ฉันมานั่งรอหน้าห้องตรวจใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ จะเจอแจ็กพอตอะไรอีก อ๊ากกกกอยากจะพ่นไฟ นั่งทึ้งผมตัวเองจนตกเป็นเป้าสายตาของใครหลาย ๆ คน
“คุณปภาดาดารากรเชิญที่ต้องตรวจได้เลยค่ะ”
คุณปภาดาคุณปภาดาพยาบาลสาวเรียกชื่อรอบที่ 3 ฉันจึงได้สติรีบเดินเข้าห้องตรวจไป
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
“สวัสดีค่ะ...”
“ในประวัติแจ้งว่าประจำเดือนขาดมาเกือบๆ 2 เดือนมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ”
“...”
“เอ่อ...ประมาณ 3 เดือนที่แล้วค่ะ” พอตอบเสร็จก็เห็นคุณหมอคนสวยพลิกปฏิทินย้อนกลับไปประมาณ 3 เดือนที่แล้วงั้นหมอขอตรวจเลือดและอัลตราซาวด์หน่อยนะคะ”
“เอ่อ...คุณหมอคะพอดีดิฉันอยากจะตรวจ Nifty Test (การตรวจกรองหาลักษณะความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์มารดา) และตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆด้วย”
“ได้ค่ะผลจะทราบอีก 2 สัปดาห์หน้านะคะหลังจากนี้เราจะเจอกันทุกๆ 2 สัปดาห์”
“คือเอาจริงๆนะคะคุณหมอกรณีถ้าเด็กผิดปกติดิฉันขอยุติการตั้งครรภ์เพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยแล้วไม่รู้ว่าพ่อของเด็กจะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมอื่นๆหรือไม่เลยค่อนข้างกังวลน่ะค่ะ”
“หมอเข้าใจค่ะ...แต่อยากให้คุณแม่ทำใจให้สบายรอผลออกเราค่อยมาวางแผนกันอีกทีดีไหมคะ”
“งั้นเชิญคุณแม่ไปยังห้องอัลตร้าซาวด์เสร็จแล้วไปห้องเจาะเลือดเดี๋ยวพยาบาลจะแนะนำขั้นตอนต่อไปค่ะ”
ห้องอัลตร้าซาวด์
“คุณแม่ถอดกางเกงไว้ในตะกร้านี้นะคะแล้วถอดรองเท้าสวมสลิปเปอร์คู่นี้แล้วขึ้นขาหยั่งได้เลยค่ะ”
พยาบาลแนะนำเสียงใสโห...โชคดีนะเนี่ยที่ได้หมอสูติผู้หญิงแล้วจะต้องขึ้นขาหยั่งแบบนี้อีกกี่ครั้งวะเนี่ยอายโคตร! ถึงจะเพศเดียวกันก็เถอะนึกสภาพต้องมานั่งถ่างขาอ้าอล่างฉ่างให้ฝ่ายตรงข้ามดูใครจะไม่อายบ้างเล่า....
ก่อนผ้าม่านสีขาวจะเลื่อนมาปิดส่วนท้องกั้นระหว่างส่วนล่างเตียงเลื่อนสูงขึ้นเมื่อกี้เห็นอุปกรณ์แวบๆเหมือนแท่งยาวๆสวมพลาสติกอย่าบอกนะว่าจะเอาไอ้นั่นสอดเข้าไป
“คุณแม่ไม่ต้องเกร็งนะคะเดี๋ยวเราจะสอดอุปกรณ์เข้าไปในช่องคลอดนะคะ” รู้สึกมีอะไรเย็นๆสอดเข้ามาสักพักเหมือนเหมือนสำลีเข้ามาปาดๆบริเวณปากมดลูกก่อนที่คุณหมอสาวจะอธิบายถึงการตรวจมะเร็งปากมดลูก
สักพักก็สอดอุปกรณ์แท่งยาวๆเข้ามาเพื่ออัลตร้าซาวด์ช่องคลอดก่อนที่ม่านจะถูกเปิดให้เห็นถุงดำๆอยู่ภายในช่องท้องฉันบนหน้าจอมอนิเตอร์
“ยินดีด้วยนะคะคุณแม่มีถุงการตั้งครรภ์ถุงเดียว” คุณหมอชี้ให้ดูบนหน้าจอ
“ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 10 สัปดาห์แล้วค่ะ” ก่อนที่หมอจะกดอะไรต่อมิอะไรภาพอัลตร้าซาวด์ก็ถูกปริ้นออกมาฉันรับภาพถ่ายมาไว้ในมืออย่างสั่นๆถุงดำๆเหมือนหนอนไหมนั่นนะเหรอลูก... แต่งตัวเสร็จออกมาเจาะเลือดอะไรเสร็จแล้วก็มาถึงฝ่ายโภชนาการสำหรับคุณแม่มือใหม่ก่อนจะกลับบ้านมีนัดอีก 2 สัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าถ้าอยากให้ลูกตัวขาวต้องโด๊ปนมเยอะๆหรือน้ำมะพร้าวอะไรทำนองนั้นสรรหานั้นนี้มากินแต่พอได้เจอนักโภชนาการสำหรับคนท้องความคิดที่จะโด๊ปขุนให้ลูกอ้วนตั้งแต่ในท้องนั้นผิดมหันต์เพราะการที่เรากินหรือดื่มอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งมากเกินไปอาจส่งผลให้ลูกเกิดมาแพ้อาหารเหล่านั้นได้
นมก็ดื่มวันละ 1-2 แก้วต่อวันนั้นเพียงพอแล้ว
อาหารเสริมเน้นพวกโฟลิค (ความจริงควรจะทานตั้งแต่วางแผนการตั้งครรภ์ด้วยซ้ำไปเพื่อลดการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ในทารก)
ส่วนฉันนั้นไม่มีอาการแพ้ท้องหมอเลยไม่ได้จ่ายยาแก้อาเจียนมาให้กินทุกอย่างได้ปกติควรงดน้ำอัดลมเพราะคนท้องท้องอืดง่ายอีกอย่างระหว่างมื้ออาจจะคั่นด้วยผลไม้หรือแครกเกอร์ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้แต่ไม่รู้ผลตรวจอีก 2 สัปดาห์หน้าจะมาในแนวทางไหนก็ต้องยอมรับผลของมันทั้งนั้น
ไม่มีอะไรจะร้ายแรงและกระทบจิตใจเท่ากับเรื่องการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างกะทันหันของบุพการีทั้งสองอีกแล้วพวกท่านทั้งสองจากไปตอนฉันอยู่ม.5 มีกันเพียงสามคนพ่อแม่ลูกไม่มีญาติที่ไหนพ่อแม่เริ่มต้นมาจากหนุ่มสาวโรงงานเก็บเล็กผสมน้อยเก็บหอมรอมริบซื้อกองทุนรวมปันผลไว้หลายกองแล้วยังซื้อหุ้นปันผลไว้อีกหลายตัวตอนนั้นราคาบางตัวถูกมากแทนที่จะสะสมซื้อทองเหมือนคนอื่นพวกท่านก็หันมาลงทุนพวกหุ้นกองทุนรวมต่างๆรวมไปถึงกู้ซื้อตึกแถวทำห้องเช่าอยากจะขอบคุณท่านทั้งสองมากๆพอท่านทั้งสองเสียชีวิตฉันเลยไม่ได้ลำบากมากมายอะไรหุ้นปันผลบางตัวปันผลปีละ 2 ครั้งมันเลยมีเงินก้อนเข้ามาในบัญชีเรื่อยๆพอตัวคนเดียวการใช้ชีวิตความคิดความอ่านของฉันก็โตเกินตัวเพราะต้องดูแลตัวเองแต่ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของฉันก็คงจะเป็นตอนสังสรรค์เรียนจบป.โทที่ญี่ปุ่นนั่นแหละ
จิรัติกรมางานแต่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นด้วยความไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะสละโสดเร็วกว่าใคร ๆ ในรุ่น ก็แหงล่ะ…เจ้าชู้ประตูดินเสียขนาดนั้น แต่พอมาเจอเจ้าสาวในวันนี้ เขายังรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนรักของเขามีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้จริง ๆ แถมลูกชายยังน่ารักน่าชัง อ้วนท้วนสมบูรณ์เชียวนึกถึงตอนที่มาขอให้ช่วยรวบหัวรวบหางสาวเจ้าแล้วก็อดขำไม่ได้เพื่อนเขาถึงต้องลงทุนมากมายเพื่อทะเบียนสมรสฉบับเดียวแทนที่จะเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ต้องอ้อนวอนขอทะเบียนสมรสจากริวอิจิน่ะส่งเพื่อนเข้าประตูวิวาห์พลันอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้…แล้วชีวิตคู่ของเขาจะเป็นแบบไหนเจ้าสาวจะเป็นใครแม้ว่าไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนเลยก็ตามความคิดในหัวแตกกระเจิงเมื่อเจอใครบางคนคนคนนั้นที่ติดอยู่ในหัวของเขาแมวขโมย! สองแขนของปานประดับถูกกระชากอย่างแรงหลังจากที่เธอเพิ่งจะเรียงจานชามบนโต๊ะได้ไม่นาน“อะ” ฉันร้องเสียงหลงแถมยังต้องตกใจจนหน้าขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครโลกมันจะกลมเกินไปแล้วอีกอย่างฉันเองก็คอยระมัดระวังตัวตลอด…“ไง” เขาถามด้วยใบหน้าราบเรียบแต่แววตากลับวาวโรจน์“คะ” ฉันตีเนียนแต่มือไม้เย็นจนเกือบจะถือถาดในมือไว้ไม
งานแต่งงานของฉันกับริวอิจิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นการแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ซึ่งคุณนายเคอิเป็นคนขอเอาไว้เนื่องจากเราแต่งงานที่ไทยกันมาแล้ว เลยอยากจะจัดงานแบบญี่ปุ่นบ้าง ฉันเลือกชุดกิโมโนสีขาว ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสีดำ พิธีการค่อนข้างเคร่งครัดและเป็นระเบียบ แขกเหรื่อจะต้องยืนยันว่าจะมาร่วมงานเพราะชุดอาหารนับตามจำนวนคนและแพงมาก แม่เจ้า! รวมไปถึงของชำร่วยที่แขกเหรื่อจะเป็นคนเลือกเอง แต่สำหรับฉันพิธีการเรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับฉันอย่างดีไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในสถานะที่แตกต่างออกไปในตอนแรกฉันมาเยือนโตเกียวด้วยวีซ่านักเรียนแต่พอมาอีกครั้งกลับมาในสถานะภรรยาของชาวญี่ปุ่นจัดงานเสร็จสรรพใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันชอบความเรียบง่ายเลยไม่ได้จัดการฉลองที่โรงแรมอีกอีกอย่างเราก็มีลูกเล็กด้วยกระเตงออกงานทั้งวันคงเหนื่อยน่าดูที่สำคัญเจ้าเด็กอ้วนยังติดพี่เลี้ยงมากๆอีกด้วยพี่ไผ่เองตอนนี้ก็เปรียบเสมือนญาติอีกคนที่เข้าร่วมพิธีการในครั้ง
อีกทั้งฉันเองก็ขอร้องว่า…ไม่ต้องใส่ซองอะไรมาให้อีกอย่างทุกคนก็เสียสละวันหยุดมางานกันแล้วไหนจะเสื้อผ้าหน้าผมอีกแต่ทุกคนกลับมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยติดมือมาให้อยู่ดีคุณนายเคอิเองก็ยิ้มแช่มชื่นแม้จะมีอุปสรรคทางภาษาแต่เอแคร์เองก็พูดควบสองภาษาเพื่อให้คนทั้งงานเอนจอยไปด้วยกันแถมเพื่อนรักอย่างจิรัติกรเองก็มาร่วมงานด้วย“ไง” จิรัติกรเอ่ยทักเจ้าบ่าวข้างกายฉันพลางส่งของขวัญในมือให้“ขอบใจ” “งานสำคัญของนายทั้งทีฉันต้องมาอยู่แล้วน่า”“ยินดีด้วยนะครับคุณ…เอ่อ”“เจค่ะ”“ยินดีด้วยนะครับคุณเจ” “ขอบคุณมากค่ะ” แถมเขายังเข้ามาหยอกล้อเจ้าตัวน้อยที่นั่งหันหน้าบนเป้นั่งคาดเอวด้วยความเอ็นดู“นี่มันริวอิจิฉบับจิ๋วชัดๆ” เขาว่าพลางหัวเราะในคอแต่พลันสายตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นพนักงานที่คอยเติมอาหารและเครื่องดื่มในงาน“ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันผายมือให้เขาเข้าไปในงานก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่แทะยีราฟตัวสีเหลืองอย่างมันเขี้ยวโดยไม่รู้เลยว่าบริเวณหลังร้านคนสองคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ เพราะเน้นความเรียบง่ายห้าโมงเย็นทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุดนิ้วนางข้างซ้ายของฉันและเขาต่างประดับด้วยแหวนแต่งงานที่เราต่างแลกแห
“แต่พี่ก็ดีใจนะ อย่างน้อยเจก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนอย่างตอนแรก ให้ตาย! ตอนแรกพี่เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน หลังคลอดเราจะอยู่ยังไงกันสองคน พอรู้ว่าน้องเจมีคนคอยดูแลพี่ก็เบาใจ” พี่น้ำตาลที่ผ่านการมีลูกเต้ามาก่อนเอ่ยพร้อมกับเดินมาตบต้นแขนให้กำลังใจฉันยิ้มทั้งน้ำตา“ขอบคุณนะคะแต่ยังไงก็ยังเป็นเจคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป” ทุกคนพยักหน้าให้ “วันหลังเอาอากิระมาให้พี่ๆอุ้มบ้างพวกเราจะได้กอดหอมตอนยังเด็กนี่แหละ” เอแคร์ว่า“โตขึ้นมาพี่สาวคนนี้จองตัวเป็นผู้จัดการดาราเลยนะคะ” บรรยากาศผ่อนคลายลงมากภพที่ยังพูดน้อยเหมือนเดิมเอ่ยเพียงสองสามประโยค“ยินดีด้วยนะเจ”“ขอบคุณนะภพ” จะว่าไปเขาเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่รู้ว่าพ่อในท้องของผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ว่าจะรถของหญิงสาวที่ท่านประธานคนใหม่ใช้อยู่เนืองๆไหนจะตอนที่คนทั้งสองไปซื้อของด้วยกันตอนแรกเขาทั้งตกใจและคาดไม่ถึง…ตอนแรกเขายอมรับว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่เหมือนกันแต่เหมือนเจ้าหล่อนก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครหน้าไหนได้เข้าหามีกำแพงบางๆกั้นเอาไว้หากเธอไม่ท้องหรือมีครอบครัวไปเสียก่อนเขาก็ยังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้สานต่อ…“แหมน้องภพมองตาละห้อยเชียวพ
ริวอิจิส่งข้อความมาบ้างแต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยตารางชีวิตแต่ละคนยุ่งสุดๆแต่แล้วความทรมานในการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงกดออดที่หน้าห้องเมื่อเห็นในมอนิเตอร์ว่าเป็นใครฉันก็เปิดประตูให้อย่างเร็วรี่แม้ใบหน้าเขาจะเหนื่อยล้าสุดๆแต่กลับยิ้มแฉ่งเข้ามากอดและอุ้มฉันจนตัวลอย“ว้ายเล่นอะไรคะเนี่ย” ฉันแหวใส่เขาเมื่อถูกอุ้มจนเท้าไม่ติดพื้นแถมในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มจะคว่ำแล้วคอกเด็กที่สั่งทำเอาไว้ก็ได้ฤกษ์ใช้เสียที“อากิระคุง” เสียงมาก่อนตัวริวอิจิที่สองมือหอบข้าวของพะรุงพะรังมามากมายก็ไม่ลืมที่จะรีบไปล้างมือหมายจะรีบมาอุ้มลูกชายแต่โดนฉันเบรกไว้ก่อน“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าคะ” พ่อหมาทำหน้าละห้อยเหงื่อไหลโทรมกายขนาดนั้นอีกอย่างเชื้อโรคก็เยอะด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบบริเวณข้างๆคอกเด็กฉันรีบไปอุ้มเจ้าก้อนมาไว้แนบอกนั่งหันหน้าออก“ปะป๊ากลับมาแล้วดีใจไหมครับ” เจ้าก้อนดิ้นดุ๊กดิ๊กมือเท้าปัดป่ายกลางอากาศอย่างน่ารักฉันอุ้มเขาไม่กี่อึดใจอากิระคุงก็ถูกริวอิจิอุ้มไปฟัดในคอกเด็กสองพ่อลูกคุยกันงุ้งงิ้งอยู่นานสองนานส่วนฉันก็รีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อพี่ไผ่เองก็เก็บของเตรียมต
“แค่ก แค่ก ๆ” เมื่อเขาถอนออก ฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง อีตาบ้ากดมาได้! ฉันทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจเท่านั้น ไม่นานแผ่นหลังก็แนบติดกับประตู ชุดนอนกระโปรงถูกถกมากองไว้ที่เอว ขาข้างหนึ่งพาดบนท่อนแขนแกร่ง ยืนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้เขาตอกอย่างถนัดถนี่“อื้อ” ฉันครางเครือแทบไม่เป็นภาษาเข็มยักษ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันหายไข้หรือว่าป่วยเพิ่มกันแน่ยิ่งเข้าสุดออกสุดอย่างนี้ฉันจิกเล็บกับต้นแขนเขาอย่างแรงเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะไม่ว่าจะเสียงเฉอะแฉะของน้ำลายน้ำหล่อลื่นส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันอยู่หรือเสียงเนื้อกระทบเนื้อต่างก็พาอารมณ์พุ่งทะยานสุดกู่ริมฝีปากจูบคลอเคลียกันไม่ห่างช่วงล่างเองก็เช่นกันฉันตบต้นแขนเขาเป็นเชิงให้เปลี่ยนท่าก่อนจะผลักเขาลงกับเตียงกว้างถอดชุดนอนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีก้าวเข้าไปควบคี่กลายเป็นคนคุมเกมและจังหวะเสียเอง สองมือสอดประสานกันเพื่อให้ฉันพยุงตัวแถมเขายังกระเด้งเอวขึ้นมาตอบรับจังหวะของฉันอีกที “อึกอื้อ” เสียงปักปักของเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องนอนฉันหลับตาพริ้มคอเชิดแหงนเมื่อจุดกระสันถูกแทงย้ำๆอย่างไม่ปรานีย้ำๆจุดนั้นไม่กี่ทีฉันก็ตัวสั่นกระตุกหอบเสียงครางเครือเท้าแขนไว้ข้างศีรษะเขา