"ใช่ครับ วันนี้พ่อมาหาวินนะ"
รอยยิ้มอบอุ่นส่งผ่านใบหน้าหล่อเหลา พร้อมกับอ้าแขนรับเด็กน้อยที่วิ่งลงบันไดบ้านมาหาเขาอย่างดีใจสุดขีด จนผู้เป็นแม่ร้องเสียงหลง
"วินอย่าวิ่งแบบนั้น!"
เธอร้องห้ามด้วยความตกใจ ก็วินวิ่งไม่ทันใจเลยเล่นกระโดดทิ้งตัวลงมา ดีที่ผู้เป็นพ่อรับไว้ได้ทัน แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นแม่แบบเธอก็เกือบสติหลุดไปเหมือนกัน
"รับได้แล้ว ฮะ ๆ "
เขายังมีหน้ามาหัวเราะชอบใจ ตรงข้ามกับเธอที่หน้าแดงก่ำลมแทบออกหู เล่นอะไรก็ไม่รู้เธอไม่ชอบเอาเสียเลย โดยปกติเวลาวินอยู่กับเธอไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง หรืออาจจะเพราะเห็นว่าแม่ก็ตัวนิดเดียว กระโดดทับทีมีหวังตายคู่
"พ่อกลับมาแล้ว ฮึก~ ทำไมพ่อถึงไม่บอกวินตั้งแต่ตอนแรก" เด็กน้อยเอ่ยน้ำตาคลอ ทั้งยังแอบน้อยใจที่ตอนแรกพ่อของเขาไม่บอกสถานะที่แท้จริงของตน
"ขอโทษนะครับ พ่อผิดเองที่ไม่ได้บอก เพราะตอนที่พ่อไปต่างประเทศวินยังอยู่ในท้องแม่อยู่เลย พ่อเลยจำวินไม่ได้"
เขากอดลูกแน่นก่อนจะบอกความจริงกับวิน ในตอนแรกเขายอมรับว่าไม่มั่นใจ เขาไม่คิดว่าวิวจะเก็บลูกไว้ ไม่คิดว่าวิวจะยอมทิ้งอนาคตทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้
"พ่อไม่ต้องไปทำงานแล้วใช่ไหมครับ?"
วินน้อยถามชายหนุ่มที่อุ้มเขาตัวลอยอย่างคนรอคำตอบ เขาไม่อยากให้พ่อไปไหนไกล ๆ อีกแล้ว เขาดีใจมากถึงมากที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่เขาถูกชะตาและเกือบออดิชั่นให้มาเป็นแฟนของแม่ คนคนนั้นก็คือพ่อของเขา เด็กน้อยรู้สึกโชคดีแบบสุด ๆ
"เอ่อ..."
เขาอึกอักเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองยังแม่ของลูก ที่ส่ายหน้าคล้ายกลับจะปฏิเสธว่าตนไม่ได้บอกลูกแบบนั้น ไม่รู้ใครบอกเขาเหมือนกันว่าพ่อไปทำงาน หรือไม่แน่เขาอาจจะคิดด้วยตัวเองว่าพ่ออาจจะจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานไกลเเสนไกล อย่างครอบครัวเพื่อนบางคน
"พ่อกลับมาแล้วครับ พ่อไปทำงานเสร็จแล้ว" เขาตัดสินใจบอกลูกไปแบบนั้น แต่ในใจกลับขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า
(พ่อขอโทษ ขอโทษที่ทิ้งหนูกับแม่ไป ขอโทษจริง ๆ )
"พ่อไปนานมาก วินกับแม่เหงามากเลย แม่ก็เหนื่อยมากด้วย"
เด็กน้อยทำเสียงยาว ๆ เพื่อเสริมความสมจริงให้กับประโยคพูด หญิงสาวยืนมองการกระทำของลูกชายที่เอาหน้าซบอกกว้างของพ่อ เธอไม่เคยเห็นวินในมุมนี้เลยสักครั้ง วินอ้อนเธอนับครั้งได้ส่วนใหญ่จะทำตัวเป็นผู้คุมความประพฤติเธอเสียมากกว่า แต่เวลาอยู่กับเขาวินกลับแสดงความเป็นเด็กตามวัยออกมาอย่างน่าประหลาดใจ อะไรที่เธอไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นสินะ
"พ่อขอโทษนะครับ ขอโทษจริง ๆ ต่อไปนี้พ่อจะไม่ไปไหนอีกแล้ว จะอยู่กับวินและแม่นะครับ"
เขาไม่ได้พูดโกหกแต่อย่างใด ทุกคำล้วนออกมาจากใจจริง เขาจะไม่หนีไปไหนเด็ดขาด ให้ตายอย่างไรก็จะไม่หนีไม่หาย
"เหอะ" เสียงหัวเราะในลำคอหนึ่งที วิวลืมตัวเผลอหัวเราะออกมา ในใจพลันคิดว่าใครอยากให้เขาอยู่กันหากไม่ใช่วิน
"วิวครับ วันนี้ให้พ่อนอนด้วยนะครับ พ่อไปทำงานมาตั้งไกลคงเหนื่อยแย่"
น้ำเสียงใสซื่อบวกกับดวงตาปรือใกล้หลับแหล่ไม่หลับแหล่นั่น ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองสร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์ออกมาได้ขนาดนี้ ความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่คนมันเป็นแบบนี้นี่เอง
"เชอะ แม่ไม่เหนื่อยรึไง "
เธอจะน้อยใจแล้วจริง ๆ ลูกเรียกเขาว่าพ่อเต็มปาก แต่ยังเรียกเธอด้วยชื่อเล่นอยู่เลย แถมยังซบกันไม่เลิกอีกต่างหาก ทำไมเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนแย่งความรักกันนะ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ?
"งั้นวินนวดให้วิวดีไหมครับ?"
เจ้าเด็กนี่เก่งจริง ๆ เรื่องเอาความสบายมาหลอกล่อแม่ตัวเอง วินชอบดูแลเธออยู่เสมอการมีลูกชายที่ดูแลเราดุจเจ้าหญิงน้อย ทำให้เธอรู้สึกภูมิใจขึ้นมากระทันหัน ให้ความรู้สึกของผู้ชนะน็อคที่ได้รับความรัก และการดูแลจากผู้ชายที่รักเธออย่างจริงใจ
"จะหลับอยู่แล้วเอาอะไรมานวดให้วิวล่ะ" เธอทำท่างอนลูกชายก่อนจะเดินนำขึ้นชั้นบน หวังให้วินหลับก่อนที่เธอจะเนรเทศพ่อของเขาออกจากบ้านไปให้พ้นลูกกะตา
"พ่อนวดแทนวินได้ไหมครับ พ่อต้องดูแลวิวบ้างนะ วิวทำงานหนักทุกวันเลย กระดูกมีเสียงแล้วด้วย" เสียงเจ้าเด็กน้อยในอ้อมแขนแกร่งพูดความจริง แต่เป็นความจริงที่คนเป็นแม่รับได้เสียที่ไหน
"วิน วินจะบอกว่าแม่แก่ใช่ไหม?" เธอหันมาเอ็ดลูกชายเบา ๆ พร้อมกับทำหน้ามุ้ยคล้ายกลับกำลังงอน ทำเอาคนตัวโตอดขำไม่ได้ ทำไมถึงได้น่ารักทั้งแม่ทั้งลูกแบบนี้นะ
"ฮะ ฮ่ะ เดี๋ยวพ่อนวดให้แม่ก็ได้นะครับ ไถ่โทษที่พ่อไม่ได้มาดูแลแม่กับวินตั้งนาน"
เขาพูดประโยคนั้นกับลูกชาย แต่กลับไม่หยุดชายตามองแม่ของลูกเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาจึงได้รับสายตาเชือดคอมาหนึ่งทีเป็นของรางวัลอย่างไรล่ะ
"ไม่จำเป็น" เธอตอบกลับคนหน้าด้าน ฉวยโอกาสที่ลูกเสนออะไรให้ก็จะรับหมด ไม่รู้ว่าเธอจะอดใจไม่ให้ไล่ตะเพิดเขาได้หรือไม่
"แต่พี่อยากดูแลวิวบ้าง วิวเหนื่อยไม่ใช่เหรอครับ"
"ดูแลตัวเองเถอะค่ะ แก่แล้วนี่ปีนี้หงอกขึ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?"
"พะ พี่เพิ่ง 33 เองนะ"
เขาอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเธอเกิดทักท้วงผมสีขาวบนหัวของเขา ทำเอาเขาเสียเซลฟ์ไปบ้าง นั่นเพราะไม่เคยมีใครสังเกตและทักเขาแบบนี้เลยสักครั้ง วิวเป็นคนแรกและคนเดียวที่กล้า แต่เขากลับไม่กล้าต่อว่าหรือเถียงเธอแม้แต่คำเดียว ได้แต่พูดตะกุกตะกัก
คนตัวเล็กไม่คิดจะสนใจเขา เธอเปิดประตูห้องนอนและเดินนำเข้าไป เตรียมที่นอนให้กับลูกชายคนเดียวที่กำลังจะหลับอยู่รอมร่อ ภายในห้องตกแต่งแบบเรียบง่ายสีขาวสะอาดตา มีของเล่นและรูปถ่ายสองคนแม่ลูกซึ่งวางไว้ในแต่ละมุมห้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ชายหนุ่มสังเกตสิ่งของต่าง ๆ ภายในห้องอยู่สักพัก เขาเกิดความรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาอีกหน คิดในใจหากเขาได้มีส่วนร่วมในตอนที่ถ่ายรูปเหล่านั้นก็คงจะดี ตั้งแต่ที่วิวอุ้มท้อง รูปอัลตร้าซาวด์ตั้งแต่ลูกชายเขายังตัวเท่าเมล็ดถั่ว ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาดูโลกแถมตัวยังเเดงอยู่ด้วย ตอนที่เขากินข้าวเลอะปากถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ จนกลายมาเป็นวินน้อยหน้าหล่อในปัจจุบันนี้
"นี่ พี่โซ่ นี่ หูหนวกหรือไง" เสียงแวด ๆ ดังข้างหู เรียกสติเขาให้กลับคืนมาอีกครั้ง เป็นวิวที่ยืนเท้าสะเอวตั้งท่าจะว่าเขาต่อ
"คะ ครับวิว" เขาตอบกลับเธอเสียงสั่นอย่างคนควบคุมไม่ได้
"เป็นอะไรหา? วางวินลงได้แล้ว ลูกหลับแล้ว"
เขาก้มลงมองในอ้อมแขนตนก็พบว่าลูกชายเขาหลับไปแล้วจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขายืนมองเรื่องเล่าจากรูปถ่ายของสองคนแม่ลูกนานเท่าไรกันกว่าจะได้สติขึ้นมา
"วินหล่อไหมครับพ่อ?""อื้อหื้อ หล่อได้ครึ่งของพ่อแล้วครับ"สองพ่อลูกแต่งตัวหล่อเหลาแข็งกันไม่มีใครยอมใคร เขาที่สวมชุดสูทเรียบหรูตามแบบฉบับ ส่วนลูกชายคนเดียวซึ่งโตขึ้นก็ยิ่งหล่อได้พ่อมาเต็ม ๆวินที่ตอนนี้เริ่มโตขึ้นมาแล้ว เขาสวมชุดแบบเดียวกับพ่อเพียงต่างกันที่ขนาดไซส์ แต่ใจเขานั้นเป็นหนุ่มกว่าพ่อในเวลานี้ด้วยซ้ำ วินในวัยแปดขวบยืนเสยผมเก๊กหล่อจนพอใจ ผู้เป็นพ่อเองกลับไม่ได้ห้ามเอาแต่หัวเราะจะห้ามได้อย่างไรกันก็เขาเป็นคนสอนลูกให้ทำแบบนี้เองหากวิวของเขามาเห็นเข้าคงเกิดอาการปวดหัวเป็นแน่ เขาเคยเป็นคนจอมเนี๊ยบและเจ้าระเบียบเข้าขั้น แต่พอมีลูกมีเมียความเจ้าระเบียบนั้นกลับหายไป เหลือไว้ให้เมียเขาเป็นคนเดียวก็เพียงพอแล้ว"พอๆ ไปกันเถอะครับเดี๋ยววิวจะรอนานนะ""ครับพ่อ"วินพยักหน้ารับพร้อมกับเดินคู่กับผู้เป็นพ่ออกไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน วันนี้เป็นวันสำคัญของวิว เป็นวันที่เธอนั้นเรียนจบ ความฝันที่เธอตั้งใจนั้นเป็นจริงแล้ว เธอเคยถูกดับฝันเพียงเพราะเขาคนนี้ และเขาเองนี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตของเธอ
"อื้อ"เธอเพียงพยักหน้าและส่งยิ้มให้เขา นั่นก็เพียงพอกับคำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาไม่ขออะไรนอกจากชีวิตลูกกับวิวหลังจากนี้มีเพียงรอยยิ้มแห่งความสุขเจ้าของร่างบางซึ่งสวมเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวสีขาวตัวบางแบบที่เธอนั้นชอบใส่ ท่ามกลางลมทะเลในช่วงตอนกลางคืน ทำเอาเขาอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยชวนเธอกลับเข้าไปยังห้องพักด้านใน"วิวหนาวไหม กลับเข้าข้างในดีกว่านะ""ไม่ค่ะ อากาศกำลังดีเลย หนูอยากอยู่ตรงนี้สักพัก "เธอหันกลับมาบอกเขา พร้อมกับเหยียดกายนอนลงมองท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน ภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน บรรยากาศโดยรอบให้ความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ คนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนแบบสบาย ๆ กลับจ้องมองคนตัวเล็กตาไม่กะพริบ ก่อนจะยกยิ้มและนอนลงเบียดเข้ากับร่างของเธอ"อยากอยู่สองต่อสองก็ไม่บอก" เขาเล่นมุกกรุ่มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะคิกคักให้กับคนตัวเล็ก"จะบ้าเหรอ อยากอยู่อะไรกันเล่า""แล้วอมยิ้มทำไม""หน้าพี่ตลกนี่"เธอก็พูดไปอย่างนั้น ความจริงแล้วเขาหล่อมากต่างหาก หล่อแบบมองแล้วอดยิ้มชื่นชมไม่ได้ สายตาชื่นช
"ฮือ ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ"เสียงร้องไห้ราวกับจะขาดใจเมื่อรู้ความจริงว่าลูกในท้องไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว หัวอกคนเป็นแม่แทบสลาย ทุกการสูญเสียล้วนแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงเธอทำงานหนักมานานหลายปี แม้คุณหมอจะบอกแล้วว่าที่เธอแท้งนั้นตัวเด็กเองก็ไม่แข็งแรงและไม่สมบูรณ์ ต่อให้เก็บไว้อย่างไรก็ต้องยุติการตั้งครรภ์อยู่ดี แต่เธอกลับหลีกหนีความเจ็บปวดและเสียใจไม่ได้"แม่วิวอย่าร้องนะเดี๋ยวไม่สวย ถ้าแม่วิวเเข็งเเรงน้องก็จะกลับมาอยู่กับเราแน่นอน อย่าร้องนะครับ โอ๋ๆ"แต่ทว่าความเจ็บปวดกลับถูกปลอบประโลมด้วยดวงใจอีกดวงของเธอ อ้อมกอดจากลูกชายตัวน้อยที่นอนกอดแม่บนเตียงคนไข้ด้วยกัน พร้อมกับคำพูดปลอบโยนแววตาใสซื่อนั้น ทำให้เธอพยายามหยุดร้องไห้และเพ่งมองเด็กน้อยที่เป็นลูกชายคนโตของเธอ วินเวลานี้เองก็มองแม่ด้วยดวงตาสั่นน้อย ๆ หากเป็นปกติเด็กตัวเท่านี้ควรที่จะร้องไห้งอแง ซึ่งก่อนหน้านี้วินเป็นแบบนั้นแต่พอเห็นพ่อกับแม่อ่อนแอลงพร้อมกันวินน้อยกลับเข้มเเข็ง เพราะความรักและสงสารพ่อกับแม่ แม้จะเสียใจและแอบเสียดายที่ไ
หมอและพยาบาลต่างวิ่งมาพาร่างหลับไหลเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขามองตามด้วยหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกบีบเจ็บจนหายใจไม่ออก ขาสองข้างต่างพร้อมใจกันอ่อนแรงทรุดฮวบลงคุกเข่าอยู่กับพื้นเขาเพิ่งจะขอบคุณเทวดาฟ้าดินขอบคุณวิวที่มอบโอกาสให้เขา แต่ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเขานัก หรือนี่เขากำลังจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำงั้นหรือ?จะโหดร้ายได้เพียงนี้เชียวหรือ? ลงโทษเขาคนเดียวไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องลงกับคนที่เขารักด้วย!"ฮือ พ่อครับพ่อ"เสียงลูกชายตัวน้อยที่ร้องไห้ตาแดงโอบกอดเขาไว้ด้วยความตกใจ และเป็นห่วงแม่กับน้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เด็กน้อยยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ ที่พึ่งเดียวก็คืออ้อมกอดแข็งแกร่งและอบอุ่นของผู้เป็นพ่อ"ครับวิน"แม้จะอ่อนแรงและปวดร้าวแค่ไหน แต่เพราะคำว่าพ่อเขาต้องฝืนเข้มแข็งเพื่อโอบกอดและปกป้องลูกไว้ เขาออกแรงกอดลูกมากขึ้นสองพ่อลูกกอดกันกลมหน้าห้องฉุกเฉินที่มีเพียงประตูกั้นระหว่างเขากับเธอไว้ เขาทำได้เพียงแค่รอ รออย่างมีความหวังว่าเธอกับลูกจะปลอดภัย"แม่เป็นอะไร ฮือ แม่กับน้องเป็นอ
ทำไมเขาถึงทั้งเจ็บจี๊ด และดีใจแปลก ๆ ดีใจที่เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับจ้องมองมาด้วยแววตายากเกินจะคาดเดา และที่ทำเขาเจ็บจี๊ดนั่นก็คือประโยคที่เธอเอ่ยใช่แล้ว หากวิวเป็นคนแบบนั้นเขาคงไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ได้ วิวที่เขารักคือผู้หญิงอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดีเสมอ เมื่อก่อนเธออาจจะดูหัวอ่อนก็จริง แต่พอมีลูกเธอกลับสู้ชีวิตและผ่านมันมาได้หากเป็นเมื่อก่อนที่ยังไม่กลับมาเจอเขาเธอก็คงจะใช้ชีวิตกับลูกตามลำพังต่อไป แต่เพราะโลกเหวี่ยงให้เขากลับมา ร้องขอเทวดาก็ไม่สนใจจะพาเขากลับออกไป ดังนั้นเธอจึงต้องเลือกระหว่างทิ้งอดีตและมีความสุขกับชีวิตปัจจุบัน หรือเลือกที่จะมีระยะห่างเช่นเดิม และจมอยู่กับอดีตที่โหดร้าย"พี่โชคดีมากเลยที่เจอวิว"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาแต่กลับหนักแน่น เขามันเป็นคนเลวก็จริง แต่ดันเป็นคนเลวที่โชคเข้าข้างให้มาเจอกับผู้หญิงที่เเสนดีเช่นเธอ"อื้อ โชคดีเป็นของพี่เถอะ โชคร้ายให้เป็นของหนูแล้วกัน"หญิงสาวเอ่ยทีเล่นทีจริง เธอพูดแบบนั้นแต่ใบหน้าและแววตากับปรากฏรอยยิ้มกริ่ม เขาเป็นโชคร้ายที่เธอยินดีรับอย่างเต็มใจ..."ฟังดูหดหู่จัง"
แต่ทว่าเธอกลับอารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันจนเขายังอึ้งตาโต จู่ ๆ วิวก็อารมณ์เสียและตวาดเขากลับ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหน้ามืดอีกครั้ง ดีที่เขาอยู่ข้างกายและประคองร่างเธอไว้ได้ทัน"วิว! วิว หนูไหวไหม? ไปหาหมอกับพี่ดีกว่านะ"คนตัวโตไม่สนว่าจะโดนเธอหงุดหงิดใส่แม้แต่น้อย แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผิดอะไรแต่เขาจะรับไว้เอง สิ่งเดียวที่สนใจและเป็นห่วงคือวิวกับลูก ยิ่งเห็นวิวสีหน้าดูไม่ดีแถมยังเป็นแบบนี้อีก เขาก็ยิ่งคิดหนักและอดเป็นห่วงไม่ได้"ไหว ไหว "น้ำเสียงจากที่แข็งกระด้างก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นเบาลงอย่างคนอ่อนแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายมีหลายอย่างที่แปลกไปจนเห็นได้ชัด เมื่อกี้เธอยังดี ๆ อยู่เลย สักพักก็กลายเป็นโมโหและเหนื่อยมาก จนถึงขั้นเกือบจะเป็นลม หากไม่มีเขาหน้าเธอคงได้จุ่มลงหม้อน้ำซุปแทนเจ้าขาหมูเป็นแน่"วิวเป็นอะไรเหรอครับ"วินน้อยที่วิ่งกลับมาพร้อมกับถุงขนมในมือเข้ามาเจอแม่ในสภาพอิดโรยก็ตกใจ รีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะวิ่งเข้าช่วยพ่อพยุงแม่ไปนั่งพัก แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็อยากดูแลและปกป้องแม่เช่นกัน"แม่หน้ามืดอีกแล้วครับ"