Share

บทที่ 2

Author: สาลี่แช่แข็ง
ฉันจากไปก่อนเวลา ท่ามกลางเสียงหัวเราะพูดคุยที่มีความสุข

กลับถึงที่พักก็ดึกแล้ว

ไม่รู้ว่าฝนเริ่มตกตั้งแต่เมื่อไร ไอความชื้นที่ระเหยขึ้นมาก่อตัวเป็นฝ้าบาง ๆ บนหน้าต่าง สะท้อนเงาร่างของฉันที่ทั้งเดียวดายและอ้างว้าง

บ้านหลังนี้กว้างขวางมาก เป็นเพนท์เฮาส์ขนาดใหญ่มองเห็นวิวแม่น้ำ สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยเป็นเลิศ อยู่ในย่านที่ดินราคาสูงในเมืองจิงกั่ง เป็นบ้านในฝันของใครหลายคน

แต่ในบ้านที่หรูหราและสะดวกสบายแบบนี้ กลับมีเพียงฉันคนเดียวที่อาศัยอยู่ตลอดทั้งปี

เข็มชั่วโมงลากผ่านเวลาเที่ยงคืนไปอย่างเงียบ ๆ ฉันรู้ว่าคืนนี้จี้อวิ๋นโจวจะไม่กลับมาอีกแล้ว

แต่เสียงเปิดประตูกลับดังขึ้นกะทันหัน

ฉันมองไปด้วยความสงสัย เห็นเงาของชายหนุ่มที่เดินโซเซเข้ามาใกล้

จี้อวิ๋นโจวดื่มเหล้าด้วยเหรอ

ตอนที่แขนแกร่งของเขาโอบเอวฉัน เขาไม่ให้โอกาสฉันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย ร่างทั้งร่างกดทับเข้ามา

เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรุกล้ำ

ฉันถอยหลังสองก้าว แต่กลับถูกบังคับให้อยู่ตรงหน้ากระจกหน้าต่างบานใหญ่ กลิ่นหอมเย็นของต้นสนซีดาร์ปนเปกับกลิ่นเฉพาะตัวของจี้อวิ๋นโจวลอยอบอวลอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้หัวใจฉันรู้สึกร้อนรุ่มไปหมด

“หมอจี้อยากเหรอคะ?” ฉันได้ยินเสียงหัวเราะเยาะและน้อยใจที่แฝงในน้ำเสียงของตัวเอง

ถ้านับดู พวกเราก็ไม่ได้ทำกันมานานกว่าครึ่งปีแล้ว

คืนนี้เขามีอารมณ์ขึ้นมาอย่างกะทันหัน สาเหตุแค่คิดก็พอจะรู้ได้

“ไม่ได้ทำนานขนาดนี้ ไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ?”

เสียงของเขาต่ำมาก ลมหายใจรดอยู่ข้างใบหูฉัน ราวกับมีมดกำลังกัดผิวหนังที่หู ทำให้รู้สึกเสียวซ่าน

ในใจฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์ตอนแต่งงานใหม่ ๆ ที่ผู้ชายคนนี้ที่ดูสุภาพและเย็นชาทรมานฉันบนเตียง ความดุดันลดลงไปครึ่งหนึ่งทันที

จี้อวิ๋นโจวฉวยโอกาสใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของฉัน กดจูบอย่างดุดันและก้าวร้าว เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบสนอง เขาก็พูดพลางจูบว่า “เยว่เยว่ เชื่อฟังนะ”

เขาจูบอย่างคลั่งไคล้และเร่งเร้า จนไม่เหลือท่าทางฉับไวในเวลาปกติอย่างสิ้นเชิง

เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการครอบครอง

ในน้ำเสียงยังเจือไปด้วยความล่อลวง

ทำให้ฉันหลงคิดว่าตัวเองกำลังถูกรัก

ทั้งที่จริง ๆ แล้ว เขาจำวันเกิดของฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ตั้งใจหน่อย” ริมฝีปากของฉันถูกปิดสนิท ลมหายใจหนักหน่วงของเขาแผ่ซ่านอยู่ข้างหู จี้อวิ๋นโจวเพิ่มแรงขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนจะพูดว่า “กอดฉันไว้”

ฉันเห็นเงาของเราซ้อนทับกันอยู่หน้ากระจกหน้าต่างบานใหญ่ พร่าเลือนและคลุมเครือ

หลังเสร็จกิจ ชายหนุ่มก็กลับมาเย็นชาไร้อารมณ์อีกครั้ง

ตอนฉันออกมาจากห้องน้ำ เขากำลังยืนโทรศัพท์อยู่ที่หน้าต่าง ใส่ชุดสูทที่เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็ก ไหล่กว้างเอวคอด ทั้งตัวดูสง่างามและสูงใหญ่

น้ำเสียงก็ยังคงทุ้มต่ำและทรงพลังเหมือนเคย

“แม่ยายไม่ต้องร้อนใจนะครับ เรื่องลูกเข้าสู่กระบวนการแล้ว”

ปรากฏว่าเป็นสายจากคุณหลิวแม่ฉันเอง

เธอเป็นแกนนำเร่งรัดให้มีลูกมาตลอด

ทั้งวันทั้งคืน

แต่เข้าสู่กระบวนการหมายความว่าอะไร? หรือว่าจี้อวิ๋นโจววางแผนที่จะมีลูก?

ฉันเพิ่งคิดจะพูดต่อ สายตาก็พลันประสานเข้ากับสายตาของเขา

เพียงแค่สบตา ฉันก็เห็นความรังเกียจในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตัดสาย

เราสบตากันอยู่คนละฝั่ง ฉันกำลังจะขอโทษเรื่องที่แม่โทรหาเขา ก็ได้ยินเขาพูดว่า “พรุ่งนี้เช้ายังมีประชุมอีก ฉันจะกลับไปที่แผนกก่อน แล้วก็...”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง หันมองโต๊ะเครื่องแป้งแวบหนึ่ง แล้วพูดเสียงเรียบ “อย่าลืมกินยาด้วย”

เขาพูดจบก็ออกจากห้องนอนไป ฉันมองไปที่โต๊ะอย่างความรู้สึกช้า เพียงแวบเดียวก็เห็นยาคุมฉุกเฉินที่วางอยู่บนโต๊ะ

หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะโดยไม่มีสัญญาณเตือน จากนั้นก็เต้นอย่างรุนแรง จนทำให้ปลายจมูกของฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแสบร้อน

สิ่งที่ฉันควรคิดได้ก็คือ จี้อวิ๋นโจวที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับฉัน จะไปยอมให้ฉันตั้งท้องลูกของตระกูลจี้ได้อย่างไร

ทั้งยังเหลือสามเดือนสุดท้ายก็จะครบกำหนดสามปีแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 100

    คำพูดที่มั่นใจและตรงไปตรงมานี้ของฉันทำให้สีหน้าฝ่ายบุคคลชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ถามว่า “เมื่อวานนี้ในกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนของโรงพยาบาลจิงเสียปรากฎรูปถ่ายคู่ของคุณกับหมอเซี่ยแผนกวิสัญญีโรงพยาบาลซินหย่า คุณเห็นว่ายังไง?”“ในเมื่อเป็นการสัมมนา ฉันย่อมต้องแสดงความเป็นมิตรและจิตใจดีของคนโรงพยาบาลจิงเสียออกมาอยู่แล้ว ส่วนในภาพที่หมอเซี่ยที่ช่วยพยุงฉัน ก็แค่เพราะว่าตอนนั้นดาดฟ้ามันโยก เขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่ดึงฉันไว้เท่านั้นเอง”คงเป็นเพราะแววตาของฉันตรงไปตรงมาเกินไป สีหน้าของของฝ่ายบุคคลจึงไม่ได้ดูย่ำแย่เหมือนตอนที่ฉันเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากเงียบไปชั่วครู่ เขากล่าวกำชับว่า “คุณกลับไปทำงานก่อนเถอะ เรื่องนี้พวกเราจะตรวจสอบให้ชัดเจน”ฉันปรารถนาอย่างยิ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองล่วงเกินคนชั่ว ๆโดยไม่ได้ตั้งใจคนไหนเข้า ถึงกับต้องให้คนส่งจดหมายรายงานนิรนามไปยังฝ่ายบุคคลงั้นฉันจะอดทนรอฟังข่าวดีแต่สิ่งที่ทำให้ฉันคิดไม่ถึงก็คือ ตอนที่ฉันออกมาจากฝ่ายบุคคล กลับเผชิญหน้ากับเจิ้งซินหรานโดยบังเอิญสาวน้อยคงจะคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเจอฉันที่นี่ หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ ก็พยักหน้าให้ฉัน เปิดปร

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 99

    ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในศูนย์กลางความคิดเห็นของสาธารณชนอีกครั้ง และยังด้วยวิธีการแบบนี้ด้วยและเจิ้งซินหรานที่ทำให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า นอกจากจะพูดขอโทษฉันในกลุ่มแล้ว ภายในสี่ชั่วโมงหลังจากเกิดเรื่อง ก็ไม่ได้ติดต่อฉันอีกเลยถ้าไม่ได้บังเอิญเจอเหลียงฮ่าวเหมี่ยว ถึงตอนนี้ฉันก็คงยังไม่รู้อะไรเลยสิ่งที่ทำให้ฉันเป็นทุกข์มากกว่าเดิมก็คือ จี้อวิ๋นโจวสามีของฉัน หัวหน้าใหญ่จี้ผู้ร่วมเดินทางไปงานสัมมนาในครั้งนี้ หลังจากมองเห็นการกระทำโดยไม่ได้ตั้งใจของเจิ้งซินหราน ไม่เพียงแต่ไม่พูดแทนคุณนายจี้ที่ถูกลากเข้าไปในศูนย์กลางความคิดเห็นอย่างฉัน แต่กลับไปปกป้องเจิ้งซินหรานในทันทีอีกด้วยไม่น่าแปลกใจเลยที่สาวน้อยจนถึงตอนนี้ แม้แต่ข้อความขอโทษสักประโยคก็ไม่ส่งมาให้ฉันเพราะคิดว่านี่มันเรื่องเล็กมากหรือไง ทั้งยังมีการสนับสนุนของจี้อวิ๋นโจว เลยไม่ได้ใส่ใจสินะ?งั้นฉันล่ะ?ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ตัวอย่างสิ้นเชิง ถูกถ่ายภาพที่เรียกว่าภาพถ่ายโชคชะตา ทั้งยังถูกแบ่งปันในกลุ่มอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าฉันไม่ได้ถูกใส่ร้ายงั้นเหรอ?หากลงลึกจริง ๆ ถ้าฉันบอกว่าละเมิดสิทธิในการถ่ายภาพของ

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 98

    ฉันนั่งรถไปที่สถานพักฟื้นของพ่อจะว่าไปฉันไม่ได้มาที่นี่สักพักหนึ่งแล้ว เมื่อมองผมสีดอกเลาและใบหน้าที่แก่ลงเรื่อย ๆ ของพ่อ ในใจของฉันหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆถ้าตอนนั้นเขารู้ว่างานแต่งงานที่ตัวเองก้มหัวขอร้องมาจะมีสภาพเป็นแบบนี้ คงจะต้องรู้สึกผิดและโทษตัวเองมากอย่างแน่นอนพ่อคะ บางทีพวกเราอาจจะผิดทั้งหมด ฝืนใจคนมันไม่มีความสุขหรอกค่ะตัดเล็บ ตัดผม หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จก็พระอาทิตย์ตกดินแล้ว หลังจากห่มผ้าห่มให้พ่อเรียบร้อย ถึงได้ไปจากห้องผู้ป่วยอย่างอาลัยอาวรณ์เมื่อหันกลับมามองชายที่อยู่บนเตียงคนป่วยอีกครั้ง ฉันแอบบอกกับตัวเองว่า เสิ่นเสียนเยว่ จะต้องไม่ถูกตีจนล้มง่าย ๆ แบบนี้แน่เรื่องบางอย่างที่อยู่ในใจ ฉันขึ้นลิฟท์ตอนไหนไม่แน่ชัด จนกระทั่งเสียงทักทายอันอบอุ่นดังขึ้นใกล้ ๆ หู ฉันจึงเงยหน้าขึ้นอย่างอยากรู้ และมองเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของเหลียงฮ่าวเหมี่ยว“หมอเหลียงทำไมมาอยู่นี่?”“คุณจริง ๆ ด้วยหมอเสิ่น”หลังจากพูดคุยสัพเพเหระเล็กน้อย ฉันถึงรู้ว่าคุณตาของเสิ่นเสียนเยว่ก็อยู่ที่สถานพักฟื้นนี้เช่นกัน“หมอเสิ่นดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของฉัน กล่าวอย่

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 97

    จี้อวิ๋นโจวเสียอาการต่อหน้าคนหมู่มากบรรดาคนรับใช้รีบร้อนจัดการ แม่สามียื่นทิชชูให้อย่างร้อนรน ผู้ชายที่พิถีพิถันเรื่องความสะอาดมาแต่ไหนแต่ไรกำลังมองดูซุปไก่หยดสีทองไม่กี่หยดที่ปลายแขนเสื้อ แล้วไปห้องน้ำอย่างไม่พอใจแม่สามีไม่ได้พูดหัวข้อนี้อีกแล้วจริง ๆจะพูดยังไงล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจพุ่งเป้าไปที่จี้อวิ๋นโจวเสียหน่อย แต่ถึงยังไงวิวแม่น้ำนี้เขาก็ไปดูกับเจิ้งซินหราน ว่ากันตาจริงฉันเป็นแพะรับบาปแทนเขา คนปกติควรแสดงออกสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?แต่จี้อวิ๋นโจวไม่ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ทำได้แค่บอกเขาเท่านั้น ครั้งนี้ฉันรับแทนเขาได้หนึ่งครั้ง แต่ไม่สามารถรับแทนทุกครั้งไป ห้านาทีต่อมา จี้อวิ๋นโจวที่เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตใหม่ก็กลับมาที่ห้องโถงใหญ่อีกครั้ง เหลือบมองฉันพลางกล่าวว่า “เวลาจำกัด พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”ฉันอยากได้ใจจะขาด ตอนกำลังแอบโชคดี สายตากวาดมองไปที่ดวงตาของชายคนนั้น อดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น ดูท่าหมอจี้จะโกรธอีกแล้วฉันนั่งตรงที่นั่งคนขับออกมาจากบ้านเดิม ไม่กี่อึดใจ หลังจากเครื่องยนต์ส่งเสียงคำราม เบนซ์จีห้าร้อยที่มีพลังก็พุ่งทะยานราวกับสัตว์ร้ายร่างกายเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่สา

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 96

    นี่กำลังตำหนิฉันงั้นเหรอแต่ฉันกับจี้อวิ๋นโจวเหมือนกันได้งั้นเหรอ?เขาลงจากเครื่องบินมีรถส่วนตัวมารับ มนุษย์เงินเดือนธรรมดาแบบฉัน ทั้งยังไม่สามารถเปิดเผยสถานะของคุณนายจี้ได้ ทำได้เพียงต่อแถวไปด้วยกันกับทุกคนเพื่อเรียกรถเท่านั้น ต้องเสียเวลาไปบ้างอยู่แล้วฉันกำลังโต้แย้งอยู่ในใจ แต่ปากกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดสักคำอาจเป็นเพราะเมื่อคืนถูกลมพัดที่บนดาดฟ้า ตอนนี้หัวสมองของฉันกำลังหนักอึ้งเมื่อเสิร์ฟอาหารแล้ว แม่สามีก็ตักซุปให้จี้อวิ๋นโจวทันที สอบถามอย่างห่วงใย แม่ก็เมตตา ลูกก็กตัญญู ส่วนฉัน ไม่แตกต่างอะไรกับอากาศเดิมทีฉันคิดว่าจะกินอาหารนี้ให้เสร็จอย่างเงียบ ๆ ทว่าในวินาทีต่อมา ปลายจมูกของฉันกลับได้กลิ่นทุเรียนที่คุ้นเคยความรู้สึกไม่สบายเกิดขึ้น ฉันอุดปาก อดไม่ได้ที่จะอ้วกออกมาสองสามครั้งเมื่อแม่สามีเห็นดังนั้นก็ตกตะลึงชั่วขณะ กล่าวอย่างกังวล “ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงอ้วกออกมาได้ล่ะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? อยากให้หมอหวังมาดูสักหน่อยไหม?”หมอหวังเป็นหมอประจำครอบครัวของตระกูลจี้ ต้องขอบคุณการดูแลของแม่สามี ฉันเคยถูกเขาเจาะเลือดไปสองครั้งตอนสงสัยว่าท้องเพียงไม่กี่นาที ฉันก็เข้าใจความห

  • โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้   บทที่ 95

    ท่าทางหันกลับมาอย่างเขินอายของเจิ้งซินหรานทำฉันกับเซี่ยจี้ไป๋ต่างสับสนไปหมดเขาเหลือบมองฉันอย่างไม่มีทางเลือก กล่าวอธิบายว่า “หมอเจิ้งเข้าใจผิดแล้ว ผมกับหมอเสิ่นกำลังคุยเรื่องงาน”เมื่อสาวน้อยได้ยินก็หันหน้ามา สายตามองไปยังเซี่ยจี้ไป๋ที่พยุงข้อมือฉันอยู่ กล่าวอย่างขี้เล่นว่า “งั้นเหรอคะ?”ฉันชักมือกลับอย่างไม่แสดงอารมณ์ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้อเสนอของหมอเซี่ยฉันจะพิจารณาอย่างจริงจังค่ะ”เจิ้งซินหรานเบิกตากว้าง กล่าวอย่างอยากรู้ “ข้อเสนออะไรเหรอคะ? ฉันกับพี่อวิ๋นโจวฟังได้ไหม?”เธอนิสัยร่าเริง ทั้งยังเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเรา หากเปลี่ยนเป็นปกติ ฉันคงไม่ไปสนใจอะไรกับเธอ แต่ว่าตอนนี้ ในใจของฉันกลับเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว“ลมแรงเกินไป ฉันกลับก่อนละ”เซี่ยจี้ไป๋เดินตามทันที “ได้ ไปด้วยกัน”ก่อนเข้าห้องโดยสาร ฉันได้ยินเสียงสาวน้อยตำหนิตัวเองอย่างเลือนลาง “ฉันถามคำถามที่ไม่ควรถามหรือเปล่าคะ?”น่าจะเป็นการพูดให้จี้อวิ๋นโจวฟังแต่เหตุผลที่ฉันกลับห้องโดยสารไม่ใช่เพราะหาข้อแก้ตัว วันนี้ทั้งวันฉันรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ตอนนี้ความรู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status