อัลบั้ม “กราบอกซ้ายอ้ายที่ฮัก”
ขายดิบขายดี มีงานหลั่งไหลเข้ามา
แต่ชีวิตของดำรงพังยับตั้งแต่วันนั้น
ไม่เพียงแต่ชีวิต
แต่วงคูนแคนก็ถึงกาลอวสานไปด้วย
เจ้าของวง นักแต่งเพลง ป่วย...เมา...ชีวิตพังยับ...
และชีวิตน้อยๆ อีกชีวิต ของเดชชนะ...ลูกที่แม่ทิ้งไปตั้งแต่สามเดือนก็เติบโตขึ้นมาโดยมือพ่อขี้เมา ชีวิตตกอับ
ในมือปู่ดุ่ย
และแม่บุญธรรมอย่างอัจฉรา...
แต่ความจริงมีประการหนึ่งที่ทำให้เขาเติบโตมาคือเขาไม่ได้กินนมแม่...หรือนมอัจฉราที่เขาเรียกแม่เอ๋ และทุกคนคิดว่าเขาคือลูกของอัจฉรา
วันที่เอื้อยฟ้าจากไป เขาสามเดือน ไม่มีนมแม่กิน และแน่นอนอัจฉรายังมีนมกับลูกอ่อนของตัว แต่ดำรงห้ามเด็ดขาด
นายดุ่ยยังสงสัยว่าทำไม
...ฉันจะไม่ให้เดชมันกินนมเอ๋ และรับเป็นแม่จริงๆ...
...มันนมคนนา แกจะให้ลูกโตเพราะนมวัวเหรอ มันจะไม่ดีนา...
...นมผงก็ได้...
วันที่ปาดน้ำตา และหักใจได้บ้าง ดำรงขับรถออกไปหาซื้อนมผงมาชงให้ลูกชายกินด้วยตัวเอง และห้ามอัจฉราให้นมเดชชนะ
จุดมุ่งหมายในใจคือ เมื่อขาดแม่ มีแต่พ่อ...เขาจะเป็นพ่อที่พร้อมเป็นแม่ให้กับเดชชนะด้วย เขาจะไม่ยอมให้
เดชชนะต้องมีชีวิตที่ขาดไร้...อัจฉราอาจจะเป็นแม่ในนาม แม่ในสายตาคนทั่วไป แต่ความจริงคือเดชชนะขาดแม่โอบอุ้ม รักใคร่ไยดี แต่จะมีพ่อที่เป็นแม่ให้ได้แม้ในวันเวลาที่เติบโต ดำรงจะล้มลุกคลุกคลานกับความเจ็บช้ำผิดหวัง มากมาย...
ดำรงทำได้
และที่ทำได้มากกว่า
นี่คือชีวิต...และมันปิดไปตามวันเวลา ดำรงอาจจะเจ็บจะช้ำไม่ลืมเอื้อยฟ้า แต่สิ่งที่เขาไม่เคยทำคือตามไปวิงวอนร้องขอให้หล่อนกลับมา...
เขาวางลงทุกอย่าง...แต่ประกาศบอกว่า
เขาไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่เขาจะไม่ให้อภัยกับเอื้อยฟ้า อรลออ หรือซูยองฮวาเป็นอันขาด
-------------------------------------------------
วันนี้เดชชนะ อายุ24 วันที่เขาเป็นหนุ่ม เรียนจบแล้ว มีธุรกิจของตัวเองอีกด้วย
คาเฟ่ “มาแลร์นา” ของเขา เป็นร้านกาแฟที่เข้ายุคสมัย 1 ร้านกาแฟ1 หมู่บ้านประมาณนั้น...บ้านของนายดุ่ยมีพื้นที่กว้างขวางขนาด50 ไร่ มีบึงน้ำพื้นที่ 5 ไร่ และด้านหน้าที่ติดถนน ไปมาสะดวกนั้น เป็นที่มาของคาเฟ่ที่เดชชนะได้สร้างเป็นธุรกิจส่วนตัว เข้าสมัย ทำเงิน...และแน่นอนว่าเพราะเขาเป็นหนุ่มหน้าตาดี โสด และร้องเพลงได้ ดังนั้นคาเฟ่ มาแลร์นา ของเขา จึงมีลูกค้าไม่น้อย มาถ่ายรูปมุมท้องนาสวยๆ ถ่ายรูปต้นไม้ดอกไม้ และวัตถุที่มีประดับตกแต่งด้านนอกคาเฟ่
ในตัวคาเฟ่เองนั้น เดชชนะเน้นงานพื้นบ้าน การใช้
ผ้าทอพื้นบ้านประดับผนัง มีอุปกรณ์เครื่องดนตรีจากวงคูนแคนของพ่อที่ต้องยุบวงไปยุบวงเพราะพ่อเขา ดำรง คูนแคน ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
นานเท่าอายุเขา...หลังจากแม่ทิ้งเขาไป
พ่อเขาไม่มีเมีย
ส่วนเขาไม่มีแม่...แต่เรื่องนี้มีคนรู้แค่เพียงสามคน...ปู่ พ่อ และเขา...อาจจะรวมถึงอัจฉราอีกคน และญาติทางปู่อย่างย่าดวง
ส่วนคนที่ไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นลูกแม่คนไหน
คือต้าร์ แทมโป้ หรือตฤณ คูนแคน...
เขาและตฤณใช้นามสกุลของปู่ ของพ่อ...
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ ทั้งเขาและต้าร์ พาวงคูนแคนกลับมามีชีวิตใหม่ได้กว่าปีแล้ว...เขากับต้าร์ผลัดกัน เป็นนักร้อง
นักร้องนำ
ต้าร์ แทมโป้ประกวดร้องเพลงเดินสายกวาดรางวัลมากมาย และบางครั้งเขาก็ไปด้วย ผลัดกันคว้ารางวัล
เดชชนะบอกตัวเองว่าที่ประกวดเพราะสนุกแต่ไม่อยากเอาดี อย่างที่บอก เขามีงานประจำกับบริษัทเล็กๆ ที่นำเข้าสินค้าจากจีน และการประกวดระดับประเทศครั้งล่าสุด เงินทุนสนับสนุนเก็บตัวเข้าประกวดมีให้คนเดียว เดชชนะไม่ได้สนใจจะร้องเพลงอยู่แล้วหลีกทางให้ใช้เงินสนับสนุนส่งจนตฤณสามารถเป็นนักร้องรางวัลใหญ่ เริ่มโด่งดัง
แต่ต้าร์นั้นมีจุดบอดทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องยาเสมอมา อัจฉราก็หนักใจ หลายหนที่เดชชนะต้องร้องเพลงแทนต้าร์ เวลาออกเดินสายทำวง...ประคับประคองกันมา
ดำรงนั้น พยายามตัดตัวเองจากสังคมภายนอก เขาทำตัวเหมือนถือศีลอยู่เงียบๆ ในที่ดินเก่าห้าสิบไร่ที่ยังเหลือรอดจากการหมดตัว
ปู่กับย่าดวงช่วยกันรักษาพื้นดินแปลงใหญ่นี้ไว้ แน่ละว่าถูกตัดขายไปเพื่อใช้หนี้จากการที่ต้องยกเลิกสัญญาจ้างครั้งนั้นเมื่อเอื้อยฟ้าทิ้งวงไปกะทันหัน
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล