مشاركة

บทที่ 3

مؤلف: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เพียะ!

หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิง

ใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้น

เสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่ง

เสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"

เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"

เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"

“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า

“หุบปาก!”

เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้ค่าขนมไปจากปู่ไปแม้แต่สตางค์เดียว บัตรธนาคารทุกใบของหลานจะถูกระงับ หลานออกไปเก็บขยะหาเลี้ยงชีพตัวเองเถอะ!"

เซี่ยชิงชิงมองไปที่เซี่ยเจี๋ยด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เธอไม่เคยถูกปู่ดุแรงขนาดนี้มาก่อน

การแสดงออกของเซี่ยเจี๋ยนั้นเย็นชา ในน้ำเสียงเห็นชัดแล้วว่าไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ

เธอรู้ว่าหากตัวเองไม่ทำตามที่ปู่บอก บัตรธนาคารทุกใบจะถูกระงับจริง ๆ

“ฉัน…ฉัน! ขอ! โทษ!”

เป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอที่จะพูดคำเหล่านี้กับเย่ซิว ความอัปยศอดสูในใจเธอ ไต่ไปถึงระดับที่ไม่อาจทานทนได้แล้ว

ในใจเธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ‘รอฉันกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะบดขยี้แกให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้นเลย!’

เธอก้มศีรษะลง ความแค้นในดวงตาคราคร่ำ

เย่ซิวโบกมือ "ลืมมันไปซะเถอะ โต้เถียงกับเด็กแย่ ๆ อย่างเธอมีแต่จะทำให้ศักดิ์ศรีของฉันลดลง"

เขาเตรียมที่จะจากไปแล้ว

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ในเวลานี้เอง เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา

กระแสลมขนาดใหญ่พัดพืชพรรณโดยรอบสะบัดไปมา เศษดินและโคลนปลิวว่อน

บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “กำลังเสริมมาถึงแล้วครับ”

เซี่ยเจี๋ยประสานมือไปทางเย่ซิว พูดว่า "ผู้มีพระคุณ อย่างไรก็ตามฉันกลับไปที่ตระกูลเซี่ยสักรอบเถอะ ให้เราได้ตอบแทนคุณเธอเสียหน่อย"

หัวใจของเย่ซิวสั่นไหว "บ้านของคุณอยู่ในเมืองเจียงเฉิงหรือเปล่า?"

“ใช่แล้ว”

“ได้ งั้นผมขอติดสอยห้อยตามไปด้วยคน ช่วยพาผมไปแถว ๆ บริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปที”

เขามีเงินติดตัวไม่มาก ดังนั้นจึงคิดที่จะไปรับหุ้นของตัวเองก่อน จากนั้นค่อยคิดหาวิธีเข้าใกล้หญิงสาวที่เป็นผู้ครอบครองไข่มุกราชาแห่งยา

เซี่ยเจี๋ยดีใจมาก "ผู้มีพระคุณ เชิญ!"

จากนั้น เซี่ยเจี๋ยก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความน้อยใจ ใจเขาพลันอ่อนยวบลง "มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น? มานี่เร็ว!"

เซี่ยชิงชิงก้มหน้าแล้วเดินขึ้นไป

สักพักเฮลิคอปเตอร์ก็ส่งเสียงคำราม บินจากไป

สำหรับบอดี้การ์ดทั้งสองคนนั้น พวกเขากำลังรอรถลากอยู่

บนเครื่องบิน เซี่ยเจี๋ยพูดคุยกับเย่ซิวเป็นครั้งคราว คิดอยากได้ข้อมูลบางอย่างจากปากเขา

แต่ทว่า เย่ซิวซึ่งอยู่ภายใต้การสั่งสอนอย่างเข้มงวดของอาจารย์ แตกฉานเรื่องการเข้าสังคมมานานแล้ว จึงไม่ได้เปิดเผยสิ่งใดที่เป็นประโยชน์แก่อีกฝ่ายเลย

ส่วนเซี่ยชิงชิง เธอเข้าไปนั่งอยู่ในมุมหนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือและส่งข้อความถึงใครบางคนในรายชื่อผู้ติดต่อ : จ้าวเฟิง นายพูดใช่ไหมว่าอยากเป็นแฟนกับฉัน ทำเรื่องหนึ่งให้ฉันสิ แล้วฉันจะตกลงเป็นแฟนกับนาย”

……

ในวิลล่าสุดหรูแห่งหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง

จ้าวเฟิงนอนอยู่ริมสระว่ายน้ำ โดยมีสาวสวยสองคนในชุดว่ายน้ำกำลังปรนนิบัติพัดวีเขาอยู่

จ้าวเฟิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของจ้าวเฉียนแห่งบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป!

เขาเป็นเพลย์บอยโดยกำเนิด ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่อยู่เหนือกฏหมายและกำเริบเสิบสานมาก

ไม่รู้ว่ามีเด็กสาวกี่คนที่ถูกเขาทำร้าย บางคนกระทั่งฆ่าตัวตายระหว่างตั้งครรภ์ก็มี

ตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เมื่อเขาหยิบมันขึ้นมาดู จู่ ๆ สีหน้าประหลาดใจปนยินดีก็ปรากฏขึ้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึงเสียที!”

เขาตามจีบเซี่ยชิงชิงมาเป็นเวลานานมากแล้ว

นอกจากรูปร่างหน้าตาของเซี่ยชิงชิงจะถูกใจเขา สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือภูมิหลังของตระกูลเธอยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย!

ตระกูลเซี่ย มีอำนาจมากกว่าบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปหลายเท่า

นายท่านเซี่ยเจี๋ยเองก็เคยเป็นถึงผู้ฝึกยุทธระดับกลาง

เขารับลูกศิษย์ไว้หลายคน และตอนนี้แต่ละคนก็ล้วนมีตำแหน่งสำคัญในแวดวงธุรกิจและการเมือง

ลูกชายของเขาเองก็เป็นมังกรในหมู่ผู้คนอีกด้วย

ในอดีต ครั้งจ้าวเฟิงตามจีบเซี่ยชิงชิง อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะชายตามองเขา

จ้าวเฟิงตอบข้อความกลับทันที

: ชิงชิง คุณพูดมาได้เลย ไม่ว่าจะให้ขึ้นภูเขาดาบหรือลงทะเลเพลิง ผมจะทำเพื่อคุณทั้งหมด!”

ไม่นาน ก็มีข้อความตอบกลับจากอีกฝ่าย

: ฉันถูกคนเถื่อนตัวเหม็นคนหนึ่งรังแก อีกประมาณครึ่งชั่วโมง เขาจะไปที่บริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป ถึงตอนนั้นคุณก็เข้ามาหักมือและเท้าของเขาก็แล้วกัน

ดวงตาของจ้าวเฟิงเป็นประกาย เขาลุกขึ้นยืนทันทีและสั่งสาวสวยทั้งสองคนในชุดว่ายน้ำ "เอาเสื้อผ้ามาให้ฉัน!"

จากนั้น เขาก็ต่อสายทันที

บริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป แอบเลี้ยงอันธพาลไว้กลุ่มหนึ่ง

หลังจากโทรสั่งการ คนหลายสิบคนก็มารวมตัวกันทันที

จากนั้นจ้าวเฟิงก็บึ่งไปที่บริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปอย่างกระตือรือร้น

…..

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดที่ชั้นบนสุดของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป

เซี่ยเจี๋ยได้บอกกล่าวกับจ้าวเฉียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เรื่องเล็กน้อยแบบนี้เขาย่อมตกลง ถือว่าหนี้น้ำใจ

เย่ซิวคว้าเชือก ร่อนตัวลงจากเฮลิคอปเตอร์อย่างรวดเร็ว

เซี่ยเจี๋ยตะโกนดังลั่น "ผู้มีพระคุณ ลาก่อน!"

เซี่ยชิงชิงมีสีหน้าโหดเหี้ยม เธอส่งข้อความให้จ้าวเฟิงอีกครั้ง

ในเวลานี้ จ้าวเฟิงได้นำกลุ่มคนลงไปรอที่ชั้นล่างแล้ว

หลังจากได้รับข้อความ เขาก็รีบพาคนขึ้นไปที่ดาดฟ้า

ในห้องทำงานส่วนตัวของจ้าวเฉียน เขาสั่งการเลขาว่า “ไป ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดกันเถอะ"

บุคคลที่สามารถทำให้เซี่ยเจี๋ยมาส่งด้วยตัวเองได้ น่าจะมีภูมิหลังพอสมควร

เย่ซิวสูดหายใจเข้า แล้วขมวดคิ้วนิดหน่อย "คุณภาพอากาศที่นี่แย่มากจริง ๆ"

เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ จากนั้นก็เดินไปที่ประตู

ปัง!

ก่อนที่เขาจะเดินไปถึงตรงนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก

ชายที่ดูดุร้ายและแข็งแกร่งหลายสิบคน กรูออกมาและรุมล้อมรอบตัวเย่ซิวไว้

ในที่สุดจ้าวเฟิงก็เดินเข้ามา เขาเหลือบมองเย่ซิว สีหน้าแสดงความรังเกียจและดูถูก "ไร้อารยะจริง ๆ ลงมือหักมือและเท้าของมันซะ"

แววตาของเย่ซิวเรียบนิ่ง ไม่แสดงอาการตื่นตระหนก "พวกนายเป็นใคร? เราไม่ได้มีความบาดหมางต่อกันไม่ใช่เหรอ?"

จ้าวเฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย "ไอ้คนเถื่อน แกบังอาจทำให้แฟนฉันขุ่นเคืองใจ แกต้องชดใช้!"

เย่ซิวคิดถึงเซี่ยชิงชิงทันที

ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะอุกอาจและไร้ทางเยียวยาขนาดนี้

“พวกนายหลีกทางไปจะดีกว่า” เย่ซิวพูดอย่างสงบ “ฉันไม่อยากทำร้ายใครสุ่มสี่สุ่มห้า”

เขาเป็นหมอ หน้าที่อันดับหนึ่งของเขาก็คือช่วยชีวิตคน

แต่เมื่อคนเหล่านี้ได้ยินคำพูดของเขา ทุกคนก็หัวเราะ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

“ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่า!”

“ไอ้หนูนี่คงเสียสติไปแล้วที่พูดแบบนั้น!”

จ้าวเฟิงก็หัวเราะออกมาเช่นกัน

หลังจากที่เขาหัวเราะเสร็จ ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้ม "เอาล่ะ รีบกำจัดมันซะ ฉันยังต้องไปหาแฟนอยู่!"

เขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกถึงรูปร่างอันเย้ายวนและใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเซี่ยชิงชิง

เมื่อได้ยินคำสั่งนี้ ชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็หยิบไม้พลองออกมาจากกระเป๋า แต่ละคนมีสายตาที่ดุร้าย พวกเขากระโจนเข้าหาเย่ซิวอย่างรวดเร็ว

“ฉันให้โอกาสพวกนายแล้ว ในเมื่อพวกนายไม่คว้าไว้ งั้นก็อย่าได้ถือโทษโกรธฉันเลย”

แววตาของเย่ซิวเย็นเยียบ ขณะที่เขากำลังจะลงมือ

ในเวลานี้เอง เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้น "หยุดเดี๋ยวนี้!"

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1262

    “ภรรยา…”ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่เวรข้างนอกรีบวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบหลัวเวยเวยไม่พอใจเล็กน้อย “ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนี้”“เรียนภรรยาเจ้าสำนัก สำนักโอสถส่งคนมาแล้วครับ”หลัวเวยเวยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็พลันจริงจังขึ้นมาเช่นกันหลัวเวยเวยตอบสนองอย่างรวดเร็ว “ไปเชิญเขามาที่ห้องประชุม”ไม่นานนัก ชายหนุ่มท่าทางโอหังคนหนึ่งก็เชิดหน้าเดินมาถึงห้องประชุมเมื่อเห็นหลัวเวยเวยก็ไม่โค้งคำนับอะไรสักนิด กลับนั่งลงบนที่นั่งอย่างไม่เกรงใจหลัวเวยเวยนั่งอยู่บนที่สูง สองฝั่งเป็นผู้อาวุโสมากมายเมื่อเห็นภาพแบบนี้เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร และไม่กล้าโกรธด้วยความแข็งแกร่งของสำนักโอสถไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเทียบได้ แม้จะมีผู้บำเพ็ญตนระดับปฐมญาณอีกร้อยคน พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรสำนักโอสถอยู่ดีหลัวเวยเวยมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิบนใบหน้า “น้องชายเดินทางมาถึงนี่ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจะชี้แนะเหรอ”ชายหนุ่มผู้นั้นกวาดสายตามองหลัวเวยเวยด้วยสายตาโลภหากหลัวเวยเวยมีสถานะต่ำกว่านี้ ด้วยชื่อเสียงของการเป็นทูตของสำนักโอสถ เขาก็สามารถ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1261

    เห็นเพียงหานเฟิงหยิบคริสตัลขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากแหวนผนึกของ แล้ววางลงตรงหน้าเย่ซิว“นี่มันอะไร?” เย่ซิวรู้สึกงุนงงเล็กน้อยคริสตัลเป็นรูปหญิงสาว พื้นผิวเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายหญิงสาวในคริสตัลกอดกระบี่ยาวไว้ในอ้อมแขน ผมยาวสยายดวงตาคมกริบ ดูเหมือนงานแกะสลักวิจิตรบรรจงมาก เหมือนมีชีวิตจริง ๆหานเฟิงเอ่ย “นี่คือผู้พิทักษ์กระบี่ เป็นการดำรงอยู่ที่พิเศษมาก มีตำนานเกี่ยวกับเธอมากมายแต่ที่น่าเชื่อถือที่สุดคือเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งได้ผนึกปฐมญาณและเจตจำนงแห่งกระบี่ของตนเองด้วยวิชาลับ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงผ่านไปหลายพันปี จนกระทั่งหลายหมื่นปี ก็ได้กลายเป็นรูปปั้นที่เราเห็นอยู่นี้หากสามารถฟักตัวมันออกมาได้ มันจะจงรักภักดีต่อเจ้านายตลอดไป ไม่มีวันทรยศ และยังมีพลังมหาศาล”เย่ซิวสนใจขึ้นมาทันที “แล้วจะฟักตัวมันออกมาได้ยังไง?”“ต้องใช้เลือดของตัวเอง และต้องใช้ในปริมาณที่มหาศาลนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงไม่แตะต้องมันเลยแม้จะได้มาก็ตาม เพราะปริมาณที่ต้องการมันมากเกินไปมีคนประเมินไว้ว่าแม้จะรดเลือดร้อยกรัมลงไปทุกวัน ก็ยังต้องทำต่อเนื่องถึงสิบปีมีผู้แข็งแกร่งสักกี่คนที่จะทนไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1260

    อาจเป็นเรื่องการล้างแค้น หรือไม่ก็…ที่นี่มีบางสิ่งที่เธอต้องการ หรือให้ความสำคัญอยู่?สารพัดความคิดแล่นผ่านหัวเย่ซิวในพริบตา ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงสองวินาทีสุดท้ายเย่ซิวก็ตอบตกลงที่ผ่านมาเขาได้ประโยชน์จากผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย ถ้าว่ากันตามเหตุและผล เขาก็ควรจะตอบแทนบุญคุณเธอบ้างยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่จุดธูปวันละสามครั้งเองจากนั้นเขาก็รีบออกไปด้วยตัวเอง ไปซื้อธูปจันทน์คุณภาพดีที่สุด พร้อมทั้งโต๊ะบูชาและกระถางธูปมาชุดหนึ่งเมื่อกลับมาถึงห้องก็จัดวางโต๊ะและกระถางธูปไว้ตรงหน้าเตียงน้ำแข็งเย่ซิวหยิบธูปขึ้นมาสามดอกแล้วจุดไฟจากนั้นก็เห็นสายควันบาง ๆ ลอยวนเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ถูกดูดเข้าสู่จมูกของผู้หญิงคนนั้นเย่ซิวนั่งดูอยู่พักหนึ่ง ก็ยังไม่เข้าใจกลไกเบื้องหลัง สุดท้ายเขาก็พาเสี่ยวไป๋ที่กำลังฟักตัวกับเสี่ยวอวี่ออกไปจากห้องหญิงสาวคนนี้มีภูมิหลังลึกล้ำเกินหยั่งรู้หลังจากตอบแทนบุญคุณเธอเสร็จแล้ว เย่ซิวคิดว่าคงต้องตัดขาดความเกี่ยวข้องกับเธอจะดีกว่าใครจะรู้ว่าในอนาคต ผู้หญิงคนนี้จะนำหายนะแบบไหนมาสู่ตัวเขาบ้างยังไงตอนนี้เย่ซิวก็สามารถหาศิลาวิญญาณได้ด้วยตัวเองแล้ว ความจำเป็นที่ต้องพึ่งพ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1259

    “ไม่ต้องหรอก เธอไปพักผ่อนเถอะ” เย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธเสี่ยวโหรวสีหน้าหม่นลงทันที “เพราะข้าเป็นเผ่าปีศาจใช่ไหมเจ้าคะ คุณชายจึงไม่สนใจข้า...”“ไม่ใช่แน่นอน” เย่ซิวหยิกจมูกเธอเบา ๆ “เธอมีเสน่ห์มาก ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบหรอกแต่ก็นะ ฉันอยากให้เธอมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของฉัน ความสัมพันธ์ของเราจะได้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน”ความเศร้าในใจเสี่ยวโหรวหายวับไปกับตา เธอรีบตอบตกลงอย่างดีใจสุด ๆ “เข้าใจแล้ว ข้าจะทำให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”เทียบกับการเป็นแค่ของสวยงามไว้โชว์ เธออยากเป็นคนที่เย่ซิวสามารถพึ่งพาได้มากกว่าส่วนเรื่องของแม่ เธอก็เลือกที่จะลืมมันไปแววตาเธอฉายแววลังเลวูบหนึ่ง แล้วพึมพำเบา ๆ “หลายปีที่ผ่านมา ข้าทำตามคำสั่งของท่านแม่มาตลอด ก็ถือว่าตอบแทนบุญคุณหมดแล้วขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่ข้าจะทำเพื่อตัวเอง ตามหาความสุขของตัวเองบ้าง”เย่ซิวเดินเข้าไปในห้องที่วางเตียงน้ำแข็งไว้เสี่ยวไป๋ยังคงหลับลึกอยู่ขนนกของเสี่ยวอวี่ยิ่งขาวสะอาดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ปล่อยพลังปีศาจออกมา ยังอยู่ในช่วงสะสมพลังพอเห็นเย่ซิว เสี่ยวอวี่ก็พุ่งเข้ามากระโดดเกาะบนอกเขาทันทีเย่ซิวลูบขนที่นุ่มเหมือนผ้าไหมของเสี่ยวอวี่เ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1258

    หลัวเวยเวยเป็นคนตอบคำถามนั้นให้เขา “ก็แค่เรื่องแย่งชิงแหล่งทรัพยากรกับพื้นที่อยู่อาศัยนั่นแหละ เผ่าปีศาจก็ต้องใช้ทรัพยากรในการพัฒนาเหมือนกันแถมพวกเราที่เป็นผู้บำเพ็ญตน สำหรับพวกมันแล้วก็คือวัตถุดิบชั้นเลิศ เป็นโอสถวิเศษสำหรับการฝึกฝนของพวกมันเลยล่ะ”“แล้วตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” เย่ซิวเริ่มรู้สึกกังวลตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือสภาพแวดล้อมที่มั่นคง เพื่อให้ตัวเองสามารถพัฒนาและเติบโตได้หากรอบตัวเต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่สงบ มันก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของเขา“ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็สู้กันแบบกินกันไม่ลง ไม่มีใครเหนือกว่าใครหรอก”เย่ซิวค่อยเบาใจลงมาหน่อยขอแค่มีช่วงเวลาแห่งความสงบประมาณสิบปี เขาก็มั่นใจว่าจะฝึกถึงระดับฝ่าด่านเคราะห์ แล้วไร้เทียมทานในโลกมนุษย์ได้แน่สุดท้าย เย่ซิวก็หันไปมองเฉินเยียนจือ “แล้วเธอล่ะ? มาหาฉันทำไม”เฉินเยียนจือตอบแบบไม่คิดอะไรเลย “ก็คิดถึงนายน่ะสิ”เย่ซิวยิ้มบางหลังจากนั้น เย่ซิวก็คุยเรื่องสัพเพเหระกับพวกเธอไปเรื่อยหลัวเวยเวยกับรั่วอวิ๋นนั่งคุยกันอีกสักพัก พอดูเวลาแล้วก็ต้องลุกขึ้นเตรียมตัวกลับก่อนกลับ หลัวเวยเวยยังไม่ลืมลากเฉินเยียน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1257

    รั่วอวิ๋นเริ่มออกอาการลนลานอย่างเห็นได้ชัดภายใต้สายตาของเย่ซิว เธอไม่มีทางพูดความคิดลึก ๆ ในใจออกไปได้อยู่แล้ว ได้แต่ปากแข็งเอ่ยไปว่า “ฉันแค่มาดูว่าฝีมือกลั่นโอสถของนายพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า ถ้ายังแย่อยู่ นายก็ทำให้ฉันเสียหน้าพอดีสิ”ปากไม่ตรงกับใจขนาดนี้ เย่ซิวยังรู้สึกได้เลย แต่เขาไม่ได้แฉออกมาตรง ๆ “งั้นก็สบายใจได้เลยครับ ตอนนี้ผมกลั่นโอสถระดับสูงได้แล้วนะ”“อะไรนะ?!”สิ้นเสียงพูดนั้น ผู้หญิงทั้งสี่คนในที่นั้นก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกตะลึง จนเสียงดังสะเทือนไปทั่วเสี่ยวโหรวทำหน้าตาเลื่อมใสสุดขีด “คุณชายเก่งเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”ในตาของหลัวเวยเวยสะท้อนแสงบางอย่างออกมา เธอไม่พูดอะไร เพียงจ้องเขานิ่ง ๆ ตาไม่กะพริบเฉินเยียนจือเองก็มีสีหน้าแบบเดียวกับเสี่ยวโหรวส่วนรั่วอวิ๋นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ที่พูดออกมานั่นแน่ใจเหรอ อย่าโม้น่า แม้แต่ฉันตอนนี้ยังกลั่นได้แค่โอสถกลางระดับเท่านั้นเองนะ”“แน่นอนว่าเรื่องจริง ก็เพราะท่านอาจารย์สอนเก่งไง ลูกศิษย์ก็เลยเก่งกว่าอาจารย์แล้ว”เย่ซิวประจบไปเบา ๆ คำหนึ่ง ก็ทำเอารั่วอวิ๋นยิ้มแก้มแทบปริ หางแทบชี้ขึ้นฟ้า รู้สึกปลื้มปริ่มเ

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status