แม้จะโกรธแต่ก็ต้องระงับเอาไว้ เอ่ยบอกเขาเสียงอ่อนหวาน"ฉันคิดถึงคุณ"พูดจบก็เดินเข้าไปใกล้เพื่อจะเกาะแขนเขา แต่จางเหวินชิงสะบัดแขนออก"กลับไปเถอะเยี่ยนถิง แล้วก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก""อะไรกันคะเหวินชิง ทำไมพูดแบบนี้ คุณโกรธเรื่องอะไร ?"เธอรีบถามเขาเสียงแผ่ว น้ำตารื้นขึ้นมาทันที สบตากับเขาใบหน้าแดงก่ำ ราวกับเจ็บปวดนักหนา ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน จางเหวินชิงจะรีบกอดและเอ่ยปลอบใจเธอทันที แต่ว่าวันนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"คุณกลับไปเถอะ"เขาพูดเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status