LOGINบทที่3
เซอร์ไพรส์!!!!
ในที่สุดก็ถึงสักที ทันทีที่landingพวกเราก็เดินทางมายังบ้านพักของคุณพ่อกับคุณลุง พวกท่านเคยอยู่สมัยเรียนอยู่ที่นี่ ปัจจุบันก็ส่งต่อมาถึงรุ่นลูก มาถึงฉันก็อยากจะร้องไห้ สภาพบ้านมันไม่เหมือนทุกครั้งที่ฉันเคยมาเลย
"คุณแม่อิพี่โซ่จัดงานปาร์ตี้ที่บ้านอีกแล้ว!!"
"ขึ้นไปดูข้างบนกันเถอะ"
ฉันสัมผัสได้ถึงความหายนะ พี่โซ่ต้องพาผู้หญิงมานอนด้วยแน่ๆ คุณลุงกับคุณป้าและนางซินเดินตรงไปยังห้องของพี่โซ่ ส่วนฉันกับคุณพ่อคุณแม่มาที่ห้องของพี่ตะวัน
แกร๊ก!!
"เซอร์ไพรส์!!!!"
"เชี่ย!!!!!"
"ตะวัน!!!! >[]
ฉันรีบประคองคุณแม่เอาไว้เพราะท่านตกใจที่เห็นพี่ตะวันกำลังทำกิจกรรมอะไรกับผู้หญิงคนนึงอยู่
"แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วลงไปคุยกันข้างล่าง เดี๋ยวนี้!!!!"
"ครับ!"
แว๊บนึงที่ฉันเห็นพี่ตะวันมองหน้าฉัน แต่ฉันเสียใจที่เห็นเขาทำแบบนี้ ฉันเสียใจโดยไม่มีสาเหตุ ตอนนี้คุณแม่กับคุณป้าโกรธจนมือไม้สั่น ผู้หญิงสองคนที่พี่โซ่กับพี่ตะวันพาลงมา พวกเธอทักทายพวกเรา แต่คุณแม่กับคุณป้าเบนหน้าหนีอย่างพร้อมเพรียงกัน
"คุณแม่ยูไม่มีมารยาทเลยโซ่!" สาวผมทองพูดออกมาหน้าตาเฉยเลยถูกคุณป้าเฉดหัวออกจากบ้านทันที
ส่วนสาวสวยอีกคนเธอนั่งก้มหน้าอยู่ข้างพี่ตะวัน คนนี้ดูแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่งหรือไม่ก็คนไทย สวย น่ารัก จะว่าเหมาะสมกับพี่ตะวันก็ได้
"ตะวันแม่ต้องการคำตอบ!"
"แม่ครับ ณิชาเป็นแฟนผมเอง ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะครับ"
"สวัสดีค่ะ"
เธอเป็นคนไทย แต่หัวใจของฉันหล่นวูบไปเลย ฉันนั่งเงียบในหัวสมองว่างเปล่าราวกับคนอกหัก
"เรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง” คุณพ่อเป็นฝ่ายถามทั้งสองคน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจนคุณแม่และคุณป้าถอนหายใจและสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสติ
“ตอนนี้ไม่มีอะไรมากแล้วครับ ปีหน้าก็Externเรียนปีสุดท้ายแล้ว” พี่ตะวันตอบด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ต่างกับพี่โซ่ที่เงียบไม่ยอมพูดอะไรเพราะถูกคุณป้าดึงหูแถมยังไล่ตีต่อหน้าสาวอีก
“ตะวันคราวหลังอย่าพาเพื่อนมาจัดงานปาร์ตี้ที่นี่อีก และผู้หญิงแม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพามา ที่นี่มันเป็นบ้านของครอบครัวเรา ตอนคุณปู่ยังอยู่ท่านซื้อเอาไว้ให้พ่อพักตอนเรียน”
“น้าสายธารครับ เรื่องจัดงานปาร์ตี้ผมผิดเอง ผมจะไม่ทำอีกครับ”
“แล้วหนูเป็นใคร รู้จักกับลูกน้าได้ยังไง”
“หนูเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ที่นี่ค่ะ เรียนอยู่กับโซ่และตะวันหนูขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย”
ฉันยังอยากฟังผู้หญิงที่ชื่อณิชาต่อ แต่นางซินมันลากฉันมานั่งอีกฝั่งเพื่อปล่อยให้พวกผู้ใหญ่คุยกัน ฉันหงุดหงิดมาก ไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองที่ได้ยินพี่ตะวันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเลย
หลังจากที่ผู้ใหญ่จัดการพี่ชายทั้งสองเสร็จฉันก็เดินเข้ามาพร้อมกับนางซิน มันทำให้ฉันรับรู้ว่าพี่ตะวันพาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ด้วยแล้ว
เสียใจฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้ทำไมมันตื้อไปหมด
“ไงเราเรียนเป็นยังบ้าง” พี่โซ่เป็นฝ่ายถามฉันแม้ฉันจะยังมองพี่ตะวันกับแฟนอยู่
“ก็ดีค่ะ”
“มองอะไร ไม่ต้องห่วงหรอก ณิชานิสัยดีมากมันคบกันตั้งแต่เรียนปี2แล้ว แต่พี่ยังโสดแถมอยู่ในโหมดไม่มีใครด้วยรู้ปะ”
“โธ่ สภาพ เมื่อกี้คุณแม่พึ่งไล่ฝรั่งหัวทองไปเองนะพี่โซ่!”
และสองพี่น้องก็กัดกันเหมือนเดิม ฉันเลยเดินมานั่งกับคุณป้า อะไรก็คงไม่เจ็บเท่าที่ตะวันพูดกับฉันว่าถ้าเขาเรียนจบเมื่อไหร่ฉันรอเลี้ยงหลานได้เลย แต่มันอีกแค่ปีเดียวเองนะ
ฉันไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด
///ตะวัน///
ผมยืนมองน้องสาวจากชั้นสองเธอดูแปลกไป ปกติทุกปีเวลาเธอมาเธอจะชอบมากวนผม ชอบบังคับให้ผมพาไปเที่ยวแต่ครั้งนี้เธอแทบไม่คุยกับผมเลย มีแต่ไอ้โซ่ที่เธอคุยด้วย
“น้องโกรธผมใช่ไหมครับแม่”
“ก็คงแบบนั้น มีแฟนไม่ยอมบอกน้อง น้องคงใจหายที่เห็นลูกมีใครเข้ามา เออแม่มีอีกเรื่องที่อยากจะบอกให้ลูกรู้เรื่องนี้แม่หนักใจมาก”
“อะไรครับ” ผมหันไปมองหน้าแม่ แต่แม่ผมยังมองไปที่ไอ้โซ่ด้วยความหนักใจ
“ป้าดากับลุงเซน เขาอยากได้จันทร์เจ้าไปเป็นลูกสะใภ้ แต่แม่มาเห็นโซ่วันนี้แม่บอกตรงๆ ว่าแม่หนักใจมาก”
ไม่ได้นะผมไม่ยอมยิ่งรู้ว่าไอ้โซ่จะมาเป็นน้องเขยผม ผมยิ่งรับไม่ได้เลย มันไม่เคยอยู่กับร่องกับรอย ควงหญิงไม่ซ้ำหน้าถ้าจันทร์เจ้าลงเอยกับมันชีช้ำตาย
“แม่ตอบตกลงไปหรือยังครับ” แม่ผมพยักหน้าผมนี่ปวดหัวจี๊ดเลย ทำไมถึงทำอะไรไม่ปรึกษาผมเลย
“เดี๋ยวผมจะลองคุยกับน้องเองครับ”
ผมเดินมาเรียกจันทร์เจ้าให้เธอเข้ามาคุยกับผมแค่สองคน แม้แม่ผมจะบอกว่าเธอยังไม่รู้เรื่องนี้แต่ผมว่าไม่ควรปิดบังจะวันนี้พรุ่งนี้หรือตอนไหนเธอก็ต้องรู้อยู่ดี
“พี่ตะวันมีอะไรหรือเปล่าคะ แล้วพี่ณิชาไปไหนแล้วล่ะ”
“ณิชาไปหาเพื่อน พอดีพี่มีเรื่องจะคุยกับเรา”
“เรื่องอะไรคะ?”
----------------------------------
พี่ตะวันอะทำน้องเสียใจ เรื่องนี้ไม่ดราม่านะคะนี่เป็นแค่ช่วงชีวิตรักในวัยเรียนของพี่ตะวันเฉยๆ เดี๋ยวน้องโตขึ้นอิพี่จะหวงจนโงหัวไม่ขึ้นเองค่ะ
บทที่10งานที่มีปัญหาผมตัดสินใจโทรไปฟ้องแม่และเล่าให้แม่ฟังว่าลูกสาวของแม่ดื้อขนาดไหน ดื้อจนผมอยากจะหยิบไม้หน้าสามฟาดให้ก้นลาย แต่สิ่งที่แม่ผมตอบกลับมาก็คือถ้าลูกสาวฉันมีรอยข่วนเท่าเล็บแมวเมื่อไหร่ฉันจะฟาดแกให้หลังแอ่นเลยตะวันเห็นไหมว่าแม่รักผมมากขนาดไหน T_Tหลังจากที่เธอถ่ายเซตชายหาดเสร็จแล้วก็เตรียมขึ้นเรือเพื่อไปถ่ายเซตงานปาร์ตี้ ทุกคนต้องแสดงสีหน้าสนุกสุดเหวี่ยงแต่ด้วยความที่เรือมันโคลงเคลงและจันทร์เจ้าเธอตัวเล็กเท่าลูกหมานายแบบที่ยืนอยู่จึงช่วยกันประคองตัวเธอไว้“ขอบคุณค่ะ”“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นดื่มกับพวกผมสักแก้วได้ไหมครับ” นายแบบหนุ่มลูกครึ่งกระซิบถามจันทร์เจ้าเบาๆ เธอส่ายหน้าและเดินหนีมานั่งรวมกับนางแบบผู้หญิง แต่ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของตะวันจนเขาแทบอยากจะเดินไปถีบหนุ่มลูกครึ่งให้ร่วงน้ำไปเสียให้จบๆการถ่ายโฆษณากำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นแต่ก็ต้องมาสะดุดเพราะนางแบบสาวชื่ออาปิงเกิดป่วยกะทันหัน บนเรือก็มีตะวันที่เป็นหมออยู่คนเดียว ทีมงานจึงต้องอุ้มเธอเข้ามาพักในห้องใต้ท้องเรือเพื่อให้ตะวันได้ตรวจอาการเบื้องต้น“อาการเป็นยังไงบ้างครับ”“ปวดท้อง ปวดเป็นพักๆ ค่ะแต่ตอนนี้ปวดมาก
บทที่9ทำไมใจสั่นผมมองหน้าจันทร์เจ้าเธอทำตาใสซื่อใส่ผมแบบนี้เล่นเอาหัวใจผมสั่นสะท้านไปหมด เรายืนสบตากันนานมากในหัวผมเริ่มคิดไปต่างๆ นานา จนเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นจึงทำให้เราสองคนหลุดออกจากภวังค์ปลายสายไม่ใช่ใครนอกจากแม่ผมเองท่านโทรมาเช็กความเรียบร้อยผมจึงบอกไปว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหันมาอีกทีเธอก็กลับไปนั่งทานเค้กมะพร้าวต่อแล้วถึงเวลาที่ต้องแต่งหน้าเพื่อเตรียมตัวผมก็ปล่อยให้เธออยู่กับช่างแต่งหน้าส่วนผมเดินออกมาดูความเรียบร้อยด้านนอกและบนเรือที่จะใช้ถ่าย เครื่องดื่มเลมอนโซดาเป็นสินค้าใหม่ที่น้องสาวต่างสายเลือดของผมต้องถ่ายในวันนี้ ผมหยิบมันขึ้นมาดูฉลากสินค้าตรวจเช็กความเรียบร้อยจากนั้นก็เดินลงมาทีมงานบางคนก็ดูเกร็งๆ ที่เห็นผมเข้มงวดกับน้องสาวมากไปแต่ที่ผมทำไปก็เพราะผมเป็นห่วงเธอ เซตแรกที่ต้องถ่ายเป็นชายหาดยามเย็น“ทำไมต้องถ่าย2วัน” ผมถามช่างภาพที่กำลังเช็กมุมและแสงอยู่“เผื่อเวลาครับถ้าน้องจันทร์เจ้าคนเดียวไม่มีปัญหาเพราะน้องค่อนข้างโปร แต่งานนี้คุณภูริอยากได้นางแบบกับนายแบบคนอื่นด้วยเพื่อให้ดูเหมือนงานปาร์ตี้ พวกเราต้องทำงานแข่งกับแสงธรรมชาติ”ผมพยักหน้ารับรู้แต่แอบรู้สึกดีที่มีคนช
บทที่8ใช้ลิ้นปาด....วันนี้พวกเราได้พักผ่อนกันช่วงเย็นมีงานเลี้ยงเล็กๆ ของทีมงานฉันเลยพาพี่ตะวันมาทำความรู้จักกับทุกคน ทีมงานชุดนี้ค่อนข้างสนิทกับฉันเพราะเราทำงานร่วมกันเกือบทุกงาน“คุณตะวันดูท่าจะหวงน้องสาวมากเลยนะคะ”“ครับ”ทำไมฉันรู้สึกร้อนผ่าว พี่ตะวันเขาหวงฉันแบบไหน ฉันนั่งมองน้ำมะพร้าวที่พี่ตะวันสั่งมาให้ ส่วนเขาดื่มไวน์กับพี่ภูริและทีมงาน คืนนี้แค่ดื่มกันเบาๆ เพราะพรุ่งนี้เราต้องรีบไปถ่ายให้ทันแสงแดดยามเช้า“เฮ้! ทางนี้!!” ภูริตะโกนเรียกชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ตที่กำลังเดินหากลุ่มทีมงานอยู่ ชายหนุ่มจึงโบกมือและเดินเข้ามาทักทาย“ทุกคน นี่ฮาวายเพื่อนผม มันเป็นเจ้าของเกาะนี้”“เจ้าของเกาะ!!” ทีมงานทุกคนอุทานออกมาพร้อมกัน ชายหนุ่มจึงยิ้มให้ทุกคนจนมาหยุดอยู่ที่สาวน้อยจันทร์เจ้า“สวัสดีครับ พี่เป็นแฟนคลับเราอยู่นะ”“สวัสดีค่ะ เป็นเกียรติมากเลยค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่ฮาวายคนบ้าอะไรหล่อ รวย เฟอร์เฟคหันกลับมาฉันก็ต้องหุบยิ้มและก้มลงไปดูดน้ำมะพร้าว สายตาก็หันไปมองกุ้ง หอย ปู ปลาเพราะพี่ตะวันมองหน้าฉันอยู่ “นี่พี่ชายของน้องจันทร์เจ้าตอนนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของน้อง ถ้ามึงอยากได้น้องมาถ่ายโปรโม
บทที่7เราต้องนอนด้วยกัน!///ตะวัน///ผมกลับจากขนส่งก็เจอรถสปอร์ตคันเดิมขับเข้ามาผมกับไอ้โซ่หันไปมองด้วยความสงสัยจนกระทั่งจันทร์เจ้าเธอเดินลงมาจากรถแล้วหันไปโบกมือบ๊ายบายให้ไอ้ภูริ พอหันกลับมาเธอก็รีบวิ่งเข้ามากอดไอ้โซ่แต่กับผมเธอไม่สนใจเลย“พี่โซ่เป็นยังไงบ้างคะคิดถึงจังเลย^^”“สบายดีครับ แล้วเราล่ะดื้อหรือเปล่า”“ไม่ดื้อเลยค่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะหนูซื้อขนมมาฝากพี่ด้วยนะคะ”ผมยืนล้วงกระเป๋ามองหน้าเธอกับไอ้โซ่แต่ไม่มีใครสนใจผมเลยเพราะเธอพาไอ้โซ่เข้าบ้านไปออดอ้อนเหมือนตอนเธอเด็กๆผมเดินตามเข้ามานั่งดูจันทร์เจ้ากับไอ้โซ่เธอเล่าเรื่องราวในช่วงที่พวกผมไม่อยู่ให้ฟังเธอดูมีความสุขมาก แต่ผมกลับรู้สึกว่าเธอเหมือนจะโกรธผม ตั้งแต่เรื่องณิชาเธอก็ไม่ค่อยพูดกับผมตอนนี้เธอก็ไม่ค่อยสนใจผมเลย มันผิดวิสัยของเธอมากพวกเรานั่งทานข้าวด้วยกันจนไอ้โซ่มันขอตัวกลับผมจึงเดินเข้ามาดูห้องทำงานของเธอ“ใบขับขี่พี่ตะวันจะได้เมื่อไหร่คะ”“พรุ่งนี้” ผมตอบเธอพร้อมกับหยิบรูปของเธอขึ้นมาดู“แน่ใจนะว่าจะสอบผ่าน”“ระดับนี้แล้ว ว่าแต่งานที่จะไปถ่ายกระบี่ทีมงานมารับไม่ใช่เหรอ?”“ใช่ค่ะ เราจะนั่งเครื่องไปกระบี่แล้วทีมงานจะส
บทที่6ผู้จัดการส่วนตัวผมนั่งดูสองแม่ลูกนั่งคุยกันและเลือกชุดที่ทีมงานส่งมาให้ อะไรมันจะเยอะขนาดนี้ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กขี้อายในวันนั้นจะกลายเป็นนางแบบในวันนี้“คุณหนูเธอน่ารัก เก่ง เรียบร้อย ทีมงานมาถ่ายงานที่บ้านก็ต่างชื่นชมไม่ขาดปากเลยค่ะคุณหมอตะวัน”ผมไม่ได้ออกความเห็นอะไรแต่เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นจึงรีบหยิบมาเปิดดู ไอ้โซ่มันคงพึ่งรู้ข่าวเรื่องซินกับจันทร์เจ้ามันส่งรูปจันทร์เจ้าถ่ายแบบครีมกันแดดมาให้ผมดู บิกินี่เหรออันนี้เกินไปมาก เกินตัวจริงๆแม่ผมรับงานแบบนี้ให้เธอได้ยังไงกัน“จันทร์เจ้าเอาสัญญามาให้พี่และตารางงานทั้งหมดด้วย”“ค่ะ” เธอรีบลุกเข้าไปในห้องทำงานของเธอเพื่อหยิบใบสัญญาในตู้มาให้ผม ไอแพดที่มีคิวตารางงานและโทรศัพท์สำหรับรับงานถูกส่งมาให้ผม“พี่ตะวันต้องการอะไรอีกไหมคะ คิวอาทิตย์นี้เต็มหมดแล้ว ส่วนอาทิตย์หน้ามีถ่ายแบบกับโฆษณาติดต่อมาแต่หนูยังไม่ได้ตอบตกลง”“อืม”ผมเปิดดูงานของอาทิตย์นี้ มีถ่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์วาริส ใช้เวลาถ่าย3วันเพราะคลอเลคชั่นใหม่ต้อนรับหน้าร้อนมีชุดเกือบ10แบบ“พี่ต้องทำอะไรบ้าง ขับรถรับส่งเราเหรอ”“ใช่ค่ะ”“พี่ไม่มีใบขับขี่?” เข้าใจใช่ไหมพึ่งกลับมาเ
บทที่5การกลับมาของตะวัน3ปีผ่านไป.....ทันทีที่เครื่องlanding สองหนุ่มก็ก้าวเดินมาพร้อมเพรียงกัน ทั้งสองไม่ได้บอกครอบครัวว่าจะเดินทางกลับวันนี้เพราะต้องการมาเซอร์ไพรส์ครอบครัว "คืนนี้ไปเยี่ยมชมร้านไอ้ฟรานหน่อยไหม?" โซ่หันมาถามตะวันที่ยืนสวมแว่นดำแต่สายตาก้มมองหน้าจอโทรศัพท์เพื่อโทรเรียกรถมารับ"มาถึงก็จะแดกเหล้าเลยหรือไง มึงควรพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้าง -_-!""พี่เขยครับจากบ้านไปเกือบสิบปีเพื่อไปเรียนแพทย์เฉพาะทาง กว่าจะได้เริ่มงานก็เดือนหน้าเราควรหาความสุขให้ตัวเองบ้าง^^"ตะวันส่ายหัวเพราะเวลานี้ตนอยากกลับไปนอนบ้านและรับไม่ได้กับสรรพนามที่โซ่ใช้เรียกตนมาตลอดบ้านปิติภัทรไพศาลผมลงจากรถแล้วลากกระเป๋าเข้ามาเสียงป้าอ้อยยังคงเหมือนเดิม ป้ายังโหวกเหวกโวยวายเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน"คุณหมออออออ คุณท่านเจ้าขาาาาาา คุณหนูของอ้อยกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!!!!!!"ผมยกมือไหว้ป้าอ้อยและป้าๆ แม่บ้านทุกคน จนแม่ของผมเดินออกมาจากห้องพัก ท่านยิ้มหน้าบ้านอ้าแขนรอรับอ้อมกอดจากผม"ทำไมกลับมาก่อนกำหนดล่ะตะวัน ไหนว่ากำหนดกลับเดือนหน้าไม่ใช่หรือ""ผมสอบผ่านหมดแล้วครับ ส่วนใบประกาศทางมหาวิทยาลัยจะส่งตามมาผมไม่อยากอยู่ที







