"อะ อ้อ อ๋อ ครับ ๆ"
เขาวางเด็กน้อยที่หลับไหลไม่รู้เรื่องราวลงบนฟูกนอนตามที่เธอบอก ตามด้วยการจัดท่าทางให้ลูกชายตัวน้อยได้นอนหลับสบายมากขึ้น
"เสร็จแล้วก็กลับไปได้ละ"
คนตัวเล็กที่ยืนกอดอกมองการกระทำของเขาอยู่ตลอด ก็เอ่ยปากไล่เขาในทันที เธอให้เขาอยู่เพียงแค่เพราะลูกเท่านั้นจริง ๆ นั่นก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผลที่สุด แต่เขากลับไม่ได้ต้องการแบบนั้น เขาไม่ได้ต้องการเพียงลูกเท่านั้นแต่เขาต้องการแม่ของลูกด้วยต่างหาก คนที่รักเขามาก ซื่อสัตย์ และเทิดทูนความรักที่มีต่อเขาเป็นที่สุด เขาจะทำอย่างไรถึงจะได้เธอคนนั้นกลับมากันนะ...
"ให้พี่อยู่ด้วยไม่ได้เหรอ" เขาเอ่ยคำพูดหน้าไม่อายเท่าไรนัก แต่จะทำอย่างไรได้หากเขาหน้าไม่หนาพอจะมีสิทธิ์ทวงวิวกับลูกคืนได้งั้นหรือ?
"อย่าได้คืบจะเอาศอก นี่ให้เจอลูกก็ดีแค่ไหนแล้ว ออกไปซะ" เธอเอ่ยอย่างคนไร้เยื่อใย แต่ในใจใช่ว่าเธอจะเป็นแบบนั้น
"พี่ขอโทษ~" ปลายเสียงดูอ่อนแรงอย่างชัดเจน
"ขอโทษงั้นเหรอ? ขอโทษแล้วช่วยอะไรได้?"
"อื้อ~ งึ่ม ๆ ~ " เสียงขยับตัวพร้อมกับงึมงำเคี้ยวน้ำลายของวินทำเอาเธอตกใจไม่ใช่น้อย กลัวลูกจะตื่นขึ้นมาได้ยินเรื่องไม่ดีเท่าไรนัก จึงรีบดึงตัวชายหนุ่มให้เดินตามเธอออกไปคุยกันนอกห้อง
"ออกไปคุยกันข้างนอก"
เธอลากคนตัวโตกว่าลงมาถึงห้องรับแขกชั้นล่าง ซึ่งมีเพียงไฟสลัวที่ส่องมาจากตรงถนนและประตูหน้าบ้านเท่านั้น พอมาถึงเธอก็เปิดฉากทำข้อตกลงกับเขาทันทีจะได้ไม่เสียเวลา
"เรามาทำข้อตกลงกัน หนูให้พี่มาหาลูกได้ช่วงเย็นหลังจากที่วินเรียนเสร็จ แค่มาหาไม่ต้องมาค้างที่นี่"
"วิว พี่อยากอยู่กับวิวกับลูกมากกว่านั้นไม่ได้เลยเหรอ?"
ใครจะคิดว่าเขาจะกล้าเอ่ยขอร้องเธอแบบนั้น พร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าเธอและยกมือขึ้นคว้าหมับเข้าที่เอวคอดกิ่ว ทำเอาเธอโกรธเป็นฟืนสุมเตาขึ้นอีกหน
"จะบ้าหรือไงหา! สมองกลับเหรอ? เราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันต่างคนต่างใช้ชีวิต มีหน้าที่แค่เป็นพ่อกับแม่ให้วินก็เท่านั้น"
"แต่พี่ยังรักวิวนะ พี่รักวิวมาตลอด" เขาพูดแบบนั้นออกมาไม่ใช่คำโกหกแต่อย่างไร เขายังรักเธอ ยังคิดถึงเธอ แต่เพราะเรื่องในอดีตที่ทำพลาดไป ทำให้เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง
ตอนนั้นที่เขาปฏิเสธเธอ เขายอมรับเลยว่าเห็นแก่ตัวและโง่ที่สุด เขาเชื่อเพื่อนในกลุ่มตอนที่เคยเรียนมหาลัยด้วยกัน เชื่อว่าหมอนั่นแอบมีอะไรกับวิว จึงทำให้เขาลังเลเรื่องเด็กในท้องเธอ หนำซ้ำไอ้นั่นยังปั่นหัวเขาด้วยการบอกว่าวิวเอาเด็กออก ยิ่งทำให้เขาโมโหหนักและตัดสินใจไปเรียนต่อเมืองนอก
ใช่ว่าเขานั้นไม่เจ็บหรือเสียใจเลยสักนิด พยายามบอกตัวเองว่าไม่ควรไปคิดถึงผู้หญิงแบบนั้น บอกตัวเองให้โกรธและเกลียดเธอยังไงก็ทำไม่ลง คำที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงน่ารังเกียจนั่นไม่ใช่เลยสักนิด คนที่น่ารังเกียจมันคือเขาต่างหาก คนที่ไม่เอาไหน ไม่มีอะไรดีเลยสักนิด แทนที่จะเชื่อใจเธอกลับไปเชื่อคนอื่นอย่างสนิทใจ มารู้ความจริงอีกทีก็ตอนกลับมาจากเมืองนอก กว่าจะรู้ตัวก็ก้าวพลาดไปเกินครึ่งแล้ว เขามันแย่ แย่ที่สุด...
"รักเหรอ? เหอะ คนรักกันนี่เขาทำกันแบบนี้เนอะ เขาทิ้งลูกทิ้งเมียไปมีความสุขอยู่คนเดียวสิท่า"
รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความรู้สึกจุกแน่นในอก เธออยากหัวเราะให้ฟันร่วงกับคำว่ารักที่ผู้ชายตรงหน้าบอก ช่างไม่ต่างกับการผายลมทิ้งเลยสักนิด รักงั้นเหรอ? รักแล้วทิ้งเธอกับลูกแบบไม่มีเยื่อใยแบบนั้นน่ะเหรอ? รักประสาอะไร?
"พี่ขอโทษ~ ตอนนั้นพี่โง่เอง อึก~"
หยดน้ำตาเอ่อคลออย่างห้ามไม่ได้ เขาไม่อยากจะอ่อนแอเลยสักนิด กับเรื่องนี้เขาทั้งเจ็บปวดและเสียใจไม่ต่างกัน แต่หากจะให้เทียบกับความเจ็บปวดและผิดหวังที่วิวได้รับ เขาเองก็รู้ว่าเขาเทียบเธอไม่ได้
"กลับไปร้องให้คนที่บ้านพี่ฟังเถอะนะ รำคาญ ออกไปได้แล้วจะนอน"
"วิว~"
ประโยคที่เธอพูดมาทำเอาเขาแทบทรุด เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อหรือแก้ตัวอย่างไรดี ได้แต่เรียกชื่อเธออย่างคนหมดแรง เธอไม่เอาอะไรแล้ว แม้แต่เขาที่เธอเคยรักมากก็ไม่เอาแล้วเช่นกัน...
"อย่าให้พูดอะไรซ้ำ ๆ จบคือจบ จะขุดมาทำซากอะไร ถ้ายังพอมีความคิดอยู่ก็ช่วยทำตัวให้ดีขึ้นมาหน่อย โดยเฉพาะออกไปจากตรงนี้"
น้ำเสียงแข็งกระด้างพร้อมกับมือเรียวที่ชี้ไปยังหน้าประตูบ้าน มันสมควรแล้วที่เขาจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้จากเธอ ดีแค่ไหนแล้วที่เธอยังให้โอกาสเขาได้ทำหน้าที่พ่อของลูก เขาพยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลืนก้อนความเจ็บฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
"ฮึก งั้นพี่กลับแล้วนะ วิวนอนพักผ่อนเยอะ ๆ พรุ่งนี้เช้ามีเรียนเดี๋ยวตอนเย็นก็ทำงาน ไว้พี่จะมาหาใหม่"
เขาฝืนยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยประโยคลา ก่อนที่เขาจะกลับไปตั้งหลักยังคอนโดที่พัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้ตัวเองจะนอนหลับไหม แต่หากเขายังฝืนอยู่ยิ่งจะเป็นการรบกวนเธอ เธอก็คงจะยิ่งรำคาญเขาจนไม่อาจดีได้ คิดได้ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายถอดใจและยอมถอยหนึ่งก้าว
"เดี๋ยว"
ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องทักจากทางด้านหลัง หรือเธอเปลี่ยนใจรั้งเขาไว้? รอยยิ้มดีใจเมื่อคิดเองเออเองว่าเธอนั้นอาจจะใจดีกับเขาขึ้นมา แต่ทว่า...
"เวลาไปมหาลัยต่างคนต่างอยู่ ขอความกรุณาอย่าทำเหมือนรู้จักนะคะ มีหน้าที่สอนก็สอนไป"
ดูเธอพูดเข้าสิ เธอดูไม่คิดอะไรนอกจากอยากตัดขาดเขาให้จบ ๆ ไป ต่างจากเขาที่แทบขาดใจเมื่อได้สัมผัสถึงความห่างเหินที่เธอนั้นแสดงออกชัดเจน แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด ตอบรับก็ฝืนใจ แต่จะปฏิเสธก็คงจะไม่มีทาง
"พี่จะพยายามนะ"
"วินหล่อไหมครับพ่อ?""อื้อหื้อ หล่อได้ครึ่งของพ่อแล้วครับ"สองพ่อลูกแต่งตัวหล่อเหลาแข็งกันไม่มีใครยอมใคร เขาที่สวมชุดสูทเรียบหรูตามแบบฉบับ ส่วนลูกชายคนเดียวซึ่งโตขึ้นก็ยิ่งหล่อได้พ่อมาเต็ม ๆวินที่ตอนนี้เริ่มโตขึ้นมาแล้ว เขาสวมชุดแบบเดียวกับพ่อเพียงต่างกันที่ขนาดไซส์ แต่ใจเขานั้นเป็นหนุ่มกว่าพ่อในเวลานี้ด้วยซ้ำ วินในวัยแปดขวบยืนเสยผมเก๊กหล่อจนพอใจ ผู้เป็นพ่อเองกลับไม่ได้ห้ามเอาแต่หัวเราะจะห้ามได้อย่างไรกันก็เขาเป็นคนสอนลูกให้ทำแบบนี้เองหากวิวของเขามาเห็นเข้าคงเกิดอาการปวดหัวเป็นแน่ เขาเคยเป็นคนจอมเนี๊ยบและเจ้าระเบียบเข้าขั้น แต่พอมีลูกมีเมียความเจ้าระเบียบนั้นกลับหายไป เหลือไว้ให้เมียเขาเป็นคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"พอๆ ไปกันเถอะครับเดี๋ยววิวจะรอนานนะ""ครับพ่อ"วินพยักหน้ารับพร้อมกับเดินคู่กับผู้เป็นพ่ออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้เป็นวันสำคัญของวิว เป็นวันที่เธอนั้นเรียนจบ ความฝันที่เธอตั้งใจนั้นเป็นจริงแล้ว เธอเคยถูกดับฝันเพียงเพราะเขาคนนี้ และเขาเองนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเธอ
"อื้อ"เธอเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา นั่นก็เพียงพอกับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ขออะไรนอกจากชีวิตลูกกับวิวหลังจากนี้มีเพียงรอยยิ้มแห่งความสุขเจ้าของร่างบางซึ่งสวมเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีขาวตัวบางแบบที่เธอนั้นชอบใส่ ท่ามกลางลมทะเลในช่วงตอนกลางคืน ทำเอาเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยชวนเธอกลับเข้าไปยังห้องพักด้านใน"วิวหนาวไหม กลับเข้าข้างในดีกว่านะ""ไม่ค่ะ อากาศกำลังดีเลย หนูอยากอยู่ตรงนี้สักพัก "เธอหันกลับมาบอกเขา พร้อมกับเหยียดกายนอนลงมองท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน ภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน บรรยากาศโดยรอบให้ความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ คนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนแบบสบาย ๆ กลับจ้องมองคนตัวเล็กตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มและนอนลงเบียดเข้ากับร่างของเธอ"อยากอยู่สองต่อสองก็ไม่บอก" เขาเล่นมุกกรุ่มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนตัวเล็ก"จะบ้าเหรอ อยากอยู่อะไรกันเล่า""แล้วอมยิ้มทำไม""หน้าพี่ตลกนี่"เธอก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงแล้วเขาหล่อมากต่างหาก หล่อแบบมองแล้วอดยิ้มชื่นชมไม่ได้ สายตาชื่นช
"ฮือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ"เสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจเมื่อรู้ความจริงว่าลูกในท้องไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย ทุกการสูญเสียล้วนแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงเธอทำงานหนักมานานหลายปี แม้คุณหมอจะบอกแล้วว่าที่เธอแท้งนั้นตัวเด็กเองก็ไม่แข็งแรงและไม่สมบูรณ์ ต่อให้เก็บไว้อย่างไรก็ต้องยุติการตั้งครรภ์อยู่ดี แต่เธอกลับหลีกหนีความเจ็บปวดและเสียใจไม่ได้"แม่วิวอย่าร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ถ้าแม่วิวเเข็งเเรงน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราแน่นอน อย่าร้องนะครับ โอ๋ๆ"แต่ทว่าความเจ็บปวดกลับถูกปลอบประโลมด้วยดวงใจอีกดวงของเธอ อ้อมกอดจากลูกชายตัวน้อยที่นอนกอดแม่บนเตียงคนไข้ด้วยกัน พร้อมกับคำพูดปลอบโยนแววตาใสซื่อนั้น ทำให้เธอพยายามหยุดร้องไห้และเพ่งมองเด็กน้อยที่เป็นลูกชายคนโตของเธอ วินเวลานี้เองก็มองแม่ด้วยดวงตาสั่นน้อย ๆ หากเป็นปกติเด็กตัวเท่านี้ควรที่จะร้องไห้งอแง ซึ่งก่อนหน้านี้วินเป็นแบบนั้นแต่พอเห็นพ่อกับแม่อ่อนแอลงพร้อมกันวินน้อยกลับเข้มเเข็ง เพราะความรักและสงสารพ่อกับแม่ แม้จะเสียใจและแอบเสียดายที่ไ
หมอและพยาบาลต่างวิ่งมาพาร่างหลับไหลเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขามองตามด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกบีบเจ็บจนหายใจไม่ออก ขาสองข้างต่างพร้อมใจกันอ่อนแรงทรุดฮวบลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเขาเพิ่งจะขอบคุณเทวดาฟ้าดินขอบคุณวิวที่มอบโอกาสให้เขา แต่ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเขานัก หรือนี่เขากำลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำงั้นหรือ?จะโหดร้ายได้เพียงนี้เชียวหรือ? ลงโทษเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องลงกับคนที่เขารักด้วย!"ฮือ พ่อครับพ่อ"เสียงลูกชายตัวน้อยที่ร้องไห้ตาแดงโอบกอดเขาไว้ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงแม่กับน้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ที่พึ่งเดียวก็คืออ้อมกอดแข็งแกร่งและอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ"ครับวิน"แม้จะอ่อนแรงและปวดร้าวแค่ไหน แต่เพราะคำว่าพ่อเขาต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อโอบกอดและปกป้องลูกไว้ เขาออกแรงกอดลูกมากขึ้นสองพ่อลูกกอดกันกลมหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงประตูกั้นระหว่างเขากับเธอไว้ เขาทำได้เพียงแค่รอ รออย่างมีความหวังว่าเธอกับลูกจะปลอดภัย"แม่เป็นอะไร ฮือ แม่กับน้องเป็นอ
ทำไมเขาถึงทั้งเจ็บจี๊ด และดีใจแปลก ๆ ดีใจที่เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับจ้องมองมาด้วยแววตายากเกินจะคาดเดา และที่ทำเขาเจ็บจี๊ดนั่นก็คือประโยคที่เธอเอ่ยใช่แล้ว หากวิวเป็นคนแบบนั้นเขาคงไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ วิวที่เขารักคือผู้หญิงอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อก่อนเธออาจจะดูหัวอ่อนก็จริง แต่พอมีลูกเธอกลับสู้ชีวิตและผ่านมันมาได้หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่กลับมาเจอเขาเธอก็คงจะใช้ชีวิตกับลูกตามลำพังต่อไป แต่เพราะโลกเหวี่ยงให้เขากลับมา ร้องขอเทวดาก็ไม่สนใจจะพาเขากลับออกไป ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกระหว่างทิ้งอดีตและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบัน หรือเลือกที่จะมีระยะห่างเช่นเดิม และจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย"พี่โชคดีมากเลยที่เจอวิว"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่กลับหนักแน่น เขามันเป็นคนเลวก็จริง แต่ดันเป็นคนเลวที่โชคเข้าข้างให้มาเจอกับผู้หญิงที่เเสนดีเช่นเธอ"อื้อ โชคดีเป็นของพี่เถอะ โชคร้ายให้เป็นของหนูแล้วกัน"หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง เธอพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าและแววตากับปรากฏรอยยิ้มกริ่ม เขาเป็นโชคร้ายที่เธอยินดีรับอย่างเต็มใจ..."ฟังดูหดหู่จัง"
แต่ทว่าเธอกลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจนเขายังอึ้งตาโต จู่ ๆ วิวก็อารมณ์เสียและตวาดเขากลับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหน้ามืดอีกครั้ง ดีที่เขาอยู่ข้างกายและประคองร่างเธอไว้ได้ทัน"วิว! วิว หนูไหวไหม? ไปหาหมอกับพี่ดีกว่านะ"คนตัวโตไม่สนว่าจะโดนเธอหงุดหงิดใส่แม้แต่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผิดอะไรแต่เขาจะรับไว้เอง สิ่งเดียวที่สนใจและเป็นห่วงคือวิวกับลูก ยิ่งเห็นวิวสีหน้าดูไม่ดีแถมยังเป็นแบบนี้อีก เขาก็ยิ่งคิดหนักและอดเป็นห่วงไม่ได้"ไหว ไหว "น้ำเสียงจากที่แข็งกระด้างก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างคนอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายมีหลายอย่างที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย สักพักก็กลายเป็นโมโหและเหนื่อยมาก จนถึงขั้นเกือบจะเป็นลม หากไม่มีเขาหน้าเธอคงได้จุ่มลงหม้อน้ำซุปแทนเจ้าขาหมูเป็นแน่"วิวเป็นอะไรเหรอครับ"วินน้อยที่วิ่งกลับมาพร้อมกับถุงขนมในมือเข้ามาเจอแม่ในสภาพอิดโรยก็ตกใจ รีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งเข้าช่วยพ่อพยุงแม่ไปนั่งพัก แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็อยากดูแลและปกป้องแม่เช่นกัน"แม่หน้ามืดอีกแล้วครับ"