"อื้อ"
ลิ้นร้อนซุกซนตวัดลิ้นเล็กของเธอไว้ในโพรงปากตักตวงความหวานไม่มีท่าทีจะหยุดราวกับกำลังลงโทษตามที่เขาว่าไว้ ส่วนนิ้วเรียวยาวก็ลากไล่ผ่านเกาะอกกั้นจนถึงผิวเนียนลื่นไร้สิ่งปกคลุมพาตัวเล็กขนลุกซู่รู้สึกมวนท้องอย่างบอกไม่ถูก ก้อนอวบอิ่มบดเบียดเข้าหาร่างสูงจนแนบชิดเผลอลงเล็บตรงคอแกร่งไปตามอารมณ์ยิ่งทำให้ไฟในตัวคนโตลุกโชนบางอย่างขยายใหญ่คับแน่นจนปวดหนึบต้องระบายความรู้สึกผ่านมือร้อนที่กำลังบีบขยำก้นงอนบนหน้าตัก "พะ พอ นะ" เสียงหวานพยายามเอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงติดขัด ก้มหน้างุดซบตรงซอกคอคนพี่อย่างเขินอาย กลัวว่าใจจะเผลอปล่อยไปตามอารมณ์คนโตจนหยุดไม่ได้ ตรงนี้มันน่าอายเกินไป "อยากต่อ" เสียงแหบพร่าบอกอย่างเอาแต่ใจอยากจะขอลองทำตามความรู้สึกสักครั้ง อยากลงโทษต่ออีกสักหน่อย แค่นิดเดียว ฟอด "ได้มั้ย" "ฟะ โฟไม่รู้" สองแขนแกร่งกระชับร่างบางจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนระอุของกันและกัน วางหน้าผากกว้างลงหน้าผากมนสบตาหวานที่ใบหน้าแดงระเรื่อคล้ายลูกมะเขือเทศ สื่อความต้องการที่กำลังพลุ่งพล่านออกมาหวังว่าคนน้องจะยอมปล่อยใจไปกับเขา "ลองมั้ย นิดเดียว" "ถ้าโฟไม่ชอบ พี่จะหยุด" "ที่ห้องได้มั้ย" จุ๊บ "ครับ" "ซี้ด" ริมฝีปากได้รูปกดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้ง ก่อนจะเหยียบคันเร่งไปยังคอนโดตัวเองที่อยู่ใกล้กว่า มีร่างบางนั่งกอดคออยู่บนตัก ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา ทั้งที่ใจเต้นระรัวแต่ยังอยากสู้แอบกัดซอกคอแกร่งจนรู้สึกเจ็บราวกับจะเอาคืนกัน ช่างไม่รู้เลยว่ามันยิ่งจุดไฟให้ร้อนระอุมากกว่าเดิม จนต้องกัดฟันแน่นข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ จุ๊บ คนโตกว่าเลือกพาร่างเล็กเข้าลิฟต์ส่วนตัวที่ขึ้นไปถึงชั้นที่เขาอยู่ได้เลย ทันทีที่เสียงประตูปิดลง เธอเหมือนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เขาพุ่งเข้าหา อุ้มเธอจนตัวลอยเดินเข้าห้องนอนทั้งที่ปากยังคงลิ้มเลียความหวานไม่ห่าง "อ๊ะ อื้ออ" "พะ พี่ติณ" "หืม" ร่างสูงตามไปทับทาบตัวเล็กบนที่นอน จัดการไล่ชิมคนน้องตั้งแต่ริมฝีปากเรื่อยลงมาที่คางมนขบเม้มหยอกล้อใบหูหอมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะไล่ลิ้มเลียลงมาตามซอกคอขาว จนตัวเล็กขนลุกซู่ไปกับสัมผัสวาบวามที่คนพี่มอบให้ "น้องโฟ" "หะ หืม" "พี่อยากชิม" "ชะ ชิมอะไร" จุ๊บ จุ๊บ ผมกดปากจูบลงตรงก้อนกลมที่โผล่พ้นเหนือเกาะอกแทนคำตอบ ขบเม้มเบาเบาไปทั่วเท่าที่ปากของผมจะไปถึง มือหนาบีบลูบต้นขาเรียวไปมาอย่างมันเขี้ยว ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้จุดอันตรายเข้ามาเรื่อยๆ จนสามารถกอบกุมส่วนบอบบางได้ลูบไล้ไปมาผ่านกางเกงยีนส์ตัวจิ๋ว "อ๊ะ พี่ติณ" "ชอบมั้ย" "..." รู้ตัวอีกที มือร้ายก็ซุกซนจนเข้าไปสัมผัสเนินนุ่มด้านในที่มีน้ำหวานชื้นแฉะออกมาชวนให้นิ้วเรียวยาวแหวกว่ายลงไปตามรอยแยกหยอกล้อเล่นกับปุ่มเกสรวนหาจุดอ่อนไหวจนร่างบางสั่นสะท้าน ตาคมมองตัวเล็กปรือตาเรียกชื่อไม่หยุด เพียงเท่านี้มุมปากก็ยกยิ้มได้อย่างง่ายดาย "อย่าซนครับน้องโฟ" ผมรีบคว้ามือเล็กที่กำลังจะซุกซนพยายามเอื้อมมาปลดเข็มขัดหนังของผมคงอยากจะแก้แค้นเอาคืนผมบ้าง แต่วันนี้ผมแค่อยากทำให้เห็นว่าชุดที่เธอใส่มันทำอะไรอะไรได้ง่ายดาย และนี่เป็นเพียงบทลงโทษเล็กๆ เท่านั้น "อาบน้ำมั้ย" "อื้ม" "พี่อาบให้?" "โฟอาบเอง" "ไหว?" ปึก! "นิสัยไม่ดีเลย" กำปั้นเล็กทุบลงหน้าอกแกร่งมาพร้อมกับสายตาลูกแมวดุ ทำผมรู้สึกขำไม่น้อยแต่ต้องแกล้งทำหน้าเศร้าเหมือนครุ่นคิดหาความผิดของตัวเอง ก่อนจะพูดออกไปตามความรู้สึกมองลูกแมวในอ้อมกอดอย่างหยอกล้อ "อืม...เมื่อกี้พี่ว่า...ดีนะ" "พี่ติณ!" "ครับผม ป่ะ พี่อุ้ม" ผมอุ้มเธอไปส่งในห้องน้ำและออกมาเตรียมชุดนอนตัวโปรดแขวนไว้ให้หน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนจะออกไปจัดการตัวเองและปลดปล่อยระบายความอึดอัดในห้องน้ำด้านนอกอยู่พักใหญ่ แล้วกลับเข้ามาพร้อมชุดนอนคู่กันกับคนตัวเล็ก "เช็ดผมให้พี่หน่อยสิ" "ไดร์มั้ย ดึกแล้ว" "อืม" คนตัวโตเดินมาหย่อนกายลงปลายเตียงอย่างว่าง่าย ปล่อยให้คนตัวเล็กใช้ไดร์เป่าผมไปมาโดยมีแขนแกร่งกอดเอวบางเอาไว้หลวมหลวม กลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมอาบน้ำบนตัวเธอยิ่งทำให้เขาหลับตาเคลิ้มอย่างผ่อนคลาย ชอบทุกครั้งเวลาที่เธอทำอะไรให้ แค่นิดหน่อยก็พอ "พรุ่งนี้อยากไปไหน" "อยากกลับไปหาป๊ากับมามี๊" "จะไปฟ้องว่าโดนพี่แกล้ง?" "ใช่ พี่ติณโดนป๊าจัดการแน่" "หึ ฟ้องให้หมดทุกอย่างนะ" "จิ๊ แห้งแล้วค่ะ ไปนอนโซฟาเลย" สองแขนเล็กออกแรงดึงแขนล่ำให้ลุกยืนตามแรง จนผมต้องผ่อนแรงตามไม่ให้เธอเหนื่อย เดินตามแรงดันด้านหลังตรงไปที่โซฟาเบดริมหน้าต่าง แกล้งทำเป็นล้มตัวนอนลงอย่างไม่ขัดใจ ก่อนจะอาศัยจังหวะเธอเผลอหันหลังเดินกลับเตียงรวบเอวบางให้ล้มลงมานอนในอ้อมกอดมีแขนใหญ่หนุนแทนหมอน ทำเธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย สุดท้ายก็ยอมหลับตานอนไปพร้อมกัน แต่ยังไม่วายแอบใช้ฟันกัดส่วนหน้าอกกล้ามแน่นที่โผล่พ้นคอเสื้อราวกับเป็นวิธีเดียวที่เอาชนะผมได้เวลานี้ #ลงโทษพอกรุบกริบ ฮี่ฮี่ #อ่านเพลินๆ สบายๆ กันเหมือนเดิมนะคะหลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ครอบครัวของเราสองคนก็พากันไปทานมื้อเย็นฉลองให้กับคนเก่งที่โรงแรมสุดหรูของอากาย ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ได้คุยกันถึงฤกษ์แต่งงานที่ผมขอให้มามี๊หาฤกษ์ที่เร็วที่สุดให้...อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าทำตัวเล็กของผมบ่นอุบทันทีที่ถึงห้องเพราะกลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน ไหนจะคอร์สเจ้าสาวไหนจะชุดที่ยังไม่ได้เลือก แถมยังยื่นคำขาดสั่งห้ามชวนและพาเธอไปหาของกินอร่อยๆ เด็ดขาด ทำผมถึงกับแอบขำเพราะคงไม่พ้นมีคนเอ่ยปากบ่นหิวก่อนแน่นอน"พี่ติณ" เพราะเธออยากดูซีรีย์ตอนจบ ทำให้เราสองคนย้ายที่เช็ดผมมานั่งกันอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ผมนั่งที่พื้นให้ตัวเล็กใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้อยู่บนโซฟา มีเจ้าขนฟูนอนเล่นตุ๊กตาปลาอยู่ข้างๆ"หืม" ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าใสๆ ตากลมโตที่ก้มมองอยู่ก่อน"โฟขอถามอะไรหน่อยสิ" "ครับ" "ทำไมพี่ติณถึงรักโฟ" "..." เป็นคำถามที่ตอบยากมากสำหรับผม เพราะผมเองไม่เคยคิดหาคำตอบเลยสักครั้ง"ตอบมาเร็ว""เป็นความลับของพี่ไม่ได้?" ผมเฉไฉหันไปอุ้มฟินิกซ์มาเล่นบนตัก"ไม่ได้สิ" "ทำไม""ก็โฟอยากรู้""..."...ย้อนกลับไปวันนั้นวันที่เธอเกิดป๊ากับมามี๊พาผมไปหาคุณน้ามายกับอานายที่โรงพยาบาล ส่วนมินินอย
จากที่ตั้งใจจะจูบลงโทษแค่นิดนิดหน่อยหน่อยกลายเป็นเครื่องติดปลุกเสือหลับอย่างเขาให้ลุกขึ้นมาล่าเหยื่อ สองมือหนาดันไหล่บางให้ล้มตัวนอน เปลี่ยนมาค่อยๆ ลูบไล้ต้นขาขาวแผ่วเบาจนใกล้จุดอ่อนไหวที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วปกปิด จุ๊บ"ตกลงจะสารภาพมั้ย" ริมฝีปากร้อนถอนออกจากริมฝีปากบวมเจ่อแต่ยังคงวางทาบไว้แนบชิด"อ๊ะ มะ ไม่..." นิ้วซุกซนที่เขาใช้แทนไม้เรียว ค่อยๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสผิวบอบบางใต้แพนตี้ลูกไม้ลูบไล้เบาเบาให้พอรู้สึกวาบหวาม ทำคนน้องหายใจติดขัด"ไม่ตอบ?" ระหว่างรอคำตอบ ไม้เรียวของเขาก็เริ่มปัดไป่เฉียดตรงนั้นนิดผ่านตรงนี้หน่อยจนน้ำหวานเริ่มเปรอะเปื้อน ทำเขาแทบจะรอไม่ไหว"ย ยอม โฟยอมแล้ว" คนตัวเล็กรีบผละตัวลุกขึ้นท่าทางเหมือนกระต่ายน้อยเพราะกลัวจะโดนเขาลงโทษจนไม่มีเรี่ยวแรงลงไปแดนซ์ต่อ ทำเขาต้องยอมลุกตามอย่างขัดใจ ก่อนจะรวบตัวนุ่มนิ่มมานั่งตักรอฟังคำรับสารภาพจากจำเลยและเป็นไปตามที่ผมคิด ทุกอย่างเป็นแผนของเด็กดื้อทั้งหมด เธอแอบโทรไปสั่งชุดสั้นๆ นี้จากร้านเดียวกันโดยไม่ให้ผมรู้ เพราะให้ไปส่งที่คอนโดมินินแทน แถมโทรไปสั่งให้ที่ร้านมาส่งด่วนเพิ่มอีกหนึ่งชุดสำหรับเพื่อนใหม่อย่างวาดฝัน ใจดีมั้ยละ
วันนี้ฉันได้ไปงานเปิดร้านเหล้าของพี่ติณกับพี่แฝดด้วยแหละ ตอนที่รู้ว่างานจัดในธีมอวกาศทำฉันตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่เคยใส่ธีมแนวนี้มาก่อน จริงๆ ภาพในหัวไม่ใช่ชุดมนุษย์อวกาศอย่างที่ใส่อยู่ในตอนนี้หรอกนะ แต่เพื่อไม่ให้พี่ติณดุจนหน้าตึงแล้วตึงอีก ฉันก็เลยเลือกชุดนี้แล้วก็บังคับให้เขาใส่คู่กัน ตรงคอนเซ็ปต์พี่ติณเป๊ะ 'มิดชิด ไม่โป๊'"พี่ติณ เสร็จยัง โฟเสร็จแล้วนะ""เรียบร้อยครับ" "ไหน เรียบร้อยจริงรึป่าว" ฉันหมุนตัวไปดูความเรียบร้อยของชุดให้เขาพร้อมกับดูว่ารูดซิปครบมั้ยจัดทรงให้อีกนิดหน่อย พึ่งเคยเห็นพี่ติณใส่ชุดแบบนี้ครั้งแรกถึงสีหน้าจะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่แต่ดูหล่อและเท่มาก จนฉันต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้อีก"สนุกมั้ย แกล้งพี่""ใครแกล้ง โฟเปล่าแกล้งนะ" ถึงปากจะบอกปฏิเสธอย่างนั้นแต่ก็อดแอบหัวเราะไม่ได้อยู่ดี จนเขาหาทางเอาคืนโดยการรวบร่างบางที่อยู่ในชุดมนุษย์อวกาศไปกดจมูกฟัดแก้มนุ่มอยู่หลายนาทีพอให้หายมันเขี้ยวฟอด ฟอด ฟอด"พะ พอแล้วๆ ไปกันเดี๋ยวเลยเวลานะ" "ไม่อยากไปแล้ว ให้ไอ้แฝดจัดการแทน" เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูคนน้องบ่งบอกถึงอารมณ์
"ธีมงานอะไรดีวะ" วันนี้ผมกับหุ้นส่วนอย่างไอ้แฝดนัดประชุมกันเรื่องงานเปิดร้าน พวกผมสามคนอยากได้งานแบบปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าวีไอพีซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทและนักธุรกิจที่จริงใจของพวกเรา แน่นอนว่าเรื่องหลักสำคัญที่ผมจะไม่ปล่อยให้ไอ้แฝดคิดก็คือธีมงาน"ไม่เอาชุดว่ายน้ำ""กูก็ไม่เอา" ไอ้ฟิล์มเปลี่ยนไปจนไอ้เลนส์สงสัย"ไอ้ติณกูเข้าใจ แต่กูไม่เข้าใจมึงไอ้แฝด" "ดะ เดี๋ยวคอนเทนต์ซ้ำกับวันเกิด" เพื่อนผมไม่เนียนแล้วหนึ่งอัตรา"หึ""ชุดนอน" "ไม่ / ไม่" ชุดนอนผมก็ยิ่งไม่ไว้ใจว่าเมียผมจะใส่มาแบบไหน ถ้าเกิดชวนกันกับมินินใส่แบบสายเดี่ยวผ้าลื่นสั้นๆ ผมได้ปวดหัวมากแน่ยิ่งชอบแอบชวนกันซนอยู่ด้วย เพราะงั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีที่สุดแค่เรื่องธีมงานก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงจนโดนไอ้เลนส์ด่าชุดใหญ่ในความเรื่องมากของผมกับไอ้ฟิล์ม จนสรุปกันที่ธีมอวกาศ ซึ่งผมก็เห็นด้วยดูแปลกใหม่ดี คนมาร่วมงานจะได้รู้สึกสนุกไปกับงาน"แล้วเครื่องดื่มมึงจะเอายังไง" หัวใจสำคัญของร้านเหล้าก็คือเครื่องดื่ม"กูหาวิสกี้มาครบ เสิร์ฟตามบิลที่เปิด" แน่นอนว่าหน้าที่หาเครื่องดื่มมาให้ลูกค้าได้ดื่มสนุกๆ คือผมเพราะมีดีกรีเจ้าของร้านเหล้าก
ฟอด"ยังไม่หมดนะ" พอฉันเล่าเรื่องมากมายของห้องนี้ให้เขาฟังจนเริ่มรู้สึกคอแห้ง เขาก็กดจมูกหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ฉันเลยต้องรีบพูดต่อเพราะกลัวว่าเขาจะพลาดไฮไลท์ของห้องนี้"หึ มีอีก?""แน่นอนสิ" ฉันแกะแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางไว้ออกเปลี่ยนเป็นจับมือใหญ่พาเดินไปตรงตู้แช่เครื่องดื่มที่ดูเนียนไปกับผนังห้อง ก่อนจะกดปุ่มเล็กๆ ให้ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกเห็นห้องด้านในฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นเขาหรือฉันที่รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องเซอร์ไพร์สนี้มากกว่ากัน ดอกกุหลาบโอลิเวียออสตินสีชมพูอ่อนมากมายเต็มไปทุกพื้นที่ของห้องทั้งพื้นทางเดินและบนเพดานสูง มันสวยมากๆ และเป็นดอกไม้ที่ฉันชอบมากที่สุดชอบมากกว่าตุ๊กตาตัวโปรดซะอีก ลองแอบนับๆ ดูแล้วมันมากกว่าหนึ่งร้อยดอกแน่ๆ แต่ก่อนจะถ่ายรูปสวยๆ นี้ไว้ ขอถามให้หายสงสัยก่อนแล้วกัน"ชอบมั้ย" เป็นเขาที่แย่งถามคำถามก่อนเผยให้รู้ว่าทั้งหมดที่ฉันคิดเป็นเรื่องจริง"ของพี่ติณหรอ""อือฮึ" เขาพยักหน้าตอบรับในลำคอ"พี่ติณรู้ทั้งหมดเลยหรอ""ไม่ทั้งหมด""แต่ชอบทั้งหมด" เพียงเท่านี้ใจดวงน้อยของฉันก็เต้นแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะแววตาวิบวับคู่นี้ที่มีไว้มองแค่ฉัน ขยันทำให้ฉันหวั่นไหวจนไม่เป็นตัวเอง
เสียงสัญญาณแจ้งเตือนของแอพลิเคชั่นกล้องวงจรส่งเสียงดังว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในห้องทำงาน ทำผมสงสัยจนคิ้วขมวดยุ่งพันกันไปหมด จนต้องหยิบมือถือกดเข้าไปดูความผิดปกติและสิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือ ผมแอบซ่อนกล้องวงจรปิดตัวเล็กๆ ไว้ตรงมุมห้องทำงานที่ยังตกแต่งไม่เสร็จเชื่อมเข้ากับมือถือส่วนตัว ไม่รู้ว่าวันนั้นตัวเองคิดยังไงถึงได้ทำแบบนี้เหมือนกัน "หึ" มาวันนี้ภาพที่ผมเห็นในกล้องทำลายความเหนื่อยล้าจากงานที่มีจนหมด จากคิ้วที่ผูกเป็นปมเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้าง อยากจะบินกลับไปหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งทาสีผนังอยู่ที่พื้น อยากรู้ว่าเธอจะใช้วิธีไหนพาผมไปดูของขวัญที่เธอทำให้ ที่สำคัญอยากให้รางวัลคนเก่งด้วยแน่นอนว่าความลับไม่มีในโลก กล้องที่ผมซ่อนไว้มีคนรู้เพิ่มหนึ่งคนคือ แนนนี่ ที่ปีนบันไดขึ้นมาทาสีผนังด้านบนส่งยิ้มเบาเบาผ่านกล้องมาให้โดยที่ไม่เผยความลับนี้ให้คนตัวเล็กรู้ ถือว่าทำได้ดีเพราะผมก็เก็บความลับไว้ให้เหมือนกันและตลอดสองสามวันมานี้ที่ผมอยู่ต่างประเทศ ทุกวันหลังจากกลับมาถึงห้องพักสิ่งแรกที่ผมเลือกทำคือการเปิดกล้องดูว่าวันนี้เธอทำอะไรให้บ้าง เหมือนตอนนี้ที่เธอกำลังสั่งให้ช่างยกโซ