All Chapters of โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้: Chapter 1 - Chapter 10

100 Chapters

บทที่ 1

ตอนที่ตัดเค้ก รุ่นน้องในสาขาเดียวกันส่งเค้กชิ้นแรกให้จี้อวิ๋นโจวที่มาถึงอย่างเร่งรีบราวกับคนแปลกหน้า เขาไม่ได้สังเกตเห็นการมีอยู่ของคนร่วมเรียงเคียงหมอนอย่างฉันเสียงถอนหายใจดังขึ้น พวกชอบสอดรู้สอดเห็นพูดกึ่งหยอกว่า “เจิ้งซินหราน นี่คือจะเปิดตัวเหรอ?”สาวน้อยผมมวยกลมน่ารักมองชายหนุ่มข้างกายด้วยสีหน้าเขินอาย แล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก “พี่จี้รีบเดินทางมาไกล ลำบากมากนะ”น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลประกอบกับรอยบุ๋มเล็ก ๆ ที่มุมปากของเธอ ทำให้คนอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้เลยแต่ที่เธอพูดก็ไม่ผิด ระยะทางของโรงพยาบาลจิงเสียอยู่ห่างจากวิทยาลัยการแพทย์ชั่วโมงกว่า ตอนนี้จี้อวิ๋นโจวสวมชุดสูทเต็มยศ แม้แต่โบที่คอก็ผูกไว้อย่างเรียบร้อยไร้ที่ติ แสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจไม่น้อยทั้งที่สองชั่วโมงก่อน เขายังอยู่ในห้องผ่าตัดแท้ ๆในขณะนั้น ชายหนุ่มรับเค้กมาอย่างสุภาพ ทุกอิริยาบถล้วนเผยให้เห็นถึงความสูงศักดิ์ แสงไฟเหนือศีรษะตกกระทบบนใบหน้าคมคายของเขา ทำให้ดวงตาและคิ้วที่เดิมดูดุดันแข็งกร้าว มีความอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย“อย่าให้พูดเลย หิวจริง ๆ นั่นแหละ”น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ ขณะที่พูดสายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของเจิ้
Read more

บทที่ 2

ฉันจากไปก่อนเวลา ท่ามกลางเสียงหัวเราะพูดคุยที่มีความสุขกลับถึงที่พักก็ดึกแล้วไม่รู้ว่าฝนเริ่มตกตั้งแต่เมื่อไร ไอความชื้นที่ระเหยขึ้นมาก่อตัวเป็นฝ้าบาง ๆ บนหน้าต่าง สะท้อนเงาร่างของฉันที่ทั้งเดียวดายและอ้างว้างบ้านหลังนี้กว้างขวางมาก เป็นเพนท์เฮาส์ขนาดใหญ่มองเห็นวิวแม่น้ำ สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยเป็นเลิศ อยู่ในย่านที่ดินราคาสูงในเมืองจิงกั่ง เป็นบ้านในฝันของใครหลายคนแต่ในบ้านที่หรูหราและสะดวกสบายแบบนี้ กลับมีเพียงฉันคนเดียวที่อาศัยอยู่ตลอดทั้งปีเข็มชั่วโมงลากผ่านเวลาเที่ยงคืนไปอย่างเงียบ ๆ ฉันรู้ว่าคืนนี้จี้อวิ๋นโจวจะไม่กลับมาอีกแล้วแต่เสียงเปิดประตูกลับดังขึ้นกะทันหันฉันมองไปด้วยความสงสัย เห็นเงาของชายหนุ่มที่เดินโซเซเข้ามาใกล้จี้อวิ๋นโจวดื่มเหล้าด้วยเหรอตอนที่แขนแกร่งของเขาโอบเอวฉัน เขาไม่ให้โอกาสฉันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย ร่างทั้งร่างกดทับเข้ามาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรุกล้ำฉันถอยหลังสองก้าว แต่กลับถูกบังคับให้อยู่ตรงหน้ากระจกหน้าต่างบานใหญ่ กลิ่นหอมเย็นของต้นสนซีดาร์ปนเปกับกลิ่นเฉพาะตัวของจี้อวิ๋นโจวลอยอบอวลอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้หัวใจฉันรู้สึกร้อนรุ่มไปหมด“หมอจี้อยา
Read more

บทที่ 3

สามปีก่อน เพราะเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล พ่อของฉันที่ไปหาหมอ บังเอิญถูกแทงแทนจี้อวิ๋นโจวที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ไปสองแผลตระกูลจี้ซาบซึ้งในความกล้าหาญของพ่อฉัน แสดงความขอบคุณมากในปริมาณหนึ่ง แต่ไม่คาดคิดว่าพ่อของฉันจะขอให้สองครอบครัวสานสัมพันธ์กันตระกูลจี้ถือเป็นตระกูลใหญ่ระดับต้น ๆ ในเมืองจิงกั่ง ส่วนพ่อของฉันก็แค่ผู้จัดการบริษัทยาเล็ก ๆ ดังนั้นเรื่องการสานสัมพันธ์ทางครอบครัว สำหรับคนตระกูลจี้ จึงมองว่าเป็นการใช้บุญคุณแสวงหาผลประโยชน์ตอนนั้นฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตอนที่จี้อวิ๋นโจวมาหาฉัน ในมือถือสัญญาก่อนแต่งงาน พร้อมสายตาที่ดูเย่อหยิ่งและห่างเหิน “ระยะเวลาการแต่งงานสามปี ถึงกำหนดจะยกเลิกโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่มีปัญหา ก็เจอกันที่สำนักงานทะเบียนพรุ่งนี้เช้า”เมื่อผู้ชายที่คิดถึงทั้งวันทั้งคืนอยู่ตรงหน้า ราวกับมีอะไรดลใจ ฉันจึงเซ็นชื่อในสัญญานั้นไปแต่กลับไม่ทันสังเกตว่า ข้อแรกของสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจน [อย่าได้มีความเพ้อฝันว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันเด็ดขาด]น้ำตาซึมเปียกกระดาษ ฉันจ้องคำว่า ‘สามีภรรยา’ บนสัญญา ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างขมขื่นเพราะฉะนั้น จี้อวิ๋นโจว ต
Read more

บทที่ 4

ภายในห้องเงียบงันลงในชั่วขณะไม่กี่วินาทีต่อมา จี้อวิ๋นโจวก็เดินเข้ามาอย่างสงบนิ่ง เขามองแม่สามีแล้วถามว่า “กินข้าวหรือยังครับ?”น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ใบหน้าไร้อารมณ์จนมองไม่ออกว่าเขารู้สึกอย่างไรแม่สามีปรายตามองฉันแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงดังขึ้น “สถานการณ์แบบตอนนี้ แม่จะกินข้าวลงได้ยังไง? อาโจว เมียของลูกนี่เก่งจริง ๆ เลยนะ เป็นคุณนายจี้ดี ๆ ไม่เอา ดันจะไปสมัครงานที่โรงพยาบาลจิงเสีย เดิมทีงานหมอก็ต้องทำทั้งวันทั้งคืน ความคืบหน้าแบบนี้ ปีนี้แม่กับพ่อของลูกก็คงหมดหวังจะได้อุ้มหลานตามเคยอีกแล้วล่ะ”ปีนี้ฉันทบทวนสองคำนี้ ความขมขื่นเอ่อล้นในใจบางทีอาจเป็นเพราะฉันกับจี้อวิ๋นโจวแสดงเก่งเกินไป จนทำให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เชื่อว่าเราเป็นสามีภรรยากันจริง ๆเพียงแค่พวกเขาไม่รู้ว่า การแต่งงานที่ผิดพลาดนี้ ได้เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังแล้ว“อาโจว ลูกพูดอะไรบ้างสิ” แม่สามีเห็นจี้อวิ๋นโจวไม่ตอบกลับ ก็บ่นอีกว่า “สามปีแล้ว ท้องก็ไม่มีวี่แววสักนิด แบบนี้มันใช่เหรอ?”ความไม่พอใจของแม่สามีแสดงออกมาจากใบหน้าที่ดูแลมาอย่างดีนั้นของเธอจี้อวิ๋นโจวยังคงมีท่าทางนิ่งสงบเหมือนเดิม สายตาเย็นชากวาดผ่านแ
Read more

บทที่ 5

ตอนที่คำว่า ‘บันได’ หลุดออกมาจากปากของจี้อวิ๋นโจว ฉันถึงกับพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งก็ใช่ ที่ตอนแรกพ่อของฉันขอสานสัมพันธ์กับตระกูลจี้โดยอ้าง ‘บุญคุณช่วยชีวิต’ มันจะไม่ถูก แต่ตัวเขาเองก็ต้องนอนอยู่ในสถานพักฟื้นถึงสามปีไม่ใช่เหรอส่วนฉัน ก็เซ็นสัญญาก่อนแต่งตามที่เขาต้องการ และนอกจากคนของสองครอบครัวแล้ว ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเราสองคนแต่งงานกันแล้วแหวนแต่งงานก็ซื้อส่ง ๆ จากร้านบูติกใกล้มหาวิทยาลัย ไม่มีทะเบียนสมรส ไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน รูปพรีเวดดิ้งยิ่งแล้วใหญ่ แค่เขาพูดว่าไม่มีเวลา ทุกอย่างก็ถูกปัดตกหมด จนถึงวันนี้ รูปคู่รูปเดียวของเราก็มีแค่บนทะเบียนสมรส ฉันเสิ่นเสียนเยว่ได้รับประโยชน์อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันจากตระกูลจี้บ้าง?ไม่มีเลยอ้อ ถ้าการได้อยู่เพนท์เฮาส์ใหญ่สุดหรูวิวแม่น้ำที่ดีที่สุดในเมืองจิงกั่งถือว่าเป็นบุญคุณของจี้อวิ๋นโจวละก็ งั้นตลอดสามปีที่ฉันซักผ้า ทำอาหาร และดูแลบ้าน ก็คงชดเชยกันได้มั้ง?ดูสิ หลงรักเขามาแปดปี สุดท้ายกลับได้คำว่า ‘บันได’ ตอบแทนในอกเหมือนถูกยัดด้วยความขมขื่น ฉันหลุบสายตาลง พยายามกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดที่แผ่ซ่าน แล้วเน้นย้ำว่า “พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปสอบข้อเขียน
Read more

บทที่ 6

ฉันแอบออกจากห้องประชุมท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายใครจะรู้ว่าเพิ่งเดินไปได้สองก้าว กลับบังเอิญเจอกับเหลียงฮ่าวเหมี่ยวเขาก็สังเกตเห็นฉันเหมือนกัน ทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณเสิ่น ไม่ได้เจอหมอจี้เหรอ?”เหลียงฮ่าวเหมี่ยวกับจี้อวิ๋นโจวเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทั้งสองคนอายุใกล้เคียงกัน แต่เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเข้าทำงานในแผนกศัลยกรรมประสาทช้ากว่าจี้อวิ๋นโจวหนึ่งปี ตอนนี้เขายังเป็นแพทย์ประจำบ้านอยู่ทำไมเราถึงสนิทกันน่ะเหรอ ก็เพราะมีหลายครั้งที่ฉันไปส่งเสื้อผ้าซักรีดและโจ๊กบำรุงร่างกายให้จี้อวิ๋นโจว แล้วบังเอิญเจอเขาพอดีต่อมาเวลาที่จี้อวิ๋นโจวยุ่ง ๆ ก็ให้ฉันติดต่อกับเหลียงฮ่าวเหมี่ยวโดยตรง นานวันเข้าเราก็คุ้นเคยกันตอนนี้มาคิดดู เกรงว่าที่จี้อวิ๋นโจวยุ่งจะเป็นแค่เรื่องโกหก แท้จริงก็แค่ไม่อยากเจอฉันเท่านั้นเองแต่ดูเหมือนเหลียงฮ่าวเหมี่ยวจะไม่แปลกใจเลยที่ฉันไปร่วมสอบข้อเขียนที่โรงพยาบาลจิงเสีย?“อ้อ ตอนตรวจคนไข้เมื่อกี้เขาบอกว่าอยากมาดู” เหลียงฮ่าวเหมี่ยวเห็นฉันไม่พูดอะไร ก็อธิบายต่ออีกประโยค “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่ได้เจอกันใช่ไหม?”ประโยคหลัง เขาใช้น้ำเสียงแสดงความเสียดายอย่างชัดเจนเห
Read more

บทที่ 7

ทั้งสี่คนยืนอยู่ด้วยกันอาจเป็นเพราะจี้อวิ๋นโจวโดดเด่นเกินไป จึงดึงดูดสายตาของผู้คนที่มามุงดูอยู่ไม่น้อยฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ถูกมอง ตอนที่สายตากวาดผ่านเจิ้งซินหราน สาวน้อยมองจี้อวิ๋นโจวด้วยสีหน้านับถือ ท่าทางอุ่นใจกว่าฉันมากนักฉันรู้ดี นั่นคือความเชื่อมั่นที่เกิดจากการถูกปกป้อง“พี่อวิ๋นโจวบอกว่าใกล้ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว” ปลายเสียงเธอขึ้นสูง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเด็กสาว “อยากชวนฉันไปกินข้าวที่โรงอาหารของโรงพยาบาลสักมื้อ”เหลียงฮ่าวเหมี่ยวมองฉันด้วยความสงสัยครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเจิ้งซินหรานที่ยืนข้างจี้อวิ๋นโจว แล้วพูดว่า “หมอจี้ ไม่แนะนำหน่อยเหรอ?”จี้อวิ๋นโจวพูดอย่างกระชับ “ซินหราน รุ่นน้องที่วิทยาลัยการแพทย์”เจิ้งซินหรานกระพริบตาคล้ายลูกกวาง มองไปที่บัตรพนักงานด้านหน้าของเหลียงฮ่าวเหมี่ยวแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณหมอเหลียง ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากตัวด้วยนะคะ”เหลียงฮ่าวเหมี่ยวพยักหน้าพลางยิ้มอย่างเก้อเขิน สายตาก็หยุดที่ใบหน้าฉันเป็นระยะ ๆ ความรู้สึกเห็นใจแทบจะไหลทะลักออกมาจากดวงตาเลยทีเดียว“รุ่นพี่ กินข้าวด้วยกันไหมคะ?” เจิ้งซินหรานมองฉันอย่าง
Read more

บทที่ 8

จี้อวิ๋นโจวเลือกนั่งตำแหน่งข้าง ๆ ฉันไม่นานนัก ชามตรงหน้าก็ถูกแม่ใส่อาหารจนเต็มไปหมด เธอตักอาหารพลางพูดอย่างห่วงใยว่า “งานที่โรงพยาบาลคงยุ่งมากสินะ ดูสิ ผอมลงอีกแล้วนะลูก”บทพูดยกยอลูกเขยของเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแต่กลับลืมว่าจี้อวิ๋นโจวไม่กินมะเขือเทศฉันมองคิ้วของเขาที่ขมวดเล็กน้อย แล้วก็หยิบตะเกียบขึ้นคีบเอาไข่ผัดมะเขือเทศออกคุณหลิวเห็นดังนั้นก็ยกยิ้มมุมปากอย่างกระอักกระอ่วน แล้วพูดว่า “ดูฉันสิ ยังไงก็สู้ความใส่ใจของเยว่เยว่ไม่ได้จริง ๆ”เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่จี้อวิ๋นโจวจะพูดสั้น ๆ ตรงประเด็นว่า “แม่ยายนัดพวกเรามาวันนี้ มีเรื่องอะไรอยากสั่งหรือเปล่าครับ?”คุณหลิวปรายตามองฉันทีหนึ่ง ยิ้มหัวเราะพลางพูด “จะมีอะไรได้ล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เจอกันนานแล้วเหรอ? เลยอยากคุยกับพวกเธอสักหน่อย”เธอพูดจบก็ส่งสายตาให้ฉัน บอกให้ฉันกับจี้อวิ๋นโจวดื่มด้วยกันสักแก้วถ้าเป็นเวลาปกติ ฉันคงรีบช่วยจี้อวิ๋นโจวเคลียร์สถานการณ์ไปแล้ว เพราะหมอศัลยกรรมน่ะ ต้องเลี่ยงบุหรี่และเหล้า และมีวินัยเข้มงวดกับตัวเอง แต่พอคิดถึงภาพงานเลี้ยงวันเกิดนั้น ฉันก็เปลี่ยนใจทันทีขณะที่ค่อย ๆ หมุนแก้วไ
Read more

บทที่ 9

ละครฉากเด็ด?หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง ฉันก็จับความประชดประชันในคำพูดของจี้อวิ๋นโจวได้ดังนั้นในสายตาเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนี้ ล้วนเป็นแผนการที่ฉันกับคุณหลิวร่วมกันวางไว้เพื่อเล่นงานเขาเท่านั้นเป้าหมายก็เพื่อให้ตั้งท้องลูกของตระกูลจี้เพราะฉะนั้น แม้แต่วิธีต่ำช้าอย่างชุดชั้นในเซ็กซี่แบบนี้ก็เอามาใช้เหรอ?ฉันไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะไปชั่วขณะ เมื่อนึกถึงความอบอุ่นเพียงไม่กี่วินาทีเมื่อครู่ ก็ราวกับฝันหวานที่งดงาม“เปล่าประโยชน์” เสียงเย้ยหยันเบา ๆ ดังเข้ามาในหู ดวงตาของจี้อวิ๋นโจวยิ่งเย็นชาและแข็งกร้าวยิ่งกว่าเดิมฉันจ้องเขา สายตาตกลงที่ลูกกระเดือกที่นูนขึ้นมาของเขาอย่างสงบ แล้วพูดสียงเรียบ “แล้วหมอจี้ผู้ไร้กิเลส ทำไมถึงยังโดนหลอกได้ล่ะ?”เหมือนถูกคนจับได้ทันควัน จี้อวิ๋นโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย หัวเราะเยาะอย่างเย็นชาแล้วเดินเลี่ยงผ่านตัวฉัน พร้อมสะบัดแขนเสื้อจากไปตอนที่เสียงปิดประตูดังขึ้น น้ำตาสองสายก็ไหลทะลักออกมาโดยไม่รู้ตัว ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วฝืนตัวเองเดินไปยังห้องน้ำไอร้อนอบอวลช่วยปลอบประโลมความเจ็บปวดในใจ ฉันตระหนักขึ้นมาได้อย่างกะทันหันอย่างหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ร
Read more

บทที่ 10

เมื่อได้ยินดังนั้น จี้อวิ๋นโจวก็ชะงักไปเล็กน้อย เงียบไปสองสามวินาทีถึงจะพูดออกมาว่า “แบ่งให้ฉัน?”เหมือนจะคาดไม่ถึงเล็กน้อยเหลียงฮ่าวเหมี่ยวก็ไม่ได้ปิดบังอะไร “เป็นของตอบแทนจากคุณเสิ่นที่เอาร่มมาคืน หมอจี้อย่าหึงล่ะ”แค่ประโยคเดียว ก็ช่วยอธิบายแทนฉัน แล้วยังคลี่คลายความกระอักกระอ่วนของจี้อวิ๋นโจวได้อีก ต้องยอมรับเลยว่าเหลียงฮ่าวเหมี่ยวมีไหวพริบทางอารมณ์ดี“ฉันจะหึงอะไรล่ะ” จี้อวิ๋นโจวส่งเสียงจิ๊เบา ๆ สีหน้าไม่ใส่ใจ “ก็แค่ข้าวกลางวันมื้อเดียว อีกอย่าง...”เขาหยุดไปเล็กน้อย สายตาตกลงที่กล่องข้าว แล้วพูดด้วยท่าทีเหนือกว่าอย่างชัดเจนว่า “ของก็มีวนอยู่ไม่กี่อย่าง เบื่อตั้งนานแล้ว”เบื่อแล้วหลังจากที่ได้ยินสองคำนี้ หัวใจของฉันก็พลันเจ็บปวดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่พอนึกถึงสามปีที่ผ่านมา ที่ฉันตื่นเช้าเข้านอนเร็วทุกวัน ออกไปตลาดเลือกของสดใหม่ที่สุด จัดอาหารให้มีเนื้อและผักตามที่จี้อวิ๋นโจวชอบ แล้วรีบเอาไปส่งที่โรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด สุดท้ายกลับได้แค่หนึ่งประโยคจากเขาว่าเบื่อแล้วก็ใช่ ต่อให้วัตถุดิบจะสดใหม่แค่ไหน ต่อให้ตั้งใจทำทุกมื้อแค่ไหน พอกินติดกันมาสามปี ก็น่าจะเบื่อแล้วจริง ๆ
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status