องค์หญิงอิ๋งเออร์มีแต่คนรัก ไร้ซึ่งคนเกลียด
เป็นประโยคที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะกับใครในโลกก็ตาม
แต่เขาสามารถยืนยันด้วยเลือดเนื้อและไขกระดูกของเขาว่าทุกอย่างคือความจริง
การจัดสรรที่ทางรอบตำหนักองค์หญิงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล่นสนุก แต่คือการทดลองอย่างหนึ่ง
พืชพรรณแปลกๆ ที่องค์หญิงน้อยค้นพบและนำมาปลูกตั้งแต่สมัยสามชันษาถือเป็นผลงานชิ้นเอกตลอดกาล ด้วยไม่เพียงแต่มีประโยชน์มากมาย เช่น ด้านสรรพคุณทางยา ด้านสารอาหารทดแทนต่างๆ ยังเป็นพืชพรรณที่ปลูกได้ง่ายหากรู้วิธีการที่ถูกต้องและสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนสัตว์บางตัวถึงแม้จะไม่มีประโยชน์อะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ฉลาดแสนรู้มาก สามารถเรียกใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น พวกเหยี่ยวหรือนกอินทรีย์ ที่ดูเหมือนจะฟังคำพูดขององค์หญิงน้อยเข้าใจทุกอย่าง
องค์หญิงน้อยสามารถเข้ากันได้ดีกับสัตว์ที่คนส่วนใหญ่มักกลัว เช่น งู ตุ๊กแก กบ หรือแมลงมีพิษต่างๆ
นอกจากการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์พืชแล้ว เมื่อถึงวัยห้าชันษา เฉินอิ๋งเออร์ก็เริ่มเสนอแนวความคิดแปลกๆ ที่ช่วยให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เป็นแนวคิดแปลกใหม่ซะจนไม่น่าจะมีใครคิดได้ แต่กลับเป็นเพียงความรู้ปกติที่มีอยู่ทั่วไปในชาติปัจจุบันของขุนนางหลี่เฉิงไห่ จนเขาสงสัยว่าองค์หญิงได้ย้อนเวลาจากยุคปัจจุบันกลับไปเกิดในยุคนั้นหรือเปล่า
หากถามว่าทำไมองค์หญิงมีแต่คนรัก คงต้องบอกว่าเป็นเพราะการเสนอแผนการป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง การป้องกันรักษาการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค การส่งต่อความรู้ในการปลูกพืชพรรณและเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้ช่องทางใหม่ให้กับชาวบ้าน
และที่ไม่มีคนเกลียด เป็นเพราะฝ่าบาทที่คอยให้ท้ายตามอกตามใจเสียทุกอย่างน่ะสิ
เป็นการให้ท้ายที่ไม่ทำให้เสียคนแต่ประการใด เพราะองค์หญิงคือคนที่รู้มารยาท รู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก
อาจจะเป็นเพราะการสูญเสียพระมารดาไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงทำให้ได้รับความสงสารความเห็นใจเป็นพิเศษ หรือเพราะนิสัยออดอ้อนน่ารักน่าเอ็นดูที่หลอมละลายหัวใจน้ำแข็งขององค์ราชาได้...
เหล่านี้ต่างเป็นเหตุผลที่ถูกคาดเดาโดยข้าราชบริพารทั้งหลาย
นอกจากนี้ยังเป็นที่เลื่องลือไปไกลว่าฝ่าบาทเอ็นดูองค์หญิงมากกว่าทายาทคนอื่นๆ พวกขุนนางหัวเก่าไม่สามารถคัดค้านขัดขวางการทดลองหรือแผนการต่างๆ ขององค์หญิงได้ และเหล่านักฆ่าที่ต้องการจะช่วงชิงตัวองค์หญิงเป็นตัวประกันเพื่อกดดันฝ่าบาทยังถูกกวาดล้างจนสิ้นวงศ์ตระกูล ไม่เหลือแม้แต่ญาติพี่น้องห่างๆ ไว้สืบวงศาคณาญาติ
ส่งผลให้องค์หญิงมีอำนาจที่ทำให้คนโกรธเกลียดไม่ลง เพราะทุกสิ่งที่เธอทำคือการทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
“เสี่ยวอิ๋ง ข้าชอบของเล่นคราวก่อนของเจ้ามาก” ท่านชายหมายถึงเชือกกระโดดที่องค์หญิงเป็นคนออกแบบและให้ฝ่ายช่างเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา
“ใช่ๆ น้องชายข้าก็ชอบชุดสัตว์กระดาษที่เจ้าให้ไปมากเลย”
นอกจากเหล่าประชาชนที่รักองค์หญิงน้อยแล้ว บรรดาเครือญาติขององค์หญิงต่างก็คลั่งไคล้เธอไม่แพ้กัน
“แขนเสี่ยวอิ๋งนุ่มมาก ทำไมน้องชายข้าถึงไม่นุ่มแบบนี้นะ”
“ใช่ๆ ทำไมข้าถึงไม่มีน้องสาวแบบเสี่ยวอิ๋งบ้าง”
การห้อมล้อมไปด้วยชายหนุ่มหล่อเหลามากมายทั้งพี่ชายร่วมสายเลือด ทั้งญาติผู้พี่ญาติผู้น้องที่ล้วนเป็นเพศชาย และเหล่าขุนนางเหล่าองครักษ์หนุ่มรุ่นใหม่มากมาย ทำให้อิ๋งเออร์มีภูมิต้านทานความหล่อเป็นพิเศษ
นอกจากนี้องค์หญิงยังไม่สนใจเรื่องระบำ ดนตรี กาพย์กลอนใดๆ หรือแม้กระทั่งการซุบซิบพูดคุยถึงเรื่องท่านชาย แตกต่างกับท่านหญิงคนอื่น
ทำให้เหล่าญาติๆ ที่ห้อมล้อมองค์หญิงอยู่ตลอดเวลารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งฝ่าบาทก็ไม่เคยคิดที่จะเอ่ยถึงเรื่องการหาคู่ครองหรือการหมั้นหมายให้องค์หญิง
สิ่งนี้ทำให้แม่นมที่คอยเลี้ยงอิ๋งเออร์มารู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นที่สุด
ถึงจะไม่เป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อม แต่หน้าตา มารยาท ยศถาบรรดาศักดิ์ และความฉลาดนั้นไม่เป็นสองรองใคร จะปล่อยให้คนที่หาได้ยากแบบองค์หญิงของเธอกลายเป็นสาวเทื้อไปได้เยี่ยงไร
แล้วไหนจะเหล่าเด็กขอทาน เด็กกำพร้า ที่องค์หญิงทรงรับมาเลี้ยงดูส่งเสียให้ได้เล่าเรียนอีกเล่า
ดึงดูดความสนใจขององค์หญิงไปหมดจนไม่เหลือที่ว่างให้กับใครอีกแล้ว
ภาพหญิงสาวในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขายาวสวยไร้ซึ่งตำหนิที่กำลังยืนกอดกล่องอะคลิลิกใสขนาดเท่าอ้อมแขนอยู่หน้ารั้วบ้านของเขา ทำให้พิรุณรู้สึกอบอุ่นใจแปลกๆ
ดวงตากลมโตแวววาวราวกับกวางน้อยที่สบเข้ากับสายตาคมเข้ม ช่างน่าเอ็นดูซะจนชายหนุ่มรู้สึกถึงความปรารถนาแบบเดียวกับที่เขาเคยมีในชาติก่อน
สายตาคมที่ยังคงจ้องมาไม่หยุดผ่านรั้วเตี้ยขนาดเท่าเอว ส่งผลให้ร่างบางเริ่มรู้สึกเขินอายนิดหน่อย โชคดีที่เจ้าตุ๊กแกหางอ้วนสีส้มในกล่องขยับตัวเดิน เลยหันเหความสนใจของเธอออกมาได้
“คอนเน่ เราถึงบ้านใหม่กันแล้วนะ”
เสียงงุ้งงิ้งพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย
องค์หญิงของเขายังคงเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเหมือนเดิม... พิรุณยิ้มบางๆ ก่อนจะกดปุ่มรีโมทเปิดประตูรั้วออกกว้าง พอที่จะให้คนที่รับจ้างขนของย้ายบ้านขนของของหญิงสาวเข้ามาได้สะดวก
ตอนแรกเฌอเอมก็อยากจะเกรงใจเขา ขนของมาเพียงนิดเดียว
แต่การรีโนเวทบ้านทั้งหลังต้องใช้เวลานานหลายเดือนจนถึงปี การจะย้ายไปอยู่ที่อื่นก็ต้องทำให้ที่นั้นเหมือนเป็นบ้านของเธอ ไม่อย่างนั้นตารางชีวิตของเธอจะรวนและงานที่รับมาอาจจะเดินยาก
เหล่าสัตว์เลี้ยง ต้นไม้ และหนังสือ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งจำเป็นต่อความรู้สึกของเธอทั้งนั้น
ซึ่งพิรุณก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเป็นคนบอกให้เธอขนของมาได้มากเท่าที่เธอต้องการด้วยซ้ำ
หญิงสาวเดินเข้าไปในบริเวณบ้าน ก่อนจะเปิดประตูบ้านเข้าไปอย่างคนชำนาญทาง ปล่อยให้เจ้าบ้านคอยดูพนักงานขนส่งค่อยๆ ขนของเข้ามา
หลังจากเหตุการณ์แกล้งเป็นแฟนกัน ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว
เป็นหนึ่งสัปดาห์ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งการมาดูบ้านของพิรุณที่โคราช การจัดข้าวของเตรียมย้ายออก และการพยายามแพ็คเก็บข้าวของส่วนตัวอย่างอื่นที่ไม่ได้ใช้ไว้ในห้องเก็บของห้องเดียวของบ้านที่กรุงเทพ
รู้ตัวอีกที ก็ถึงวันย้ายบ้านเสียแล้ว
“อยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวเอมไปเอาเพื่อนๆ มาก่อน”
วางคอนเน่ไว้ในห้องนอนเสร็จ ก็รีบเดินออกไปที่รถขนของเพื่ออุ้มเอากล่องสัตว์เลี้ยงตัวอื่นออกมา ด้วยไม่ไว้วางใจคนอื่น กลัวน้องจะถูกกระทบกระเทือน
นอกจากตุ๊กแกหางอ้วนนามคอนเน่แล้ว ยังมีตุ๊กแกเสือดาว รังมดเมล็ดพืช แมงมุมทารันทูล่า กบฮอร์นฟรอก หนูแกสบี้ เต่าอัลดาบร้า และสุดท้าย ไก่ซิลกี้
หลากหลายซะจนพิรุณยังแอบแปลกใจไม่ได้
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่เธอขอเอาสัตว์เลี้ยงมาอยู่ด้วย ถึงได้พูดเสียงแผ่วเบาอย่างเกรงใจขนาดนั้น
ถึงจะแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร องค์หญิงในชาติก่อนยังเลี้ยงสัตว์ไว้เยอะกว่านี้อีก นอกจากสัตว์แล้วยังเลี้ยงคนอีกต่างหาก
แต่อย่าได้หวังว่าชาตินี้เขาจะปล่อยให้เธอได้มีโอกาสเลี้ยงคนอื่นเลย
คนเดียวที่เธอจะเลี้ยงได้ ต้องมีเพียงเขาเท่านั้น
“เจ้!”
เสียงตะโกนดังลั่นออกมาทันทีที่กดรับสายสนทนาทางไกลจากน้องชายสุดที่รักเพียงหนึ่งเดียวของเธอ
“พูดเบาๆ ก็ด้ายยย”
“ผมคิดถึงเจ้สุดๆ เลย เจ้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผมได้มั้ย”
เด็กอายุสิบแปดปีที่อยู่ปลายสายส่งเสียงออดอ้อน
ที่เขาหวังให้พี่สาวซื้อตั๋วเครื่องบินให้ เพราะเลขาของป๊าคอยคุมรายการการใช้จ่ายของเขาไว้หมด หากเขาเอาเงินไปใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินเมื่อไหร่ จะต้องโดนลงโทษไม่ให้กลับไทยแน่ๆ ยิ่งทยอยแอบโอนไปให้เพื่อนซื้อตั๋วให้ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย โดนรู้ทันตลอด
“เดี๋ยวปิดเทอมหน้าก็ได้กลับมาแล้ว”
“โห อีกตั้งหลายเดือน ผมไม่ได้เจอเจ้มาจะเกือบปีแล้วนะ” เขาปิดเทอมปีละสองถึงสามครั้งก็จริง แต่ป๊าอนุญาตให้เขากลับไทยแค่ปีละครั้งเท่านั้น
“เอาน่า ทนๆ หน่อย”
“ว่าแต่ทำไมเจ้ไม่เปิดกล้องอ่ะ เปิดกล้องหน่อยสิ”
“เจ้กำลังจัดห้องอยู่”
“จัดห้อง? จัดห้องอะไรกัน ห้องเจ้โล่งสะอาดขนาดนั้น มีอะไรให้จัดอีก”
“อ่ะ ดูซะ” เฌอเอมเปิดกล้องให้อีกฝ่ายได้ดูห้องนอนใหม่ของเธอที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เหลือแค่จัดโซนนั่งทำงานเท่านั้น
“หืมมม ไม่คุ้นเลย” หนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาผู้มีเครื่องหน้าคล้ายๆ พี่สาว ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นภาพพี่สาวและห้องอันแปลกตา
“ก็ป๊านายน่ะสิ จู่ๆ อยากจะรีโนเวทบ้าน เจ้ก็เลยต้องย้ายออกมานี่ไง”
“อ้าว แล้ว...”
ยังไม่ทันที่ธารณ์จะได้ถาม ร่างสูงของผู้ชายแปลกหน้าที่เดินผ่านประตูห้องซึ่งเปิดกว้างไว้อยู่ ปรากฏเข้ามาให้เห็นในกล้องทำให้เขาชะงักไป
“ผมเอาไขควงมาให้ คุณอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้ตลอดนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอเบี่ยงกล้องโทรศัพท์ออกไปทางอื่น
“คะ...ใครน่ะ” เขาจากไปไม่ถึงปี พี่สาวเขาถึงกับเอาผู้ชายเข้าบ้าน!
“อ่า... จะว่ายังไงดีล่ะ”
“ผมเป็นแฟนของเอมน่ะครับ” หญิงสาวหันไปมองอย่างอึ้งๆ ไม่นึกว่าเขาจะสวมบทบาทต่อหน้าน้องชายของเธอด้วย
“ห๊ะ พี่ถึงกับย้ายไปอยู่กับแฟนเลยเหรอ!!?” เสียงโวยวายดังลั่น ทำเอาเฌอเอมกดวางสายแทบไม่ทัน
“อย่าสนใจน้องชายฉันเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ครับ” เสียงทุ้มเว้นระยะนิดหนึ่ง “ผมเตรียมข้าวเย็นไว้เยอะ ถ้าเสร็จแล้ว ลงไปกินด้วยกันนะครับ”
“อ่า ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มอย่างมีมารยาทไปให้
ชายหนุ่มค่อยๆ เดินจากไปอย่างอ้อยอิ่ง ทว่าในสมองกลับเต็มไปด้วยความคิดสลับซับซ้อนมากมาย
โชคดีที่ในชาตินี้องค์หญิงของเขามีน้องชายเพียงคนเดียว ไม่ได้มีพี่ชายหกคนที่คอยแวะเวียนเข้ามาแย่งชิงความรักแย่งชิงเวลาขององค์หญิงไปเหมือนชาติก่อน
ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องปล่อยเธอไปอีก...
เพราะเขาอาจทนไม่ได้ที่เห็นเธอแบ่งปันเวลาอันมีค่าที่ควรจะใช้กับเขาไปให้กับคนอื่น ทนไม่ได้จนต้องกักขังให้เธอไม่ได้ออกไปไหน ไม่ให้เธอให้ความสำคัญกับคนอื่นไปมากกว่าเขา
แต่หากการเลือกนั้นจะทำให้เธอสูญเสียรอยยิ้มอันสดใสไป เขาขอยอมเลือกเป็นฝ่ายจากไปซะดีกว่า
20คำสารภาพ ‘ไก่จิกเด็กตายเฎ็กฏายบนปากโอ่ง’ ‘...’ ‘แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู’ ‘...’ ‘คุณพิรุณ ธนจิรกานต์’ ‘องค์หญิง...’ ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปเป็นลุ้นๆ ทันทีเมื่อได้ยินเสียงตอบกลับจากขุนนางหนุ่ม ‘ท่านควรคิดก่อนพูดนะขอรับ’ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันทีเมื่อได้ยินคำพูดต่อมา ถึงหน้าตาจะคล้ายพี่พาย และความคิดหรือกิริยาท่าทางจะเหมือนพี่พายมากยังไง แต่ความเงียบขรึมและระยะห่างที่จงใจเว้นไว้อย่างชัดเจน ทำให้เฌอเอมรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่พายของเธอ และต่อให้โคลนนิ่งออกมาเหมือนแค่ไหน แต่ขุนนางหลี่ก็ไม่มีทางแทนที่แฟนหนุ่มของเธอได้ เขาไม่ใช่คนที่เธอเคยใช้ชีวิตร่วมกัน หรือผ่านการพูดคุยด้านทัศนคติและแนวคิดมาด้วยกัน นี่คือเหตุผลที่เธอไม่อยากเจอขุนนางหลี่เฉิงไห่อีกทั้งที่ตอนแรกคอยสอบถามนางกำนัลอยู่บ่อยๆ ว่าขุนนางหลี่อยู่ที่ใด และตามไปทดสอบเขาอยู่เสมอๆ แต่ไม่ว่าเธอจะทดสอบเขากี่ครั้งก็ตาม ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่พายจะเข้ามาสิงร่างเขา เหมือนกับที่เธอเข้ามาสิงร่างขอ
19อดีตชาติ เฌอเอมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งโดยไร้ซึ่งกายหยาบ แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนตรงที่เธอสามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้สะดวก และไม่มีภาพเหมือนฉากหนังฉายผ่านให้เห็นอีก เพราะอิสระที่มีมากขึ้น ทำให้เธอได้ฉุกคิดและนึกย้อนไปถึงภาพความฝันที่ถูกฉายให้เห็น น่าแปลกที่องค์หญิงคนนั้นมีหน้าตาเหมือนเธอมาก ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือน จนเธอแอบนึกว่าทุกอย่างคือเรื่องของเธอ แต่มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกันล่ะ คนเราจะมีความทรงจำในสถานที่และยุคสมัยที่ไม่เหมือนกับที่ตัวเองอาศัยอยู่ได้ยังไงกัน นอกจากนี้ภาพฝันสุดท้ายยังทำให้เธอตกใจสุดๆ เพราะขุนนางหลี่คนนั้น... คนที่เธอเห็นหน้าเห็นตาไม่ชัดในฝันแรก กลับโผล่มาอย่างชัดเจนในความฝันที่สี่ และเขาก็มีหน้าตาคล้ายแฟนหนุ่มของเธอมาก ถึงจะไม่เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บุคลิกภาพและการพูดการจานั่นมันแฟนเธอชัดๆ นี่เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ฝันถึงเรื่องของตัวเองและพี่พายได้เป็นตุเป็นตะ ฝันถึงเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยสักนิด โชคดีที่เธอยังคงจำเรื่องราวทุกอย่างได้ และระลึกได้ว่าต้องหาทางตื่นจากฝัน
18เรื่องที่ปิดบังไว้ เนินเขาขนาดกำลังพอดีซึ่งถูกปกคลุมไปทั่วด้วยหญ้าสีเขียวชอุ่มเพราะได้รับน้ำจากฤดูฝนอย่างสม่ำเสมอนั้น ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันรอบด้าน มีเพียงข้างหน้าเท่านั้นที่เปิดโล่ง ทำให้เห็นวิวบ้านเรือนซึ่งตั้งอยู่ประปรายเบื้องล่าง ปะปนกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นของรีสอร์ท หมู่บ้านจัดสรร และโครงสร้างแบบสมัยก่อนของบ้านที่ถูกสร้างมานาน เขาใหญ่ก็ยังเป็นเขาใหญ่ ต่อให้พื้นที่หลายๆ ส่วนถูกเปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ทหรือสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเพียงใด แต่ธรรมชาติอันเขียวขจีก็ยังคงอยู่ คู่กับอากาศอันแสนสดชื่น เหมาะเป็นสถานที่ตากอากาศและสถานที่ทำงานสำหรับฟรีแลนซ์อย่างเฌอเอม ข้างบนเนินเขาซึ่งเป็นทุ่งหญ้าราบอันกว้างขวางและเป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยมที่น้อยคนนักจะรู้นั้น มีร่างของหญิงสาวแสนสวยในชุดเสื้อเปิดบ่าและกางเกงยีนส์ขายาวกำลังนั่งชันเข่าอยู่ ผมสีดำยาวถึงกลางหลังปลิวสยายเบาๆ ไปตามสายลมที่พัดโชยมาเป็นระยะ เพราะเมื่อวานฝนเพิ่งตกไป ทำให้ความชื้นหอบกลิ่นไอดินและกลิ่นเขียวของต้นไม้ขึ้นมา ฝุ่นและความสกปรกต่างๆ ถูกชำระล้างไปพร้อมกับสายฝน จนอากาศรอบกา
17คำเตือน “เธอมีดวงโดนมังกรกักขังกลืนกิน เขาจะครอบครองเธอให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว” แม่หมออายุสามสิบกว่าปีอ่านไพ่ที่อยู่ตรงหน้า “…” “เขาไม่ชอบให้เธอพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น แม้แต่จะพูดถึงก็ไม่ได้” “โอ้” “ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขาไม่อยากให้เธอมีคนในครอบครัวหรือคนที่ต้องใส่ใจเยอะ เพราะเธอจะต้องใส่ใจเขาคนเดียวเท่านั้น เขาไม่อยากให้เธอเอาเวลาที่ควรจะเป็นของเขาไปให้กับคนอื่น” “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ออกจะเกินไปนิด แต่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ชอบให้เธอพูดถึงเพื่อนผู้ชายคนอื่นจริงๆ “ใช่แล้ว ไหนขอแม่หมอเปิดไพ่เพิ่มหน่อย...” เสียงสับไพ่ดังขึ้น “คุณเจอผู้ชายคนนี้แล้วหรือยัง” “…” “อ้าว ไพ่บอกว่าคุณเจอแล้วนะ แถมยังอยู่ใกล้ตัวมากๆ ด้วย” “น่าจะอย่างงั้นแหละค่ะ” ถ้าไม่ใช่พี่พาย แล้วจะเป็นใครไปได้อีก พวกเธอเล่นตัวติดกันซะขนาดนี้ “โอ๊ะ ดูเหมือนคุณกับเขาจะเป็น Twin Flame กันด้วย” “คู่กรรม?” “ไม่ใช่ เป็นทั้งคู่แท้ และวิญญาณที่ขาดหายเลย” พอได้ฟัง เฌอเอมถึงกับหันไปมองหน้าเพื่อนสา
16สายลมและแสงแดด “แล้วอีกอย่าง พี่ก็หวงเมียพี่เหมือนกัน ไม่ได้อยากจะแชร์ให้ใครเห็น” “ใครเป็นเมียพี่กัน” เสียงโวยวายดังมาจากร่างที่อยู่ในอ้อมแขน “ตอนปกติเป็นแฟน แต่ตอนเอากันเป็นเมีย ถูกมั้ยล่ะ” “พูดจาน่าเกลียด” “น่าเกลียด แล้วใครกันที่ร้องครวญครางเพราะXพี่ทุกคืน แถมยังร้องว่าเสียวๆๆ ซะถี่จัด” หญิงสาวหน้าแดงก่ำกับคำพูดห่ามๆ นั้น จะเถียงก็เถียงไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องจริง ชายหนุ่มจ้องมองคนหน้าเปลี่ยนสีเพราะคำพูดของเขาอย่างเอ็นดู แต่ตอนนี้ความร้อนในร่างกายต้องการการปลดปล่อยและอยากให้เธอได้ดูเอ็นเขามากกว่า เขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง โดยที่ให้แฟนสาวนั่งคร่อมตักของตน หันหน้าเข้าหากัน หลังจากมีอะไรกันมาร่วมจะสองเดือน แน่นอนว่าท่าทุกท่าย่อมถูกใช้ออกมาหมด และแฟนของเขาก็ถูกเคี่ยวกรำจนเริ่มจะช่ำชองเอามากๆ ไม่จำเป็นต้องบอกให้เธอทำอะไร เพราะเธอนั้นสามารถตอบสนองเขาได้อย่างรู้ใจสุุดๆ เหมือนกับคนที่เกิดมาคู่กัน นี่แหละที่เขาว่ากันว่าความรักจะไปกันรอดหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าเซ็กซ์จะเข้าขากันด
15งอน “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่พาย” น้ำเสียงหวานเจืองัวเงียของหญิงสาวดังขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอขยี้ตาอย่างพยายามทำตัวให้ตื่น เพราะเมื่อคืนดื่มไปหนักมาก จนแอบรู้สึกอึนๆ นิดหน่อย แต่น่าแปลกที่พอลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว กลับเห็นแฟนหนุ่มของเธอนอนลืมตามองหน้าเธออยู่เงียบๆ “ครับ” เสียงตอบเรียบๆ ทำให้เฌอเอมรู้สึกเอะใจ เพราะปกติเขามักตอบกลับมาเป็นจูบอรุณสวัสดิ์แสนหวาน ไม่ก็ตอบรับด้วยเสียงทุ้มนุ่มเสมอ เมื่อคืนหลังจากที่ตามตัวกอหญ้าซึ่งเผลอเข้าไปนอนหลับในห้องน้ำ (อย่างที่เธอกังวลไว้ไม่มีผิด) จนเจอแล้ว ทั้งสามคนก็ตรงไปยังรีสอร์ทที่กอหญ้าจองห้องไว้เพื่อมาพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งคืน แต่เพราะยังไม่รู้สึกเมาเท่าไหร่ และอยากจะสนุกต่อ ทำให้เฌอเอมเห็นดีเห็นงามกับไอเดียของกอหญ้าที่ว่าควรจะนั่งดื่มกันต่ออีกสักนิด เลยจบลงด้วยการที่พวกเธอและพี่พายตั้งวงดื่มเบียร์กระป๋องกันชิลล์ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของรีสอร์ท และได้ดูดาวไปด้วยในตัว ขณะที่นั่งดื่ม เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตั้งวงดื่มกันที่รีสอร์ทตั้งแต่แรกก็จบแล้ว จะได้ไม่โดนคนหน้า