3 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก
ฉันที่สนุกกับงานบวกกับได้เพื่อนร่วมงานที่ดีจึงลืมที่จะสังเกตความผิดปกติของตัวเองรู้ตัวอีกทีประจำเดือนไม่มา 2 เดือนกว่าๆแล้วพร้อมกับที่ทีมเร่งโปรเจกต์ให้เสร็จให้ทันกำหนดของลูกค้าทำโอทีเพลินจนลืมวันลืมคืนคิดว่าคงเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอมั้งประจำเดือนจึงคลาดเคลื่อนตามประสาวัยรุ่นนอนน้อย
“เอาล่ะขอบคุณทุกคนมากสำหรับโปรเจกต์นี้นะจ๊ะ” พี่น้ำตาลหัวหน้าโปรเจกต์พูดขึ้นมาดีใจเอาล่ะโรงงานนรกปิดแล้วถึงเวลาปล่อยผีสักทีเย็นนี้เรามีโนมิไกกันนะสาวๆทุกคนอย่าพลาดเฉพาะทีมเราเท่านั้นลูกค้าประเมินงานของเราได้ 100 คะแนนเต็มสิ้นปีนอนรอโบนัสสวยๆเข้าบัญชีได้เลยจ้ะ...ฮิ้วววววเสียงโห่ดีใจของทุกคนพร้อมปรบมือดีใจกันยกใหญ่นี่แหละทีมเวิร์กที่ดีน้อยแต่โก้พวกเราเข้าขากันได้ดีทั้งๆที่ทำงานร่วมกันไม่นานโดยเฉพาะน้องใหม่อย่างฉันเองก็แทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากงานส่วนใหญ่ก็ทำในแล็บทอปนะแหละเลยไม่ค่อยจะมีปัญหากระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงานสักเท่าไหร่
“งานวันพฤหัสฯนี้ห้ามพลาดนะจ๊ะใครมีลูกผัวรออยู่บ้านกิ๊กกั๊กเคลียร์ให้เรียบร้อยนะแม่สาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลาย” พี่สจีพูดแทรกขึ้นมา
“เอแคร์ไม่พลาดจัดเต็มแน่ๆค่ะงานนี้ไม่มีพี่น้องนะคะน้องต้องได้ผู้กลับไปกินสวยๆ”
“ย่ะ...แม่เสือสาวยั่วสวาทขอให้ได้ขอให้โดน” พี่ปุ้ยเดินเข้ามาที่แผนกของเราพร้อมแจ้งสถานที่เวลาคร่าวๆ
ผับ xo สุดหรูใจกลางเมือง ห้อง SUIT
สมกับเป็นคืนปล่อยผีแต่ละคนจัดเต็มกันมากแม่เจ้ากระชากวัยสุดๆสาววัยยี่สิบกว่าปีที่ยังขบเผาะแบบฉันนั้นเทียบไม่ติด
ฉันเลือกที่จะสวมเสื้อข้างนอกเป็นสีทรูแขนยาวลายจุดสีดำข้างในสายเดี่ยวสีเดียวกันกับกางเกงสกินนี่สีดำรวมไปถึงรองเท้าส้นสูงสีดำเช่นกันฉันมาในตีมดำเหมือนไม่อ่านไลน์กรุปยังไงยังงั้นแต่ละคนคัลเลอร์ฟลูพร้อมพรอปเก๋ๆอย่างเฟอร์บ้างก็มีมงกุฎเหมาะกับตีมปล่อยผีมาก (กอไก่ล้านตัว) ภพในลุคนี้ก็ดูคุณชายแบดบอยไปเลยเซตผมมาอย่างเท่เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวสีขาวข้างในแล้วทับด้วยเบลเซอร์สีดำสวมกางเกงยีนสีซีดที่มีรอยขาดตรงหัวเข่าแล้วกลับมามองตัวเองเอาวะ...ปล่อยผีครั้งหน้าเจสู้ตาย!!!
“เอาล่ะ...ก่อนจะเริ่มงานวันนี้พี่มีเรื่องจะแจ้ง 3 เรื่อง...
เรื่องแรกเจผ่านโปรได้เลื่อนเป็นพนักงานประจำ (พนักงานประจำจะได้รับสวัสดิการต่างๆรวมไปถึงไม่มีการไล่ออกนอกจากจะลาออกเองหรือทำผิดกฎหมายต่างๆส่งผลเสียต่อบริษัท) เฮ้!!! เสียงเฮดังลั่น
เรื่องที่สองอย่างที่รู้ๆกันโปรเจกต์เราได้ 100 คะแนนเต็มจากคะแนนการประเมินของลูกค้าซาโจ้ว (ท่านประธาน) ปลื้มมากอาจมีข่าวดีเร็วๆนี้
เรื่องที่สามหลังจากคืนนี้ซาโจ้วอนุญาตให้ลาพักหนึ่งสัปดาห์เพื่อเตรียมตัวรับเมกะโปรเจกต์ที่จะกำลังจะดีลจากญี่ปุ่นในเร็ววันนี้เอาล่ะมีแค่นี้คืนนี้เต็มที่กันเลยนะทุกคน...” พอพี่ปุ้ยพูดจบแต่ละคนก็เต้นดื่มกินร้องคาราโอเกะวาดลวดลายกันทันทีเหลือเพียงแต่ฉันกับภพที่ยังนั่งที่เดิม
“ไม่ออกไปเต้นกับพวกพี่ๆเขาหน่อยเหรอ” ภพถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ปากกระซิบแทบจะติดรูหูเพราะพลังเสียงแหกปากของเอแคร์และพี่สจีแสบแก้วหูไปหมด
“ไม่ล่ะ”
“ไม่ต้องอายหรอก...คนกันเองทั้งนั้น”
“ไม่ได้อายหรอกช่วงนี้เราเหนื่อยๆเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอคงยังไม่ค่อยชินกับงานด้วยมั้ง” ฉันพูดพลางทุบต้นคอต้นแขนไปด้วยมันรู้สึกเหนื่อยเมื่อยอยากนอนมากๆอยากนอนจนไม่อยากทำอะไร
“อะนี่...ดื่มหน่อยไหม” ภพพูดยื่นเครื่องดื่มสีอำพันมาให้ถ้าฉันไม่ผ่านเหตุการณ์เมาจนฟิวขาดจนหิ้วผู้ชายที่ไหนไม่รู้มานอนด้วยก็คงจะยินดีรับเครื่องดื่มนี่มาอยู่หรอกแต่...เดี๋ยวก่อนนะเหตุการณ์นั้นผ่านมา 3 เดือนกว่าๆแล้วนี่นาประจวบเหมาะกับที่ประจำเดือนขาดไปพอดีคง...ไม่หรอกมั้งฉิบหายละ!! คิดได้แบบนั้นจึงบอกปฏิเสธภพไปแล้วปลีกตัวมาเป็นแดนเซอร์ให้กับเอแคร์และพี่สจีโยกย้ายส่ายสะโพกโยกย้ายจนหมดแรงจากเพลงเร็วจังหวะมันๆ กลายเป็นเพลงช้ากับเสียงยานคางที่กึ่งหลับกึ่งตื่นของเอแคร์ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม
เพลงนี้ไม่ได้ฟังมานานมากจะเป็นสิบปีแล้วมั้ง...อะไรจะตรงกับชีวิตขนาดนี้เนี่ย
“สมรสโดยไม่มองหน้ากันจูบเพื่อร่ำลาในความสัมพันธ์” เหอะก่อนจะส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ
“เจ...อินมาเหรอเพลงนี้” ฉันหันไปมองหน้าคนถามถามแล้วยิ้มกริ่มแบบนั้นเหมือนรู้อะไรหรือจะลองเชิง?
“อือ...เพราะดีอะไม่ได้ฟังมาเกือบสิบปีแล้วมั้ง”
“แล้วรู้ไหมเพลงนี้สื่อถึงอะไร...?” ฉันเลิกคิ้วพลางทำหน้าสงสัย
“สื่อถึงอะไรเหรอก็เเค่เพลงๆนึง” ฉันตอบพร้อมยิ้มน้อยๆให้เขาไปตามมารยาทภพส่ายหน้าเล็กน้อย
“วันไนท์สแตนน่ะ...แต่รู้ไหมเรามักจะซ่อนคนคนนึงไว้ในบทเพลง”
คำตอบนี้ทำเอาฉันเหมือนโดนน็อกสตั้นไปหลายวินาทีก่อนจะปั้นสีหน้าเรียบเป็นปกติแต่ก็ช้าไปกว่าฝ่ายตรงข้ามที่เห็นสีหน้าและอาการทุกอย่าง
“แล้วภพล่ะ..ซ่อนใครไว้ในบทเพลงหรือเปล่า?” ฉันถามทีเล่นทีจริง
“ฮ่าๆ...ไม่มีหรอก” ไม่ดื่มสักหน่อยเหรอฉลองที่พวกเราปิดโปรเจกต์นี้ได้อย่างสวยงาม
“ไม่อะขอบคุณมากเหมือนเราจะไม่สบายขอตัวกลับก่อนนะไปละ” ว่าแล้วก็ลุกไปลาพี่ๆก่อนจะขอตัวกลับที่พักเพราะหมดอารมณ์คืนปล่อยผีกินฟรีแท้ๆปกติถึงไหนถึงกันไม่เมาไม่เลิกแต่นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกตินะซิไม่นะ...พึมพำกับตัวเองก่อนแวะเข้าร้านขายยาก่อนถึงคอนโด
“เอ่อ...มาซื้อที่ตรวจครรภ์ค่ะ”
“ได้ค่ะอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์โดยอุปกรณ์มีอยู่ 3 แบบไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่มแบบหยดหรือแบบปัสสาวะผ่านลูกค้าสนใจแบบไหนคะ?” เภสัชกรสาวถามเสียงใส
“แบบไหนแม่นยำที่สุดคะ...”
“ความแม่นยำก็พอๆกันนะคะแต่แบบปัสสาวะผ่านสะดวกสุดควรทำตามฉลากอย่างเคร่งครัดและที่สำคัญควรตรวจตอนหลังตื่นนอนตอนเช้าจะให้ผลดีที่สุด”
“งั้นเอาแบบปัสสาวะผ่านหนึ่งแท่งค่ะ”
10 โมงเช้าฉันสะดุ้งตื่นก็รีบกุลีกุจอลุกไปเข้าห้องน้ำทันทีอ่านตามฉลากปล่อยปัสสาวะช่วงแรกออกไปนิดนึงแล้วค่อยยื่นส่วนที่เหมือนพู่กันสีขาวให้ปัสสาวะไหลผ่านฉันกำที่ตรวจครรภ์แน่นไม่กล้าดูผลสักที แจ๊กพอตอย่าพึ่งมาแตกเอาตอนนี้ เอาวะเป็นไงเป็นกัน จะได้หายข้องใจสักที สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกกำลังใจ ก่อนจะก้มลงดูผลในมือตัวเอง
“ 2 ขีด”
“...” ท้องจริงด้วยแม่เจ้า...ไม่มีเวลามานั่งคิดอะไรอีกแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วพุ่งไปโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดมันไม่ใช่แค่เรื่องท้องนะซิที่กังวลโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกล่ะโอ๊ยไม่นะ!!
จิรัติกรมางานแต่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นด้วยความไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะสละโสดเร็วกว่าใคร ๆ ในรุ่น ก็แหงล่ะ…เจ้าชู้ประตูดินเสียขนาดนั้น แต่พอมาเจอเจ้าสาวในวันนี้ เขายังรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนรักของเขามีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้จริง ๆ แถมลูกชายยังน่ารักน่าชัง อ้วนท้วนสมบูรณ์เชียวนึกถึงตอนที่มาขอให้ช่วยรวบหัวรวบหางสาวเจ้าแล้วก็อดขำไม่ได้เพื่อนเขาถึงต้องลงทุนมากมายเพื่อทะเบียนสมรสฉบับเดียวแทนที่จะเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ต้องอ้อนวอนขอทะเบียนสมรสจากริวอิจิน่ะส่งเพื่อนเข้าประตูวิวาห์พลันอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้…แล้วชีวิตคู่ของเขาจะเป็นแบบไหนเจ้าสาวจะเป็นใครแม้ว่าไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนเลยก็ตามความคิดในหัวแตกกระเจิงเมื่อเจอใครบางคนคนคนนั้นที่ติดอยู่ในหัวของเขาแมวขโมย! สองแขนของปานประดับถูกกระชากอย่างแรงหลังจากที่เธอเพิ่งจะเรียงจานชามบนโต๊ะได้ไม่นาน“อะ” ฉันร้องเสียงหลงแถมยังต้องตกใจจนหน้าขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครโลกมันจะกลมเกินไปแล้วอีกอย่างฉันเองก็คอยระมัดระวังตัวตลอด…“ไง” เขาถามด้วยใบหน้าราบเรียบแต่แววตากลับวาวโรจน์“คะ” ฉันตีเนียนแต่มือไม้เย็นจนเกือบจะถือถาดในมือไว้ไม
งานแต่งงานของฉันกับริวอิจิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นการแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ซึ่งคุณนายเคอิเป็นคนขอเอาไว้เนื่องจากเราแต่งงานที่ไทยกันมาแล้ว เลยอยากจะจัดงานแบบญี่ปุ่นบ้าง ฉันเลือกชุดกิโมโนสีขาว ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสีดำ พิธีการค่อนข้างเคร่งครัดและเป็นระเบียบ แขกเหรื่อจะต้องยืนยันว่าจะมาร่วมงานเพราะชุดอาหารนับตามจำนวนคนและแพงมาก แม่เจ้า! รวมไปถึงของชำร่วยที่แขกเหรื่อจะเป็นคนเลือกเอง แต่สำหรับฉันพิธีการเรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับฉันอย่างดีไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในสถานะที่แตกต่างออกไปในตอนแรกฉันมาเยือนโตเกียวด้วยวีซ่านักเรียนแต่พอมาอีกครั้งกลับมาในสถานะภรรยาของชาวญี่ปุ่นจัดงานเสร็จสรรพใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันชอบความเรียบง่ายเลยไม่ได้จัดการฉลองที่โรงแรมอีกอีกอย่างเราก็มีลูกเล็กด้วยกระเตงออกงานทั้งวันคงเหนื่อยน่าดูที่สำคัญเจ้าเด็กอ้วนยังติดพี่เลี้ยงมากๆอีกด้วยพี่ไผ่เองตอนนี้ก็เปรียบเสมือนญาติอีกคนที่เข้าร่วมพิธีการในครั้ง
อีกทั้งฉันเองก็ขอร้องว่า…ไม่ต้องใส่ซองอะไรมาให้อีกอย่างทุกคนก็เสียสละวันหยุดมางานกันแล้วไหนจะเสื้อผ้าหน้าผมอีกแต่ทุกคนกลับมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยติดมือมาให้อยู่ดีคุณนายเคอิเองก็ยิ้มแช่มชื่นแม้จะมีอุปสรรคทางภาษาแต่เอแคร์เองก็พูดควบสองภาษาเพื่อให้คนทั้งงานเอนจอยไปด้วยกันแถมเพื่อนรักอย่างจิรัติกรเองก็มาร่วมงานด้วย“ไง” จิรัติกรเอ่ยทักเจ้าบ่าวข้างกายฉันพลางส่งของขวัญในมือให้“ขอบใจ” “งานสำคัญของนายทั้งทีฉันต้องมาอยู่แล้วน่า”“ยินดีด้วยนะครับคุณ…เอ่อ”“เจค่ะ”“ยินดีด้วยนะครับคุณเจ” “ขอบคุณมากค่ะ” แถมเขายังเข้ามาหยอกล้อเจ้าตัวน้อยที่นั่งหันหน้าบนเป้นั่งคาดเอวด้วยความเอ็นดู“นี่มันริวอิจิฉบับจิ๋วชัดๆ” เขาว่าพลางหัวเราะในคอแต่พลันสายตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นพนักงานที่คอยเติมอาหารและเครื่องดื่มในงาน“ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันผายมือให้เขาเข้าไปในงานก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่แทะยีราฟตัวสีเหลืองอย่างมันเขี้ยวโดยไม่รู้เลยว่าบริเวณหลังร้านคนสองคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ เพราะเน้นความเรียบง่ายห้าโมงเย็นทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุดนิ้วนางข้างซ้ายของฉันและเขาต่างประดับด้วยแหวนแต่งงานที่เราต่างแลกแห
“แต่พี่ก็ดีใจนะ อย่างน้อยเจก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนอย่างตอนแรก ให้ตาย! ตอนแรกพี่เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน หลังคลอดเราจะอยู่ยังไงกันสองคน พอรู้ว่าน้องเจมีคนคอยดูแลพี่ก็เบาใจ” พี่น้ำตาลที่ผ่านการมีลูกเต้ามาก่อนเอ่ยพร้อมกับเดินมาตบต้นแขนให้กำลังใจฉันยิ้มทั้งน้ำตา“ขอบคุณนะคะแต่ยังไงก็ยังเป็นเจคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป” ทุกคนพยักหน้าให้ “วันหลังเอาอากิระมาให้พี่ๆอุ้มบ้างพวกเราจะได้กอดหอมตอนยังเด็กนี่แหละ” เอแคร์ว่า“โตขึ้นมาพี่สาวคนนี้จองตัวเป็นผู้จัดการดาราเลยนะคะ” บรรยากาศผ่อนคลายลงมากภพที่ยังพูดน้อยเหมือนเดิมเอ่ยเพียงสองสามประโยค“ยินดีด้วยนะเจ”“ขอบคุณนะภพ” จะว่าไปเขาเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่รู้ว่าพ่อในท้องของผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ว่าจะรถของหญิงสาวที่ท่านประธานคนใหม่ใช้อยู่เนืองๆไหนจะตอนที่คนทั้งสองไปซื้อของด้วยกันตอนแรกเขาทั้งตกใจและคาดไม่ถึง…ตอนแรกเขายอมรับว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่เหมือนกันแต่เหมือนเจ้าหล่อนก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครหน้าไหนได้เข้าหามีกำแพงบางๆกั้นเอาไว้หากเธอไม่ท้องหรือมีครอบครัวไปเสียก่อนเขาก็ยังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้สานต่อ…“แหมน้องภพมองตาละห้อยเชียวพ
ริวอิจิส่งข้อความมาบ้างแต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยตารางชีวิตแต่ละคนยุ่งสุดๆแต่แล้วความทรมานในการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงกดออดที่หน้าห้องเมื่อเห็นในมอนิเตอร์ว่าเป็นใครฉันก็เปิดประตูให้อย่างเร็วรี่แม้ใบหน้าเขาจะเหนื่อยล้าสุดๆแต่กลับยิ้มแฉ่งเข้ามากอดและอุ้มฉันจนตัวลอย“ว้ายเล่นอะไรคะเนี่ย” ฉันแหวใส่เขาเมื่อถูกอุ้มจนเท้าไม่ติดพื้นแถมในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มจะคว่ำแล้วคอกเด็กที่สั่งทำเอาไว้ก็ได้ฤกษ์ใช้เสียที“อากิระคุง” เสียงมาก่อนตัวริวอิจิที่สองมือหอบข้าวของพะรุงพะรังมามากมายก็ไม่ลืมที่จะรีบไปล้างมือหมายจะรีบมาอุ้มลูกชายแต่โดนฉันเบรกไว้ก่อน“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าคะ” พ่อหมาทำหน้าละห้อยเหงื่อไหลโทรมกายขนาดนั้นอีกอย่างเชื้อโรคก็เยอะด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบบริเวณข้างๆคอกเด็กฉันรีบไปอุ้มเจ้าก้อนมาไว้แนบอกนั่งหันหน้าออก“ปะป๊ากลับมาแล้วดีใจไหมครับ” เจ้าก้อนดิ้นดุ๊กดิ๊กมือเท้าปัดป่ายกลางอากาศอย่างน่ารักฉันอุ้มเขาไม่กี่อึดใจอากิระคุงก็ถูกริวอิจิอุ้มไปฟัดในคอกเด็กสองพ่อลูกคุยกันงุ้งงิ้งอยู่นานสองนานส่วนฉันก็รีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อพี่ไผ่เองก็เก็บของเตรียมต
“แค่ก แค่ก ๆ” เมื่อเขาถอนออก ฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง อีตาบ้ากดมาได้! ฉันทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจเท่านั้น ไม่นานแผ่นหลังก็แนบติดกับประตู ชุดนอนกระโปรงถูกถกมากองไว้ที่เอว ขาข้างหนึ่งพาดบนท่อนแขนแกร่ง ยืนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้เขาตอกอย่างถนัดถนี่“อื้อ” ฉันครางเครือแทบไม่เป็นภาษาเข็มยักษ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันหายไข้หรือว่าป่วยเพิ่มกันแน่ยิ่งเข้าสุดออกสุดอย่างนี้ฉันจิกเล็บกับต้นแขนเขาอย่างแรงเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะไม่ว่าจะเสียงเฉอะแฉะของน้ำลายน้ำหล่อลื่นส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันอยู่หรือเสียงเนื้อกระทบเนื้อต่างก็พาอารมณ์พุ่งทะยานสุดกู่ริมฝีปากจูบคลอเคลียกันไม่ห่างช่วงล่างเองก็เช่นกันฉันตบต้นแขนเขาเป็นเชิงให้เปลี่ยนท่าก่อนจะผลักเขาลงกับเตียงกว้างถอดชุดนอนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีก้าวเข้าไปควบคี่กลายเป็นคนคุมเกมและจังหวะเสียเอง สองมือสอดประสานกันเพื่อให้ฉันพยุงตัวแถมเขายังกระเด้งเอวขึ้นมาตอบรับจังหวะของฉันอีกที “อึกอื้อ” เสียงปักปักของเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องนอนฉันหลับตาพริ้มคอเชิดแหงนเมื่อจุดกระสันถูกแทงย้ำๆอย่างไม่ปรานีย้ำๆจุดนั้นไม่กี่ทีฉันก็ตัวสั่นกระตุกหอบเสียงครางเครือเท้าแขนไว้ข้างศีรษะเขา