Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2024-10-24 10:17:05

“ลำดับที่สิบผู้เข้าประกวดคนสุดท้าย นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ กับชื่อชุดฤดูผลิรัก” พิธีกรประกาศชื่อเวียงพิงค์เป็นคนสุดท้าย หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วจึงเดินขึ้นเวทีพร้อมกับนางแบบรูปร่างสูงเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่สามารถบดบังรัศมีความสวย ขาว น่ารักของเธอได้เลย แม้จะตัวเล็กแต่เวียงพิงค์เด่นราวกับดารา เพราะเธอสวยเหมือนดาราอยู่แล้ว จากนั้นเสียงเซ็งแซ่พูดคุยกันเรื่องหน้าตาของเวียงพิงค์ก็ฮอตพอๆ กับการวิจารณ์ความสวยของคอลเล็คชั่นที่เธอออกแบบ พร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราว 

เวียงพิงค์ส่งยิ้มหวานโปรยให้กับแขกในงานอย่างอ่อนโยนและเขินอายในที แต่นาทีนี้เองที่เธอได้เห็นคาเมรอนเต็มๆ ใกล้ๆ และต้องรีบหุบยิ้มเพราะไม่อยากให้ใครมองว่าอ่อยประธานบริษัท แม้ในหัวใจจะเต้นตูมตามแทบจะทะลุออกมานอกอก แต่จังหวะเดียวกันนั้นคาเมรอนก็มองมาที่เวียงพิงค์ด้วยดวงตาคมกริบวาวโรจน์ สลับกับมองเครื่องประดับและนางแบบ แต่นางแบบเองก็น่าสนใจไม่น้อย และเช่นเดียวกันเมื่อกรรมการได้เห็นเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยทุกคนก็ก้มหน้าให้คะแนน เมื่อโชว์เครื่องประดับเสร็จเวียงพิงค์กลับเข้าหลังเวทีพร้อมกับนางแบบเพื่อพักผ่อนและรอฟังผล 

  ฝ่ายกรรมการทำงานด้วยความขะมักเขม้นและหนักใจ เพราะทุกชุดล้วนแล้วแต่น่าสนใจด้วยกันทั้งสิ้น แต่มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่โดดเด่นและคว้าที่หนึ่งไปครอง เคียร่าซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการลุกเดินมาหาคาเมรอนตรงโซฟา พร้อมกับเอ่ยถามความคิดเห็นบุตรชายว่าชอบชุดไหนมากที่สุด

“ความจริงแล้วสิทธิ์ขาดอยู่ที่ลูกว่าจะให้เครื่องประดับชุดไหนชนะนะคาเมล” เคียร่าถามยิ้มๆ

“ผมทราบครับ แล้วผลออกมาใกล้เคียงกันหรือเปล่า” คาเมรอนตอบเสียงเรียบ

“ก็ใกล้เคียงกันมาก มีชุดเดียวที่โดดเด่นออกมา แต่อยากรู้ใจลูกว่าจะตรงกับที่พวกแม่คิดเอาไว้หรือเปล่า” 

“มีอยู่ชุดหนึ่ง ที่ผมบอกคุณแม่ตั้งแต่แรกว่าชอบมากที่สุด เรียบง่ายไม่ต้องคิดเยอะ”

“ชุดนั้นเหรอ คิดเหมือนกันเลย แม่ว่าสวย ดูดี เรียบๆ แต่หรูดูเป็นธรรมชาติมากๆ เอ๊ะหรือว่าชอบคนดีไซด์ด้วย” 

“เอ่อ... เปล่าครับ... คือก็... อาจจะมีบ้าง แต่ผมชอบนางแบบมากกว่า” คาเมรอนตอบเลี่ยงๆ ราวกับไม่สนใจสักเท่าไหร่

“โรคเจ้าชู้รักษาไม่หาย แม่ไปละจะเอาผลคะแนนไปรวม” 

“ครับผม” คาเมรอนตื่นเต้นไม่น้อยที่ผลคะแนนจะออกมาเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากว่าทุกคนชอบไปในทิศทางเดียวกันหมด เมื่อรวบรวมคะแนนได้แล้ว ตอนนี้เป็นวินาทีที่ผู้เข้าแข่งขันต้องถูกเรียกตัวขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งพร้อมกับนางแบบที่สวมใส่เครื่องประดับของตัวเอง

“ขอเสียงปรบมือให้กับผู้เข้าประกวดทั้งสิบคนอีกครั้งหนึ่งครับ” พิธีกรกล่าวอีกครั้ง เมื่อทุกคนมาพร้อมกันบนเวทีและยืนเรียงแถวหน้ากระดาน จากนั้นเสียงปรบมือจึงดังสนั่นห้องแกรนด์บอลรูม

“วินาทีต่อจากนี้ไปคงเป็นความตื่นเต้นของดีไซเนอร์มือพระกาฬทั้งสิบคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผม ซึ่งก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะครับ แต่ก่อนอื่นผมจะแจ้งรายละเอียดของรางวัลทั้งหมดเสียก่อนนะครับ สำหรับชนะเลิศอันดับหนึ่งรับเงินสดห้าแสนบาทพร้อมกับเซ็นสัญญาเป็นดีไซเนอร์ของบริษัท Grey&M Jewelry เป็นเวลาสี่ปี เพียงคนเดียวเท่านั้น รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่สอง รับเงินสดสามแสนบาทและรองชนะเลิศอันดับที่สามรับเงินสดไปหนึ่งแสนบาท แน่นอนครับหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้เซ็นสัญญา ผมอยากให้นางแบบเดินโชว์ตัวอีกครั้งหนึ่งนะครับ ลงไปให้กรรมการและแขกของเราเห็นใกล้ๆ” เมื่อพิธีกรพูดจบนางแบบจึงเดินเรียงแถวโชว์เครื่องประดับทีละคน เพื่อให้กรรมการและคนในงานเห็นอีกรอบ 

ขณะเดียวกันคาเมรอนไม่ได้จับจ้องที่เครื่องประดับอีกแล้ว เพราะเขาหมายมุ่งไปที่เจ้าของคอลเล็คชั่นต่างหาก ทำเอาคนที่ถูกมองถึงกับต้องเมินหน้าหนีไปทางอื่น เพราะสายตาของคาเมรอนที่มองมานั่นราวกับจะกลืนกิน แม้จะมองจากระยะไกลแต่ก็รู้สึกได้ ไม่ต่างอะไรกับถูกลวนลามทางสายตาชอบกล

“เอาล่ะครับ วินาทีสำคัญมาถึงแล้วนะครับ รายชื่อผู้ชนะเลิศและรองทั้งสองอยู่ในมือผมแล้ว หวังว่าจะตรงใจท่านผู้ชมนะครับ ผมขอประกาศรองอันดับสองก่อน รางวัลรองชนะเลิศอันดับสองได้แก่...” พิธีกรในงานเริ่มประกาศอันดับสามทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมกับเสียงเพลงกระหึ่มหัวใจ

“ได้แก่นายจักราวุธ เหลืองอร่ามครับผม” เมื่อขานชื่อเสร็จเจ้าของชื่อก้มศีรษะลงพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เสียงปรบมือดังกึกก้อง แม้จะไม่ได้ที่หนึ่งแต่เขาก็ดีใจ จากนั้นจึงได้เคียรร่ามอบรางวัลให้

“ลำดับต่อไปนะครับผม รองชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง ได้แก่...” พอพิธีกรพูดจบเสียงดนตรีก็ดังขึ้นอีกครั้งเพื่อบีบคั้นหัวใจและทันทีที่เสียงดนตรีจบพิธีกรก็ประกาศชื่อ

“ได้แก่นางสาวนริศรา ประเสริฐสกุล” เมื่อพิธีกรหนุ่มประกาศชื่อออกไปแล้ว เจ้าของชื่อจึงยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ทว่าเวียงพิงค์กลับมีอาการเหมือนคนจะเป็นลม เพราะสองคนที่ได้อันดับรองนั้นดีไซน์ออกมาสวยพอๆ กันเมื่ออันดับสองรับรางวัลเสร็จก็ถึงวินาทีที่บีบคั้นหัวใจมากที่สุด 

“ต่อไปเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง เจ้าของเงินสดห้าแสนพร้อมกับเซ็นสัญญาเข้าทำงานในบริษัทอัญมณียักษ์ใหญ่ของเมืองไทย น่าตื่นเต้นแทนผู้เข้าประกวดจริงๆ เลยครับ และรางวัลชนะเลิศอันดับที่หนึ่งได้แก่...” เป็นอีกครั้งที่เสียงดนตรีจะบีบคั้นหัวใจของผู้เข้าประกวดอีกแปดคน แต่ละคนก็แทบจะเป็นลมเลยทีเดียว

“ได้แก่! นางสาวเวียงพิงค์ ขวัญคำ เจ้าของชุดฤดูผลิรัก!!! ครับผม” เมื่อสิ้นสุดการประกาศเวียงพิงค์ถึงกับอึ้งและช็อก ทั้งดีใจและตื้นตันจนทำอะไรไม่ถูกขณะที่เสียงปรบมือดังลั่นอีกครั้ง แทบจะไม่ค้านสายตาคนดูเลยเพราะทุกคนมองว่าฤดูผลิรักสวย และเรียบหรูมาก ไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป แต่เวียงพิงค์ก็ยังช็อกอยู่ จนสุดท้ายผู้เข้าประกวดคนอื่นเข้ามาแสดงความยินดีเธอจึงได้สติกลับมาและยกมือไหว้พร้อมกับน้ำตาหลอเบ้าด้วยความตื่นตัน

“ขออนุญาตเรียนเชิญอดีตประธานบริษัท Grey&M เจ้าสัวหัสนัยน์ขึ้นมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศด้วยครับท่าน” ความจริงแล้วคนที่ต้องขึ้นมองคือคาเมรอน แต่เพราะเขาวางแผนกับบิดาไว้ตั้งแต่แรกว่าไม่อยากเปิดตัวในตอนนี้ จึงให้บิดาเป็นคนจัดการทั้งหมด หัสนัยน์จึงลุกขึ้นยืนและหันมาค้อมศีรษะให้กับทุกคนในงาน ก่อนจะเดินขึ้นเวที พร้อมกับมอบป้ายเงินรางวัลห้าแสนบาทให้กับเวียงพิงค์ และมอบโล่รางวัลให้ทั้งสามคน จากนั้นผู้เข้าแข่งขันที่เหลือก็ยังได้รางวัลปลอบใจซึ่งเป็นค่าสมองค่าความคิด คนละหนึ่งหมื่นบาทและใบประกาศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเคยเข้าร่วมการแข่งขันและเป็นหนึ่งในสิบคนมาก่อน 

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนกลับลงสู่หลังเวที เมษาซึ่งรอแสดงความยินดีกับเวียงพิงค์ก็วิ่งเข้ามาสวมกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจระคนด้วยน้ำตาที่ปริ่มพร้อมจะไหลเอ่อ

“สำเร็จแล้วนะยัยเตี้ย” เมษาบอกด้วยความดีใจพร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ

“จ้ะเมย์ ขอบคุณมาก พิ้งค์ขอบคุณเมย์มากที่บังคับให้พิ้งค์มาประกวด” เวียงพิงค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เพราะตัวพิ้งค์เองต่างหาก เก่งอยู่แล้ว เมย์แค่บังคับมาเฉยๆ” พูดจบเมษาจึงดันตัวเองออกมาเล็กน้อย

“เอาน่ายังไงก็เพราะเมย์ และพิ้งค์ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้” 

“ก็มีแล้วไง หืม ดีใจด้วยจ้ะไม่ร้องไห้นะ อย่าลืมโทรไปบอกข่าวดีให้แม่และน้ารู้ล่ะป่านนี้คงลุ้นแย่แล้ว” 

  “จ้ะ ไม่ลืมแน่ๆ” เวียงพิงค์รับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ จังหวะเดียวกันทีมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเวียงพิงค์พอดี

“คุณเวียงพิงค์คะ ดิฉันเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของบริษัท Grey&M พรุ่งนี้รบกวนเข้าไปเซ็นสัญญาโดยเร็วเลยนะคะ งานรอเพียบเลยค่ะ” ผู้จัดการสาวบอกด้วยความตื่นเต้นและยิ้มอย่างเป็นมิตร

“เซ็น! พรุ่งนี้เลยเหรอคะ” เวียงพิงค์ถามอย่างตกใจ

“เร็วไปไหมคะ เตรียมตัวทันไหม” ผู้จัดการสาวถามกลับยิ้มๆ

“ทัน... ทันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ” ถึงจะไม่ทันก็ต้องตอบว่าทันอยู่แล้วโดยธรรมชาติเพราะอยากทำงาน

“ท่านประธานอยากให้ทำงานเลยค่ะ พอดีมีคอลเลคชั่นใหม่เข้ามา ท่านอยากให้ผู้ที่ได้รางวัล ซึ่งคือคุณเป็นผู้ออกแบบน่ะค่ะ”

“น่าตื่นเต้นจัง น่ากลัวด้วยค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างซื่อๆ 

“ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวนะคะ ฝีมือคุณยอดเยี่ยมมากพรุ่งนี้เจอกันแปดโมงครึ่งนะคะ”

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สวัสดีค่ะ” เวียงพิงค์บอกอย่างขอบคุณพลางยกมือไหว้ ซึ่งผู้จัดการสาวก็ยกมือไหว้รับเช่นกัน จากนั้นจึงเดินจากไปอย่างมีความสุข เมื่ออยู่กันตามลำพังเพื่อนรักทั้งสองจึงสวมกอดกันอีกครั้ง

“โชคดีที่สุดในโลกเลยยัยเตี้ย ฮืม” 

ต่อมาภายในงาน ก็ทำพิธีปิดอย่างสวยงามสมหน้าสมตาบริษัทยักษ์ใหญ่ ผู้เข้าประกวดทั้งอิ่มเอมใจ มีความสุข บ้างก็ผิดหวังกลับบ้าน ทว่าคาเมรอนไม่ได้ทำให้อีกเจ็ดคนที่เหลือซึ่งไม่ได้รับรางวัลต้องกลับบ้านมือเปล่า อย่างที่บอกทุกคนได้รับเงินสดคนละหนึ่งหมื่นบาท และคาเมรอนขอซื้อผลงานทุกชุดเพื่อผลิตออกมาจำหน่าย ทุกคนจะได้รู้ว่าผลงานทั้งหมดที่ผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดีนั้นมันมีค่าทุกชุด เพียงแต่การประกวดต้องมีหนึ่งเดียวเท่านั้นและมันจำเป็นที่จะต้องเลือกเวียงพิงค์

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 87 (จบ)

    “อ๊ะ! ซี๊ดดดด อ่า คาเมล” ด้วยความเสียวซ่านทำให้เธอกดกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะต้องพ่ายแพ้ให้แก่ความคิดถึง ความปรารถนา และทะยานพุ่งสู่จดหมายที่ปลายขอบฟ้า ร่างบางกระตุกเกร็งและแอ่นสะโพกยกขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมาจิกที่ตัวไหล่ทั้งสองข้างของเขาเพื่อปลดปล่อยความทรมาน ผ่านไปชั่วครู่ร่างกายเริ่มผ่อนคลายล่องลอยราวกับอยู่กลางท้องฟ้า เสียงหายใจหอบพร่ากระชั้นด้วยความเหนื่อย คาเมรอนยังคงอ้อยอิ่งจูบซับความหวานกระทั่งพอใจ แล้วจึงขยับกายขึ้นไปหาพร้อมกับจูบที่ริมฝีปากบางอย่างปลอบโยนอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปรั้งผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้าขึ้นมาคลุมให้ แล้วยิ้มหวานพลางเอื้อมมือขึ้นเสยผมที่เลื่อนมาปิดใบหน้าออกให้อย่างอ่อนโยน แต่เวียงพิงค์แปลกใจไม่น้อยที่เขายอมทำตามคำขอร้องของเธอ “ทำไมคุณถึงได้ยอม ทั้งที่เมื่อก่อน...” เธอถามอย่างแปลกใจ“เมื่อก่อนผมไม่ยอมใช่ไหม จะเอาให้ได้ใช่หรือเปล่า ก็ตอนนี้ร่างกายคุณไม่โอเคจะให้ผมบังคับเหรอ คุณจะไม่เกลียดผมมากกว่านี้หรือยังไง” เขากระซิบบอกเสียงนุ่มแล้วก้มหน้าจูบที่หน้าผากเนียนเบาๆ แต่เนิ่นนานจนไม่อยากจะละจากกันเลยทีเดียว“ผมรักคุณ” เขากระซิบเบาๆ อีกครั้งทว่าหลั

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 86

    เท่านั้นยังไม่พอมือหนาซุกซนของเขาลูบเข้ามาจนถึงเรียวขาด้านใน ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับเนินสวาทอวบนุ่ม แต่เขากลับต้องชะงักเพราะมันเกลี้ยงเกลาสะอาดจน... “พระเจ้า” เขาครางออกมาเบาๆ ด้วยความตื่นเต้นพลางลูบไล้ฝ่ามือลงบนเนินสวาทช้าๆ พร้อมกับบดเบียดนิ้วแกร่งกับช่อกุหลาบนุ่มๆ อย่างเอาใจ สร้างความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวจนแทบคลั่ง เพราะไม่ได้อยู่ใกล้เขามานาน “อื้อ! ไม่ได้ค่ะ ไม่เอา” เธอเริ่มห้ามปรามอีกครั้งพร้อมกับผลักมือของเขาออก “ทำไมไม่ได้ ผม... ผมเอ่อ” เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกขัดใจชอบกล แต่ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเพียงแต่ร่างกายของเขากำลังต้องการเท่านั้นเอง “พิ้งค์เพิ่งคลอด คุณเข้าใจไหมคะ คุณหมอเย็บไหมละลาย ถ้าละลายแล้วก็ใช่ว่าคุณจะ...” เธอบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อืม! ผัวเมียอยู่ด้วยกันมันก็ต้องการจะให้ทำยังไงครับจ๋า หืม” ให้ตายสิเขาโมเมคิดว่าเธอใจอ่อนแล้วสิท่า “ไม่ต้องทำ ปล่อยพิ้งค์” พอเธอพูดจบเท่านั้นแหละเขาก็ตวัดเธอเข้าไปกอด “ไม่ทำไม่ได้ คุณหมอสั่ง” คนบ้ามาอ้างอิงคำสั่งหมอ หมอไม่ได้สั่งให้มีอะไรกันเสียหน่อย เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว เธอคิดพลางมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง “หมอไม่ได้สั่งแบบนี

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 85

    “คุณหนีผมมาทำไม ทิ้งผมมาทำไม ที่สำคัญไม่บอกผมสักคำว่าท้อง” “พิ้งค์ไม่ได้มีค่ากับคุณ เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคุณรังแกพิ้งค์ ลูกเกิดมาเพราะคุณไม่ได้ตั้งใจ และคิดเหรอว่าคุณจะรับผิดชอบ” เธอบอกพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งริน “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่รับผิดชอบ ผมเป็นคนนะ และคนๆ นี้ก็รักคุณ ไม่ได้ดูดายเมื่อรู้ว่าคุณมาที่นี่”“หึ ไม่ได้ดูดายอย่างนั้นเหรอคะ คุณไม่ได้สนใจพิ้งค์ด้วยซ้ำ”“โรงพยาบาลที่ราคาถูกผิดปกติ แท็กซี่เจ้าประจำของคุณ และค่าใช้จ่ายในบ้านที่แม่คุณอาจจะหยิบยื่นให้ สงสัยหรือเปล่า” ให้ตายสิอย่าบอกนะว่าเป็นฝีมือเขา เธอคิดและได้แต่ร้องไห้“ผมอยากมาหาคุณเหลือเกินพิ้งค์ แต่เพราะผมโง่ถึงรอคอยอะไรบ้าๆ จนทำให้คุณโกรธผมขนาดนี้ แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่เคยอยู่ห่างคุณกับลูกเลย” “คุณเป็นคน... เป็นฝีมือคุณ” “เป็นฝีมือผม ใช่ ผมอยากดูแลคุณอยากรับผิดชอบ แต่เพราะรู้ว่าคุณเกลียดผมมาก หากคุณรู้ก็กลัวว่าคุณไม่รับ ขอโทษนะครับได้ไหม” เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบด้วยความรู้สึกหลากหลาย บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร“ให้โอกาสผมได้ไหม เริ่มต้นกันใหม่นะครับ”“พิ้งค์เป็นแค่... พิ้งค์ไม่มีค่าอะไร” เธอยังคงคิดว่าตัวเองต่ำต้อ

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 84

    “แต่คุณน่ะทะลึ่ง ไปไหนก็ไปพิ้งค์ง่วง จะนอนแล้วไม่ต้องมากวนด้วย” พอพูดจบเธอก็คลานขึ้นเตียงทันทีแล้วแสร้งทำเป็นหลับ คาเมรอนจึงออกมาจากห้อง เพื่อจะเข้าครัวทำอาหารที่หมอแนะนำ นั่นคือแกงเลี่ยงเพียงอย่างเดียวก่อน แม้ว่าจะทำไม่เป็นก็ตาม แต่อ่านวิธีทำแล้วเข้าใจ ทุกอย่างก็ง่ายในทันที เมื่อลงมือทำเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข ถึงแม้เวียงพิงค์จะต่อต้าน แต่การทะเลาะกันนิดหน่อยเหมือนเป็นสัญญาณดี เพราะอย่างน้อยเวียงพิงค์ไม่ได้ขับไล่ไสสงเขาอย่างหนักหน่วง เหมือนวันแรกที่มาเหยียบที่นี่จ “หวังว่าคงจะทานได้นะครับ” เขาเอ่ยออกมาลอยๆ เพราะไม่มั่นใจว่ามันจะอร่อยเพียงใด แต่แกงเลี่ยงก็มีแต่ผัก ทานได้หรือไม่ได้ก็ต้องทาน พอทำเสร็จแล้วจึงตักใส่ถ้วยขนาดพอดีไม่ใหญ่มาก เพื่อให้เวียงพิงค์ได้ซดน้ำอุ่นๆ เขาคงไม่รอให้เธอพักผ่อนก่อนหรอก เพราะมั่นใจว่าเธอยังไม่หลับ จึงได้นำแกงเลียงขึ้นไปให้เพราะอยากนำเสนอมาก เขาชิมเองก็โอเค หากเธอรับประทานเข้าไปแล้วน่าจะอร่อยแน่ๆ เขาคิดพลางเดินขึ้นไปบนบ้าน แต่เธอไม่ได้อยู่ในห้องจังหวะเดียวกันนั้น เวียงพิงค์ออกมาจากห้องน้ำพอดีและแทบจะร้องกรี้ด ด้วยความตกใจเพราะเธอใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจาก

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 83

    “พิ้งค์พยายามจะเชื่อ แต่เชื่อไม่ลง อย่าพูดให้เหนื่อยเลยค่ะและออกไปพิ้งค์ อยากอยู่คนเดียว” เธอออกปากไล่อีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจออกไปจากห้องด้วยอาการคอตก พยายามที่จะไม่ท้อแท้กับกิริยาหรือคำพูด ที่เธอพูดเสียดแทงหัวใจ เพราะเขารู้ตัวดีและจำได้ว่าเคยพูดให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจมาแล้วอย่างไม่น่าให้อภัย “แค่สองวันก็จะทนไม่ได้แล้วเหรอเรา ทีทำร้ายเขาเต็มๆ หนึ่งอาทิตย์ ทิ้งให้อุ้มท้องคนเดียวจนคลอดอีก เขายังทนได้ หึ เอาเลยพิ้งค์อยากจะลงโทษผมให้สาแก่ใจ ให้เจ็บปวดเจียนตายก็เอา” เขาเอ่ยออกมาลอยๆ และไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้เพียงแต่อยากสงบจิตใจเท่านั้นเองขณะเดียวกันมะเหมี่ยวซื้อของเสร็จก็รีบกลับมาทันที พร้อมทั้งขอตัวกลับบ้านเพราะเที่ยงแล้ว เนื่องจากว่าคาเมรอนให้ทำงานเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่เวียงพิงค์ต้องถามเหตุผลกันเสียหน่อยว่าทำไมถึงกลับก่อนเวลาสองวันแล้ว“มีอะไรบอกพี่ตรงๆ ก็ได้นะเหมี่ยว ที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เวียงพิงค์ถามด้วยความเป็นห่วง แต่มะเหมี่ยวอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ“คือเหมี่ยว ไม่มีปัญหาอะไรกับที่บ้านหรอกค่ะ แต่แบบว่าพี่พิ้งค์มีคุณเขาดูแลแล้ว เหมี่ยวเลยอยากจะดูแลพี่พิ้งค์ช่วงเช้าครึ่งวันน่ะค่ะ” “

  • โซ่เสน่หากามเทพ   บทที่ 82

    “ก็ได้ครับ” ว่าแล้วเขาก็ค้นหาเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำ ชำระร่างกายภายในห้องนอนนี่เอง ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานนัก ระหว่างนี้มะเหมี่ยวก็ทำอาหารเช้าสำหรับเวียงพิงค์และคาเมรอน เสร็จแล้วเธอก็ขึ้นมาหาเวียงพิงค์ทันที“พี่พิ้งค์สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะคุณ...” มะเหมี่ยวทักทายทั้งสองคนพลางยกมือไหว้“เมื่อวานไปทำธุระครึ่งวันทำไมไม่บอกพี่ล่ะ” เวียงพิงค์ตำหนิเล็กน้อยทว่ามะเหมี่ยวกลับปรายตามองคาเมรอนแทน“คือหนู มันด่วนมากน่ะค่ะเลยไม่ทันได้บอก แต่ฝากบอกผ่านสามีพี่พิ้งค์แล้วนะคะ” สามีอย่างนั้นหรือ ใครสั่งใครสอนให้พูด หรือว่าเขาบอกเอง เวียงพิงค์คิดอย่างไม่พอใจก่อนจะหันมามองมาคาเมรอนที่ยืนอยู่ปลายเตียง“เหมี่ยวเขาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรน่ะครับ” “คุณเสี้ยมคนของพิ้งค์มากกว่า” “ผมเปล่า กับข้าวเสร็จหรือยัง เอาขึ้นมาให้พี่พิ้งค์ไป แล้วเดี๋ยวจะได้พาพี่พิ้งค์ไปหาหมอ” “พิ้งค์ไม่ได้บอกว่าจะไปนะคะ” การที่เธอไม่ตอบนั่นแหละว่าตกลงแล้ว เขาคิด“ไปเอากับข้าวขึ้นมานะ” คาเมรอนไม่ได้พูดกับเวียงพิงค์แต่หันไปสั่งมะเหมี่ยวแทน“ได้ค่ะคุณ” มะเหมี่ยวรับคำเสร็จก็ออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง“ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status