Share

บทที่ 4

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"

ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ

“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”

จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"

จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว

เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว

น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆ

เขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"

แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"

ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วย

จ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"

เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"

“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉันกัน?"

“อาจารย์ของผมคือหลี่เนี่ยน”

ตู้ม!

หนึ่งประโยคสั้น ๆ ก็สามารถทำให้จิตใจของจ้าวเฉียนตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว นัยน์ตาของเขาหดเล็กลงทันที

“พ่อ พ่อเป็นอะไรไป?” จ้าวเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของจ้าวเฉียน

“ในปีนั้นอาจารย์ของผมได้ช่วยคุณไว้ คุณมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ให้กับเขา ผมมาในวันนี้ก็เพราะต้องการขายหุ้นให้กับคุณตามราคาตลาด แค่เอาเงินสดมาให้ผมก็พอ”

การแสดงออกของจ้าวเฉียนเปลี่ยนไปไม่หยุด และในที่สุดเขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ที่แท้ก็เป็นลูกศิษย์ของผู้มีพระคุณ แน่นอนย่อมไม่มีปัญหา ตามฉันไปที่ห้องทำงานแล้วหารือรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ"

พูดจบ เขาก็ผายมือทำท่าเชิญ

จ้าวเฟิงตะลึงงัน "พ่อ พ่อกำลังทำอะไร? ไอ้คนเถื่อนนี่น่ะหรือที่ถือครองหุ้นของบริษัทเราถึงห้าเปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?"

ต้องรู้ก่อนว่า แม้แต่จ้าวเฉียนก็มีหุ้นอยู่ในครอบครองของเขาเพียงสิบห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่เขาก็ถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท

ตอนนี้เย่ซิวคือผู้ถือหุ้นลำดับที่สาม สถานะของเขาไม่ใช่ว่าอยู่เหนือกว่าเขาไปแล้วหรือ?

จ้าวเฉียนตวาด "หุบปาก!"

จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่ซิวด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า "เชิญ"

เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป

หลังจากที่เห็นเขาเข้าไปแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเฉียนก็หายวับ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร"ปิดประตู แล้วฆ่าเขาซะ!"

“ครับ!”

ชายฉกรรจ์หลายคนกรูขึ้นไป จ้าวเฟิงปิดประตูเหล็กด้วยสีหน้าตื่นเต้น "พ่อ หลังจากที่เราทุบตีเขาจนตาย หุ้นของเขาก็จะกลายเป็นของเราใช่ไหม?”

จ้าวเฉียนพยักหน้า "ใช่ ตามข้อตกลงเดิม แค่ใช้ลายเซ็นของไอ้คนเถื่อนนี่ก็ได้แล้ว ตราบใดที่เราฆ่าเขา หุ้นเหล่านี้ก็จะเป็นของเราตลอดไป!"

หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ถ้าประเมินมูลค่าตามตลาดในปัจจุบัน จะมีค่ามากกว่าสองร้อยล้านหยวน ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาลมาก

ปัง ปัง ปัง…

เสียงการต่อสู้ดังมาจากด้านในไม่หยุด สองพ่อลูกหันไปสบตากันและหัวเราะอย่างโหดร้าย

ไม่นานเสียงข้างในก็หายไป

จ้าวเฟิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและเปิดประตูเหล็กอย่างกระตือรือร้น "คราวนี้ เรายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เพียงแต่ฉันจะได้รับหุ้นฟรี ๆ เท่านั้น ยังได้ตัวเซี่ยชิงชิงด้วย"

แกร๊ก

ประตูถูกเปิดออก แต่ทันใดนั้นสีหน้าของจ้าวเฟิงกลับแข็งทื่อทันที

ภาพที่เขาเห็น ไม่ใช่ฉากการเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจของเย่ซิว เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างครบสามสิบสอง

แต่คนของเขาทุกคน ตอนนี้ล้มลงไปนอนกับพื้น น้ำลายฟูมปากและชักกระตุกไม่หยุด

“อะไร? แปลกใจเหรอ?” เย่ซิวพูดอย่างเย็นชา

‘อาจารย์พูดถูก โลกใบนี้มันอันตราย!’

คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าแค่จะมารับของที่เป็นของตัวเอง กลับถูกลอบเล่นงานแบบนี้

ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองมีวรยุทธติดตัวอยู่บ้าง เขาอาจจะตายไปแล้ว

จ้าวเฟิงรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขาเซถอยหลังไป

จ้าวเฉียนเองก็ก้าวถอยหลังอย่างเงียบ ๆ เห็นได้ชัดว่าตกใจไม่น้อยเลย

เย่ซิวเพียงคนเดียว ก็สามารถล้มชายที่แข็งแกร่งหลายสิบคนของเขาได้ แถมเสื้อผ้าบนตัวเขายังไม่มีรอยยับเลยแม้แต่น้อย

นี่เพียงพอที่จะพิสูจน์แล้วว่าความแข็งแกร่งของเย่ซิวนั้นเหนือกว่ากลุ่มอันธพาลของเขามาก

“นายเป็นผู้ฝึกยุทธเหรอ? อยู่ระดับหนึ่งหรือระดับสองล่ะ?” จ้าวเฉียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ด้วยอายุของเย่ซิว ต่อให้จะเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธขั้นหนึ่ง แต่ความสำเร็จในอนาคตของเขาก็ยากที่จะจินตนาการแล้ว

เย่ซิว "ลงไปเซ็นสัญญากันเถอะ ผมยังมีเรื่องอื่นต้องทำ"

เขาดูสงบมาก

ไม่ใช่ว่าเขาใจกว้าง แต่เขาเห็นกลุ่มหมอกสีดำบนหน้าผากของจ้าวเฉียนและจุดบนหลังมือของเขาแล้ว

นั่นคือสัญญาณสิ้นอายุขัย!

หมายความว่าเวลาของเขาเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว

ในปีนั้น ตอนที่อาจารย์ช่วยชีวิตเขาไว้ อาจารย์ได้ทิ้งบางอย่างไว้ด้วย ไม่ได้ช่วยเขาให้หายดีโดยสมบูรณ์ในครั้งเดียว

ป้องกันไม่ให้ชายคนนี้กลับคำในอนาคต

จ้าวเฉียนตกตะลึงเล็กน้อย เขาคิดว่าเย่ซิวจะโกรธมากจนฉีกกระชากพวกเขาสองพ่อลูกออกเป็นชิ้น ๆ เสียอีก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสงบได้ขนาดนี้

ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว จ้าวเฉียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก "ได้ ตามฉันมา"

ตอนนี้ชีวิตของพวกเขาสองพ่อลูกอยู่ในกำมือของคนอื่น พวกเขาย่อมไม่กล้าเล่นตุกติก

เมื่อมาถึงห้องทำงานของจ้าวเฉียน เขาก็หยิบเอกสารออกมาจากลิ้นชักโดยไม่รอช้า "โปรดลงลายมือชื่อ"

เย่ซิวพลิกอ่านมัน

แม้ว่าเขาจะไม่เคยไปโรงเรียน แต่ความรู้ของเขาก็นับว่าไม่น้อย

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของอาจารย์เขา

เมื่อเห็นว่าเอกสารในมือไม่มีปัญหา เขาก็ลงลายมือชื่อ

“เอาล่ะ ตามราคาหุ้นในปัจจุบัน หุ้นในมือของคุณมีมูลค่าสองร้อยล้านหยวน ให้ผมโอนเงินให้คุณตอนนี้เลยไหม?”

จ้าวเฉียนวางตัวถ่อมตนมาก ไม่เหลือเค้าความดุร้ายตามปกติของเขาเลย

ต้องระลึกอยู่เสมอว่าในโลกธุรกิจของเมืองเจียงเฉิง เขาเป็นที่รู้จักในนามหมาป่าสงคราม

ลงมือโหดเหี้ยม ฆ่าคนชนิดตัดรากถอนโคน

แต่ตอนนี้เขากลับทำเหมือนหลานชายคนหนึ่ง

ถ้าโลกภายนอกรู้เรื่องนี้เข้า จะต้องพากันอ้าปากค้างอย่างแน่นอน

เย่ซิวหยิบบัตรธนาคารของเขาออกมา "โอนเงินไปที่นี่เถอะ"

จ้าวเฉียนพยักหน้าและทำการโอนเงินด้วยตัวเอง

จากนั้นเขาก็แสดงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เย่ซิวดู “นี่ครับ เงินถูกโอนไปเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากจำนวนเงินค่อนข้างมาก จึงมักจะใช้เวลาราวสิบสองชั่วโมงกว่าจะเงินจะเข้าบัญชีของคุณ"

เย่ซิวเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน

หลังจากจบเรื่องทั้งหมด เขาก็ยืนขึ้นและจากไป ไม่รั้งอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

จ้าวเฉียนขยิบตาส่งสัญญาณให้จ้าวเฟิง “ไปส่งผู้มีพระคุณเร็วเข้า"

จ้าวเฟิงระงับความไม่พอใจของเขาและนำทางให้เย่ซิว

รอจนกระทั่งพวกเขาจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเฉียนก็หายวับ แทนที่สีหน้าโหดเหี้ยมราวกับหมาป่าผู้หิวกระหาย

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วกดหมายเลขหนึ่ง “ฮัลโหล ที่นั่นธนาคารใช่ไหม? ฉันเพิ่งโอนเงินไปก้อนหนึ่ง มีบางอย่างผิดปกตินิดหน่อย ช่วยระงับให้ฉันด้วย”

การโอนเงินจำนวนมาก สามารถทำเช่นนี้ได้

หลังจากได้รับการยืนยันจากธนาคารแล้ว จ้าวเฉียนก็วางสาย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา "เงินของฉัน ไม่ให้ใครเอาไปได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก!"

จากนั้นเขาก็ส่งข้อความถึงแก๊งอันธพาลที่เขาเลี้ยงไว้

ให้พวกเขาทั้งหมดสวมชุดสูทและเข้ามาในบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปพร้อมอาวุธ

ในความคิดของจ้าวเฉียน ต่อให้เย่ซิวจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสอง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะคนหลายร้อยคนที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา

“ถ้าแกกล้ากลับมาอีกครั้ง ฉันจะให้แกได้เห็นเลือดแน่ ๆ!”

ในอีกด้านหนึ่ง เย่ซิวออกจากบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป ก็ก้มมองดูเสื้อผ้าของตัวเอง

ควรจะไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนสินะ จากนั้นค่อยซื้อกระเป๋าเป้

สภาพของเขาในตอนนี้ดูโทรมเกินไป เขาจึงดึงดูดสายตาประหลาด ๆ มาจากทุกที่

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังจะก้าวเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า เขาก็ถูกไล่ออกมา

“ไป ๆ ๆ ขอทานนี่มาจากที่ไหนกัน?!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1407

    “ว่าไง?”“ก่อนนายจะไป มาฝึกกับฉันอีกครั้งเถอะ!”น้ำเสียงของเธอแน่วแน่มาก เธอแทบจะพูดผ่านไรฟันที่กัดแน่น เหมือนกำลังเดินเข้าสู่ลานประหารยังไงยังงั้นเย่ซิวถอนหายใจเงียบ ๆเธอก็คงรับไม่ได้จริง ๆ กับการที่ทั้งสองฝั่งกลายเป็นศัตรูกันนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ งั้นก็ให้เธอสมหวังก็แล้วกันผ่านไปกว่าสามชั่วโมง แสงทั้งสองสายก็พุ่งออกไปคนละทิศทางแสงหนึ่งในนั้นคือเฉินอิ๋งอิ๋งที่ตาแดงก่ำ พลางเอ่ยเสียงสั่น “ฮือ ๆ ๆ ฉันอกหักเหรอเนี่ย…”……เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงสำนัก ก็เห็นหลัวเวยเวยเดินกลับมาจากข้างนอกพอเธอเห็นเขา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววยินดีออกมา “สัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดแข็งแกร่งที่นายให้ฉันช่วยตามหาน่ะ ตอนนี้ได้ข่าวแล้วนะ”“จริงเหรอ? เล่าให้ฟังหน่อยเร็ว”หลัวเวยเวยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “มีงานประมูลงานหนึ่งจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ สถานที่อยู่ที่เมืองหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ประมาณห้าร้อยกิโลเมตร ในงานจะมีของประมูลชิ้นหนึ่ง เป็นปีศาจที่มีสายเลือดหมีเพลิงบรรพกาลอยู่เล็กน้อย”สีหน้าเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อยหมีเพลิงบรรพกาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากมันเป็นปีศาจที่บ้าคลั่งโดยธรรมช

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1406

    ทั่วร่างของเธอแผ่ไอหมอกสีชมพูเข้มออกมา ส่งผลให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเย่ซิวส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆเขาใช้พลังแค่เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นเองแถมยังไม่ได้ใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนด้วยซ้ำในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เธอได้สัมผัสว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงมันเป็นยังไงกันเถอะเขาใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนพร้อมกับปล่อยพลังออกมาห้าส่วนในทันทีชั่วพริบตาเดียว เฉินอิ๋งอิ๋งก็แทบจะรับมือไม่ไหว ดวงตาโตคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง“นายมันแย่เกินไปแล้ว ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่คิดจะออมมือให้หน่อยเหรอ”เฉินอิ๋งอิ๋งแค้นเย่ซิวจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเย่ซิวตอบอย่างจริงจัง “ฉันมองเธอเป็นคู่ต่อสู้ ในเมื่อเป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะออมมือ ถ้าฉันทำอย่างนั้นมันก็เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอ เธอว่าไหมล่ะ”เฉินอิ๋งอิ๋งอ้าปากจะเถียง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดีหมอนี่พูดถูกทุกอย่าง แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ก็ไม่รู้หลังจากพยายามฝืนสู้ต่อไปได้แค่ห้านาที เธอก็เริ่มตามจังหวะของเย่ซิวไม่ทันแล้ว และรีบร้องขอให้เขาหยุดแต่เย่ซิวยังใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนอย่างต่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1405

    คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเย่ซิวคือเด็กสาวคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงสั้นจู๋ ขาเรียวยาวสวมถุงน่องสีเนื้อนั่นไม่ใช่ใครอื่น เฉินอิ๋งอิ๋งนั่นเอง!เธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผิวขาวจนเหมือนเรืองแสงได้ เส้นผมใสเหมือนคริสตัลดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อยด้วย ร่างกายเต็มไปด้วยเสน่ห์โดยธรรมชาติทั้งร่างของเธอเปล่งประกายความงามที่น่าตะลึงออกมาจากภายในสู่ภายนอกเย่ซิวประหลาดใจเล็กน้อย “เธอกลับมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ได้รับการถ่ายทอดพลังมาแล้วเหรอ?”เฉินอิ๋งอิ๋งเชิดหน้า “แน่นอนสิ นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน”จากท่าทางของเธอก็รู้เลยว่าได้ผลประโยชน์กลับมาไม่น้อยแน่เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “เอามา”“อะไรเหรอ?”“ก็ของล้ำค่ากับทรัพยากรที่อยู่ในถ้ำนั่นไง อย่าคิดจะตุกติกนะ เธอสาบานไว้แล้วไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ” เฉินอิ๋งอิ๋งหัวเราะคิกคัก “ฉันไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกน่า แต่ก่อนจะให้ นายต้องตกลงเงื่อนไขของฉันก่อน”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เงื่อนไขอะไร?”“ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันทั้งคืน”พูดจบ เธอก็ยักคิ้วให้เขาเล็กน้อยแค่ท่าทางกับน้ำเสียง ใครเป็นผู้ใหญ่ก็ดูออกว่าเธอหมายถึงอะไร“เรื่องสองอย่างนี้มันดูไม่ค่อยเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1404

    เหนือกว่าสมบัติวิญญาณก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ตามตำนาน ว่ากันว่าทั้งโลกนี้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่แค่สามชิ้นเท่านั้น และล้วนอยู่ในการครอบครองของสำนักระดับหนึ่งทั้งสามแห่งแต่ตอนนี้เย่ซิวมีมันอยู่ในมือ ซึ่งก็อาจจะเป็นชิ้นที่สี่ถ้าข่าวนี้หลุดรั่วออกไป จะต้องมียอดฝีมือจำนวนมากพุ่งตรงมาเพื่อบดเขาให้แหลกเป็นผุยผงแน่เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาก็รู้สึกขนลุกเกรียวก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น“เอาล่ะ ไว้เจอกันใหม่เมื่อถึงคราวมีวาสนาต่อกัน”หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าหลุมดำข้างหลัง แล้วก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเย่ซิวไม่มีแม้แต่แรงสั่นสะเทือนของอากาศ ราวกับว่าเธอไม่เคยมีอยู่จริงเย่ซิวอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันแน่?หรือว่าจะเป็นเซียนเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเริ่มหลอมรวมเจดีย์ทองคำเข้ากับร่างกาย แล้วเก็บมันไว้ในห้วงแห่งจิตสำนึกทันทีทันทีที่เข้าไป มันก็เบียดเอากระบี่หายนะกับสัตว์วิญญาณกิเลนออกจากตำแหน่งกลาง ส่วนตัวเองก็ยึดตำแหน่งนั้นเอาไว้แทน เจดีย์ทองคำช่างโอหังนักเย่ซิวเพียงแค่คิด ก็สามารถเข้าสู่ภายในเจดีย์ได้ทันทีราวกับว่าเขาหลุดเข

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1403

    พอธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกจุดติด ก็เริ่มลุกไหม้อย่างรวดเร็วกลิ่นหอมของธูปกลายเป็นรูปมังกรสามตัว พุ่งเข้าสู่จมูกของหญิงสาวที่นอนอยู่จากนั้นเตียงน้ำแข็งด้านล่างของเธอก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของเย่ซิว จนกระทั่งเผยให้เห็นหลุมสีดำขนาดเท่ากำปั้นพลังวิญญาณปะทุออกมาจากหลุมนั้นอย่างต่อเนื่องจิตใจของเย่ซิวถึงกับสะเทือน ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าพลังวิญญาณมาจากที่ไหนหลุมนี้อาจจะเชื่อมต่อกับแดนสวรรค์แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือไม่ก็เชื่อมไปยังอีกโลกหนึ่งโดยตรง“วูม!”ธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกไหม้หมดภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที และพลังทั้งหมดก็ถูกหญิงสาวดูดซับเข้าไปในร่างแล้วเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและนั่นเป็นดวงตาแบบไหนกันนะ?!จิตใจของเย่ซิวถึงกับสั่นสะเทือนเขาเห็นดาราจักรหมุนเวียนในดวงตาคู่นั้น เห็นภูเขาและแม่น้ำเปลี่ยนแปลง เห็นสุริยันจันทราหมุนเวียน เห็นสรรพสิ่งกำเนิดและดับสูญ!เมื่อหญิงสาวเอ่ยปาก เสียงของเธอก็ราวกับเสียงดนตรีจากสวรรค์แว่วอยู่ข้างหูเย่ซิว ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาราวกับถูกชำระล้าง“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”เย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะมองหญิงสาวตร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1402

    อีกข้อหนึ่งก็คือต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงพอไม่อย่างนั้นจะถูกพลังอันแข็งแกร่งจากภายนอกกัดกร่อนจิตใจได้ง่าย แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งปีศาจแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ข้อเสียสองข้อนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาเสียอีกจิตใจก็มั่นคงดั่งเหล็กกล้าเรียกได้ว่าวิชาลับนี้เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนแข็งแกร่งเกินมนุษย์ถ้าสามารถหาสัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดทรงพลังมาฝังลงในจุดลมปราณได้ พลังต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอนอารมณ์ของเขาดีขึ้นทันตา ขนาดตอนมองเฉินเฟยเจี๋ยก็ยังรู้สึกว่าเธอน่ามองมากกว่าเดิมผู้หญิงคนนี้คือเทพแห่งโชคลาภของเขาโดยแท้ เป็นเหมือนสาวน้อยผู้ส่งของวิเศษมาให้คิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็ลุกขึ้นยืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณมากนะคุณเฉิน งั้นผมคืนให้คุณก็แล้วกัน”พูดจบก็ยื่นหนังสือเล่มนั้นคืนให้เฉินเฟยเจี๋ยเฉินเฟยเจี๋ยรับไปแล้วเก็บไว้เรียบร้อย ก่อนจะเตือนเย่ซิว “อย่าลืมนะ วิชาลับนี้สำคัญมาก ห้ามรั่วไหลแม้แต่นิดเดียว ถ้าใครเห็นเข้าก็ต้องทำให้เขาหายไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status