Share

บทที่ 372

Author: สั่งไม่หยุด
คนเฝ้าประตูเข้ามารายงาน “คุณหนู ท่านราชเลขาธิการให้คนมาแจ้ง เชิญท่านไปพบที่จวนพรุ่งนี้เช้า”

หรงจือจือ “แจ้งให้ท่านพ่อทราบแล้วหรือยัง?”

คนเฝ้าประตู “แจ้งแล้วขอรับ นายท่านให้บ่าวมาถามคำตอบจากท่าน”

หรงจือจือ “ข้ารู้แล้ว บอกคนของจวนราชเลขาธิการไปว่า ข้าจะไปพบในวันพรุ่งนี้”

คนเฝ้าประตู “ขอรับ”

คนเฝ้าประตูเดินกลับออกไป ขณะที่เดินผ่านระเบียงทางเดิน เขาได้พบกับหรงเจียวเจียวพอดี

หรงเจียวเจียวเห็นว่าเขาเดินมาจากทิศใดก็ถาม “เจ้าไปทำอะไรที่เรือนอี่เหมย?”

คนเฝ้าประตูตอบตามความจริง

หรงเจียวเจียวหน้าบึ้ง “ข้ารู้แล้ว! จริงสิ ที่ห้องข้ามีกล้วยไม้เฉาตายกระถางหนึ่ง กระถางหนักมาก สาวใช้หลายคนช่วยกันยกแต่ก็ยกไม่ไหว เจ้าช่วยขนไปทิ้งให้ข้าที”

คนเฝ้าประตู “นี่…แต่ว่าคนจากจวนราชเลขาธิการกำลังรอให้บ่าวนำคำตอบไปให้อยู่ที่ด้านนอกนะขอรับ!”

หรงเจียวเจียวพูดอย่างไม่ยี่หระ “ไม่เป็นไร ข้าจะให้คนไปช่วยตอบให้แทน บอกว่าพี่หญิงจะไปพบใช่หรือไม่?”

คนเฝ้าประตูพยักหน้า “ใช่ขอรับ”

หรงเจียวเจียว “ได้ ข้ารู้แล้ว”

คนเฝ้าประตูขานรับแล้วไปยกกระถางดอกไม้ด้วยความสงสัย ตามหลักแล้วควรให้เด็กรับใช้เป็นคนทำหน้าที่นี้ เหตุใดจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 372

    คนเฝ้าประตูเข้ามารายงาน “คุณหนู ท่านราชเลขาธิการให้คนมาแจ้ง เชิญท่านไปพบที่จวนพรุ่งนี้เช้า”หรงจือจือ “แจ้งให้ท่านพ่อทราบแล้วหรือยัง?”คนเฝ้าประตู “แจ้งแล้วขอรับ นายท่านให้บ่าวมาถามคำตอบจากท่าน”หรงจือจือ “ข้ารู้แล้ว บอกคนของจวนราชเลขาธิการไปว่า ข้าจะไปพบในวันพรุ่งนี้”คนเฝ้าประตู “ขอรับ”คนเฝ้าประตูเดินกลับออกไป ขณะที่เดินผ่านระเบียงทางเดิน เขาได้พบกับหรงเจียวเจียวพอดีหรงเจียวเจียวเห็นว่าเขาเดินมาจากทิศใดก็ถาม “เจ้าไปทำอะไรที่เรือนอี่เหมย?”คนเฝ้าประตูตอบตามความจริงหรงเจียวเจียวหน้าบึ้ง “ข้ารู้แล้ว! จริงสิ ที่ห้องข้ามีกล้วยไม้เฉาตายกระถางหนึ่ง กระถางหนักมาก สาวใช้หลายคนช่วยกันยกแต่ก็ยกไม่ไหว เจ้าช่วยขนไปทิ้งให้ข้าที”คนเฝ้าประตู “นี่…แต่ว่าคนจากจวนราชเลขาธิการกำลังรอให้บ่าวนำคำตอบไปให้อยู่ที่ด้านนอกนะขอรับ!”หรงเจียวเจียวพูดอย่างไม่ยี่หระ “ไม่เป็นไร ข้าจะให้คนไปช่วยตอบให้แทน บอกว่าพี่หญิงจะไปพบใช่หรือไม่?”คนเฝ้าประตูพยักหน้า “ใช่ขอรับ”หรงเจียวเจียว “ได้ ข้ารู้แล้ว”คนเฝ้าประตูขานรับแล้วไปยกกระถางดอกไม้ด้วยความสงสัย ตามหลักแล้วควรให้เด็กรับใช้เป็นคนทำหน้าที่นี้ เหตุใดจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 371

    ฉีอวี่เยียนโกรธจนหน้าเขียว “เจ้าคนชั้นต่ำ! เจ้าพวกคนชั้นต่ำที่สมควรตาย รู้หรือไม่ว่าพี่ชายข้าเป็นผู้ใด?”“พี่ชายของข้ายังคงดำรงตำแหน่งขุนนางขั้นหกอยู่นะ พวกเจ้าทำร้ายคนของราชสำนักเช่นนี้ อยากตายใช่หรือไม่!”ชาวบ้านพวกนั้นฟังแล้วไม่เพียงไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ยังพูดเย้ยหยัน “ตายจริง พวกข้าหวาดกลัวเหลือเกิน รีบบอกให้พี่ชายเจ้ามาจับพวกข้าไปสิ!”“แต่พวกข้ามีกันเยอะขนาดนี้ เกรงว่าห้องขังในเมืองหลวงคงจะจุได้ไม่พอกระมัง?”กฎหมายไม่อาจเป็นผลเมื่อใช้กับคนหมู่มาก นี่เป็นสัจธรรมที่อยู่มาตั้งแต่ยุคผานกู่เมื่อบรรดาชาวบ้านพูดแบบนี้ก็ยิ่งฮึกเหิมขึ้นไปอีกฉีอวี่เยียน “คนชั้นต่ำ พวกเจ้ามัน…”ฉีจื่อฟู่ทนไม่ไหวแล้ว ยื่นมือไปปิดปากนาง “พอแล้ว! เจ้า…แค่กๆๆ เจ้าเลิกพูดได้แล้ว!”พูดต่อไปก็รังแต่จะยั่วโมโหชาวบ้านพวกนี้เปล่าๆสายตาที่เขามองไปยังราชเลขาธิการตอนนี้ราวกับอาบยาพิษ เขามีหรือจะไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเฉินเยี่ยนซู อีกฝ่ายต้องการให้เขาอับอายขายหน้ามิเช่นนั้นมันจะบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไร แค่มีชาวบ้านกลุ่มใหญ่เดินผ่านมาก็แปลกมากพออยู่แล้ว นี่พวกเขายังจะพกของสกปรกสำหรับขว้างปาใ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 370

    ฉีจื่อฟู่มองเสิ่นเยี่ยนซูอย่างตั้งใจ และพยายามหาหลักฐานการโกหกที่อยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงความโปร่งใสเท่านั้นฉีจื่อฟู่กัดฟันกล่าว “ดังนั้นท่านเสนาบดีอยากจะบอกว่า แม้ท่านจะรักและชื่นชมนาง แต่หลายปีมานี้ก็ไม่เคยมีการกระทำที่เกินขอบเขตเลยงั้นหรือขอรับ?”เสิ่นเยี่ยนซูไม่ตอบ แต่กลับกล่าวเพียงแค่ว่า “นางกับข้า ต่างก็เป็นคนรักษามารยาท และซื่อสัตย์”ฉีจื่อฟู่จะฟังไม่เข้าใจได้อย่างไร ว่าเสิ่นเยี่ยนซูกำลังบอกว่า มีเพียงตนเองที่ไร้ยางอาย ถึงจะสามารถพูด และเกิดความสงสัยอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนั้นออกมาได้ ฉีจื่อฟู่กำลังจะยืนกรานว่าตนเองไม่เชื่อแต่เสิ่นเยี่ยนซูยังพูดอีกว่า “เจ้าพูดอยู่ตลอด ว่าเจ้าชอบนางจริง ๆ แต่เมื่อเจ้ามาถึงจวนของข้า ทุกการคาดเดาของเจ้า ล้วนเป็นการดูถูกนาง” “ฉีจื่อฟู่ เจ้าคิดว่าความชอบของเจ้า สามารถพิสูจน์ออกมาได้จริง ๆ หรือ?”ครานี้สีหน้าของฉีจื่อฟู่ดูย่ำแย่ลงโดยสิ้นเชิง จะสามารถพิสูจน์ออกมาได้หรือไม่นั้น? เขาคิดว่า อย่างน้อยในสายตาของหรงจือจือ เขาคงพิสูจน์อะไรออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้ความเกลียดชังที่นางมีต่อเขา แทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้วเซิ่ง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 369

    เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ข้าคิดว่าสมองของเจ้าน่าจะเพี้ยน”ฉีจื่อฟู่กลับเข้าใจผิด จึงรีบกล่าวว่า “ท่านเสนาบดี ข้าน้อยรู้ว่าตนเองเลอะเลือน และไม่ควรมาหาท่านที่นี่เพื่อพูดถึงเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งตั้งมายมายเช่นนี้ขอรับ”“แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายหรงจือจือก็เคยเป็นฮูหยินของข้าน้อย ข้าน้อยกังวลจริง ๆ ว่านางจะทนต่อแรงโจมตีและการทำร้ายไม่ไหว ถึงได้...”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็น “แต่ตามที่ข้ารู้มา จนถึงตอนนี้ คนที่ทำร้ายนางมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นเจ้า”ฉีจื่อฟู่สะอึกไป ถึงกับต่อบทสนทนาไม่ได้เล็กน้อย “ข้าน้อย ข้าน้อย...”เขาอ่ำอึ้งอยู่นานมาก ในที่สุดก็ยังคงยืดหลังตรง “แต่ข้าน้อยชอบจือจือด้วยความจริงใจ ส่วนท่านเสนาบดีรู้สึกกับนางแค่ชั่ววูบเท่านั้น เหตุใดท่านต้อง...”เสิ่นเยี่ยนซูขัดจังหวะ “ผู้ใดบอกเจ้า ว่าข้ารู้สึกแค่ชั่ววูบ?”ฉีจื่อฟู่ตกตะลึงในชั่วขณะนั้น พลางมองไปทางเสิ่นเยี่ยนซูอย่างเหลือเชื่อ “หรือว่าความหมายของท่านเสนาบดีคือ...เมื่อก่อนท่านก็ชอบนางแล้ว?”เสิ่นเยี่ยนซูมองเขาอย่างไม่ใส่ใจอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ก็เพราะเป็นคนอย่างเจ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 368

    เห็นหรงซื่อเจ๋อไม่สนใจตนเอง หรงเจียวเจียวก็เบะปากกล่าว “พี่ชาย ความจริงข้าคิดว่าหรงจือจือแค่กำลังตั้งใจพูดให้คนอื่นตกใจกลัว ส่วนอวิ๋นเสวี่ยเซียวนั่นแค่ข่มขู่ท่านก็เท่านั้น”“พวกเรารออีกหน่อยดีกว่า หลังผ่านไปไม่กี่วันนางพบว่าหาสามีที่ดีกว่าท่านไม่ได้ คิดว่าก็คงจะเสียใจภายหลังเป็นแน่เจ้าค่ะ!”หรงซื่อเจ๋อ “หุบปาก!”เขาแค่เพราะเอาแต่ฟังคำพูดของน้องหญิง ถึงทำให้กลายเป็นเช่นนี้ แล้วนางยังจะบอกว่าตนเองทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก!อีกอย่าง อะไรคืออวิ๋นเสวี่ยเซียวหาสามีที่ดีกว่าไม่ได้ ก็จะกลับมาหาตนเอง? หรือว่าเขาเป็นเพียงตัวเลือกของอวิ๋นเสวี่ยเซียวงั้นหรือ? เดิมทีเขาเป็นตัวเลือกแรก แต่ทั้งหมดเป็นเพราะน้องหญิง ถึงทำให้กลายเป็นเช่นนี้!จู่ ๆ หรงเจียวเจียวกก็ถูกเขาตะโกนใส่ ขอบตาจึงแดงขึ้นมาในทันที “พี่ชาย ท่านจะดุทำไม ทุกอย่างที่ข้าทำไม่ใช่เพื่อท่านหรือเจ้าคะ?”“หากไม่ใช่เพราะใส่ใจท่าน ข้ากับท่านแม่คงไม่คิดแผนการเพื่อท่านมากมายเช่นนี้!”“อีกอย่าง ครั้งก่อนท่านพูดชัดเจนแล้ว ว่าสามารถทำให้หรงจือจือสละการแต่งงานให้ข้าได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ข้าไม่ได้ตำหนิท่าน แต่ท่านกลับตำหนิข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 367

    หรงจือจือย้อนถาม “หลังจากทุกอย่างสำเร็จ ความดีความชอบล้วนเป็นของเจ้ากับมารดาเจ้า แต่หากมันล้มเหลว ก็จะโทษว่าเป็นเพราะการทำตามใจตนเองของข้า?”ดวงตาของหรงเจียวเจียวฉายวาบ และมีความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เพียงเพราะนางรู้ดี ว่าสิ่งที่หรงจือจือพูดล้วนเป็นความจริงหรงจือจือหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว “พวกเจ้าคิดมาดีมาก แต่น่าเสียดาย มิตรภาพของข้ากับพวกเจ้าไม่ได้ลึกซึ้งเช่นนั้นมานานแล้ว!”เรื่องอย่างพอมีอะไรผิด มีอะไรต้องรับผิดชอบ ตนเองจะแบกรับไว้คนเดียว แต่พอมีอะไรดี ล้วนแบ่งปันให้พวกเขา เมื่อก่อนหรงจือจือเคยทำไปไม่น้อย แถมยังทำอย่างไม่ลังเลเสียด้วยแต่ตอนนี้ นางไม่เต็มใจทำแม้แต่เรื่องเดียว เพราะว่าพวกเขา ต่างก็ไม่คู่ควร!นางจ้องมองหรงซื่อเจ๋อ “แทนที่เรื่องนี้เจ้าจะโทษข้า ไปโทษคนที่คิดว่าตนเองฉลาดพวกนั้นไม่ดีกว่าหรือ จิ๊....พระโพธิสัตว์ช่างเมตตา ถึงทำให้เขาคิดแผนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกมาได้!”ขณะที่พูด นางยังแสยะยิ้ม โดยมีทั้งการเยาะเย้ยและมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น จนแทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าหรงเจียวเจียวโมโหจนกระทืบเท้า “หรงจือจือ เจ้าเป็นเช่นนี้ ไม่กลัวข้าจะไปฟ้องกับท่านพ่อ ว่าเจ้าไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 366

    หรงจือจือกล่าวด้วยเสียงเนิบนาบว่า “แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนทำตามคำพูดของน้องสาม อย่างหรงซื่อเจ๋อ ยังทำตามแผนของเจ้า และข้าก็เป็นเพียงคนคอยจัดการธุระให้เท่านั้น ไหนเลยจะกล้าทำตามใจตนเอง?”หรงเจียวเจียว “เจ้า...”เห็นหรงจือจือไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ในขณะนั้นนางก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้วแต่หรงจือจือยังพูดอีกประโยคหนึ่งว่า “หากพวกเจ้าไม่เชื่อ สามารถส่งคนไปถามแม่นางอวิ๋นอู่ได้ ว่าข้าเคยไปขอร้องให้นางกลับมาแต่งเข้าสกุลหรงอีกหรือไม่? แล้วข้าได้พูดคำที่น้องสามบอกไว้ โดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียวหรือเปล่า”หรงเจียวเจียวเห็นหรงจือจือกล้าเผชิญหน้า ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ นางจึงกล่าวอย่างเหลือเชื่อว่า “นี่ นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน...”หรงจือจือเห็นท่าทางที่นางโดนความโง่ของตนเองเล่นงาน กลับรู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อยจากนั้นก็ให้คำแนะนำกับคนโง่เขลาทั้งสองไปว่า “ท่านพ่อสนใจสกุลอวิ๋น นั่นก็เป็นเพราะว่าใต้เท้าอวิ๋นเป็นขุนนางที่ซื่อตรงอย่างมาก และสกุลอวิ๋นก็ไม่ใช่พวกที่ชอบประจบผู้มีอำนาจเช่นนั้น”“แถมพี่ชายทั้งสี่ของคุณหนูอวิ๋นอู่โดดเด่นกันทุกคน แม้ตำแหน่งงานจะไม่สูง แต่ล้วนกำอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือ สกุลอวิ๋นขอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 365

    หรงจือจือพยักหน้า กล่าวเบาๆ ว่า “ไม่เลว วิธีที่เจ้ากับท่านแม่คิดขึ้นมานับว่าดีมาก”เมื่อหรงเจียวเจียวฟังจบ ดวงตาก็พลันเปล่งประกายท่าทางยิ่งดูได้ใจ “ข้ารู้อยู่แล้ว! แม้ว่าท่านพ่อจะมีตำแหน่งถึงมหาราชครู แต่เรื่องความคิดของพวกสตรีในเรือนหลัง เขาจะรู้ดีไปกว่าข้ากับท่านแม่ได้อย่างไร?”ใจที่แขวนอยู่ของหรงซื่อเจ๋อในที่สุดก็วางลงไปได้กว่าครึ่งอันที่จริง หลังจากที่หรงจือจือออกไปแล้ว เขาก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง ในมือถือตำราอยู่ก็อ่านไม่เข้าหัว ครานี้จึงจะวางใจได้เสียทีหรงเจียวเจียวถามต่อว่า “อวิ๋นเสวี่ยเซียวได้บอกหรือไม่ว่า ตระกูลอวิ๋นของพวกเขาจะมาสู่ขอใหม่เมื่อใด? แล้วจะมาขอโทษพี่รองเมื่อใด?”“ข้าล่ะยอมใจให้กับตระกูลนี้จริงๆ มีชีวิตดีๆ อยู่ไม่ชอบ ต้องมาสร้างเรื่องเช่นนี้ สุดท้ายก็ยังต้องหน้าด้านมาที่บ้าน มาขอร้องให้พี่ชายแต่งนางใหม่ แบบนี้ไม่ยิ่งน่าขายหน้ากว่าหรือ?”“เหอะ ไม่รู้ว่าก่อเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นมา ทั้งหมดนี้เพื่ออะไรกัน!”หรงซื่อเจ๋อกล่าวว่า “อันที่จริง ข้าก็ไม่ต้องการให้นางมาขอร้องอะไรข้า เพียงแค่นางส่งใบเทียบดวงชะตากลับมาใหม่ และกล่าวขอโทษเจียวเจียวสักคำก็พอแล้ว”“อย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 364

    ฉีอวี่เยียนกล่าว “ท่านมันช่างโง่เขลาเสียจริง! ท่านเอาใจใส่นางถึงเพียงนี้ แต่นางกลับไม่เห็นค่าแม้แต่น้อย ข้าช่างไม่เข้าใจเลยว่าท่านต้องการอะไร!”ฉีจื่อฟู่ตอบเพียงสั้นๆ “แค่อยากให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดก็เท่านั้น”......หรงจือจือไปพบมหาราชครูหรงและบอกว่าตนเองได้เกลี้ยกล่อมแล้ว แต่ตระกูลอวิ๋นไม่ยอมนางไม่ได้เอ่ยถึงคำพูดที่ฉีจื่อฟู่และหรงเจียวเจียวสั่งให้นางพูด เพราะพวกเขาพูดได้ แต่นางไม่สามารถพูดความจริงนั้นได้หากนางพูดออกไป บิดาคงตำหนินางกลับมาว่าไม่รู้ความ ไม่รู้ว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูดนางจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลย ปล่อยให้บิดาไม่รู้เรื่องมหาราชครูหรงรู้ว่าล้มเหลว แม้จะผิดหวังบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไรมากนัก เพียงแค่บอกให้นางกลับไปกลับถึงเรือนอี่เหมยคำพูดที่พี่น้องตระกูลฉีพูดกันที่หน้าประตูหลังจากหรงจือจือเข้ามาในจวน ถูกเจาอู้เล่าให้หรงจือจือฟังทั้งหมดหรงจือจือซึ่งปกติก็ใจเย็น ยังอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากเบาๆ ยังจะพูดว่าทำไปเพื่อมโนสำนึกอยู่อีกหรือ? ฉีจื่อฟู่นี่ คงใกล้จะซาบซึ้งจนน้ำตาซึมกับความดีของตัวเองแล้วกระมัง?เจาซีเกือบจะอาเจียนออกมา “ที่แท้การพยายามป้ายสีตัวเองให้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status