Share

บทที่ 2

Penulis: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”

เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโห

เย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’

เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมา

เซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"

เพียะ เพียะ!

เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองที

ร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"

เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"

เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถ

เขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็ว

แต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัด

แต่หลังจากที่เย่ซิวฝังเข็มให้กับเขา การหายใจของเขาก็ค่อย ๆ สม่ำเสมอขึ้น

ที่ด้านนอกรถ บอดี้การ์ดสองคนมองฉากนี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจมาก

เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตัวเองไม่เป็นไรแล้ว บอดี้การ์ดทั้งสองจึงไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา

ชายชราค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและอ่อนแรง "ขอบคุณน้องชายคนนี้มาก ทักษะทางการแพทย์ของเธอน่าทึ่งมากจริง ๆ"

เย่ซิวจับชีพจรให้กับเขาอีกครั้ง "เส้นลมปราณเสื่อมถอย เกิดจากการฝืนใช้พลังทะลวงระดับพลังยุทธแต่ล้มเหลว"

ดวงตาของชายชราเป็นประกาย "น้องชายมีสายตาเฉียบแหลมมากจริง ๆ หรือเธอเองก็เป็นยอดฝีมือที่ฝึกวรยุทธด้วยเหมือนกัน?"

เย่ซิวไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย

เมื่อนานมาแล้วอาจารย์เคยบอกเขาว่า หากไม่จำเป็นจริง ๆ ห้ามเผยความสำเร็จในการฝึกวรยุทธของตัวเองง่าย ๆ

ไม่อย่างนั้น จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน

“คุณอดทนไว้ ผมจะช่วยทะลวงเส้นลมปราณที่เสื่อมถอยให้ ถึงตอนนั้นด้วยความสามารถของจอมยุทธ์ระดับสี่ของคุณ ปัญหาต่าง ๆ ในร่างกายของคุณจะหายไปเอง”

ม่านตาของชายชราหดตัวลงอย่างรุนแรง เขาหอบหายใจถี่ขึ้น "น้องชาย เธอ เธอ เธอ… เธอหมายความว่า เธอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉันได้เหรอ?"

จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง?

ชายชราเองก็มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเหมือนกัน

แต่ทว่าเนื่องจากความล้มเหลวจากการทะลวงระดับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาสูญเปล่า

ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเองจึงไม่สู้แต่ก่อนแล้ว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ติดต่อกับหมอที่มีชื่อเสียงไม่น้อย ทว่าทุกคนก็ล้วนแต่จนปัญญา

เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อย

อาการของชายชราไม่นับว่าร้ายแรงนัก ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่ทักษะทางการแพทย์ไต่ไปเกือบถึงระดับราชาแห่งยาแล้วจะรักษาให้หายขาดไม่ได้

“ถ้าน้องชายสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉันได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเรียกร้องเงื่อนไขอะไร ก็เอ่ยปากมาได้เลย”

เขาตื่นเต้นมาก!

หลายปีมานี้ ตัวเองหมดหวังไปแล้ว

เขายอมแพ้ในการรักษาไปนานแล้ว แค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปให้นานอีกสักหน่อยเพื่อปูทางให้กับลูกชาย

ตอนนี้ เมื่อก็ได้ยินว่าตัวเองยังมีทางรอด จะไม่มีความสุขได้ยังไง?

เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายชราคนนี้ดูร่ำรวยมาก ทำไมเขาถึงคุมอารมณ์ไม่ได้ขนาดนี้?

ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้!

เขาดึงเข็มเงินออกมาจากร่างของชายชรา

หลังจากฆ่าเชื้อจนเสร็จ ก็เริ่มการฝังเข็มรอบใหม่

ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะเขาใช้ทักษะพิเศษอย่างวิชาวิญญาณสิบสามเข็ม!

ทันทีที่ทักษะฝังเข็มนี้ถูกใช้ออกไป มันก็จะเหมือนกับกำชัยเหนือภัยพิบัติทั้งมวล คิดอยากตายก็เป็นเรื่องยาก!

ลมหายใจของชายชราสะดุด

เขาพบว่าบนตัวของเย่ซิวในเวลานี้เปล่งออร่าที่ทำให้เขาตกใจอย่างมาก

ในชั่วพริบตา เข็มทั้งสิบสามเล่มก็ถูกฝังลงไป

ลมปราณอุ่นเคลื่อนผ่านร่างกายของเขา

เส้นลมปราณที่เคยเสียหายเหล่านั้นกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก

เดิมทีสีหน้าของชายชราซีดมาก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าเขาก็ค่อย ๆ ขึ้นสีแดงก่ำอย่างสุขภาพดี

ตู้ม!

กลิ่นอายอันทรงพลังพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา ราวกับหมาป่าที่กำลังหลับใหลถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

นอกประตูรถ ขาของบอดี้การ์ดทั้งสองคนสั่นจนแทบจะคุกเข่าลง

ในดวงตาของพวกเขา เผยให้เห็นถึงความสยดสยองและหวาดกลัวเด่นชัด

ภายในรถ เย่ซิวกลับไม่ได้รับผลกระทบจากออร่าของชายชราเลยแม้แต่น้อย

ก็แค่จอมยุทธ์ระดับสี่

จอมยุทธ์ถูกแบ่งออกเป็นขั้นหนึ่งถึงเก้า

ขั้นหนึ่งคือระดับต่ำสุดและขั้นเก้าคือระดับสูงสุด ก่อนบรรลุถึงขั้นหนึ่งจะยังไม่ถูกนับว่าเป็นจอมยุทธ์

ขั้นหนึ่งถึงขั้นสาม คือจอมยุทธ์ระดับล่าง

ขั้นสี่ถึงขั้นหก คือจอมยุทธ์ระดับกลาง เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญ

ขั้นเจ็ดถึงขั้นเก้า คือจอมยุทธ์ระดับสูง หรือที่ผู้คนเรียกกันว่าปรมาจารย์!

และเย่ซิวก็เป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงสุด หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นปรมาจารย์นั่นเอง!

“กลับมาแล้ว ฟื้นฟูกลับมาแล้วจริง ๆ!” ชายชราสัมผัสพลังอันทรงพลังในร่างกายของเขา และร้องไห้ด้วยความดีใจ

ความรู้สึกถึงพลังที่ห่างหายไปนานนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมันมาเป็นเวลานานมากแล้ว

“ผู้มีพระคุณ ฉันชื่อเซี่ยเจี๋ย ขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่!”

พูดจบ เขาก็โค้งตัวให้เย่ซิว คำนับอย่างลึกซึ้ง

เย่ซิวรับคำขอบคุณอย่างเปิดเผย

“ผมไม่ได้รักษาให้คุณฟรี ๆ หรอกนะ” เย่ซิวกล่าว “ตามกฎสำนักแพทย์ของผม รักษาให้คนยากจนและลำบากจะคิดเงินเพียงแค่หนึ่งหยวนเท่านั้น”

“แต่หากรักษาให้คนรวย จะเรียกเก็บเงินสามพันหยวน และคุณยังต้องจ่ายอีกหนึ่งแสนหยวนเพื่อทำการกุศล"

เซี่ยเจี๋ยคิดว่าเย่ซิวจะเรียกร้องสักหลายล้านหรือหลายสิบล้าน

แม้ว่าเขาจะยอมจ่ายตามที่เขาขอมาได้ทุกสตางค์ก็ตามที

ชีวิตของเขามีค่ามากกว่าเงินจำนวนเล็กน้อยนั้น

แต่เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าเย่ซิวจะเรียกเงินเพียงสามพันหยวน ความประทับใจดี ๆ ที่มีต่อเด็กหนุ่มจึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีในทันที

เป็นคนหนุ่มที่มีหลักการจริง ๆ!

“ฉันยังไม่ได้ถามชื่อของผู้มีพระคุณเลย”

“เย่ซิว”

“ที่แท้ก็คือผู้มีพระคุณเย่”

เมื่อทั้งสองคนลงจากรถ เซี่ยเจี๋ยก็หัวเราะอย่างเต็มที่และพูดว่า "การได้พบกับผู้มีพระคุณในวันนี้ นับเป็นวาสนาที่ฉันสั่งสมมาหลายชาติภพจริง ๆ”

บอดี้การ์ดสองคนตกตะลึง

เซี่ยชิงชิงที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เซี่ยเจี๋ยที่หายใจรวยรินเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้หายดีแล้วอย่างนั้นเหรอ?

“คุณปู่ ไม่เป็นไรแล้วเหรอคะ?”

เซี่ยชิงชิงรีบลุกขึ้น วิ่งไปหยุดอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเจี๋ยด้วยความยินดีปนประหลาดใจอย่างยิ่ง

เซี่ยเจี๋ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บภายในจะหายดีแล้ว แต่ระดับการบ่มเพาะของปู่ยังฟื้นกลับมาแล้วอีกด้วย"

“เยี่ยมมาก!” เซี่ยชิงชิงกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น

แต่หลังจากนั้น เธอก็ชี้ไปที่เย่ซิวและพูดอย่างดุร้ายว่า “คุณปู่คะ เขารังแกหนู ปู่ต้องจัดการมอบบทเรียนแก่เขาให้หนูนะ!"

ใบหน้าของเซี่ยเจี๋ยมืดครึ้มทันที "หลานกำลังพูดไร้สาระอะไร? เขาเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลเซี่ยของเรา รีบขอโทษเขาเดี๋ยวนี้!"

เซี่ยชิงชิงมองไปที่เซี่ยเจี๋ยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "คุณปู่ คุณปู่บ้าไปแล้วเหรอคะ? หนูเป็นหลานสาวที่ปู่รักที่สุดนะ หนูถูกคนอื่นรังแก ปู่ไม่ช่วยหนูก็ไม่เป็นไร แต่ยังอยากให้หนูขอโทษไอ้คนเถื่อนตัวเหม็นนี่อีกเหรอ?"

เซี่ยเจี๋ยเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ชิงชิง ท่านนี้คือผู้มีพระคุณของเรา ถ้าไม่มีเขา ป่านนี้ปู่อาจไม่รอดแล้วก็ได้ เด็กดี เชื่อฟังที่ปู่พูด รีบขอโทษผู้มีพระคุณซะ"

“หนูไม่ขอโทษ!” ดวงตาของเซี่ยชิงชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเขารังแกหนู ทำไมหนูต้องขอโทษด้วย? ปู่จะช่วยหนูไหมคะ? ถ้าไม่ช่วย หนูจะโทรเรียกคนที่จีบหนูอยู่ให้มาฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!"

ในฐานะคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ เธอไม่เคยได้รับความคับข้องใจแบบนี้มาก่อนเลย

เย่ซิวส่ายหน้า เด็กคนนี้ถูกตามใจจนเสียคนแล้ว

แถมยังเอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาอีกต่างหาก

เซี่ยเจี๋ยโกรธมาก เขายกมือขึ้นเตรียมจะตบหน้าเธอ แต่ง้างอยู่นานก็ตัดใจลงมือไม่ลง

ท้ายที่สุด นี่คือหลานสาวที่เขารักมากที่สุด เขาทำใจทุบตีเธอไม่ได้

เซี่ยชิงชิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา "ฉันจะโทรเรียกคนให้มาฆ่านายเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น!"

ตุ๊กตาดินเผายังมีเวลาที่ร้อนเป็นไฟ นับประสาอะไรกับเย่ซิวที่เป็นอันธพาลแท้ ๆ คนหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้คำก็คนเถื่อนสองคำก็คนเถื่อน ทำให้เขาโมโหมากทีเดียว

เขาก้าวไปข้างหน้า ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าของเซี่ยชิงชิงทันที

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1407

    “ว่าไง?”“ก่อนนายจะไป มาฝึกกับฉันอีกครั้งเถอะ!”น้ำเสียงของเธอแน่วแน่มาก เธอแทบจะพูดผ่านไรฟันที่กัดแน่น เหมือนกำลังเดินเข้าสู่ลานประหารยังไงยังงั้นเย่ซิวถอนหายใจเงียบ ๆเธอก็คงรับไม่ได้จริง ๆ กับการที่ทั้งสองฝั่งกลายเป็นศัตรูกันนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ งั้นก็ให้เธอสมหวังก็แล้วกันผ่านไปกว่าสามชั่วโมง แสงทั้งสองสายก็พุ่งออกไปคนละทิศทางแสงหนึ่งในนั้นคือเฉินอิ๋งอิ๋งที่ตาแดงก่ำ พลางเอ่ยเสียงสั่น “ฮือ ๆ ๆ ฉันอกหักเหรอเนี่ย…”……เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงสำนัก ก็เห็นหลัวเวยเวยเดินกลับมาจากข้างนอกพอเธอเห็นเขา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววยินดีออกมา “สัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดแข็งแกร่งที่นายให้ฉันช่วยตามหาน่ะ ตอนนี้ได้ข่าวแล้วนะ”“จริงเหรอ? เล่าให้ฟังหน่อยเร็ว”หลัวเวยเวยเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “มีงานประมูลงานหนึ่งจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ สถานที่อยู่ที่เมืองหนึ่งที่ห่างจากที่นี่ประมาณห้าร้อยกิโลเมตร ในงานจะมีของประมูลชิ้นหนึ่ง เป็นปีศาจที่มีสายเลือดหมีเพลิงบรรพกาลอยู่เล็กน้อย”สีหน้าเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อยหมีเพลิงบรรพกาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมากมันเป็นปีศาจที่บ้าคลั่งโดยธรรมช

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1406

    ทั่วร่างของเธอแผ่ไอหมอกสีชมพูเข้มออกมา ส่งผลให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเย่ซิวส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้นี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆเขาใช้พลังแค่เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นเองแถมยังไม่ได้ใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนด้วยซ้ำในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้เธอได้สัมผัสว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงมันเป็นยังไงกันเถอะเขาใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนพร้อมกับปล่อยพลังออกมาห้าส่วนในทันทีชั่วพริบตาเดียว เฉินอิ๋งอิ๋งก็แทบจะรับมือไม่ไหว ดวงตาโตคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง“นายมันแย่เกินไปแล้ว ฉันเป็นผู้หญิงนะ ไม่คิดจะออมมือให้หน่อยเหรอ”เฉินอิ๋งอิ๋งแค้นเย่ซิวจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเย่ซิวตอบอย่างจริงจัง “ฉันมองเธอเป็นคู่ต่อสู้ ในเมื่อเป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะออมมือ ถ้าฉันทำอย่างนั้นมันก็เท่ากับไม่ให้เกียรติเธอ เธอว่าไหมล่ะ”เฉินอิ๋งอิ๋งอ้าปากจะเถียง แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไรกลับไปดีหมอนี่พูดถูกทุกอย่าง แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ก็ไม่รู้หลังจากพยายามฝืนสู้ต่อไปได้แค่ห้านาที เธอก็เริ่มตามจังหวะของเย่ซิวไม่ทันแล้ว และรีบร้องขอให้เขาหยุดแต่เย่ซิวยังใช้วิชาโลกีย์หลอมเซียนอย่างต่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1405

    คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเย่ซิวคือเด็กสาวคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงสั้นจู๋ ขาเรียวยาวสวมถุงน่องสีเนื้อนั่นไม่ใช่ใครอื่น เฉินอิ๋งอิ๋งนั่นเอง!เธอเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ผิวขาวจนเหมือนเรืองแสงได้ เส้นผมใสเหมือนคริสตัลดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อยด้วย ร่างกายเต็มไปด้วยเสน่ห์โดยธรรมชาติทั้งร่างของเธอเปล่งประกายความงามที่น่าตะลึงออกมาจากภายในสู่ภายนอกเย่ซิวประหลาดใจเล็กน้อย “เธอกลับมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ได้รับการถ่ายทอดพลังมาแล้วเหรอ?”เฉินอิ๋งอิ๋งเชิดหน้า “แน่นอนสิ นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน”จากท่าทางของเธอก็รู้เลยว่าได้ผลประโยชน์กลับมาไม่น้อยแน่เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “เอามา”“อะไรเหรอ?”“ก็ของล้ำค่ากับทรัพยากรที่อยู่ในถ้ำนั่นไง อย่าคิดจะตุกติกนะ เธอสาบานไว้แล้วไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ” เฉินอิ๋งอิ๋งหัวเราะคิกคัก “ฉันไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกน่า แต่ก่อนจะให้ นายต้องตกลงเงื่อนไขของฉันก่อน”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เงื่อนไขอะไร?”“ฉันอยากให้นายอยู่กับฉันทั้งคืน”พูดจบ เธอก็ยักคิ้วให้เขาเล็กน้อยแค่ท่าทางกับน้ำเสียง ใครเป็นผู้ใหญ่ก็ดูออกว่าเธอหมายถึงอะไร“เรื่องสองอย่างนี้มันดูไม่ค่อยเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1404

    เหนือกว่าสมบัติวิญญาณก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ตามตำนาน ว่ากันว่าทั้งโลกนี้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่แค่สามชิ้นเท่านั้น และล้วนอยู่ในการครอบครองของสำนักระดับหนึ่งทั้งสามแห่งแต่ตอนนี้เย่ซิวมีมันอยู่ในมือ ซึ่งก็อาจจะเป็นชิ้นที่สี่ถ้าข่าวนี้หลุดรั่วออกไป จะต้องมียอดฝีมือจำนวนมากพุ่งตรงมาเพื่อบดเขาให้แหลกเป็นผุยผงแน่เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาก็รู้สึกขนลุกเกรียวก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น“เอาล่ะ ไว้เจอกันใหม่เมื่อถึงคราวมีวาสนาต่อกัน”หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าหลุมดำข้างหลัง แล้วก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาเย่ซิวไม่มีแม้แต่แรงสั่นสะเทือนของอากาศ ราวกับว่าเธอไม่เคยมีอยู่จริงเย่ซิวอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงระดับไหนกันแน่?หรือว่าจะเป็นเซียนเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเริ่มหลอมรวมเจดีย์ทองคำเข้ากับร่างกาย แล้วเก็บมันไว้ในห้วงแห่งจิตสำนึกทันทีทันทีที่เข้าไป มันก็เบียดเอากระบี่หายนะกับสัตว์วิญญาณกิเลนออกจากตำแหน่งกลาง ส่วนตัวเองก็ยึดตำแหน่งนั้นเอาไว้แทน เจดีย์ทองคำช่างโอหังนักเย่ซิวเพียงแค่คิด ก็สามารถเข้าสู่ภายในเจดีย์ได้ทันทีราวกับว่าเขาหลุดเข

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1403

    พอธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกจุดติด ก็เริ่มลุกไหม้อย่างรวดเร็วกลิ่นหอมของธูปกลายเป็นรูปมังกรสามตัว พุ่งเข้าสู่จมูกของหญิงสาวที่นอนอยู่จากนั้นเตียงน้ำแข็งด้านล่างของเธอก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาของเย่ซิว จนกระทั่งเผยให้เห็นหลุมสีดำขนาดเท่ากำปั้นพลังวิญญาณปะทุออกมาจากหลุมนั้นอย่างต่อเนื่องจิตใจของเย่ซิวถึงกับสะเทือน ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าพลังวิญญาณมาจากที่ไหนหลุมนี้อาจจะเชื่อมต่อกับแดนสวรรค์แห่งใดแห่งหนึ่ง หรือไม่ก็เชื่อมไปยังอีกโลกหนึ่งโดยตรง“วูม!”ธูปขนาดมหึมาทั้งสามดอกไหม้หมดภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที และพลังทั้งหมดก็ถูกหญิงสาวดูดซับเข้าไปในร่างแล้วเธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและนั่นเป็นดวงตาแบบไหนกันนะ?!จิตใจของเย่ซิวถึงกับสั่นสะเทือนเขาเห็นดาราจักรหมุนเวียนในดวงตาคู่นั้น เห็นภูเขาและแม่น้ำเปลี่ยนแปลง เห็นสุริยันจันทราหมุนเวียน เห็นสรรพสิ่งกำเนิดและดับสูญ!เมื่อหญิงสาวเอ่ยปาก เสียงของเธอก็ราวกับเสียงดนตรีจากสวรรค์แว่วอยู่ข้างหูเย่ซิว ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาราวกับถูกชำระล้าง“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ”เย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะมองหญิงสาวตร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1402

    อีกข้อหนึ่งก็คือต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคงพอไม่อย่างนั้นจะถูกพลังอันแข็งแกร่งจากภายนอกกัดกร่อนจิตใจได้ง่าย แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งปีศาจแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ข้อเสียสองข้อนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาเสียอีกจิตใจก็มั่นคงดั่งเหล็กกล้าเรียกได้ว่าวิชาลับนี้เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนแข็งแกร่งเกินมนุษย์ถ้าสามารถหาสัตว์วิญญาณหรือปีศาจที่มีสายเลือดทรงพลังมาฝังลงในจุดลมปราณได้ พลังต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอนอารมณ์ของเขาดีขึ้นทันตา ขนาดตอนมองเฉินเฟยเจี๋ยก็ยังรู้สึกว่าเธอน่ามองมากกว่าเดิมผู้หญิงคนนี้คือเทพแห่งโชคลาภของเขาโดยแท้ เป็นเหมือนสาวน้อยผู้ส่งของวิเศษมาให้คิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็ลุกขึ้นยืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณมากนะคุณเฉิน งั้นผมคืนให้คุณก็แล้วกัน”พูดจบก็ยื่นหนังสือเล่มนั้นคืนให้เฉินเฟยเจี๋ยเฉินเฟยเจี๋ยรับไปแล้วเก็บไว้เรียบร้อย ก่อนจะเตือนเย่ซิว “อย่าลืมนะ วิชาลับนี้สำคัญมาก ห้ามรั่วไหลแม้แต่นิดเดียว ถ้าใครเห็นเข้าก็ต้องทำให้เขาหายไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status