ตริติณ อายุ25ปี เจ้าของร้านเหล้าและธุรกิจนำเข้ารถยนต์ ลูกชายสุดหล่อของติวเตอร์-มินนี่ มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ มินิน หล่อ โสด เอาแต่ใจ ขี้หวง มีรักหนักแน่น โฟกัส อายุ20ปี เรียนปี3 คณะสถาปัตย์ ดาวมหาวิทยาลัย โสดมากๆ เพราะหนุ่มที่ตามจีบหายวับใน 1 วัน ลูกสาวสุดที่รักของหนูมาย-นาย มีพี่ชาย 2 คน ชื่อ พี่เลนส์ กับ พี่ฟิล์ม เป็นฝาแฝดกัน สวย หุ่นดี ผิวออร่า ร่าเริง และดื้อกับบางคนเท่านั้น เธอคือรักแรกและรักเดียว เธอคือคนที่ทำให้คนที่ไม่ชอบรอใคร แต่กลับรอเธอได้มานานหลายปี เพียงเธอคนเดียว #นิยายฟิลกู้ด #ไม่มีนอกกายนอกใจ นิยายเรื่องนี้แต่งจากจินตนาการของไรท์แต่เพียงผู้เดียว โปรดอย่าลอกเลียนแบบและนำไปตัดแต่ง ขอสงวนสิทธิ์เป็นไปตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พุทธศักราช 2558
View More"จ๊ะเอ๋ ทายสิใครเอ่ย"
ร่างบางเล็กสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นติเมตรในชุดนักศึกษาค่อยๆ เดินย่องไปปิดตาพี่ชายสุดหล่อที่กำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นต์เอกสารอย่างเคร่งเครียด ทำเสียงเล็กเสียงน้อยในท่าทางซุกซนราวกับพี่ชายคนรองจะทายไม่ถูกแน่ "หึ หมูอ้วน" ชายหนุ่มหัวเราะเบาเบาให้กับท่าทางของน้องสาว เพราะเขาจำกลิ่นน้ำหอมหวานหวานได้ตั้งแต่ประตูห้องทำงานเปิดออก เพียงแต่กำลังอ่านเอกสารสำคัญอยู่จึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองและใจก็อยากจะรู้ว่าเจ้าลูกหมูตัวเล็กจะแกล้งอะไรอีก ก่อนจะตอบกลับไปด้วยฉายาที่เขาและแฝดใช้เรียกเธอในตอนเด็ก ทำเธอหน้ามุ่ยเดินสะบัดผมกลับไปนั่งเชิดหน้าที่โซฟารับรองแทน "พี่ฟิล์มอะ โฟไม่อ้วนสักหน่อย" ฉันตอบกลับพี่ชายอย่างแง่งอน ทั้งที่เป็นคนค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างและเอวเท่ากระดาษเอสี่ แต่พอโดนคนใกล้ตัวเรียกกันแบบนี้ก็อดที่จะเสียเซลฟ์ไม่ได้ แต่ก็รู้แหละว่าพี่ฟิล์มแค่แกล้งเล่นเท่านั้น "มาหาพี่มีอะไรให้รับใช้คะคนสวย" พี่ฟิล์มวางเอกสารในมือและเดินพับแขนเสื้อมาหาฉันด้วยท่าทางสบายๆ หย่อนกายลงบนโซฟาข้างๆ เอ่ยถามฉันอย่างรู้ทัน "เว่อร์ ใครจะกล้าใช้พี่ชายสุดหล่อได้ลง" "จริง?" "คืนนี้เพื่อนๆ โฟนัดปาร์ตี้สอบเสร็จกัน" "แล้ว?" "คือ... พี่ฟิล์มไปส่งโฟหน่อยได้มั้ยคะ แต่อย่าบอกป๊านะ เดี๋ยวโฟอดไป" ใบหน้าเปื้อนยิ้มไขว้ขายาวเลิกคิ้วไล่ต้อนถาม ให้น้องคนนี้รีบบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไป ที่ฉันรีบมาหาก็เพราะการณ์นี้นี่แหละ ก็คนมันขี้เกียจขับรถเองแล้วก็ไม่น่าจะขับไหวด้วย "ที่?" "ผับพี่ติณค่ะ" "หึ ได้ แต่ห้ามแต่งตัวโป๊นะ ไม่อย่างนั้นพี่จะพาไปส่งที่บ้านแทน" "ไม่โป๊ ไม่โป๊" ฉันรีบรับคำพี่ชายใจดีเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพราะถึงยังไงพี่ฟิล์มก็ห้ามฉันไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดแทนคำขอบคุณอย่างออดอ้อน พร้อมกับกดจมูกลงแก้มสากฟอดใหญ่ ฟอด "ขอบคุณนะคะ" เผื่อใครยังไม่รู้ ฉันหน่ะมีพี่ชายที่หล่อมากๆ หล่อสุดๆ ถึงสองคนเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันอย่างกับเป็นคนเดียวกันเลย ต่างตรงที่พี่ฟิล์มใจดียิ้มง่ายกว่าพี่เลนส์ แต่ถ้าพูดถึงความเจ้าเล่ห์น่าจะพอพอกันนะฉันว่า เพราะสมัยเรียนสองคนนี้เรียนกันคนละคณะ พี่เลนส์เรียนธุรกิจการบิน ส่วนพี่ฟิล์มเรียนวิศวะเลยชอบสลับกันไปเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่ป๊ากับมามี๊ไม่รู้หรอก มีฉันนี่แหละเป็นผู้กุมความลับ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ขอสปอยล์พี่ชายสุดหล่อที่ยังโสดหน่อยแล้วกัน พี่เลนส์พี่คนโตของพวกเราเพราะเกิดก่อนพี่ฟิล์ม ตอนนี้ดูแลธุรกิจสายการบินที่คุณตาเป็นคนต่อตั้ง หล่อ รวย พูดน้อย และเนี้ยบมาก ส่วนพี่ฟิล์มพี่รองของฉันรับดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณปู่ทั้งหมด หล่อ เท่ห์ ใจดี ส่วนฉัน โฟกัส น้องคนเล็กของบ้าน อายุ 20ปี เรียนสถาปัตย์ ชอบงานออกแบบใน และกำลังจะรับช่วงต่อบริษัทตกแต่งภายในของปะป๊านาย อย่างที่ป๊ากับมามี๊ตั้งใจไว้ โดยที่ฉันก็เต็มใจมากๆ "มาแล้วค่ะ" "ไม่โป๊?" พี่ฟิล์มในชุดเสื้อยืดสีดำสบายๆ กับกางเกงยีนส์แบรนด์ดังยืนกอดอกพิงรถสปอร์ตสีแดง ถามเสียงเย็นเหมือนทุกครั้งที่เห็นเสื้อผ้าบนตัวฉัน "เรียบร้อยสุดสุด" "เฮ้อ..." ฉันก็ได้แต่ทำหน้าระรื่นเดินเข้าไปกอดแขนล่ำจนได้ยินเสียงถอนหายใจเบาเบา โป๊ตรงไหน ฉันว่าชุดที่ฉันใส่เรียบร้อยมากไม่เหมือนไปเที่ยวผับเลยสักนิดกางเกงยีนส์สีดำพอดีตัวกับเสื้อกล้ามคอลึกกว้างสีเดียวกัน ออกจะดูเท่ห์ด้วยซ้ำ แต่เข้าใจแหละ เพราะว่าพี่ชายฉันหน่ะหวงฉันมาก มากถึงมากที่สุด บางทีก็แอบสงสัยอยู่เหมือนกันนะ ว่าคนที่เข้ามาคุยเข้ามาจีบฉัน แล้วอยู่ๆ ก็หายไปขาดการติดต่อกันไปเลย เป็นฝีมือของพี่แฝดหรือเปล่า... "ไงมึง สบายดี" "อืม ก็ดี" วันนี้ผมเข้าผับที่ขยายสาขามาจากร้านของป๊าและเป็นผับของผมเองตามปกติ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งดูบัญชีของร้านเงียบๆ เสียงประตูที่ถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ มีไม่กี่คนที่จะทำแบบนี้ได้ และหนึ่งในนั้นก็คือไอ้ฟิล์มเพื่อนสนิทของผม ที่ชอบขึ้นมานั่งเฝ้าน้องสาวที่ห้องทำงานของผม "มากับไอ้เลนส์?" "ไม่ พาโฟมา" "อยู่นั่น" "..." ผมหันตามสายตาของเพื่อนที่บอกตำแหน่งโต๊ะวีไอพีมุมลับๆ แต่เห็นได้ชัดเจน เพราะห้องทำงานของผมเป็นกระจกสีดำมืด เป็นจุดที่ผมชอบไปยืนดูความเรียบร้อยของร้านแล้วก็ชอบไปนั่งมองใครบางคนอยู่ตรงนั้น และเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกหงุดหงิดใจกับการแต่งตัวของเด็กดื้อ ซึ่งไอ้ฟิล์มก็ไม่เคยห้ามได้เพราะกลัวน้องงอน เลยเป็นผมที่ต้องเดินลงไปด้านล่างเอาเสื้อคลุมที่ผมถึงกับซื้อแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องพักของผมมากกว่าสิบตัว ไปรอคลุมไหล่ให้ตอนเธอเดินมาเข้าห้องน้ำโซนวีไอพี แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะยอมใส่ดีดี และครั้งนี้ก็เหมือนกัน "โฟ เสื้อคลุม" "คลุมทำไมโฟไม่หนาว" คำตอบของเธอทำคิ้วเข้มของผมผูกเป็นปม "อย่าดื้อ" "พี่ติณอ่า โฟเลือกชุดเรียบร้อยที่สุดแล้วนะคะ" "เรียบร้อย?" "มากกกกก" "อะ วงให้ดูหน่อยตรงไหนบ้างที่เรียบร้อย" ผมหยิบปากกามือถือขึ้นมายื่นให้เธออย่างยียวน "ตลกอุปกรณ์หรอคะ" "ใส่ อย่าให้พี่พูดซ้ำ" "ไม่ใส่ อย่าให้โฟพูดซ้ำ" "อ๊ะ อื้มมมม" ฟอด เห็นปากเล็กเล็กสีแดงๆ เถียงผมไม่หยุด จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกมันเขี้ยวมากขึ้น เลยคว้าคอระหงส์มาบดจูบราวกับอยากสั่งสอนให้หลาบจำส่วนมือก็จับแขนเรียวเล็กใส่เสื้อคลุมที่ผมถือมาทีละข้างจนเสร็จ ผมถึงจะถอนริมฝีปากออก มองแววตากลมโตเหมือนลูกแมวที่กำลังโมโหผม ดูน่ารักจนผมอดที่จะก้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มที่เป็นของผมไม่ได้ "อย่าดื้อกับพี่ให้มากนัก" "คราวหน้า พี่ไม่หยุดแค่จูบแน่" "ไม่ต้องมาขู่ โฟไม่กลัวพี่ติณหรอก" "พี่ไม่ได้ขู่ แต่โฟจะลองดู พี่ก็ไม่ติด" "นิสัยไม่ดี" "จะกลับกี่โมง" "เรื่องของโฟ" "พี่ให้ตอบใหม่" "ร้านปิด" "ดึกไป" "ไม่ดึก" "..."หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ครอบครัวของเราสองคนก็พากันไปทานมื้อเย็นฉลองให้กับคนเก่งที่โรงแรมสุดหรูของอากาย ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ได้คุยกันถึงฤกษ์แต่งงานที่ผมขอให้มามี๊หาฤกษ์ที่เร็วที่สุดให้...อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าทำตัวเล็กของผมบ่นอุบทันทีที่ถึงห้องเพราะกลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน ไหนจะคอร์สเจ้าสาวไหนจะชุดที่ยังไม่ได้เลือก แถมยังยื่นคำขาดสั่งห้ามชวนและพาเธอไปหาของกินอร่อยๆ เด็ดขาด ทำผมถึงกับแอบขำเพราะคงไม่พ้นมีคนเอ่ยปากบ่นหิวก่อนแน่นอน"พี่ติณ" เพราะเธออยากดูซีรีย์ตอนจบ ทำให้เราสองคนย้ายที่เช็ดผมมานั่งกันอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ผมนั่งที่พื้นให้ตัวเล็กใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้อยู่บนโซฟา มีเจ้าขนฟูนอนเล่นตุ๊กตาปลาอยู่ข้างๆ"หืม" ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าใสๆ ตากลมโตที่ก้มมองอยู่ก่อน"โฟขอถามอะไรหน่อยสิ" "ครับ" "ทำไมพี่ติณถึงรักโฟ" "..." เป็นคำถามที่ตอบยากมากสำหรับผม เพราะผมเองไม่เคยคิดหาคำตอบเลยสักครั้ง"ตอบมาเร็ว""เป็นความลับของพี่ไม่ได้?" ผมเฉไฉหันไปอุ้มฟินิกซ์มาเล่นบนตัก"ไม่ได้สิ" "ทำไม""ก็โฟอยากรู้""..."...ย้อนกลับไปวันนั้นวันที่เธอเกิดป๊ากับมามี๊พาผมไปหาคุณน้ามายกับอานายที่โรงพยาบาล ส่วนมินินอย
จากที่ตั้งใจจะจูบลงโทษแค่นิดนิดหน่อยหน่อยกลายเป็นเครื่องติดปลุกเสือหลับอย่างเขาให้ลุกขึ้นมาล่าเหยื่อ สองมือหนาดันไหล่บางให้ล้มตัวนอน เปลี่ยนมาค่อยๆ ลูบไล้ต้นขาขาวแผ่วเบาจนใกล้จุดอ่อนไหวที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วปกปิด จุ๊บ"ตกลงจะสารภาพมั้ย" ริมฝีปากร้อนถอนออกจากริมฝีปากบวมเจ่อแต่ยังคงวางทาบไว้แนบชิด"อ๊ะ มะ ไม่..." นิ้วซุกซนที่เขาใช้แทนไม้เรียว ค่อยๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสผิวบอบบางใต้แพนตี้ลูกไม้ลูบไล้เบาเบาให้พอรู้สึกวาบหวาม ทำคนน้องหายใจติดขัด"ไม่ตอบ?" ระหว่างรอคำตอบ ไม้เรียวของเขาก็เริ่มปัดไป่เฉียดตรงนั้นนิดผ่านตรงนี้หน่อยจนน้ำหวานเริ่มเปรอะเปื้อน ทำเขาแทบจะรอไม่ไหว"ย ยอม โฟยอมแล้ว" คนตัวเล็กรีบผละตัวลุกขึ้นท่าทางเหมือนกระต่ายน้อยเพราะกลัวจะโดนเขาลงโทษจนไม่มีเรี่ยวแรงลงไปแดนซ์ต่อ ทำเขาต้องยอมลุกตามอย่างขัดใจ ก่อนจะรวบตัวนุ่มนิ่มมานั่งตักรอฟังคำรับสารภาพจากจำเลยและเป็นไปตามที่ผมคิด ทุกอย่างเป็นแผนของเด็กดื้อทั้งหมด เธอแอบโทรไปสั่งชุดสั้นๆ นี้จากร้านเดียวกันโดยไม่ให้ผมรู้ เพราะให้ไปส่งที่คอนโดมินินแทน แถมโทรไปสั่งให้ที่ร้านมาส่งด่วนเพิ่มอีกหนึ่งชุดสำหรับเพื่อนใหม่อย่างวาดฝัน ใจดีมั้ยละ
วันนี้ฉันได้ไปงานเปิดร้านเหล้าของพี่ติณกับพี่แฝดด้วยแหละ ตอนที่รู้ว่างานจัดในธีมอวกาศทำฉันตื่นเต้นมาก เพราะยังไม่เคยใส่ธีมแนวนี้มาก่อน จริงๆ ภาพในหัวไม่ใช่ชุดมนุษย์อวกาศอย่างที่ใส่อยู่ในตอนนี้หรอกนะ แต่เพื่อไม่ให้พี่ติณดุจนหน้าตึงแล้วตึงอีก ฉันก็เลยเลือกชุดนี้แล้วก็บังคับให้เขาใส่คู่กัน ตรงคอนเซ็ปต์พี่ติณเป๊ะ 'มิดชิด ไม่โป๊'"พี่ติณ เสร็จยัง โฟเสร็จแล้วนะ""เรียบร้อยครับ" "ไหน เรียบร้อยจริงรึป่าว" ฉันหมุนตัวไปดูความเรียบร้อยของชุดให้เขาพร้อมกับดูว่ารูดซิปครบมั้ยจัดทรงให้อีกนิดหน่อย พึ่งเคยเห็นพี่ติณใส่ชุดแบบนี้ครั้งแรกถึงสีหน้าจะดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่แต่ดูหล่อและเท่มาก จนฉันต้องขอถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้อีก"สนุกมั้ย แกล้งพี่""ใครแกล้ง โฟเปล่าแกล้งนะ" ถึงปากจะบอกปฏิเสธอย่างนั้นแต่ก็อดแอบหัวเราะไม่ได้อยู่ดี จนเขาหาทางเอาคืนโดยการรวบร่างบางที่อยู่ในชุดมนุษย์อวกาศไปกดจมูกฟัดแก้มนุ่มอยู่หลายนาทีพอให้หายมันเขี้ยวฟอด ฟอด ฟอด"พะ พอแล้วๆ ไปกันเดี๋ยวเลยเวลานะ" "ไม่อยากไปแล้ว ให้ไอ้แฝดจัดการแทน" เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหูคนน้องบ่งบอกถึงอารมณ์
"ธีมงานอะไรดีวะ" วันนี้ผมกับหุ้นส่วนอย่างไอ้แฝดนัดประชุมกันเรื่องงานเปิดร้าน พวกผมสามคนอยากได้งานแบบปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าวีไอพีซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทและนักธุรกิจที่จริงใจของพวกเรา แน่นอนว่าเรื่องหลักสำคัญที่ผมจะไม่ปล่อยให้ไอ้แฝดคิดก็คือธีมงาน"ไม่เอาชุดว่ายน้ำ""กูก็ไม่เอา" ไอ้ฟิล์มเปลี่ยนไปจนไอ้เลนส์สงสัย"ไอ้ติณกูเข้าใจ แต่กูไม่เข้าใจมึงไอ้แฝด" "ดะ เดี๋ยวคอนเทนต์ซ้ำกับวันเกิด" เพื่อนผมไม่เนียนแล้วหนึ่งอัตรา"หึ""ชุดนอน" "ไม่ / ไม่" ชุดนอนผมก็ยิ่งไม่ไว้ใจว่าเมียผมจะใส่มาแบบไหน ถ้าเกิดชวนกันกับมินินใส่แบบสายเดี่ยวผ้าลื่นสั้นๆ ผมได้ปวดหัวมากแน่ยิ่งชอบแอบชวนกันซนอยู่ด้วย เพราะงั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีที่สุดแค่เรื่องธีมงานก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงจนโดนไอ้เลนส์ด่าชุดใหญ่ในความเรื่องมากของผมกับไอ้ฟิล์ม จนสรุปกันที่ธีมอวกาศ ซึ่งผมก็เห็นด้วยดูแปลกใหม่ดี คนมาร่วมงานจะได้รู้สึกสนุกไปกับงาน"แล้วเครื่องดื่มมึงจะเอายังไง" หัวใจสำคัญของร้านเหล้าก็คือเครื่องดื่ม"กูหาวิสกี้มาครบ เสิร์ฟตามบิลที่เปิด" แน่นอนว่าหน้าที่หาเครื่องดื่มมาให้ลูกค้าได้ดื่มสนุกๆ คือผมเพราะมีดีกรีเจ้าของร้านเหล้าก
ฟอด"ยังไม่หมดนะ" พอฉันเล่าเรื่องมากมายของห้องนี้ให้เขาฟังจนเริ่มรู้สึกคอแห้ง เขาก็กดจมูกหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ฉันเลยต้องรีบพูดต่อเพราะกลัวว่าเขาจะพลาดไฮไลท์ของห้องนี้"หึ มีอีก?""แน่นอนสิ" ฉันแกะแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางไว้ออกเปลี่ยนเป็นจับมือใหญ่พาเดินไปตรงตู้แช่เครื่องดื่มที่ดูเนียนไปกับผนังห้อง ก่อนจะกดปุ่มเล็กๆ ให้ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกเห็นห้องด้านในฉันไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นเขาหรือฉันที่รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องเซอร์ไพร์สนี้มากกว่ากัน ดอกกุหลาบโอลิเวียออสตินสีชมพูอ่อนมากมายเต็มไปทุกพื้นที่ของห้องทั้งพื้นทางเดินและบนเพดานสูง มันสวยมากๆ และเป็นดอกไม้ที่ฉันชอบมากที่สุดชอบมากกว่าตุ๊กตาตัวโปรดซะอีก ลองแอบนับๆ ดูแล้วมันมากกว่าหนึ่งร้อยดอกแน่ๆ แต่ก่อนจะถ่ายรูปสวยๆ นี้ไว้ ขอถามให้หายสงสัยก่อนแล้วกัน"ชอบมั้ย" เป็นเขาที่แย่งถามคำถามก่อนเผยให้รู้ว่าทั้งหมดที่ฉันคิดเป็นเรื่องจริง"ของพี่ติณหรอ""อือฮึ" เขาพยักหน้าตอบรับในลำคอ"พี่ติณรู้ทั้งหมดเลยหรอ""ไม่ทั้งหมด""แต่ชอบทั้งหมด" เพียงเท่านี้ใจดวงน้อยของฉันก็เต้นแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะแววตาวิบวับคู่นี้ที่มีไว้มองแค่ฉัน ขยันทำให้ฉันหวั่นไหวจนไม่เป็นตัวเอง
เสียงสัญญาณแจ้งเตือนของแอพลิเคชั่นกล้องวงจรส่งเสียงดังว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในห้องทำงาน ทำผมสงสัยจนคิ้วขมวดยุ่งพันกันไปหมด จนต้องหยิบมือถือกดเข้าไปดูความผิดปกติและสิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือ ผมแอบซ่อนกล้องวงจรปิดตัวเล็กๆ ไว้ตรงมุมห้องทำงานที่ยังตกแต่งไม่เสร็จเชื่อมเข้ากับมือถือส่วนตัว ไม่รู้ว่าวันนั้นตัวเองคิดยังไงถึงได้ทำแบบนี้เหมือนกัน "หึ" มาวันนี้ภาพที่ผมเห็นในกล้องทำลายความเหนื่อยล้าจากงานที่มีจนหมด จากคิ้วที่ผูกเป็นปมเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มสองข้าง อยากจะบินกลับไปหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งทาสีผนังอยู่ที่พื้น อยากรู้ว่าเธอจะใช้วิธีไหนพาผมไปดูของขวัญที่เธอทำให้ ที่สำคัญอยากให้รางวัลคนเก่งด้วยแน่นอนว่าความลับไม่มีในโลก กล้องที่ผมซ่อนไว้มีคนรู้เพิ่มหนึ่งคนคือ แนนนี่ ที่ปีนบันไดขึ้นมาทาสีผนังด้านบนส่งยิ้มเบาเบาผ่านกล้องมาให้โดยที่ไม่เผยความลับนี้ให้คนตัวเล็กรู้ ถือว่าทำได้ดีเพราะผมก็เก็บความลับไว้ให้เหมือนกันและตลอดสองสามวันมานี้ที่ผมอยู่ต่างประเทศ ทุกวันหลังจากกลับมาถึงห้องพักสิ่งแรกที่ผมเลือกทำคือการเปิดกล้องดูว่าวันนี้เธอทำอะไรให้บ้าง เหมือนตอนนี้ที่เธอกำลังสั่งให้ช่างยกโซ
Comments