“ปล่อยหนูไปสักที! ป๊ามีเมียแล้ว!!มีเมียแล้วจะมายุ่งกับหนูทำไม!?” “ใช่!มีเมียแล้ว แล้วป๊าก็จะยุ่งเพราะหนูคือเมียป๊า”
더 보기“ปะป๊าขา~มีคนว่าหนูเป็นเด็กเสี่ยอีกแล้วค่ะ”
เป็นครั้งที่ร้อยล่ะมั้งที่เธอวิ่งมาฟ้องคนแก่คนนี้
“หนูก็อย่าไปสนใจสิคะ เขาแค่ไม่รู้ว่าหนูมีผัวแล้วล่ะมั้ง”
“ผัวอะไรกัน เขาคิดว่าป๊าเป็นพ่อหนูต่างหาก”
ใช่แล้ว…ตาแก่อายุสี่สิบสอง หล่อรวยสายเปย์คนนี้เป็นผัวเธอจริง ๆ
วิเศษมาก
แต่หากจะให้วิเศษมากกว่านี้คือ
เขาต้องเป็นผัวเธอคนเดียวเท่านั้น
ไม่ใช่ผัวชาวบ้าน…
“ปล่อยหนูไปสักที! ป๊ามีเมียแล้ว!!มีเมียแล้วจะมายุ่งกับหนูทำไม!?”
“ใช่!มีเมียแล้ว แล้วป๊าก็จะยุ่งเพราะหนูคือเมียป๊า”
///
ภูผา
นักธุรกิจ อายุ 42 สูง 180 ซม.
หล่อ รวย สายเปย์ พ่อไมโครเวฟ(ลืมเสียบปลั๊ก)
“ไม่เอาน่าเด็กดี หนูเป็นอะไรบอกป๊าสิครับ ทำไมต้องปีนลงมาแบบนั้นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม”
คะนิ้ง
นักศึกษา อายุ 22 สูง 160 ซม.
สวย น่ารัก ขี้อ้อน
“ไอ้แก่! จะจับตัวฉันไปไหนหา?!”
บทนำ
“หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีสมอง!”
“นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” หญิงสาวกำหมัดแน่น พยายามข่มกลั้นอารมณ์สุดชีวิต แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนเลยสักนิด ยังคงพูดต่อไม่ยอมหยุด
“มันไม่มากเกินไปสำหรับยัยเด็กใจแตกชอบแย่งผัวชาวบ้านแบบเธอหรอกนะ”
เธอคนนั้นยังคงยืนด่าเธอฉอด ๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาเดินตลาด คะนิ้งถึงกับยืนนิ่งหน้าชา เมื่อจู่ ๆ ก็โดนตราหน้าว่าไปแย่งผัวชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่เธอมีแฟนแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่ดูแลเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เคยบอกเธอเลยว่ามีภรรยาอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่เคยสงสัยมาก่อน จนกระทั่งวันนี้
“นะ หนูเปล่านะ หนูไม่เคยแย่งผัวใคร”
หญิงสาวที่ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เธอยืนกำหมัดไม่คลาย สายตาก็มองรอบตัว ที่เวลานี้มีคนมามุงดูอย่างคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้เธอทั้งอายทั้งเสียใจ เธอก็อยู่ของเธอดี ๆ แต่กลับต้องมาโดนด่าเช่นนี้
“เหอะ ตอแหล ถ้าแกไม่แย่งมาพี่ภูผาเขาไม่มีทางเลิกกับฉันมาเอาแกหรอก!”
“……”
ประโยคนั้นของอีกฝ่ายราวกับเอาน้ำเย็นมาสาดหน้าเธอจัง ๆ มันรู้สึกราวกับว่าหน้าชาวาบ สมองไม่สามารถประมวลผลสิ่งต่าง ๆ ได้เลยในตอนนั้น เมื่อหญิงสาวดูผู้ดีแสนจะดุดันตรงหน้าบอกว่าเธอแย่งเขาคนนั้นมา!
ผู้ชายที่นอนเตียงเดียวกับเธอแทบทุกคืน ดูแลเธอดุจเจ้าหญิงตัวน้อยของเขา แต่แท้จริงแล้วเขามีภรรยามีครอบครัวอยู่แล้วงั้นหรือ? เขาหลอกเธอ? เขาหลอกให้เธอรักและกลายเป็นเมียน้อยเนี่ยนะ!
“สภาพยัยเด็กเมื่อวานซืนแบบแกเขาไม่มีวันรักเธอจริงหรอก เขาแค่เอาแกเล่นแก้เบื่อเท่านั้นแหละ ยัยโง่เอ้ย!”
อีกฝ่ายก็ด่าเธอไม่หยุด แถมยังทำท่าจะเข้ามาทำร้ายคะนิ้งอีกด้วย แต่โชคดีที่ฝ่ายนั้นเพียงแค่ทำท่าข่มขู่ คะนิ้งได้แต่ถอยหนึ่งก้าวไม่โต้ตอบสิ่งใด
เพราะเธอในตอนนี้ราวกับคนไร้สติไปแล้ว เธออยากสู้ อยากเถียงเพื่อปกป้องตัวเอง แต่จะปกป้องอย่างไรเล่า…หากเธอเป็นเมียน้อยผัวชาวบ้านเขาจริง ๆ
“นะ หนูไม่รู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ถ้าหนูรู้หนูคงไม่_”
คะนิ้งเอ่ยเสียงเบาทั้งน้ำตาคลอ ตอนนี้เธอทั้งผิดหวังและเสียใจจนอยากร้องไห้ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่แค่นี้เธอก็อายมากพอแล้ว เธอไม่อยากอับอายไปมากกว่านี้แล้วจริง ๆ
“ไม่ยุ่ง? งั้นเธอก็ไปเลิกยุ่งกับเขาซะ เขาเป็นผัวฉัน”
“ได้ค่ะ นิ้งจะไปเลิกกับเขา พี่ไม่ต้องกลัวว่านิ้งจะไปวุ่นวายกับครอบครัวพี่ นิ้งจะไปให้ไกลที่สุด”
Sun Su
Talk
:
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ🙏
ไรท์สุขอฝากอีกหนึ่งผลงานด้วยนะคะ เปิดเรื่องมาอาจจะมีกลิ่นดราม่าหนักหน่อยแต่อยากให้เปิดใจลองอ่านค่ะ
ดราม่าเท่าจิ๋มมดจริงจริ๊งงงงงงง><
เรื่องนี้เป็นแนวแด๊ดดี๊กับเมียเด็ก มีช่วงไบโพล่ากันบ้าง แต่ฟินอยู่เด้อ😂
เวลาอัปนิยายไรท์ยังไม่แน่นอนนะคะ แต่หากไม่อยากพลาดการอัปเดตรายตอนสามารถกดเพิ่มเข้าชั้นไว้ได้ค่ะ
ฝากกดติดตาม กดหัวใจให้ไรท์ขอบตาดำ ๆ คนนี้ด้วยน้าาา^^
“หนูไปเรียนแล้วนะคะ”“…”“ป๊าคะ”“ครับ ครับ”เพราะเขานั้นง่วนอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ตื่นมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์บ้างพิมพ์แชท เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจนกระทั่งจะออกไปเรียน อีกฝ่ายก็ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์เช่นเดิมเขาเงยหน้ามายิ้มให้เธอทีหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าสนใจอย่างอื่นต่อ วันนี้เธอคงต้องขับรถไปเรียนเองสินะ“เอ๊ะ”คะนิ้งรู้สึกเอะใจเล็กน้อย เธอเดินลงมายังหน้าบ้านเตรียมเปิดประตูรถเก๋งคันมินิคู่ใจ แต่ทว่ากลับรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องมาที่เธอ เธอรับรู้ได้แบบนั้นจริง ๆพอหันไปยังหน้าบ้านก็มองเห็นเพียงแค่อะไรแว่บ ๆ ผ่านถนนหน้าบ้านไปเท่านั้น หรืออาจจะคิดมากไป ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะจนอ๋องไปหมดแล้ว คงแค่คนเดินผ่านหน้าบ้านหรือไม่ก็เพื่อนบ้านปั่นจักรยานไปซื้อของเท่านั้นล่ะมั้ง“หลอนไปหมดแล้ว”คะนิ้งเปิดประตูเข้าไปในรถ เธอมองเข้าไปในตัวบ้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดใจขับรถออกไปเรียนด้วยตัวเอง ในระหว่างทางก็คิดอะไรไ
หลังจากทำผมเสร็จคะนิ้งก็ต้องมาเอางานกับโมเดลที่บ้าน ปล่อยให้คนแก่รออยู่บ้านคนเดียวเกือบชั่วโมง ถึงเวลาจึงบอกลาเพื่อนก่อนกลับ“งั้นฉันกลับแล้วนะเดล”“โอเค เออคะนิ้ง แกได้บอกป๊าเรื่องนั้นยัง”จู่ ๆ โมเดลก็นึกขึ้นได้จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เรื่องที่ว่าก็คือเรื่องที่คะนิ้งเกือบโดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำนั่นเอง“ไม่อ่ะ ยังไม่อยากให้ป๊าไม่สบายใจ”หากเขารู้เขาอาจจะไม่สบายใจ หนักกว่านั้นก็คงรู้สึกผิดและเครียดเป็นแน่ เธออยากให้เขาเครียดแค่เรื่องงานก็พอ จึงได้แต่ปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นให้เขาได้ฟัง“งั้นก็เอาที่แกสบายใจแล้วกัน” คะนิ้งพยักหน้ารับ เธอเก็บใบงานรวมกันก่อนที่จะเดินออกมาจากบ้านของโมเดลวันนี้เป็นวันหยุดสบาย ๆ เธอสวมเพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมดา เดินกลับเข้าบ้านในช่วงเวลาเกือบหกโมงเย็น ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ในบ้านเปิดไฟจนสว่าง ทำให้เธอเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของคนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านได้นิดหน่อยคะนิ้งรีบเข้าบ้านมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอตั้งใจว่าตนจะเข้าไปจุ๊บแก้มคนแก่สักฟอด ก่อนที่จ
หลังจากที่โมเดลกลับไปในช่วงสาย คะนิ้งจึงยอมลุกจากเตียงนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อคืนเธอนอนคิดหลายเรื่องจนนอนไม่หลับ ตื่นมาร่างกายจึงไม่สดชื่นเท่าไรเธอไม่ได้เล่าเรื่องนั้นให้ใครฟัง รวมทั้งโมเดลด้วย เก็บความสงสัยไว้เพียงคนเดียว รอเธอมั่นใจและหาหลักฐานให้ได้มากกว่านี้เสียก่อนแล้วกัน“อ๊ะ!”แต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือหนาเข้ามารั้งเอวคอดกิ่ว คะนิ้งที่กำลังจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวตกใจจนสะดุ้ง ด้วยความที่เธอเหม่อลอยจึงไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนแอบย่องเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!“ป๊าเองครับ”“ป๊า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนไม่ได้กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นพิเศษที่มาจากตัวเขา ภูผาแปลกใจเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่เธอแปลกไป จนเขาไม่สบายใจรีบกลับมาเร็วกว่ากำหนด“ไหนป๊าบอกจะมาตอนบ่ายไงคะ” คะนิ้งถูกหมุนตัวให้กลับมาสบตากับเขา เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เขากลับพบว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ความสับสนบนดวงตากลมคู่สวยที่เขาจ้องมอง มันทำให้เขาไม่สบายใจ“ป๊าคิดถึงหนู เลยกลับมาก่อน”
“แกดีขึ้นบ้างไหมนิ้ง”เป็นโมเดลที่เอ่ยถามด้วยความห่วงใย หลังจากเกิดเรื่องโมเดลก็ตามออกมา และพาคะนิ้งกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย โมเดลต้องทนเห็นคะนิ้งร้องไห้เงียบ ๆ แบบไร้เสียงอีกแล้ว เป็นอะไรที่บีบหัวใจที่สุด“คิดถึงปะป๊า~”คะนิ้งยังคงเพ้อแค่คิดถึงปะป๊าของเธอ เวลาที่เธอหวาดกลัวหรือตกใจเธอมักจะคิดถึงเขาเสมอ เธออยากให้เขาอยู่ข้างกายเธอในตอนนี้ แต่ทว่าแม้กระทั่งสายจากเธอเขายังไม่ยอมรับ ไม่รู้ว่างานยุ่งอะไรนักหนา ขนาดที่ไม่สามารถรับสายเธอได้เลย เธอเกือบจะโดนลากไปข่มขืนอยู่แล้ว“เฮ้อ~ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกจนกว่าป๊าจะมานะ” โมเดลไม่รู้จะตอบอย่างไร ทั้งเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกของคะนิ้งคะนิ้งได้ทุกอย่างที่อยากได้ เธอไม่ขาดเขินสิ่งใดนอกจากเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่เธอรัก เธออยากอยู่กับเขา! เธอไม่ได้อยากอยู่กับเงินและสมบัติของเขาซะหน่อย!“ขอบใจนะเดล ฮึก~ แต่แกกลับไปพักผ่อนเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ฉันชินเเล้ว”ประโยคนั้นราวกับตัดพ้อตัวเองเสียมากกว่า เธออยู่คนเดียวบ่อยจะตายไป จะอยู่อีกวันเป็นไรไป คงไม่ตายสินะ
ณ ผับ A…“รอป๊าเหรอจ๊ะ?”“อื้อ”คะนิ้งที่นั่งหน้าหงอยอยู่ตอบกลับโดยการพยักหน้า เธอสวมชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดหมู ตัดกับผิวขาวเนียนแบบสุด ๆ ใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ก็ยิ่งขับลุคให้เธอดูสวยมากขึ้นไปอีกเอาเป็นว่าเธอเป็นของดีของคณะที่หนุ่ม ๆ ต่างหมายตา แต่ทว่าเธอไม่เคยสนใจใครเลยสักคน เพราะเธอมีเจ้าของหัวใจแล้วนั่นเอง“ไปนานมาก บอกว่าจะไปหาที่จอดรถแต่ป่านนี้ก็ยังไม่มาเลย”คะนิ้งเอ่ยเสียงเศร้าพร้อมกับชะเง้อมองซ้ายทีขวาที เธอเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่เขาจะเดินมาหาเธอที่โต๊ะ อุตส่าห์อ้อนเขาให้มากับเธอได้แล้วเชียว แถมตอนนี้ยัยแก๊งขาสอสระเอือกอไก่ก็นั่งมองมายังฝั่งของเธอหลายหน“หาที่จอดยากมั้ง”“จะยากอะไรขนาดนั้น นี่ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”“งั้นโทรตามดีไหม?”“โทรไปแล้วไม่รับ”คะนิ้งเองก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอใจจดใจจ่อรอเขาจนไม่เป็นอันสนุกสนานอย่างคนอื่น เธอดื่มไปเพียงแก้วเดียว ในนี้เป็นงานเลี้ยงคณะ ทุกคนต่างสนุกสนานแต่ท
“น่ารักที่สุดเลย~” คะนิ้งยิ้มจนตาแทบปิด เธอหอมแก้มสากหนึ่งทีก่อนจะขยับมานั่งยังเบาะข้างคนขับ เพื่อให้อีกฝ่ายขับรถได้สะดวกมากยิ่งขึ้น“อะแฮ่ม” เสียงกระเอมดังขึ้นเรียกให้เธอหันกลับไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา“จับได้นะ ป๊าสมาธิดี”ว่าจบเขาก็เด้งเป้าสองทีเป็นการเชิญชวนอีกฝ่าย จนเธออดขำไม่ได้ ถึงกับหัวเราะจนฟันแทบหลุด“พรืด! ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ตาแก่บ้ากามที่ชอบให้เธอลูบ ๆ คลำ ๆ จนเริ่มติดเป็นนิสัยแล้วสินะ ฟินล่ะซี้~“หัวเราะทำไมครับ?”“หัวเราะปะป๊าไงค่ะ ป๊าหื่น” เธอเอ่ยพลันเล่นหูเล่นตากับอีกฝ่าย“ก็หื่นแค่กับเมียไหมล่ะ ก็มีเมียเด็กนี่นา”“เมีย…”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขา แม้เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจเรียกเธอหรือไม่ แต่ทว่ามันกลับทำให้เธอดีใจจนยิ้มไม่หุบ เธอชอบเวลาที่ปะป๊าเรียกเธอว่าเมียเป็นที่สุด เธออยากเป็นเมีย เป็นเมียคนเดียวของเขา...“หนูไม่ชอบให้ป๊าเรียกแบบนี้เหรอครับ?” เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเครียด มองเธอสล
댓글