Share

บทที่ 274

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือเลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าพ่อบุญธรรมเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ก็ถูกพวกเขาหมายตายาเสียแล้ว

อวี้เล่อเห็นนางยังนิ่งเฉย จึงรีบเร่งเร้าอีกครั้ง “คุณหนูใหญ่ ท่านรีบหน่อยเถิด คุณชายรองกับคุณหนูสามยังรออยู่”

“หากคุณชายรองรอจนหงุดหงิดขึ้นมา ก็ยิ่งจะไม่เห็นหัวพี่สาวอย่างท่านเข้าไปใหญ่ ท่านอย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน”

หรงจือจือฟังจบ ก็หัวเราะเย็นชา “พูดจบแล้วหรือยัง?”

อวี้เล่อมองใบหน้านิ่งสงบของนาง ไม่เห็นแม้แต่เงาของความกังวล รู้สึกแปลกใจไม่น้อย “คุณหนูใหญ่ ท่านไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”

หรงจือจือยิ้มบาง “ได้ยินชัดเจนดี กลับไปบอกเจ้านายของเจ้าว่า ยานี่เป็นของพ่อบุญธรรมที่ให้ข้า ข้าไม่คิดที่จะแบ่งให้พวกเขา”

อวี้เล่ออึ้งไปครู่หนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ “คุณหนูใหญ่ ท่านพูดจริงหรือ? คุณชายรองแทบไม่เคยสนใจสิ่งใดจากท่านเลยนะ ครั้งนี้เขายอมเอ่ยปากขอด้วยตัวเอง ท่านกลับไม่ยอมคว้าโอกาสนี้ไว้หรือ?”

ก่อนหน้านี้ตอนขอชุดผีเสื้อ ก็เป็นเพราะคุณหนูสามอยากได้ แต่ครั้งนี้คุณชายรองเอ่ยเองแท้ๆ ทำไมคุณหนูใหญ่ยังทำท่าทีแบบเดิม?

หรงจือจือ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าท่าทางวางอำนาจของอวี้เล่อนั้นมาจากไหน

อ้อ... ห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 275

    อวี้หมัวมัวอยู่ข้างกายหรงจือจือมาหลายปี นางเคยช่วยเหลือคนไม่น้อย แต่พวกที่ไร้ความสำนึกอย่างสาวใช้จ้าว แถมยังกล้าตะโกนโวยวาย นับว่าพบเจอได้น้อยเต็มทีหรงจือจือหัวเราะเบาๆ “ไม่เป็นไร ข้าคาดไว้อยู่แล้วว่านางต้องเป็นเช่นนี้ นางไม่เพียงแค่ทำเช่นนี้หรอก ข้าว่านางคงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกฮูหยินหรง เพื่อแสดงความจงรักภักดีด้วยเป็นแน่”เจาซีร้อนใจ “คุณหนู เช่นนั้นพวกเราจะไม่ทำงานเสียแรงเปล่าหรือเจ้าคะ?”หรงจือจือยิ้มบาง “ทำไมถึงคิดเช่นนั้น?”นางไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงแค่สั่งอวี้หมัวมัว “ไปหาคนสักสองสามคน ไปสร้างปัญหาให้พี่ชายของสาวใช้จ้าวสักหน่อย ให้เขาไปทวงเงินจากนางสองสามรอบ”อวี้หมัวมัวพยักหน้ารับคำสั่ง “เจ้าค่ะ”......ในเรือนของหรงซื่อเจ๋อ เวลานี้ใบหน้าของหรงเจียวเจียวเต็มไปด้วยความคาดหวังและกังวล “พี่ใหญ่ ท่านว่าหรงจือจือจะยอมให้ยากับพวกเราหรือไม่?”นางให้ฝานซิงไปสืบเรื่องนี้มา พอรู้ความก็มาหาหรงซื่อเจ๋อทันที ขอให้เขาช่วยไปขอยาจากหรงจือจือให้ตนหรงซื่อเจ๋อแค่นเสียงเย็นชา “วางใจเถอะ ในเมื่อข้าเป็นคนเอ่ยปาก นางย่อมต้องให้”หรงเจียวเจียวยิ้มกว้างจนเต็มหน้า “พี่ใหญ่ช่างดีกับข้าจริงๆ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 276

    “ความจริงก่อนที่เจ้าจะไป นางคงคิดไว้แล้ว ว่าจะเป็นฝ่ายแบ่งยามาให้ข้าส่วนหนึ่งกระมัง?”เมื่อก่อนหรงจือจือมีของดีอะไร ก็มักจะนึกถึงน้องชายอย่างตนเองคนนี้อยู่เสมอ และไม่ว่าตนเองจะต้องการหรือไม่ นางล้วนหยิบยื่น แล้วถือมันออกมาไว้ด้านหน้าตนเองแต่ก็เพราะเหตุผลนี้ เขาจึงเกลียดนางมากยิ่งขึ้นอวี้เล่อ “คุณชายรอง เช่นนั้นรอคุณหนูสามกลับมาก่อน แล้วข้าน้อยจะเล่าให้ฟังเป็นการส่วนตัวดีหรือไม่ขอรับ?”บุรุษล้วนต้องการรักษาหน้า เขาเชื่อว่าคุณชายรองในฐานะพี่ชาย คงไม่อยากขายหน้าต่อหน้าคุณหนูสาม อย่างไรก็ตามหรงซื่อเจ๋อกลับขมวดคิ้วแน่น “เจียวเจียวเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า มีคำพูดใดที่ต้องหลบเลี่ยงนางด้วยหรือ? เจ้าพูดมาตรง ๆ เลยจะดีกว่า!”อวี้เล่อกัดฟัน และทำได้เพียงบอกหรงซื่อเจ๋อทุกอย่าง ถึงสิ่งที่หรงจือจือเพิ่งพูดออกมาหลังหรงซื่อเจ๋อฟังจบ ก็โกรธมากแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่!เขากล่าวด้วยสีหน้าทมึงทึงว่า “ที่เจ้าเล่ามาทั้งหมด หรงจือจือเป็นคนพูดหรือ?”อวี้เล่อกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “จริงแท้แน่นอนขอรับ หรือว่าบ่าวยังจะกล้าโกหกท่านอีกหรือ? ตอนนั้นคุณหนูใหญ่บอกว่าท่านทำเรื่องน่าอายแต่ก็ยังหยิ่งยโส จ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 277

    เสิ่นเยี่ยนซูถามเสียบเรียบ “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดสวีชิงชิงถึงทำเช่นนี้?”เซินเฮ่อ “ตอนแรกลูกศิษย์ก็ไม่ทราบ แต่พี่สาวกลับพูดจนทำให้หลุดจากฝัน นางบอกว่า...เป็นไปได้มากว่าคือความอิจฉา”“เมื่อก่อนคุณหนูใหญ่สกุลหรงเพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง และยังโดดเด่นเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องของเมืองหลวง แถมเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์เช่นเดียวกันอีก สวีชิงชิงจะอิจฉาก็เป็นเรื่องปกติ”“ภายหลังลูกศิษย์สืบดูอีกหน่อย ถึงได้รู้ว่า เมื่อก่อนสวีชิงชิงติดตามคุณหนูใหญ่หรง ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมอยู่เสมอ”“ความอิจฉานั้น แทบจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยขอรับ!”เมื่อเสิ่นเยี่ยนซูได้ยิน ดวงตาก็เย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง เป็นสตรีเหมือนกัน แต่สวีชิงชิงเพียงเพราะอิจฉา จึงใช้วิธีอันชั่วร้ายเช่นนี้ออกมาทำให้ชื่อเสียงของหรงจือจือเดิมก็ถูกคนวิพากษ์วิจารณ์เพราะหย่าร้าง เปลี่ยนเป็นยิ่งแย่ลงไปอีกจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ ช่างน่ารังเกียจยิ่งนักเซินเฮ่อถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเสนาบดี ท่านคิดว่า เรื่องนี้ควรจะจัดการอย่างไรดีขอรับ?”เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวเสียงเรียบ “ไปสืบความลับส่วนตัวทั้งหมดของจวนเฉิงหยางโหว รวมทั้งเรื่องแย่ ๆ ที่สวีชิงชิงเคยทำตั้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 278

    หญิงรับใช้แซ่หลี่ “นี่มัน...ฮูหยิน คุณหนูใหญ่จะเห็นด้วยหรือเจ้าคะ? สิ่งของของฮูหยินผู้เฒ่า เป็นสิ่งล่ำค่าที่สุดของนางมาโดยตลอด”นางหวัง “ในเมื่อนางอยากจะเอาใจข้า ย่อมเห็นด้วยเป็นแน่ เจ้าไม่ต้องคิดมากถึงเพียงนั้น แค่ตรงเข้าไปเลยก็พอแล้ว!”หญิงรับใช้แซ่หลี่ “เจ้าค่ะ!”……หลังได้ยินหญิงรับใช้แซ่หลี่ชี้แจงที่มา หรงจือจือก็ขำเบา ๆ “สิ่งของที่ท่านย่าให้มา ตามหลักแล้วข้าจะไม่ส่งให้ผู้ใด แต่ในเมื่อผู้ที่มาคือหลี่หมัวมัว ข้าย่อมให้เกียรติเจ้าอยู่แล้ว”หญิงรับใช้แซ่หลี่ “...”ข้ามีเกียรติเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? นางไม่เคยลืม เรื่องที่ครั้งก่อนฮูหยินสั่งตนเองไม่ต้องให้หรงจือจือรับประทานอาหาร สุดท้ายอีกฝ่ายกลับหยิบขนมขึ้นมา จนตนเองแทบจะสิ้นสติไป“หลี่หมัวมัวกลับไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะไปหาปะการังชิ้นนั้นออกมา แล้วเช็ดให้สะอาด จากนั้นก็จะส่งไปยังห้องน้องสามด้วยตนเอง”หญิงรับใช้แซ่หลี่เต็มไปด้วยความสงสัย และออกจากที่แห่งนั้นด้วยความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งรอให้หญิงรับใช้แซ่หลี่จากไปแล้ว หรงจือจือจึงสั่งเจาซีว่า “ไปหาของออกมา”เจาซีกล่าวด้วยความโกรธจัด “คุณหนู ท่านคิดจะนำปะการังนี่ ส่งไปย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 279

    ต่อมาก็มองไปทางฝานซิง พลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นำปะการังชิ้นนี้ไปวางในที่ที่มองเห็นชัดเจนที่สุดในห้องของข้า!”“หรงจือจือสามารถควบคุมปะการังได้ ข้าไม่เชื่อว่าข้าหรงเจียวเจียวจะควบคุมไม่ได้! ขัดขวางข้างั้นหรือ? เช่นนั้นก็ลองขัดขวางข้าดู!”ฝานซิง “คุณหนู อย่าโมโหไปเลย คุณหนูใหญ่คงไม่อยากให้ปะการังแก่ท่าน ถึงจงใจพูดจาที่ทำให้ท่านไม่มีความสุข หากท่านโมโห ก็จะเป็นไปตามทางของนางนะเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวฟังจบ ก็รู้สึกมีเหตุผลอยู่หลายส่วนนางส่งเสียงฮึเบา ๆ “เจ้าพูดถูก! ข้าคือคนที่ได้รับปะการังจะโมโหทำไม? ให้นางทรมานเพราะสูญเสียปะการังไปคนเดียวเถอะ”......หลังหรงจือจือออกจากเรือนเฮ่าเย่ว์ ก็ยังไม่รีบกลับจวนแต่ไปยังเรือนของนางหวังแทนนางหวังได้ยินว่านางส่งปะการังไปให้หรงเจียวเจียวแล้ว และกำลังรอขอพบอยู่ด้านนอก นางก็กล่าวด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจว่า “ในเมื่อนางรู้ความ ก็ให้นางเข้ามาเถอะ” หรงจือจือเข้ามา ก็กล่าวเสียงเบา “ฮูหยินหรง ข้ามาที่นี่ เพราะต้องการพูดกับท่านอยู่สองเรื่องเจ้าค่ะ”นางหวังขมวดคิ้ว นี่มันท่าทีอะไรของนางกัน?เหตุใดฟังดูแล้ว เหมือนจะไม่มีความเคารพต่อตนเองเลยแม้แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 280

    หรงจือจือมองเจาซีแวบหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้นางว่าอย่าใจร้อนตามหลักแล้ว องครักษ์หลงสิงไม่มีทางสงสัยว่านางสบคบกับศัตรู เพราะการจับกุมอวี้ม่านหวา นางก็มีส่วนช่วยอยู่ไม่น้อยคนเฝ้าประตูกล่าว “บ่าวก็ไม่ทราบเหตุผลเช่นกันขอรับ แต่ตอนนี้นายท่าน กำลังพูดคุยกับผู้บัญชาการอวี่เหวินอยู่ด้านหน้าเรือนแล้ว”หรงจือจือพยักหน้า ก็เดินมุ่งหน้าไปด้านหน้าเรือนทันทีในเมื่อท่านพ่อยังสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ แทนที่จะเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด คิดดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเมื่ออวี่เหวินจ้านเห็นหรงจือจือ ก็รีบทำความเคารพ “ข้าน้อยคารวะท่านหญิง!”หรงจือจือ “ผู้บัญชาการอวี่เหวินไม่ต้องมากพิธี ไม่ทราบว่าผู้บัญชาการมาหาข้า มีธุระอันใดหรือ?”อวี่เหวินจ้านกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอพูดตรง ๆ เลยแล้วกัน ข้าน้อยมาขอร้องให้ท่านหญิงช่วยขอรับ”“ท่านหญิง อวี้ฉือท่านอ๋องรองของแคว้นเจาเสียชีวิตแล้ว แต่พวกข้ายังตรวจสอบพบอีกว่า พวกเขายังมีทหารแฝงตัวอยู่ห้าสิบกว่าคนที่ยังไม่ถูกจับกุม”“อวี้ม่านหวากับซี่อวี่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับสารภาพ แต่วันนี้ อวี้ม่านหวาจู่ ๆ ก็พูดว่าขอแค่พบหน้าท่านตามลำพัง นางก็จะบอกข้าน้อ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 281

    อวี้ม่านหวามองสภาพผุดผ่องไร้ราคีของหรงจือจือแล้วมองคราบเปรอะเปื้อนตามร่างกายตัวเอง หัวเราะขมขื่นออกมาว่า “ไม่นึกเลยว่าจะได้พบกันอีกครั้งในสภาพเช่นนี้”หรงจือจือมองนางอย่างสงบ แววตาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆเพียงถามอย่างราบเรียบว่า “เจ้าต้องการพบข้าด้วยเรื่องอันใด?”ระหว่างพวกนางสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่จะมารำลึกความหลังกันได้อวี้ม่านหวาเห็นนางมีท่าทีเช่นนี้ก็โมโหขึ้นมาทันที “หรงจือจือ เจ้าเห็นข้าแล้วไม่รู้สึกผิดสักนิดเลยหรือ?”หรงจือจือฟังแล้วหัวเราะ “ข้าต้องรู้สึกผิดเรื่องอะไร?”อวี้ม่านหวา “หากไม่ใช่เพราะเจ้า แผนกอบกู้มาตุภูมิของข้ากับเสด็จพี่คงจะราบรื่นไปแล้ว เราทั้งสองเป็นสตรีเหมือนกัน เจ้าทำลายแผนการอันดีของข้า ทำลายความฝันที่ต้องการกอบกู้มาตุภูมิของข้า จะไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือ?”หรงจือจือหัวเราะเยาะ “แล้วเจ้าเล่า? เราต่างเป็นสตรีเหมือนกัน เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าฉีจื่อฟู่มีภรรยาอยู่แล้วแต่ก็ยังจะเข้าหาเขาอีก”“เจ้ากับฉีจื่อฟู่ทำให้ข้ากลายเป็นตัวตลกของทั้งแคว้นต้าฉี”“ทำให้ข้าถูกวิพากษ์วิจารณ์และดูแคลน เจ้าเคยรู้สึกผิดเมื่อใดหรือ? เจ้าก็มองว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ใช่หรือ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 282

    ความจริงแล้วภายในใจอวี้ม่านหวาเข้าใจดีว่าฉีจื่อฟู่ไม่ได้รักนาง มีเพียงลูกในท้องของนางที่เขาพอจะพะวงถึงนางรู้สึกว่าตัวเองได้ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธให้กับหรงจือจือหรงจือจือหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้ายังเหลือเยื่อใยให้ฉีจื่อฟู่?”อวี้ม่านหวาหรี่ตาลงและพูด “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เหลือเยื่อใย เพราะหากยังเหลือก็คงไม่ปล่อยให้สกุลฉีเดือดร้อนเพราะข้าเช่นนี้”มิหนำซ้ำ หากอีกฝ่ายชอบฉีจื่อฟู่จริงๆ ตัวนางก็คงไม่มีที่ยืนในสกุลฉีมานานแล้วแต่ว่า…“หญิงสาวชนชั้นสูงแบบเจ้าให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและตำแหน่งแม่ศรีเรือนมากที่สุดมิใช่หรือ? ไม่อยากกลับไปทำหน้าที่ภรรยาที่สกุลฉีต่อหรืออย่างไร?”“เราต่างก็รู้ดีว่าการแต่งงานใหม่จะถูกผู้คนรังเกียจ!”หรงจือจือพูดขึ้นมาว่า “ข้าขอถามเจ้าเรื่องหนึ่ง”อวี้ม่านหวา “เรื่องอะไร?”หรงจือจือ “เจ้าได้มีส่วนร่วมในเรื่องของท่านย่าข้าหรือไม่?”อวี้ม่านหวามีสีหน้างุนงง “มีส่วนร่วมอะไร?”เมื่อเห็นว่าท่าทีของอวี้ม่านหวาดูไม่เหมือนเสแสร้ง หัวใจของอวี้ม่านหวาก็จมลง นั่นสินะ นี่นางกำลังคาดหวังอะไรอยู่กัน?ผู้สมรู้ร่วมคิดต้องเป็นคนในครอบครัวนางแน่นอนอย่างอวี้ม

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status