Chapter 48“ตายอม ตายอมเจ็บปวด แต่ตาไม่ยอมให้พี่ตาย” สุจิตราไม่รู้เหตุผลที่อาลีทำ และไม่คิดว่าอาลีจะทำเรื่องนี้ด้วย แต่เมื่อทำลงไปแล้วหล่อนก็พร้อมปกป้องเขาให้รอดพ้นจากความตาย เสมือนในเยาว์วัยที่ครอบครัวของอาลีนำพาตนออกจากขุมนรก ชุบชีวิตเลี้ยงดูด้วยความรักและความอบอุ่นเสมือนลูกคนหนึ่งก็ว่าได้ ในเมื่อครอบครัวอาลีให้ชีวิตใหม่กับหล่อน สุจิตราก็พร้อมมอบชีวิตที่เหลือให้อาลี ให้เขาปลอดภัยจากเงื้อมมือของอิลฮัม “โว้ย! รำคาญ จะพูดอะไรกันหนักหนาวะ พูดมากยิงทิ้งแม่งซะดีไหมเนี่ย” อิลฮัมที่รอคอยคำตอบเริ่มหงุดหงิด “ตอบมาว่าจะเอาไง จะให้มันตายหรือให้มันอยู่”สุจิตราหันมามองหน้าอิลฮัม ก่อนหันกลับไปมองหน้าอาลีที่พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง“ฆ่าผม...ฆ่าผม” อาลีบอกอิลฮัมที่มองหน้าตนเขม็ง“เออ...กูพร้อมฆ่ามึงอยู่เนี่ย” “ไม่นะ คุณฆ่าพี่อาลีไม่ได้ ฉันยอมทำตามที่คุณว่ามา” สุจิตราพูดออกไปโดยไม่คิด ขอแค่อาลีปลอดภัย หล่อนจะจมอยู่ในขุมนรกขั้นไหนก็ยอมทน “แต่คุณต้องสัญญาว่าจะปล่อยพี่อาลีกลับเมืองไทย” “ถ้าเธอยอมและทำให้ฉันพอใจ” อิลฮัมหยุดพูด กระตุกยิ้ม “มันก็รอด”พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเท้ามาหาอาลีกับสุจิตราที่เปรียบเสมื
Chapter 47สุจิตราเข้าไปทำงานโดยไม่มีใครรู้ว่าหล่อนคือใคร แม้กระทั่งอิลฮัมเจ้านายตรง สุจิตราใช้เวลาสามเดือนในการหาข้อมูลที่อิลฮัมต้องการ และเมื่อได้ข้อมูลหล่อนเดินทางมาหาเจ้านายเพื่อรายงานเรื่องฮาซีฟวันนั้นเป็นวันแรกที่อิลฮัมได้เจอหน้าสายลับสาว อิลฮัมไม่ได้สนใจในรูปร่างหน้าตาของสุจิตราสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเขาเจอสาวสวยกว่าหล่อนมาเยอะ อีกทั้งเขาไม่ใช่สมภารกินไก่วัด เป็นข้อห้ามส่วนตัวก็ว่าได้ ต่างกับสุจิตราที่ลุ่มหลงในความหล่อของอิลฮัมตั้งแต่เห็นครั้งแรก ที่ว่าเห็นครั้งแรกนี้ไม่ได้เห็นเผชิญหน้า แต่เห็นเขาในรูปภาพที่อาลีให้ดูหน้าค่าตาของเจ้านาย หล่อนเก็บความรักที่ก่อเกิดในระยะเวลาอันรวดเร็วไว้ในใจ และเมื่อเห็นหน้าอิลฮัมเต็มสองตา ใจหล่อนสั่น ตื่นเต้นที่ได้พบเจอชายในฝัน อิลฮัมจัดการฮาซีฟทันที เป็นการจัดการอันแยบยลทำให้ฮาซีฟยอมขายหุ้นให้อิลฮัมทั้งหมดห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่าตอนนี้อิลฮัมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาสุจิตราได้รับรางวัลพิเศษจากอิลฮัมเป็นเงินจำนวนห้าแสนบาท และนับแต่นั้นสุจิตราเข้ามาทำงานกับอิลฮัมเต็มตัวในฐานะบอดี้การ์ดสามเดือนต่อมาเรื
Chapter 46 ต่างรู้กันว่า สุจิตราเป็นหนึ่งในทีมบอดี้การ์ดของอิลฮัม จึงไม่มีใครรู้ในความสัมพันธ์ลึกๆ ระหว่างอิลฮัมกับสุจิตรา จะมีคนรู้ก็แค่คนในบ้านและทีมบอดี้การ์ด ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครรู้ความลับนี้ แม้แต่จรรยาก็คิดว่า สุจิตราเป็นอดีตลูกน้องที่ย้ายไปอยู่กับบาดียะ เพื่อดูแลระหว่างตั้งครรภ์ “ได้ครับ ผมจะหาของขวัญให้มัซนีย์”อิลฮัมไหลไปตามน้ำ เอ่ยเสียงเรียบทว่าในใจกลับเดือดพล่านเมื่อได้ยินว่า มีชายหนุ่มมาจีบสุจิตรา เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักไม่ให้ความไม่พอใจออกมาทางสีหน้าหรือแววตา อิลฮัมเก็บมันไว้อย่างมิดชิด การสนทนาหยุดลงชั่วขณะเมื่อโมฮัมหมัดกับสุจิตราเดินถือถาดใส่ขนมเค้กมาวางไว้บนโต๊ะ โมฮัมหมัดหยิบจานเค้กส่งให้ญาติอีกสองคนและส่งอีกจานให้อัฟฮัม สุจิตราหยิบจานเค้กส่งให้ฮานีฟา จรรยาที่ส่งยิ้มให้และส่งให้อิลฮัมเป็นคนสุดท้าย ขณะที่ส่งจานขนมเค้กให้อิลฮัม เขามองหน้าสุจิตราและนั่นทำให้หล่อนใจสั่น ความเข้มแข็งที่ตนเองตั้งมั่นไว้ในจิตใจสั่นคลอนจะว่าไปความเข้มแข็งของสุจิตรานั้น เหมือนจะค่อยๆ ทลายลงทีละนิดเมื่อได้เห็นหน้าอิลฮัม อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ ความเสียใจ ทั
Chapter 45“ค่ะ พี่จะเข้มแข็งค่ะ”“งั้นลงไปกันค่ะ” สุจิตราสูดลมหายใจแรงๆ เข้าไปในปอด ราวกับให้กำลังใจตัวเอง ก่อนก้าวเท้าลงจากรถ ยืนมองประตูบ้านด้วยใจไหวหวั่น “ไปค่ะพี่มัซนีย์”บาดียะยิ้มให้สุจิตรา กุมมืออีกฝ่ายแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่อันคุ้นเคย โดยมีคนขับรถถือถุงใบใหญ่สองใบเดินตามไปด้วยภายในห้องโถงใหญ่ของบ้านที่ตกแต่งอย่างหรูหราสมกับฐานะเจ้าของ ชุดโซฟารับแขกชุดใหญ่ที่มีโซฟาสี่ตัว เป็นตัวยาวที่นั่งได้ราวสามถึงสี่คนสองตัว และนั่งได้สองคนอีกสองตัว อัฟฮัมกับฮานีฟานั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน โดยมีสาวสวยนามว่าจรรยานั่งข้างฮานีฟา โซฟาตัวเล็กอีกสองตัวถูกจับจองด้วยญาติของอัฟฮัมที่มาเยี่ยมเยียนตัวละหนึ่งคน ส่วนโซฟาอีกตัวที่หันหลังให้กับประตูบ้านมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ลูกชายเจ้าของบ้านนั่งอยู่คู่กับญาติผู้พี่นามว่า โมฮัมหมัดรอยยิ้มของอัฟฮัม ฮานีฟาและจรรยาที่ระบายเต็มใบหน้า และทั้งสามมองไปยังประตูบ้าน ราวกับส่งยิ้มให้คนที่กำลังเดินเข้ามา อิลฮัมที่สังเกตเห็นอยู่จึงหันไปมองทางด้านหลังด้วยความอยากรู้ว่า ทั้งสามยิ้มให้ใครโอ้...อิลฮัมครางในใจและอึ้งเมื่อเห็นสุจิตราเดินคู่มากับบาดี-ยะ เหตุผลขอ
Chapter 44 หลังจากตกลงกันได้ สุจิตราเก็บเสื้อผ้าไปอยู่บ้านบาดียะที่ยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยอมรับมูฮัมหมัดในฐานะลูกเขย แม้ว่าจะไม่เต็มใจนัก แต่ในเมื่อลูกสาวรักและเรื่องเลยเถิดมาถึงป่านนี้ อีกทั้งมูฮัมหมัดก็ไม่คิดเกาะบาดียะกินอย่างที่เข้าใจ เขาขยันทำงาน หาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย จาเหม็ดที่รักลูกไม่อยากให้ลูกลำบาก จึงให้มูฮัมหมัดเข้ามาดูแลกิจการเครื่องเพชรของตน ให้เงินเดือนและส่วนแบ่งรายได้ให้สิบเปอร์เซ็นต์ หน้าที่หลักของสุจิตราคือดูแลบาดียะที่เกิดอาการแพ้อย่างหนัก นอกจากคลื่นไส้ยังมีอาการวิงเวียนศีรษะและหน้ามืดบ่อยๆ สุจิตราแทบจะไม่ห่างบาดียะเลย ดูแลดีประหนึ่งน้องสาว การที่สุจิตรามาอยู่บ้านบาดียะ หล่อนได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของบ้านที่ให้ความเมตตา แม้ว่าจะต่างศาสนาแต่ก็อยู่ร่วมกันได้ บาดียะซื้อชุดแบรนด์หรูให้สุจิตราเกือบยี่สิบชุด ไม่รวมเครื่องประดับอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอและนาฬิกา รวมถึงกระเป๋าราคาหลักแสนให้อีกสองใบ ไม่เพียงแค่นั้นยังขัดสีฉวีวรรณให้ดูเปล่งปลั่งมากขึ้น ดูมีออร่าสาวไฮโซ ทำราวกับว่ากำลังชุบตัวสุจิตราเป็นคนใหม่
Chapter 43สามเดือนต่อมา อนัญญา อานัสกับอานีสเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศซาเมียร์ ประเทศที่อนัญญารู้จักแค่ชื่อ แต่ไม่เคยมาย่ำเยือน พอมาเห็นหล่อนยอมรับว่าตื่นเต้นและทึ่งในสถาปัตยกรรมอันสวยงามและเก่าแก่ โดยเฉพาะวังของฟาฎิลที่มีความยิ่งใหญ่สวยงามมาก เพราะทำจากหินอ่อนทั้งหมด เนื้อที่ก็ใช่ย่อยกว้างขวางถึงห้าสิบไร่ มีสนามหญ้าให้อานัสและอานีสวิ่งเล่น รวมถึงสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล ยังไม่หมดยังมีสนามแข่งรถทางด้านข้างของวังอีกด้วย อนัญญากับสองหลานชายได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น นูรีนมารดาของฟาฎิลที่เคยเจอกันแล้วตอนที่นางไปดูหน้าหลานรักที่เมืองไทย นางรู้สึกถูกชะตาและนับถือความแข็งแกร่งของอนัญญาหลังจากรู้ว่า หล่อนดูแลทั้งอภิญญาและหลานชายพร้อมกัน ด้วยการไม่เลือกงาน ขอเพียงเป็นงานสุจริต นูรีนยินดีมากที่อนัญญาก้าวเข้ามาอยู่ในวัง ในฐานะลูกสะใภ้ คนมาอยู่ใหม่นอกจากจะปรับตัวเรื่องเวลาและสถานที่แล้ว ทั้งสามยังต้องเรียนรู้เรื่องภาษาและศาสนา รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งสามป้าหลานก็ค่อยๆ ปรับตัว เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตอนนี้อนัญญาพูดคุยภาษาถิ่น