Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2024-10-24 10:16:51

แต่ด้วยนิสัยส่วนตัว คาเมรอนเป็นคนที่มีบุคลิก ดุ น่ากลัว น่าเกรงขาม เย็นชา บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองและหยิ่งจองหองถือตัวเอามากๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ คนที่คาเมรอนจะเรียกเข้าห้องทำงานเพื่อไปคุยงานด้วยนั้น จะมีแต่ระดับผู้จัดการขึ้นไปเท่านั้น ส่วนพนักงานตัวเล็กๆ นั้นรอรับคำสั่งจากผู้จัดการอีกต่อหนึ่ง แต่เพราะคาเมรอนเป็นคนที่มีเสน่ห์ ยิ่งเก็บตัวเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนทั่วไปอยากจะรู้จักและอยากเข้าถึงตัวมากยิ่งขึ้น 

ยิ่งได้รู้จากปากต่อปากว่าคาเมรอนหล่อเหลาระดับพระเอกฮอลลีวู้ด ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ราวกับนายแบบด้วยส่วนสูง 189 เซนติเมตร ก็ยิ่งทำให้นักข่าวอยากขอสัมภาษณ์ อยากเห็นหน้า เพราะคาเมรอนคือความลงตัวของสามเชื้อชาติ นั่นคือ ไทย – จีน - อเมริกัน เพราะเจ้าสัวหัสนัยน์เป็นลูกครึ่งไทย - จีน ส่วนมารดานั้นเป็นชาวอเมริกันแท้ๆ แต่มาอยู่เมืองไทยนานนับสามสิบปีทำให้พูดไทยได้คล่องปร๋อ 

คาเมรอนเป็นทายาทเพียงคนเดียวและมีองค์ประกอบบนใบหน้าครบจนน่าอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวเหมือนคนจีน ใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาแบบหนุ่มอเมริกัน คิ้วหนาเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลอ่อน แต่เปลือกตาเล็กแบบคนจีน จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากรูปกระจับอมชมพูเล็กน้อย 

ทว่าเวลานี้ความหล่อเหลาหรือความเพอร์เฟคนั้นมันถูกบดบังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะเขากำลังเตรียมรับมือกับกองทัพสื่อมวลมันไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบเลย และนับจากนี้ไปเขาจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวทันทีที่ก้าวเข้าไปเหยียบโรงแรม และเช่นเดียวกัน ในเวลาต่อมาไม่ถึงสิบห้านาที รถตู้สีขาวคันหรูก็แล่นมาจอดเทียบหน้าทางขึ้นโรงแรม โดยมีเหล่าบอร์ดี้การ์ดส่วนหนึ่งรอรับอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับกองทัพสื่อมวลชนที่รออยู่ตรงบันไดทางขึ้น เมื่อรถจอดสนิทบอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งเดินไปเปิดประตูให้อย่างรู้หน้าที่

“เชิญครับท่าน” บอร์ดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดทางให้หัสนัยน์ลงก่อนเพราะนั่งติดประตูพอดี จากนั้นจึงตามด้วยคาเมรอนและเคียร่าตามลำดับ 

ช่วงเวลานี้เอง แสงแฟรชจากกล้องถ่ายรูปของสื่อมวลชนที่นับจำนวนไม่ได้ก็สาดมาที่ทั้งสามคนพร้อมกันเสียงกดชัตเตอร์กระหน่ำรัว หวังจะเก็บภาพที่ดีที่สุดเอาไว้ ใครอยู่ใกล้ทางขึ้นมากที่สุด คือคนที่ได้ภาพชัดที่สุดไปครอง แต่คาเมรอนไม่ยอมให้ภาพออกไปได้โดยง่าย เขาให้บอร์ดี้การ์ดเกือบยี่สิบคนขวางเอาไว้ ประกบหน้าหลังบิดามารดา เพื่อไม่ให้นักข่าวเบียดเข้ามาอย่างน่าเกลียด ขณะที่นักข่าวพยายามยกกล้องขึ้นถ่ายและซูมไปที่ใบหน้าของคาเมรอนเป็นหลัก งานนี้แสงแฟรชทำให้เขาแทบตาลายเลยทีเดียว แต่ดีหน่อยที่บอร์ดี้การ์ดทำหน้าที่ได้ดีมากจนนักข่าวเข้าถึงตัวไม่ได้เลย

ขณะเดียวกัน เสียงของนักข่าวดังเข้าไปในงานเป็นสัญญาณให้แขกทุกคนตื่นตัวว่าเจ้าภาพทั้งสามได้เดินทางมาถึงแล้ว พิธีกรในงานซึ่งอยู่บนเวทีจึงประกาศให้แขกทุกคนหลีกทาง เพื่อให้เจ้านายทั้งสามเดินผ่านได้อย่างสะดวก วินาทีนี้ทุกคนพยายามชะเง้อคอมองคาเมรอนเป็นหลัก กระทั่งทั้งสามได้เดินไปถึงหน้าเวทีและถูกเชิญให้นั่งโซฟาวีไอพีเรียบร้อย แต่ก็ไม่วายที่จะมีบอร์ดี้การ์ดนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อเป็นกำแพงอีกหนึ่งชั้น ใครอยากจะเห็นก็คงเห็นแต่เพียงแผ่นหลังกว้างๆ และเสี้ยวหน้าเวลาที่หันซ้ายขวาเท่านั้น 

“อะไรจะกันท่านักข่าวได้เก่งขนาดนั้น ให้การ์ดซ้อมอารักษ์ขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

หัสนัยน์อดแซวบุตรชายไม่ได้

  “ป๋าน่าจะรู้ว่าการ์ดของป๋าเก่ง” คาเมรอนตอบน้ำเสียงเรียบพลางมองไปบนเวที ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นพิธีกรก็ขึ้นไปบนเวทีเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะกล่าวเปิดงาน พร้อมทั้งเชิญให้ประธานขึ้นไปกล่าวเปิดอีกต่อหนึ่ง โดยที่คาเมรอนขอให้หัสนัยน์เป็นคนขึ้นไปเปิด เพราะงานนี้เขายังไม่พร้อมที่จะขึ้นไป หัสนัยน์จึงใช้เวลากล่าวเพียงเล็กน้อยสิบนาทีเท่านั้นเพื่อทุกอย่างจะได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ 

ต่อมาพิธีกรจึงได้เริ่มแนะนำกรรมการ ซึ่งเป็นเซเลบริตี้ผู้มีชื่อเสียงในวงการไฮโซ และเคียร่ามารดาของคาเมรอนร่วมเป็นกรรมการ รวมแล้วสี่ท่าน จากนั้นจึงเข้าสู่การเดินแบบทันที โดยเหล่านางแบบทั้งหลายนั้นสวมใส่คอลเล็คชั่นที่ผู้เข้าประกวดออกแบบตามกติกา นั่นคือคอลเลคลั่นฤดูใบไม้ผลิ และบรรยายถึงความหมายของเครื่องประดับไปในตัว คาเมรอนตื่นตากับเหล่านางแบบไม่น้อยเพราะทุกคนสวยเซ็กซี่ ขยี้ใจมาก แถมแต่ละนางยังแอบส่งสายตาแพรวพราวมาให้กับเขาอีกต่างหาก 

ทว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้ คาเมรอนไม่รู้เลยว่าความหล่อเหลา ระดับนายแบบของเขาที่มีแต่คนอยากเห็นหน้านั้น ถูกแอบมองจากหลังเวที สาวน้อยแสนธรรมดาหนึ่งในผู้เข้าประกวดพยายามใช้สายตามองจากระยะไกล เพราะอยากรู้ว่าคาเมรอนหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วเธอก็เห็นแต่ไม่ชัดเจน ทว่ารู้ได้ทันทีว่าเขาหล่อและโดดเด่นมากๆ แถมยังทำให้เธอหวั่นไหวร้อนวูบวาบไปทั้งใบหน้า 

“บ้าจริง” เวียงพิงค์สบถเบาๆ ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับสู่หลังเวที เพื่อเตรียมที่จะขึ้นไปพร้อมกับนางแบบในรอบสุดท้าย

“มีอะไรเหรอยัยเตี้ย” เมษาถามด้วยความแปลกใจ

“เปล่าๆ พิ้งค์แค่ ตื่นเต้นน่ะ คนเยอะมาก” เวียงพิงค์ตอบด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ พิ้งค์เก่งอยู่แล้ว พิ้งค์สวยและโดดเด่นพอๆ กับเครื่องเพชรเลยจะกลัวอะไร” 

“ขอบใจนะเมย์ เพราะเมย์เชื่อใจพิ้งค์นะ พิ้งค์ถึงได้กล้ามาประกวดแบบนี้” 

“ก็เมย์รู้ว่าพิ้งค์เก่งไง และเชื่อว่าต้องชนะแน่ๆ เห็นไหมคอลเล็คชั่นของคนอื่นสู้พิ้งค์ไม่ได้เลย เว่อร์แบบคิดเยอะเกินไปก็มี” คราวนี้เมษากระซิบเบาๆ เพราะกลัวว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นจะได้ยิน

“ขอบใจจ้ะ เดี๋ยวพิ้งค์เตรียมตัวขึ้นเวทีแล้วนะ” 

“ไปเลย สู้ๆ จ้ะ” จากนั้นเวียงพิงค์จึงเดินไปรออยู่ที่บันไดทางขึ้นรอให้ทีมงานส่งสัญญาณ หลังจากที่นางแบบเดินลงมาจากเวทีหมดแล้ว 

“ลำดับต่อไปจะเป็นแนะนำตัวผู้เข้าประกวด พร้อมกับนางแบบนะครับ คนแรก” เสียงของพิธีกรบนเวทีเริ่มประกาศอีกครั้ง คราวนี้คนที่ตื่นเต้นเห็นทีคงจะไม่ใช่เวียงพิงค์คนเดียว แต่กลับเป็นคาเมรอนที่รอการปรากฏตัวของผู้เข้าแข่งขันที่เขาหมายตาเอาไว้เป็นพิเศษตั้งแต่รอบคัดเลือก 

ต่อมานางแบบคนแรกเดินออกมาพร้อมกับผู้เข้าแข่งกันหมายเลขหนึ่ง ควงแขนกันมาในคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิจากนั้นพิธีกรจึงได้แนะนำตัวและทุกคนเริ่มทยอยกันออกมาจนเกือบหมด ขณะที่คาเมรอนพยายามมองหา คนที่เขาหมายตาก็ไม่ออกมาเสียที

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 87 (จบ)

    “อ๊ะ! ซี๊ดดดด อ่า คาเมล” ด้วยความเสียวซ่านทำให้เธอกดกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะต้องพ่ายแพ้ให้แก่ความคิดถึง ความปรารถนา และทะยานพุ่งสู่จดหมายที่ปลายขอบฟ้า ร่างบางกระตุกเกร็งและแอ่นสะโพกยกขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมาจิกที่ตัวไหล่ทั้งสองข้างของเขาเพื่อปลดปล่อยความทรมาน ผ่านไปชั่วครู่ร่างกายเริ่มผ่อนคลายล่องลอยราวกับอยู่กลางท้องฟ้า เสียงหายใจหอบพร่ากระชั้นด้วยความเหนื่อย คาเมรอนยังคงอ้อยอิ่งจูบซับความหวานกระทั่งพอใจ แล้วจึงขยับกายขึ้นไปหาพร้อมกับจูบที่ริมฝีปากบางอย่างปลอบโยนอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมให้ แล้วยิ้มหวานพลางเอื้อมมือขึ้นเสยผมที่เลื่อนมาปิดใบหน้าออกให้อย่างอ่อนโยน แต่เวียงพิงค์แปลกใจไม่น้อยที่เขายอมทำตามคำขอร้องของเธอ “ทำไมคุณถึงได้ยอม ทั้งที่เมื่อก่อน...” เธอถามอย่างแปลกใจ“เมื่อก่อนผมไม่ยอมใช่ไหม จะเอาให้ได้ใช่หรือเปล่า ก็ตอนนี้ร่างกายคุณไม่โอเคจะให้ผมบังคับเหรอ คุณจะไม่เกลียดผมมากกว่านี้หรือยังไง” เขากระซิบบอกเสียงนุ่มแล้วก้มหน้าจูบที่หน้าผากเนียนเบาๆ แต่เนิ่นนานจนไม่อยากจะละจากกันเลยทีเดียว“ผมรักคุณ” เขากระซิบเบาๆ อีกครั้งทว่าหลั

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 86

    เท่านั้นยังไม่พอมือหนาซุกซนของเขาลูบเข้ามาจนถึงเรียวขาด้านใน ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับเนินสวาทอวบนุ่ม แต่เขากลับต้องชะงักเพราะมันเกลี้ยงเกลาสะอาดจน... “พระเจ้า” เขาครางออกมาเบาๆ ด้วยความตื่นเต้นพลางลูบไล้ฝ่ามือลงบนเนินสวาทช้าๆ พร้อมกับบดเบียดนิ้วแกร่งกับช่อกุหลาบนุ่มๆ อย่างเอาใจ สร้างความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวจนแทบคลั่ง เพราะไม่ได้อยู่ใกล้เขามานาน “อื้อ! ไม่ได้ค่ะ ไม่เอา” เธอเริ่มห้ามปรามอีกครั้งพร้อมกับผลักมือของเขาออก “ทำไมไม่ได้ ผม... ผมเอ่อ” เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกขัดใจชอบกล แต่ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเพียงแต่ร่างกายของเขากำลังต้องการเท่านั้นเอง “พิ้งค์เพิ่งคลอด คุณเข้าใจไหมคะ คุณหมอเย็บไหมละลาย ถ้าละลายแล้วก็ใช่ว่าคุณจะ...” เธอบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อืม! ผัวเมียอยู่ด้วยกันมันก็ต้องการจะให้ทำยังไงครับจ๋า หืม” ให้ตายสิเขาโมเมคิดว่าเธอใจอ่อนแล้วสิท่า “ไม่ต้องทำ ปล่อยพิ้งค์” พอเธอพูดจบเท่านั้นแหละเขาก็ตวัดเธอเข้าไปกอด “ไม่ทำไม่ได้ คุณหมอสั่ง” คนบ้ามาอ้างอิงคำสั่งหมอ หมอไม่ได้สั่งให้มีอะไรกันเสียหน่อย เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เธอคิดพลางมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “หมอไม่ได้สั่งแบบนี

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 85

    “คุณหนีผมมาทำไม ทิ้งผมมาทำไม ที่สำคัญไม่บอกผมสักคำว่าท้อง” “พิ้งค์ไม่ได้มีค่ากับคุณ เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคุณรังแกพิ้งค์ ลูกเกิดมาเพราะคุณไม่ได้ตั้งใจ และคิดเหรอว่าคุณจะรับผิดชอบ” เธอบอกพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งริน “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่รับผิดชอบ ผมเป็นคนนะ และคนๆ นี้ก็รักคุณ ไม่ได้ดูดายเมื่อรู้ว่าคุณมาที่นี่”“หึ ไม่ได้ดูดายอย่างนั้นเหรอคะ คุณไม่ได้สนใจพิ้งค์ด้วยซ้ำ”“โรงพยาบาลที่ราคาถูกผิดปกติ แท็กซี่เจ้าประจำของคุณ และค่าใช้จ่ายในบ้านที่แม่คุณอาจจะหยิบยื่นให้ สงสัยหรือเปล่า” ให้ตายสิอย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือเขา เธอคิดและได้แต่ร้องไห้“ผมอยากมาหาคุณเหลือเกินพิ้งค์ แต่เพราะผมโง่ถึงรอคอยอะไรบ้าๆ จนทำให้คุณโกรธผมขนาดนี้ แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่เคยอยู่ห่างคุณกับลูกเลย” “คุณเป็นคน... เป็นฝีมือคุณ” “เป็นฝีมือผม ใช่ ผมอยากดูแลคุณอยากรับผิดชอบ แต่เพราะรู้ว่าคุณเกลียดผมมาก หากคุณรู้ก็กลัวว่าคุณไม่รับ ขอโทษนะครับได้ไหม” เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบด้วยความรู้สึกหลากหลาย บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร“ให้โอกาสผมได้ไหม เริ่มต้นกันใหม่นะครับ”“พิ้งค์เป็นแค่... พิ้งค์ไม่มีค่าอะไร” เธอยังคงคิดว่าตัวเองต่ำต้อ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 84

    “แต่คุณน่ะทะลึ่ง ไปไหนก็ไปพิ้งค์ง่วง จะนอนแล้วไม่ต้องมากวนด้วย” พอพูดจบเธอก็คลานขึ้นเตียงทันทีแล้วแสร้งทำเป็นหลับ คาเมรอนจึงออกมาจากห้อง เพื่อจะเข้าครัวทำอาหารที่หมอแนะนำ นั่นคือแกงเลี่ยงเพียงอย่างเดียวก่อน แม้ว่าจะทำไม่เป็นก็ตาม แต่อ่านวิธีทำแล้วเข้าใจ ทุกอย่างก็ง่ายในทันที เมื่อลงมือทำเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข ถึงแม้เวียงพิงค์จะต่อต้าน แต่การทะเลาะกันนิดหน่อยเหมือนเป็นสัญญาณดี เพราะอย่างน้อยเวียงพิงค์ไม่ได้ขับไล่ไสสงเขาอย่างหนักหน่วง เหมือนวันแรกที่มาเหยียบที่นี่จ “หวังว่าคงจะทานได้นะครับ” เขาเอ่ยออกมาลอยๆ เพราะไม่มั่นใจว่ามันจะอร่อยเพียงใด แต่แกงเลี่ยงก็มีแต่ผัก ทานได้หรือไม่ได้ก็ต้องทาน พอทำเสร็จแล้วจึงตักใส่ถ้วยขนาดพอดีไม่ใหญ่มาก เพื่อให้เวียงพิงค์ได้ซดน้ำอุ่นๆ เขาคงไม่รอให้เธอพักผ่อนก่อนหรอก เพราะมั่นใจว่าเธอยังไม่หลับ จึงได้นำแกงเลียงขึ้นไปให้เพราะอยากนำเสนอมาก เขาชิมเองก็โอเค หากเธอรับประทานเข้าไปแล้วน่าจะอร่อยแน่ๆ เขาคิดพลางเดินขึ้นไปบนบ้าน แต่เธอไม่ได้อยู่ในห้องจังหวะเดียวกันนั้น เวียงพิงค์ออกมาจากห้องน้ำพอดีและแทบจะร้องกรี้ด ด้วยความตกใจเพราะเธอใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจาก

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 83

    “พิ้งค์พยายามจะเชื่อ แต่เชื่อไม่ลง อย่าพูดให้เหนื่อยเลยค่ะและออกไปพิ้งค์ อยากอยู่คนเดียว” เธอออกปากไล่อีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจออกไปจากห้องด้วยอาการคอตก พยายามที่จะไม่ท้อแท้กับกิริยาหรือคำพูด ที่เธอพูดเสียดแทงหัวใจ เพราะเขารู้ตัวดีและจำได้ว่าเคยพูดให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจมาแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย “แค่สองวันก็จะทนไม่ได้แล้วเหรอเรา ทีทำร้ายเขาเต็มๆ หนึ่งอาทิตย์ ทิ้งให้อุ้มท้องคนเดียวจนคลอดอีก เขายังทนได้ หึ เอาเลยพิ้งค์อยากจะลงโทษผมให้สาแก่ใจ ให้เจ็บปวดเจียนตายก็เอา” เขาเอ่ยออกมาลอยๆ และไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้เพียงแต่อยากสงบจิตใจเท่านั้นเองขณะเดียวกันมะเหมี่ยวซื้อของเสร็จก็รีบกลับมาทันที พร้อมทั้งขอตัวกลับบ้านเพราะเที่ยงแล้ว เนื่องจากว่าคาเมรอนให้ทำงานเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่เวียงพิงค์ต้องถามเหตุผลกันเสียหน่อยว่าทำไมถึงกลับก่อนเวลาสองวันแล้ว“มีอะไรบอกพี่ตรงๆ ก็ได้นะเหมี่ยว ที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เวียงพิงค์ถามด้วยความเป็นห่วง แต่มะเหมี่ยวอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ“คือเหมี่ยว ไม่มีปัญหาอะไรกับที่บ้านหรอกค่ะ แต่แบบว่าพี่พิ้งค์มีคุณเขาดูแลแล้ว เหมี่ยวเลยอยากจะดูแลพี่พิ้งค์ช่วงเช้าครึ่งวันน่ะค่ะ” “

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 82

    “ก็ได้ครับ” ว่าแล้วเขาก็ค้นหาเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำ ชำระร่างกายภายในห้องนอนนี่เอง ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานนัก ระหว่างนี้มะเหมี่ยวก็ทำอาหารเช้าสำหรับเวียงพิงค์และคาเมรอน เสร็จแล้วเธอก็ขึ้นมาหาเวียงพิงค์ทันที“พี่พิ้งค์สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะคุณ...” มะเหมี่ยวทักทายทั้งสองคนพลางยกมือไหว้“เมื่อวานไปทำธุระครึ่งวันทำไมไม่บอกพี่ล่ะ” เวียงพิงค์ตำหนิเล็กน้อยทว่ามะเหมี่ยวกลับปรายตามองคาเมรอนแทน“คือหนู มันด่วนมากน่ะค่ะเลยไม่ทันได้บอก แต่ฝากบอกผ่านสามีพี่พิ้งค์แล้วนะคะ” สามีอย่างนั้นหรือ ใครสั่งใครสอนให้พูด หรือว่าเขาบอกเอง เวียงพิงค์คิดอย่างไม่พอใจก่อนจะหันมามองมาคาเมรอนที่ยืนอยู่ปลายเตียง“เหมี่ยวเขาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรน่ะครับ” “คุณเสี้ยมคนของพิ้งค์มากกว่า” “ผมเปล่า กับข้าวเสร็จหรือยัง เอาขึ้นมาให้พี่พิ้งค์ไป แล้วเดี๋ยวจะได้พาพี่พิ้งค์ไปหาหมอ” “พิ้งค์ไม่ได้บอกว่าจะไปนะคะ” การที่เธอไม่ตอบนั่นแหละว่าตกลงแล้ว เขาคิด“ไปเอากับข้าวขึ้นมานะ” คาเมรอนไม่ได้พูดกับเวียงพิงค์แต่หันไปสั่งมะเหมี่ยวแทน“ได้ค่ะคุณ” มะเหมี่ยวรับคำเสร็จก็ออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง“ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status