ชาติก่อน เธอคือแสงจันทร์ขาวของเขา คนที่เขาไม่กล้าเอื้อมมือไปไขว่คว้า เพราะเธอคือที่รักของทุกคนในแผ่นดิน แต่ชาตินี้ เธอคือของเขา... ของพิรุณคนเดียวเท่านั้น
더 보기"เธอมีดวงโดนมังกรกักขังกลืนกิน เขาจะครอบครองเธอให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว" แม่หมออายุสามสิบกว่าปีอ่านไพ่ที่อยู่ตรงหน้า
"..."
"เขาไม่ชอบให้เธอพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น แม้แต่จะพูดถึงก็ไม่ได้"
"โอ้"
"ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขาไม่อยากให้เธอมีคนในครอบครัวหรือคนที่ต้องใส่ใจเยอะ เพราะเธอจะต้องใส่ใจเขาคนเดียวเท่านั้น เขาไม่อยากให้เธอเอาเวลาที่ควรจะเป็นของเขาไปให้กับคนอื่น"
"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ"
“ใช่แล้ว ไหนขอแม่หมอเปิดไพ่เพิ่มหน่อย...” เสียงสับไพ่ดังขึ้น “คุณเจอผู้ชายคนนี้แล้วหรือยัง”
“...”
“อ้าว ไพ่บอกว่าคุณเจอแล้วนะ แถมยังอยู่ใกล้ตัวมากๆ ด้วย”
“น่าจะอย่างงั้นแหละค่ะ”
“โอ๊ะ ดูเหมือนคุณกับเขาจะเป็น Twin Flame กันด้วย”
สามเดือนก่อน...
วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งเป็นพิเศษ บรรยากาศแจ่มใสต่างกับวันก่อนหน้าลิบลับ ทำให้ชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังเดินเข้าไปในอาคารรู้สึกว่าวันนี้ต้องเป็นวันที่ดีมาก การติดตามงานและส่งงานจะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน
พิรุณ คือชายหนุ่มคนนั้น เขามีรูปร่างสูงใหญ่แต่ดูคล่องแคล่ว แต่งกายด้วยชุดสูทไม่ติดกระดุมทับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมบนสองเม็ด ให้ความรู้สึกกึ่งทางการ ขาเรียวยาวก้าวอย่างมั่นคงตามพื้นกระเบื้องไปยังจุดประชาสัมพันธ์เพื่อแลกบัตรผู้มาเยือน (Visitor) ซึ่งกระบวนการทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากเขามีชื่ออยู่ในระบบตลอดเวลาอยู่แล้ว
หน้าคมเข้มแต่ขาวมีเลือดฝาดอย่างคนสุขภาพดี พร้อมกับบรรยากาศอันผ่อนคลายที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัว ทำให้เหล่าพนักงานออฟฟิศสาวๆ แอบมองอย่างจรรโลงใจ จนบางคนเกือบจะเดินเข้าไปทักเพราะใบหน้าที่ดูเป็นมิตรของชายหนุ่มแล้วด้วยซ้ำ
“สวัสดีค่ะคุณเฌอเอม”
“สวัสดีค่ะ คุณป้าง”
“สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
“ช่วงนี้มีโปรเจกต์ใหญ่น่ะค่ะ เลยไม่ค่อยได้มารับโปรเจกต์ของฝั่งนี้”
จู่ๆ โถงอาคารที่เต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศเดินกันขวักไขว่ก็มีบรรยากาศเปลี่ยนไป เพราะเสียงใสๆ ของสาวน้อยขวัญใจพนักงานบริษัท
พิรุณเพียงปรายสายตาไวๆ ไปทางเสียงใสนั้น ก่อนจะหยุดชะงัก
เฌอเอม หญิงสาวเจ้าของเสียงกำลังพูดคุยทักทายกับพนักงานหลายคนอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มหวาน ด้วยส่วนสูงที่น่าจะมากกว่าหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรและขาที่เรียวยาว ทำให้รูปร่างของเธอดูเพอร์เฟ็กต์ ใบหน้าเรียวเล็กกระจ่างใสและเครื่องหน้าจิ้มลิ้มส่งเสริมให้ดูเหมือนคนที่อายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น
แต่การแต่งกายและบุคลิกของเธอ ทำให้หลายๆ คนพอจะคาดเดาอายุที่แท้จริงของเธอได้
ไม่หรอก... สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักไม่ใช่ความสวยน่ารักมีเสน่ห์และออร่าอันโดดเด่นของหญิงสาว แต่เป็นเพราะความเหมือนและความคุ้นเคยที่แล่นปราดเข้ามาในหัวใจจนโลกรอบกายเหมือนถูกหยุดเอาไว้
เหมือน... เหมือนทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูง รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง แม้กระทั่งน้ำเสียง
หากเปลี่ยนทรงผมและเครื่องแต่งกายแล้วล่ะก็... เธอก็ไม่ต่างไปจากองค์หญิงของเขา
แสงจันทร์ขาวในชาติก่อน ที่เขาได้เพียงแต่เฝ้ามอง
“องค์หญิงขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”
“ให้เข้ามาเร็วๆ”
เสียงขันทีขานอยู่หน้าห้องทรงงานของกษัตริย์แห่งราชวงศ์เฉิน ซึ่งถึงแม้จะมีเหล่าข้าราชบริพารเข้าร่วมการประชุมลับอยู่ การตอบกลับของฝ่าบาทก็ไม่ต่างไปจากทุกครั้ง เนื่องจากองค์หญิงคือแก้วตาดวงใจเพียงหนึ่งเดียวของเขา และเป็นทายาทกษัตริย์ที่เป็นเพศหญิงเพียงพระองค์เดียวตั้งแต่ก่อตั้งราชอาณาจักรนี้มา
ภาพขององค์หญิงวัยสิบสี่ชันษาที่วิ่งเข้ามาในห้องทรงงานทันทีที่ได้รับอนุญาต ก่อนจะรีบเก็บกิริยาอาการนั้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นย่างเดินช้าๆ ทำให้หลายๆ คนในห้องถึงกับกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
โดยเฉพาะขุนนางหนุ่มที่ปรึกษาอันดับสามที่คอยให้คำปรึกษาทั้งด้านบู้และบุ๋น ซึ่งแทบจะไม่คิดเก็บสายตาอันพราวระยับไว้เลยสักนิด
องค์หญิงน้อยที่เขาเห็นมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ บัดนี้เติบโตมาได้อย่างสดใสงดงาม
เครื่องหน้าที่ส่อประกายงดงามมาตั้งแต่ยังเล็ก บัดนี้ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่มีใครที่จะงดงามสะสวยเทียบเทียมองค์หญิงได้อีกแล้ว ประกอบกับผิวพรรณอันขาวผ่องมีเลือดฝาดอย่างคนสุขภาพดี นวลเนื้ออวบอิ่มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ช่วงอกที่ดูจะเติบโตได้ไวกว่าส่วนสูง และทรวดทรงที่เริ่มเข้าที่เข้าทาง ทำให้การันตีได้ว่าในอีกไม่ถึงสามปี เธอจะกลายเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าอย่างแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้องค์หญิงแตกต่างจากสาวงามคนอื่นก็คือ ถึงแม้ชันษาจะมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสดใสไร้เดียงสาเหมือนเด็กไว้ได้เพราะการตามอกตามใจของฝ่าบาท
“ขอเสี่ยว... เอ่อ หม่อมฉันนั่งฟังด้วยได้ไหมเพคะ”
“เอาสิ”
หลังจากนั้นองค์หญิงก็นั่งฟังการประชุมตาแป๋วโดยไม่มีท่าทางเบื่อหน่ายหรือง่วงเหงาหาวนอนแต่อย่างใด ในขณะที่ทุกกิริยาท่าทางขององค์หญิงได้ตกอยู่ในสายตาของที่ปรึกษาอันดับสามในที่ประชุมแห่งนั้นอยู่ตลอดเวลา
ใช่แล้ว... พิรุณมีความทรงจำของชาติก่อน เพราะชายหนุ่มเป็นคนที่จดจำรายละเอียดได้เก่งทั้งที่ไม่อยากจำ ทำให้ทุกเหตุการณ์ทุกเรื่องราวสลักฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจไม่รางเลือน
ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะเจอคนที่คล้ายๆ กับองค์หญิงอยู่บ้าง แต่ไม่มีใครที่จะเหมือนได้ทุกอย่างขนาดนี้
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้เขามั่นใจเป็นอย่างมากคือสัญชาตญาณอันแหลมคมของเขา ที่คอยกู่ก้องตะโกนอยู่ข้างในร่างกายของภพนี้
ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์เมื่อหญิงสาวเดินผ่านเขาเพื่อแตะบัตรผ่านเครื่องกั้นอัตโนมัติเข้าไปยังโซนลิฟต์สำนักงาน
ร่างสูงก็แตะบัตรเช่นกัน และค่อยๆ เดินตามเข้าไป
วันนี้เขามีประชุมกับลูกค้าคนสำคัญซึ่งมีออฟฟิศอยู่ในตึกนี้ จริงๆ แล้วเขาจะส่งลูกน้องมาแทนก็ได้ แต่เพื่อเป็นการให้เกียรติลูกค้า เขาจึงคอยแวะมาทุกครั้งในโอกาสสำคัญ
นอกจากวันนี้จะอากาศดีเป็นพิเศษแล้ว เขายังโชคดีเป็นพิเศษเสียด้วยสิ
ในที่สุด... คนที่เขาคอยเฝ้ามองตลอดชีวิตที่ผ่านมา ก็ปรากฏตัวให้เขาได้เห็นอีกครั้ง
เฌอเอมค่อนข้างจะแปลกใจตัวเอง
ปกติแล้วเธอไม่ค่อยให้ความสนใจกับใครเป็นพิเศษ เวลาเธอแวะมาที่ออฟฟิศของนายจ้าง เธอจะทักทายคนที่พอรู้จักกันเท่านั้น โดยเว้นระยะห่างกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ
แต่ก็มีข้อยกเว้น คืออุดมการณ์ที่จะให้ความช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากใดๆ อย่างเช่น แม่บ้านที่จู่ๆ โดนให้ไปเข็นรถเข็นซึ่งบรรทุกของหนักๆ เพียงคนเดียว หรือเด็กน้อยซึ่งกำลังหลงทางอยู่
แต่วันนี้มันแปลกเอามากๆ
เมื่อเช้า จังหวะที่กำลังรอลิฟต์ เพียงเธอหันไปมองข้างๆ เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็สบเข้ากับสายตาที่มองมาของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เธอจะถูกคนมอง มันเป็นเรื่องที่เธอชินมาตั้งแต่เด็กแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจตัวเองคือประกายบางอย่างในสายตาคู่นั้น ที่เธอลบมันออกไปไม่ได้สักที
จะว่าบ้าผู้ชายก็ไม่ใช่ เพราะเธอเห็นผู้ชายหล่อมาเยอะจนชินชาไปหมดแล้ว มีกรี๊ดกร๊าดตามเพื่อนพอเป็นพิธีในบางครั้งเท่านั้นเอง
“ออเดอร์ของคุณเฌอเอมได้แล้วค่ะ”
หญิงสาวขยับเข้าไปรับแก้วกาแฟเทคอะเวย์ (Take away) ที่ตนเป็นคนสั่ง ก่อนจะหาโต๊ะใกล้ๆ นั่งลงชั่วคราวเพื่อหยิบสมุดแพลนเนอร์ออกมาจากกระเป๋าสะพายในขณะที่ปากก็จิบกาแฟไปด้วย
“ชอบดื่มกาแฟร้อนเหรอครับ”
เสียงทุ้มทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยไม่มั่นใจว่าคนถามกำลังถามใครกันแน่
พอสบเข้ากับสายตาคมที่ติดอยู่ในความคิดของเธอเมื่อสักครู่ เฌอเอมก็เข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังถามใคร
“ค่ะ แฟลทไวท์ (Flat white) น่ะค่ะ”
“โอ้ ร้านนี้ทำแฟลทไวท์ได้ด้วยเหรอครับ ดีเลย ผมจะได้สั่งบ้าง”
หญิงสาวกวาดตามองข้อมูลในสมุดเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะหยิบใส่ลงในกระเป๋าตามเดิม แล้วหยิบกุญแจรถออกมา
เธอลุกขึ้นยืน สะพายกระเป๋า “ไม่มีในเมนู แต่บอกพนักงานได้เลยค่ะ เขาทำเป็น”
“ขอบคุณครับ”
ร่างเล็กกว่าส่งยิ้มตอบรอยยิ้มของชายหนุ่มที่ส่งมาให้อย่างสุภาพ ก่อนจะผละออกมา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ถามอะไรต่อหรือรั้งเธอไว้แต่อย่างใด
แปลก... เป็นวันที่แปลกจริงๆ
ณ บ้านวรเตชะทรัพย์
“ปะป๊า เปิดดูรูปที่น้องเอมส่งไปให้ทางไลน์หรือยังคะ”
เสียงวิ่งตึงตังลงมาจากชั้นสองของบ้านใจกลางกรุงเทพมหานคร ทำให้ชายวัยกลางคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องนั่งเล่นหันไปมอง
“เดี๋ยวผมคุยกับลูกก่อนนะ” เขาตัดสายทิ้ง
“ป๊าคุยกับใครอยู่เหรอคะ”
หญิงสาวในชุดอยู่บ้านเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินเข้ามาหา ใบหน้าที่ปราศจากการแต่งแต้มของเครื่องสำอางค์ใดๆ เผยให้เห็นความเนียนใสอมชมพู ไม่มีร่องรอยหมองคล้ำ ไม่มีแม้แต่ถุงใต้ตา รูขุมขน หรือจุดด่างดำใดๆ
ยิ่งณเรศพิศมอง ก็ยิ่งอดใจหายไม่ได้
ลูกสาวของเขาตอนนี้ดูไม่ต่างจากสมัยมัธยมปลายเลยสักนิด ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเรียนจบจนหาเลี้ยงตัวเองได้มานานแล้ว ไม่เคยแม้แต่จะขอเงินจากเขาเลยสักครั้ง
เวลายี่สิบห้าปีช่างผ่านไปไวเหลือเกิน
“คุยกับน้าโยน่ะ”
“อ้อ...” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ คนที่ถูกพูดถึงคือแฟนใหม่ของพ่อเธอซึ่งคบกันมาได้เกือบครึ่งปีแล้ว คบกันหลังแม่ของเธอเสียได้สองปีกว่า
เรื่องที่ว่าผู้ชายมักมูฟออนได้ไวกว่าผู้หญิงเหมือนจะเป็นความจริง แต่เธอก็ยินดีกับพ่อของเธอด้วยที่เขาจะไม่ต้องทนเหงาอีกต่อไป
“เอมมานั่งก่อนสิ ป๊ามีเรื่องจะบอกเอมพอดี”
ท่าทางจริงจังผิดปกติของอีกฝ่าย ทำให้เอมนั่งลงอย่างระแวงนิดๆ
“ไหนๆ น้องชายเราก็ถูกส่งตัวไปดัดนิสัยอยู่ต่างประเทศแล้ว ป๊าเลยตัดสินใจจะรีโนเวทบ้าน”
“อ่าฮะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะบ้านหลังนี้ก็อายุเกินสามสิบปีไปแล้ว
“ทีนี้ป๊าจะย้ายไปอยู่กับน้าโย ป๊าเลยอยากให้ลูกไปอยู่ด้วย”
“ไม่เอาค่ะ”
ไม่เอาเด็ดขาด เรื่องอะไรจะให้เธอไปเป็นก้างขวางคอ อีกอย่างเธอเป็นฟรีแลนซ์ งานส่วนใหญ่ก็รับมาทำที่บ้าน ขืนให้ไปอยู่ด้วย คงได้อึดอัดใจแปลกๆ
“แล้วเอมจะไปอยู่ไหน ป๊าไม่อยากให้หนูอยู่คนเดียว”
“เดี๋ยวน้องเอมไปเช่าคอนโดอยู่เอาค่ะ”
“ไม่ได้ ป๊าไม่ไว้ใจ เป็นผู้หญิงยิงเรือจะอยู่คนเดียวได้ยังไง ไม่เห็นข่าวรปภ.ข่มขืนลูกบ้านหรือไง” นเรศเสียงแข็งขึ้นทันที ก่อนจะปรับเป็นอ่อนโยนเมื่อรู้สึกตัว “ป๊าเป็นห่วงลูกนะ”
เฌอเอมเม้มปากแน่น แต่ก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วด้วยหัวสมองที่คิดอะไรได้ไวอยู่ตลอดเวลา
“น้องเอมไม่ไปอยู่คนเดียวหรอกค่ะ จะไปเช่าคอนโดอยู่กับเพื่อน”
“ยังไงก็ไม่ได้อยู่ดี เกิดเพื่อนเอาแฟนหรือเอาเพื่อนผู้ชายเข้ามาในห้องล่ะ ไม่ล่ะ ไม่ปลอดภัย ป๊าไม่อนุญาต”
โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา ด้วยความที่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กๆ เธอจึงประชดออกไป
“ใครว่าเอมจะไปอยู่กับเพื่อนผู้หญิงล่ะ เอมจะไปอยู่กับแฟนของเอมต่างหาก”
“นั่นก็ไม่ดะ... ห๊ะ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ!”
ตายแล้ว เฌอเอมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้ เลยเถิดไปซะแล้วเรา แต่ยังไงก็ต้อง the show must go on ล่ะนะ
“ตามนั้นแหละค่ะ”
“ใคร!? เอมไปมีแฟนตอนไหนทำไมไม่บอกป๊า ทำไมไม่ให้ป๊าช่วยสกรีนให้ ถ้าเกิดเอมตาบอดเลือกคนห่วยๆ แบบแฟนคนก่อนขึ้นมาอีกจะทำยังไง”
หญิงสาวปิดหูตัวเองแทบไม่ทัน เธอรีบเขยิบเข้าไปคล้องแขนพ่อบังเกิดเกล้าอย่างออดอ้อนทันที
“ไม่ต้องห่วงน่าป๊า คราวนี้เอมเลือกมาดีมากๆ ไม่ผิดพลาดแน่นอน”
ไม่ผิดพลาด เพราะยังไม่มีน่ะสิ พูดแล้วก็ได้แต่ไขว้นิ้วไว้ข้างหลัง
“งั้นเอมต้องพามาให้ป๊าเจอก่อน ป๊าถึงจะอนุญาต”
“โธ่... ป๊าาา” เธอจะไปหาที่ไหนทัน
ใบหน้างอง้ำของลูกสาวแสนสวยไม่ทำให้ผู้ให้กำเนิดใจอ่อนแต่อย่างใด
เขารักของเขา เขาดูแลของเขามาตั้งนาน คราวก่อนก็มีคนมาแย่งความรักไปทีแล้ว คราวนี้เขาไม่อยากให้คนไม่ดีมาแย่งลูกสาวของเขาไปอีก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“สวัสดีครับ อาใหญ่” เสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มดังมาจากประตูหน้าบ้านที่เปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเฌอเอมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรกับเรื่องนี้เพราะเวลาป๊าจะมีแขกมาหาที่บ้าน เขามักจะไม่ล็อคประตูรั้วและให้แขกเดินเข้ามาในบ้านเอง
แต่ที่ทำให้เธอประหลาดใจเห็นจะเป็นหน้าตาของคนที่กำลังยกมือไหว้พ่อของเธอ
สายตาคมอันแสนคุ้นเคยที่เลื่อนมาประสานกับสายตาเธอ ทำให้ตัดสินใจได้
“อ้าว ป๊ารู้จักกับแฟนหนูด้วยเหรอคะ”
20คำสารภาพ ‘ไก่จิกเด็กตายเฎ็กฏายบนปากโอ่ง’ ‘...’ ‘แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู’ ‘...’ ‘คุณพิรุณ ธนจิรกานต์’ ‘องค์หญิง...’ ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปเป็นลุ้นๆ ทันทีเมื่อได้ยินเสียงตอบกลับจากขุนนางหนุ่ม ‘ท่านควรคิดก่อนพูดนะขอรับ’ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันทีเมื่อได้ยินคำพูดต่อมา ถึงหน้าตาจะคล้ายพี่พาย และความคิดหรือกิริยาท่าทางจะเหมือนพี่พายมากยังไง แต่ความเงียบขรึมและระยะห่างที่จงใจเว้นไว้อย่างชัดเจน ทำให้เฌอเอมรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่พายของเธอ และต่อให้โคลนนิ่งออกมาเหมือนแค่ไหน แต่ขุนนางหลี่ก็ไม่มีทางแทนที่แฟนหนุ่มของเธอได้ เขาไม่ใช่คนที่เธอเคยใช้ชีวิตร่วมกัน หรือผ่านการพูดคุยด้านทัศนคติและแนวคิดมาด้วยกัน นี่คือเหตุผลที่เธอไม่อยากเจอขุนนางหลี่เฉิงไห่อีกทั้งที่ตอนแรกคอยสอบถามนางกำนัลอยู่บ่อยๆ ว่าขุนนางหลี่อยู่ที่ใด และตามไปทดสอบเขาอยู่เสมอๆ แต่ไม่ว่าเธอจะทดสอบเขากี่ครั้งก็ตาม ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่พายจะเข้ามาสิงร่างเขา เหมือนกับที่เธอเข้ามาสิงร่างขอ
19อดีตชาติ เฌอเอมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งโดยไร้ซึ่งกายหยาบ แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนตรงที่เธอสามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้สะดวก และไม่มีภาพเหมือนฉากหนังฉายผ่านให้เห็นอีก เพราะอิสระที่มีมากขึ้น ทำให้เธอได้ฉุกคิดและนึกย้อนไปถึงภาพความฝันที่ถูกฉายให้เห็น น่าแปลกที่องค์หญิงคนนั้นมีหน้าตาเหมือนเธอมาก ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือน จนเธอแอบนึกว่าทุกอย่างคือเรื่องของเธอ แต่มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกันล่ะ คนเราจะมีความทรงจำในสถานที่และยุคสมัยที่ไม่เหมือนกับที่ตัวเองอาศัยอยู่ได้ยังไงกัน นอกจากนี้ภาพฝันสุดท้ายยังทำให้เธอตกใจสุดๆ เพราะขุนนางหลี่คนนั้น... คนที่เธอเห็นหน้าเห็นตาไม่ชัดในฝันแรก กลับโผล่มาอย่างชัดเจนในความฝันที่สี่ และเขาก็มีหน้าตาคล้ายแฟนหนุ่มของเธอมาก ถึงจะไม่เหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บุคลิกภาพและการพูดการจานั่นมันแฟนเธอชัดๆ นี่เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ฝันถึงเรื่องของตัวเองและพี่พายได้เป็นตุเป็นตะ ฝันถึงเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยสักนิด โชคดีที่เธอยังคงจำเรื่องราวทุกอย่างได้ และระลึกได้ว่าต้องหาทางตื่นจากฝัน
18เรื่องที่ปิดบังไว้ เนินเขาขนาดกำลังพอดีซึ่งถูกปกคลุมไปทั่วด้วยหญ้าสีเขียวชอุ่มเพราะได้รับน้ำจากฤดูฝนอย่างสม่ำเสมอนั้น ถูกรายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันรอบด้าน มีเพียงข้างหน้าเท่านั้นที่เปิดโล่ง ทำให้เห็นวิวบ้านเรือนซึ่งตั้งอยู่ประปรายเบื้องล่าง ปะปนกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นของรีสอร์ท หมู่บ้านจัดสรร และโครงสร้างแบบสมัยก่อนของบ้านที่ถูกสร้างมานาน เขาใหญ่ก็ยังเป็นเขาใหญ่ ต่อให้พื้นที่หลายๆ ส่วนถูกเปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ทหรือสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเพียงใด แต่ธรรมชาติอันเขียวขจีก็ยังคงอยู่ คู่กับอากาศอันแสนสดชื่น เหมาะเป็นสถานที่ตากอากาศและสถานที่ทำงานสำหรับฟรีแลนซ์อย่างเฌอเอม ข้างบนเนินเขาซึ่งเป็นทุ่งหญ้าราบอันกว้างขวางและเป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยมที่น้อยคนนักจะรู้นั้น มีร่างของหญิงสาวแสนสวยในชุดเสื้อเปิดบ่าและกางเกงยีนส์ขายาวกำลังนั่งชันเข่าอยู่ ผมสีดำยาวถึงกลางหลังปลิวสยายเบาๆ ไปตามสายลมที่พัดโชยมาเป็นระยะ เพราะเมื่อวานฝนเพิ่งตกไป ทำให้ความชื้นหอบกลิ่นไอดินและกลิ่นเขียวของต้นไม้ขึ้นมา ฝุ่นและความสกปรกต่างๆ ถูกชำระล้างไปพร้อมกับสายฝน จนอากาศรอบกา
17คำเตือน “เธอมีดวงโดนมังกรกักขังกลืนกิน เขาจะครอบครองเธอให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว” แม่หมออายุสามสิบกว่าปีอ่านไพ่ที่อยู่ตรงหน้า “…” “เขาไม่ชอบให้เธอพูดคุยกับผู้ชายคนอื่น แม้แต่จะพูดถึงก็ไม่ได้” “โอ้” “ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขาไม่อยากให้เธอมีคนในครอบครัวหรือคนที่ต้องใส่ใจเยอะ เพราะเธอจะต้องใส่ใจเขาคนเดียวเท่านั้น เขาไม่อยากให้เธอเอาเวลาที่ควรจะเป็นของเขาไปให้กับคนอื่น” “ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ออกจะเกินไปนิด แต่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ชอบให้เธอพูดถึงเพื่อนผู้ชายคนอื่นจริงๆ “ใช่แล้ว ไหนขอแม่หมอเปิดไพ่เพิ่มหน่อย...” เสียงสับไพ่ดังขึ้น “คุณเจอผู้ชายคนนี้แล้วหรือยัง” “…” “อ้าว ไพ่บอกว่าคุณเจอแล้วนะ แถมยังอยู่ใกล้ตัวมากๆ ด้วย” “น่าจะอย่างงั้นแหละค่ะ” ถ้าไม่ใช่พี่พาย แล้วจะเป็นใครไปได้อีก พวกเธอเล่นตัวติดกันซะขนาดนี้ “โอ๊ะ ดูเหมือนคุณกับเขาจะเป็น Twin Flame กันด้วย” “คู่กรรม?” “ไม่ใช่ เป็นทั้งคู่แท้ และวิญญาณที่ขาดหายเลย” พอได้ฟัง เฌอเอมถึงกับหันไปมองหน้าเพื่อนสา
16สายลมและแสงแดด “แล้วอีกอย่าง พี่ก็หวงเมียพี่เหมือนกัน ไม่ได้อยากจะแชร์ให้ใครเห็น” “ใครเป็นเมียพี่กัน” เสียงโวยวายดังมาจากร่างที่อยู่ในอ้อมแขน “ตอนปกติเป็นแฟน แต่ตอนเอากันเป็นเมีย ถูกมั้ยล่ะ” “พูดจาน่าเกลียด” “น่าเกลียด แล้วใครกันที่ร้องครวญครางเพราะXพี่ทุกคืน แถมยังร้องว่าเสียวๆๆ ซะถี่จัด” หญิงสาวหน้าแดงก่ำกับคำพูดห่ามๆ นั้น จะเถียงก็เถียงไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องจริง ชายหนุ่มจ้องมองคนหน้าเปลี่ยนสีเพราะคำพูดของเขาอย่างเอ็นดู แต่ตอนนี้ความร้อนในร่างกายต้องการการปลดปล่อยและอยากให้เธอได้ดูเอ็นเขามากกว่า เขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง โดยที่ให้แฟนสาวนั่งคร่อมตักของตน หันหน้าเข้าหากัน หลังจากมีอะไรกันมาร่วมจะสองเดือน แน่นอนว่าท่าทุกท่าย่อมถูกใช้ออกมาหมด และแฟนของเขาก็ถูกเคี่ยวกรำจนเริ่มจะช่ำชองเอามากๆ ไม่จำเป็นต้องบอกให้เธอทำอะไร เพราะเธอนั้นสามารถตอบสนองเขาได้อย่างรู้ใจสุุดๆ เหมือนกับคนที่เกิดมาคู่กัน นี่แหละที่เขาว่ากันว่าความรักจะไปกันรอดหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าเซ็กซ์จะเข้าขากันด
15งอน “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่พาย” น้ำเสียงหวานเจืองัวเงียของหญิงสาวดังขึ้นในเช้าวันถัดมา เธอขยี้ตาอย่างพยายามทำตัวให้ตื่น เพราะเมื่อคืนดื่มไปหนักมาก จนแอบรู้สึกอึนๆ นิดหน่อย แต่น่าแปลกที่พอลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว กลับเห็นแฟนหนุ่มของเธอนอนลืมตามองหน้าเธออยู่เงียบๆ “ครับ” เสียงตอบเรียบๆ ทำให้เฌอเอมรู้สึกเอะใจ เพราะปกติเขามักตอบกลับมาเป็นจูบอรุณสวัสดิ์แสนหวาน ไม่ก็ตอบรับด้วยเสียงทุ้มนุ่มเสมอ เมื่อคืนหลังจากที่ตามตัวกอหญ้าซึ่งเผลอเข้าไปนอนหลับในห้องน้ำ (อย่างที่เธอกังวลไว้ไม่มีผิด) จนเจอแล้ว ทั้งสามคนก็ตรงไปยังรีสอร์ทที่กอหญ้าจองห้องไว้เพื่อมาพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งคืน แต่เพราะยังไม่รู้สึกเมาเท่าไหร่ และอยากจะสนุกต่อ ทำให้เฌอเอมเห็นดีเห็นงามกับไอเดียของกอหญ้าที่ว่าควรจะนั่งดื่มกันต่ออีกสักนิด เลยจบลงด้วยการที่พวกเธอและพี่พายตั้งวงดื่มเบียร์กระป๋องกันชิลล์ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของรีสอร์ท และได้ดูดาวไปด้วยในตัว ขณะที่นั่งดื่ม เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตั้งวงดื่มกันที่รีสอร์ทตั้งแต่แรกก็จบแล้ว จะได้ไม่โดนคนหน้า
14ก็แค่เหลือบไร ณ บาร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา หญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดเดรสเกาะอกกระโปรงสั้นสีแดงกำมะหยี่กำลังนั่งดื่มค็อกเทลในแก้วทรงสูง ฟังดนตรีสดอย่างเพลินๆ โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ชุดรัดรูปนั้นขับเน้นให้หน้าอกหน้าใจที่ค่อนข้างจะใหญ่เป็นพิเศษของเธอดูล้นทะลักมากยิ่งขึ้น ไหนจะเอวคอดกิ่ว สะโพกผาย ก้นกลมกลึงชวนตี และเรียวขายาวสวยนั่นอีกล่ะ... ทุกอย่างช่างส่งให้เธอเป็นดาวเด่นและเจิดจรัสอย่างยิ่งในค่ำคืนนี้ ไม่นับรวมกับสัดส่วนใบหน้าที่ราวกับสวรรค์สรรสร้าง ให้เธอทั้งดูเยาว์วัย และทั้งสวยเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน เธอถูกจับตามองตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน และเมื่อดึกขึ้น ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างยิ่งทำให้หลายๆ คนจ้องมองมายังเธออย่างไม่คิดจะแอบซ่อนอีกต่อไป สิ่งเดียวที่รั้งหลายๆ คนไว้ไม่ให้เข้ามาทักทายทำความรู้จัก คือแววตาไม่สนโลกของหญิงสาว ที่เอาแต่สนใจเพียงเพื่อนสาวและวงดนตรีเท่านั้น วันนี้เฌอเอมให้รางวัลตัวเองด้วยการมานั่งดื่มชิลล์ๆ กับเพื่อนสาวหนึ่งวัน โดยที่ไม่ได้หนีบแฟนซึ่งตัวติดกันโดยตลอดมาด้วย แรกๆ เขาก็งอแงอยู่หรอ
13ผู้ชายที่เข้าใจผู้หญิง บ้านธนจิรกานต์กลับมาสงบลงอีกครั้ง สงบในแง่ที่ไร้ซึ่งเสียงเจื้อยแจ้วออดอ้อนออเซาะและร่างของคนซึ่งแย่งชิงตัวแฟนสาวของเขาเอาไว้เสียหลายวัน การจะพาตัวกอหญ้ากลับไปนั้นง่ายมาก เพียงแค่ติดต่อแฟนหนุ่มของเธอไป และสั่งสอนซะหนึ่งยก อีกฝ่ายก็แทบจะทิ้งการทิ้งงานทุกอย่างขับรถมารับแฟนสาวกลับไปแทบไม่ทัน “ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นกับพี่พาย พี่พายจะทำเหมือนที่ขอบฟ้าทำไหมคะ” น้ำเสียงหวานเจือความสงสัยของเฌอเอมที่กำลังนั่งพิงพิรุณอยู่ในห้องนั่งเล่นถามขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหันมามองใบหน้าสวยที่จู่ๆ ก็เปิดบทสนทนาที่ดูจริงจังขึ้นมา เขากระชับแขนข้างขวาที่โอบกอดเธออยู่ให้แน่นขึ้น “พี่ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน พี่จะพาแฟนพี่ไปด้วยตลอด” “แล้วกรณีที่อยู่กันคนละประเทศกับเอม หรือคนละจังหวัดแบบคู่กอหญ้าล่ะคะ” “พี่ก็ไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอยู่ดี เพราะถึงจะบอกให้เอมรับรู้ทุกเรื่องทุกระยะเวลาหรือละเอียดแค่ไหน แต่เอมก็คงไม่สบายใจอยู่ดีถ้าพี่ไปกับเพื่อนผู้หญิงสองต่อสอง หรือไปกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงสวยๆ”
12น้ำรักที่เปรอะเปื้อน ตัวตนของเขาที่อยู่ห่างจากริมฝีปากของเธอเพียงไม่ถึงคืบ ทำเอาหญิงสาวแอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความประหม่า เพราะตัวตนของเขามันช่างใหญ่และอวบอัดซะเหลือเกิน เส้นเลือดที่กระจายให้เห็นอย่างรางๆ ประกอบกับกล้ามเนื้อช่วงท้องน้อยเป็นลอนๆ ของชายหนุ่ม ส่งผลให้ภาพตรงหน้าของเธอดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ อ่า... แฟนเธอนี่หุ่นดีชะมัด หลังจากที่ตกอยู่ในภวังค์เพียงชั่วเสี้ยววินาที ริมฝีปากแดงก็เข้าครอบครองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอช้าๆ ความใหญ่ของเขาทำเอาข้างในโพรงปากของเธอคับแน่นไปหมด และความยาวของเขาก็เข้าไปในปากเธอได้ไม่สุด ปากบางค่อยๆ ขยับเข้าออกอย่างไม่มั่นใจ ในขณะที่ลิ้นเล็กก็ช่วยทำหน้าที่เพิ่มรสสัมผัสให้กับชายหนุ่ม “นั่นแหละครับแฟน” พิรุณกระซิบเสียงแหบพร่าทั้งที่ยังอยู่ในท่าคุกเข่าอยู่ เขาใช้มือจับหัวทุยเบาๆ เพื่อบังคับจังหวะของเธอให้เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น จากที่ตอนแรกกล้าๆ กลัวๆ หญิงสาวเริ่มย่ามใจ ลิ้นร้อนเน้นย้ำตรงปลายหัวสีชมพูสวยซึ่งมีรอยแยกเล็กๆ และดูดดึงจนชายหนุ่มแทบจะยืนเข่าต่อไปไม่ไหว ไหนจะรวมกับนิ้วมื
댓글