Share

1.จินตะหรา (1)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-04-19 18:50:16

เสียงข้อความเข้าดังขึ้นทำให้คนที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งรอเพื่อนๆ หยิบมือถือของตนขึ้นมาเปิดดู เห็นเป็นข้อความจากพี่ชาย

“น้องก้อยมายังไง ให้พี่ไปส่งไหม”

กัญญานันเห็นกิตติกรแล้วตั้งแต่ตอนที่แสดงอยู่บนเวทีจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะถาม หญิงสาวจึงโทรกลับไป

“ว่าไงครับน้องก้อย”

“พวกเรามารถสองกันน่ะค่ะพี่กลาง”

“อ๋อ โอเค งั้นพี่กลับก่อนเลยนะครับ”

“ค่ะ ว่าแต่พี่กลางมาที่นี่ได้ยังไงคะ”

“ว่าจะทำตลาดเครื่องประดับไทยประยุกต์น่ะ ก็เลยมาหาไอเดีย”

“แบบนี้นี่เอง ร้านเป็นยังไงบ้างคะ”

“ก็ดีนะ เราเป็นแบนด์ที่คนรู้จักอยู่แล้ว เปิดสาขาเพิ่มคนก็สนใจ ถึงไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามาทุกคนจะซื้อ แต่พี่ว่าพอไหว แล้วก็อยากเพิ่มสไตล์พื้นเมืองหรือไทยๆ เข้าไปด้วย น่าจะถูกใจคนที่นี่”

“ค่ะ คนสมัยนี้เน้นความเป็นไทย ความเป็นพื้นเมือง ถ้าเขารู้สึกว่าซื้อแล้วจะได้ใช้เขาก็จะซื้อ”

ระหว่างที่คุยกันพิมพ์ปรางที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเสร็จเดินเข้ามาพร้อมกับถามด้วยสายตาว่าใคร กัญญานันจึงตอบแบบไม่มีเสียง

“พี่กลาง”

พิมพ์ปรางชะงักไปเพียงนิดเดียวเพื่อนสาวจึงไม่ทันสังเกต ก่อนจะเดินไปนั่งอีกมุมหน้ากระจกเช็ดเครื่องสำอาง

“วันศุกร์เดี๋ยวพี่ไปหานะ ว่าจะไปพักผ่อนบนภูสักหน่อย จะได้รับน้องก้อยกลับบ้านด้วย ไอ้มินทร์บ่นจะแย่แล้วว่าแทบไม่เห็นหน้าเมียเลย”

“เขาก็พูดไปอย่างนั้นเองค่ะ เพิ่งลงมาหาก้อยเมื่อสองวันที่แล้ว”

“เฮ้อ...เรานี่ไม่เข้าใจผู้ชายเลยจริงๆ”

น้องสาวฟังแล้วไม่ได้ตอบโต้อะไร ชายหนุ่มจึงไม่ได้ต่อความยาว

“งั้นแค่นี้ก่อนนะน้องก้อย”

“ค่ะ สวัสดีค่ะพี่กลาง”

กัญญานันวางสายไปแล้วก็เอ่ยขึ้นแม้เพื่อนจะไม่ได้ถาม

“พี่กลางโทรมาถามว่าจะให้ไปส่งไหมน่ะ”

พิมพ์ปรางเพียงแค่เหลือบตามองอีกฝ่ายก็พูดต่อ

“แต่ก้อยบอกไปแล้วล่ะว่ามารถสอง”

“จ้ะ”

หลังจากพิมพ์ปรางตอบรับ ประตูก็เปิดเข้ามาโดยมาธาวี งานนี้เธอไม่ได้ร่วมแสดงด้วย แต่ทำหน้าที่ประสานงานกับทางผู้จัดงานในฐานะตัวแทนของโรงเรียน เพื่อความไม่วุ่นวายหญิงสาวจึงเลือกทำแค่หน้าที่เดียว

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมสาวๆ” 

“จ้ะ แล้วสองล่ะมีอะไรอีกไหม”

กัญญานันถามกลับ

“ไม่แล้วล่ะ งานเสร็จ ทุกคนแฮปปี้ก็จบแล้ว แต่ว่าต้องถามพี่หนึ่งก่อนว่าจะเอายังไง เพราะเขายุ่งกว่าเรา”

มาธาวีหมายถึงมาลินีพี่สาวของตนที่เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ดูแลการจัดงานครั้งนี้

“สองก็เลยมาดูว่าก้อยกับปรางเสร็จหรือยัง จะได้โทรไปบอกพี่หนึ่งว่าพวกเราพร้อมแล้ว”

พร้อมกับพูดหญิงสาวก็กดเบอร์โทรออก รอสายไม่นานอีกฝ่ายก็รับ

“ว่าไงคะคุณพี่สาว สองกับเพื่อนเรียบร้อยแล้วนะ กำลังจะกลับแล้ว”

“พูดแบบนั้นได้ยังไง”

กัญญานันบ่นเพื่อนแบบไม่มีเสียงอีกครั้งแต่มาธาวียักไหล่

“ย่ะ กลับกันไปเลย ฉันกลับของฉันเองได้”

ปลายสายตอบกลับสั้นๆ

“โทรให้รถที่บ้านมารับเหรอ”

“เปล่า แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงไม่มีเธอก็มีคนอยากไปส่งฉันเยอะแยะ”

คนได้ยินเบะปากก่อนจะตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ

“โอเค งั้นสองกับเพื่อนกลับแล้วนะคะ”

“อืม”

พี่สาวเอ่ยสั้นๆ แล้ววางสายไป มาธาวีถอนหายใจเบื่อหน่าย ถึงทั้งคู่จะไม่ได้เกลียดกันแต่ก็เป็นพี่น้องที่ไม่กินเส้นกันเอาเสียเลย ความคิด การใช้ชีวิตคนละขั้วสุดๆ

“พี่หนึ่งไม่กลับกับเราเหรอ”

“ใช่”

“แล้วจะกลับยังไง”

“เขาบอกว่ามีคนอยากไปส่งเขาเยอะแยะ”

“พี่หนึ่งอาจจะประชดก็ได้”

มาธาวียักไหล่ เพราะพี่สาวของเธอบอกมาแบบนั้นจะให้ทำอย่างไรได้ กัญญานันได้แต่ส่ายหน้า แม้มาลินีจะเอาแต่ใจและค่อนข้างจุกจิกแต่ก็หวังดีกับเพื่อนของเธอจริงๆ แต่น้องสาวไม่เคยสนใจและเชื่อในสิ่งที่พี่สาวบอกทั้งคู่จึงเดินกันคนละเส้นทางตลอด

แต่เมื่อเช้ารถของมาลินีมีปัญหากลางทางและต้องรีบมางาน แถมรถของที่บ้านก็ต้องไปส่งพ่อเลี้ยงศรากับแม่เลี้ยงมารตีไปเป็นประธานงานแต่งงานหนึ่ง พวกเธอกำลังเดินทางมางานนี้เช่นเดียวกันและต้องผ่านจุดนั้น มาลินีจึงโทรมาบอกว่าจะติดรถน้องสาวมาด้วย เมื่อมาถึงค่อนข้างช้ามาธาวีก็เลยโดนพี่สาวบ่นตามระเบียบ ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้แคร์

“ในเมื่อเขาบอกมาแบบนั้นแล้วเราก็กลับกันเถอะ สองง่วงมากอ่ะ นอนดึกตื่นเช้า แถมวิ่งไปวิ่งมาดูความเรียบร้อยทั้งโชว์ของเราแล้วก็ของเด็กๆ จากโรงเรียนเราอีกสองโชว์มาทั้งวันแล้ว ล้าไปหมด อยากทิ้งตัวนอนจะแย่อยู่แล้ว”

“แล้วจะไม่โทรถามที่บ้านหน่อยเหรอว่าพี่หนึ่งให้รถมารับหรือเปล่า”

“คงงั้นแหละ ไม่งั้นคงไม่มั่นใจขนาดนั้นว่าตัวเองไม่ต้องพึ่งเรา หรือว่าอาจจะมีคนตามจีบเขาอาสาไปส่งจริงๆ ก็ได้ ใครจะไปรู้”

มาธาวีบอกอย่างไม่แยแส กัญญานันได้แต่หันไปสบตากันเองกับพิมพ์ปรางแบบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพื่อนของเธอคงเห็นว่างานนี้จบแล้วและไม่ได้เลิกดึกจึงไม่ค่อยคิดมากเท่าไร

สามสาวเพื่อนซี้มายังลานจาดรถสถานที่จัดงาน หลังจากเก็บของและเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยมาธาวีก็เอ่ยขึ้น

“ไปกินอะไรกันก่อนดีกว่าเนอะ เหนื่อยขนาดนี้กลับไปถึงบ้านแล้วก็อาบน้ำนอนเลย”

พูดแล้วหญิงสาวก็สตาร์ทรถเพื่อขับออกจากลานจอดรถ

“อื้ม ดีเหมือนกัน”

กัญญานันตอบรับ พิมพ์ปรางเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นดูร้านแถวๆ นี้แล้วกันนะ”

มาธาวีตัดสินใจ แล้ววนรถเพื่อไปด้านหน้าทางออก ขณะที่กำลังมุ่งมั่นกับการขับรถเสียงของกัญญานันก็ดังขึ้น

“นั่นพี่กลางนี่”

รถของพวกเธอกำลังผ่านด้านหน้า แล้วเห็นว่ากิตติกรเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง

“พี่หนึ่งนี่นาสอง”

กัญญานันพูดขึ้นอีกครั้งทำให้มาธาวีชะลอรถแล้วเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้หยุดเสียทีเดียว

“งั้นที่เขาบอกว่ามีคนไปส่งก็คือพี่ของก้อยเองเหรอ”

เมื่อรถผ่านมาแล้วก็มองทางกระจกหลัง เห็นว่าสองคนคุยกันยิ้มแย้มพี่สาวไม่สังเกตเห็นรถของเธอด้วยซ้ำ

“อะไรกัน สองคนนั้นไปคลิกกันตอนไหนเนี่ย”

คนขับบ่นเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจนัก ขณะที่กัญญานันที่นั่งด้านหน้าด้วยขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ มีเพียงพิมพ์ปรางที่นั่งเฉยไม่หันไปมองสองหนุ่มสาวเพราะเห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ

======

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ใต้เงาบุษบา    ตอนพิเศษ ‘ใต้เงาบุษบา’ (2)

    คนที่ยืนรถน้ำต้นไม้อยู่หน้าเรือนยายจันทร์ในช่วงเช้าทำให้คุณรุจีรัตน์กะพริบตา แล้วตั้งใจยืนกอดอกดู อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอีก ไม่คิดว่าหญิงสาวจะรีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าขนาดนี้เหมือนตอนที่ยังเป็นเด็กในบ้านที่นี่คิ้วเรียวที่ถูกเขียนไว้อย่างสวยงามขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นคนร่างบางเดินไปยกบัวรดน้ำขนาดย่อมค่อยๆ เดินกลับมาเพื่อจะรดดอกไม้ คุณรุจีรัตน์รีบเดินเข้าไปตรงหน้าเรือนยายจันทร์ทันที“ทำอะไรของเธอน่ะ”พิมพ์ปรางสะดุ้งเพราะอยู่ๆ ก็มีเสียงของคุณรุจีรัตน์ดังขึ้นมา และขยับขาอย่างรวดเร็วเพื่อหันไปกล่าวทักทายเจ้าของบ้าน เนื่องจากกลัวจะโดนดุที่เข้ามาวุ่นวายที่นี่ ด้วยความที่พื้นตรงนั้นค่อนข้างเปียกและมีกรวดทำให้พิมพ์ปรางลื่นขึ้นมา“อุ๊ย...”คุณรุจีรัตน์ตกใจรีบเข้าไปให้ถึงตัวหญิงสาวอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ลื่นไปด้วยแต่ก็รับร่างบางของพิมพ์ปรางไว้ได้ทัน ส่วนตัวเองล้มก้นกระแทกโดยมีหญิงสาวนั่งทับลงมาอีกที“โอ๊ย! โอ๊ย...”คนอยู่ข้างล่างร้องขึ้นสองครั้ง พิมพ์ปรางรีบลุกขึ้น ไม่สนใจถังบัวรดน้ำที่หล่น รีบเข้าไปพยุงคนที่ล้มทันที“คุณรุจี เป็นยังไงบ้างคะ ปรางขอโทษค่ะ”“ย่ะ โอ๊ย...เดี๋ยวก่อนๆ”ค

  • ใต้เงาบุษบา    ตอนพิเศษ ‘ใต้เงาบุษบา’ (1)

    คุณชายพงศกรมองหญิงสาวที่ลูกชายคนรองพาเข้าบ้านด้วยความคาดไม่ถึง ส่วนคุณรุจีรัตน์เองก็ถึงกับอ้าปากค้าง ลูกชายบอกว่าจะกลับบ้านและอยากพาใครคนหนึ่งมากราบพ่อกับแม่ คุณรุจีรัตน์ก็แอบหวังว่าจะเป็นสาวลูกสาวผู้หลักผู้ใหญ่ทางเหนือแต่เมื่อเห็นหน้าก็ได้แต่อึ้งร่างสูงใหญ่ของกิตติกรนั่งเคียงคู่กับพิมพ์ปรางที่พื้นและพาหญิงสาวกราบพ่อกับแม่ของเขา“เดี๋ยวนะตากลาง นี่มันอะไรกัน ทำไมถึง...”คุณรุจีรัตน์เงียบลงเพราะมือใหญ่ของคุณชายพงศกรวางลงบนมือเบรกเอาไว้แล้วท่านก็พูดขึ้นแทน“ไปรักไปชอบกันตอนไหนล่ะ”“ก็นานแล้วครับ”ลูกชายตอบเสียงเบา ไม่อยากสาธยายและพยายามบอกให้กว้างเข้าไว้จะได้ไม่ดูน่าสงสัย“นี่อย่าบอกนะว่าที่ตามไปอยู่เชียงใหม่เพราะแม่ปรางนี่”คนเป็นแม่ถามอย่างไม่อยากเชื่อ ทำเอาพิมพ์ปรางหน้าเสีย“พูดอะไรแบบนั้นคุณรุจี”คุณชายปรามอีกครั้งทำให้คุณรุจีรัตน์ถึงกับหน้างอ“แล้วนี่ที่พามาหาพ่อกับแม่กลางตัดสินใจได้แล้วใช่ไหมเรื่องหมั้นเรื่องแต่ง”เมื่อบิดาถามขึ้นชายหนุ่มก็จับมือบางของพิมพ์ปรางมากุมเอาไว้ ก่อนจะบอกในสิ่งที่เขาต้องรีบพาเธอมาที่บ้าน“ผมพาปรางมาเพราะอยากเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่า...ปรางท้อง”“หา!!”

  • ใต้เงาบุษบา    33.สองใจผูกพัน (2)

    พิมพ์ปรางมีสีหน้าลำบากใจเมื่อกิตติกรคุยเรื่องอนาคตของพวกเขาแล้วบอกว่าจะพาเธอไปกราบคุณชายพงศกรกับคุณรุจีรัตน์หลังจากฝากท้องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มลูบผมยาวสลวยของคนในอ้อมกอดเบาๆ ปลอบใจ เพราะสายตาของคนที่เงยหน้ามองเขาดูหวาดหวั่นไม่มั่นใจอย่างเห็นได้ชัดหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาก็พาหญิงสาวมานั่งคุยกันบนเตียง เพราะเขาไม่มีเสื้อผ้ามีเพียงผ้าขนหนูพันเอวแล้วอากาศตอนเช้าก็ค่อนข้างหนาว เขาต้องการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเร็ว“ถ้าพวกท่านรู้ช้ากว่านี้จะยิ่งไม่พอใจ ปรางท้องตั้งสองเดือนแล้ว”เขาถามเธอแล้วว่าท้องกี่เดือน และถ้านับตามเวลาจะเป็นช่วงปีใหม่ที่ได้อยู่ด้วย เพราะทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกันไม่มากนัก มีแค่ตอนงานยี่เป็งกับปีใหม่เท่านั้น“แต่ปรางกลัวท่านจะโกรธ ปรางไม่ควรตีเสมอลูกท่าน”“นี่มันสมัยไหนแล้วปราง เจ้าชายยังแต่งงานกับสามัญชนเลย ฉันไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไรติดตัวมาสักหน่อย”“ปรางเป็นเด็กในบ้าน”กิตติกรถอนหายใจ ก้มลงจูบหน้าผากสวย ก่อนจะกระซิบ“จะเด็กในบ้านหรือนอกบ้าน ปรางก็เป็นเมียฉัน”พิมพ์ปรางอดยิ้มบางกับคำพูดของชายหนุ่มไม่ได้“อย่าคิดมาก เธอเป็นเหมือนคนในครอบครัว ทุกคนในบ้านรักและเอ็นดูเ

  • ใต้เงาบุษบา    33.สองใจผูกพัน (1)

    เนินอกขาวละออตาเผยมาต่อหน้า กิตติกรวางมือไล้เบาๆ แล้วก้มลงพรมจูบเบาๆ อย่างถ้วนทั่วแม้แต่บนเนื้อผ้าลูกไม้ทำเอาพิมพ์ปรางใจสั่น ปากได้รูปเม้มยอดอกสวยผ่านเนื้อผ้าอย่างหยอกล้อ ตาคมเหลือบมองหน้าสวยที่กำลังสุกปลั่งพร้อมยิ้มมุมปากแล้วขยับขึ้นไปกระซิบข้างหูหญิงสาว“ปรางหอม น่ากินทั้งตัวเลย”“เว่อร์ไปแล้วค่ะ”“ไม่เชื่อเดี๋ยวกินให้ดู”พูดแล้วก็แนบปากประกบกับปากสีสวยกัดเม้มเบาที่กลีบปากอิ่ม ให้หญิงสาวเผยอเปิดรับเขาอีกครั้ง คราวนี้กิตติกรดูดดึงลิ้นเล็กร้อนแรงจนอีกฝ่ายอึกอักประท้วง มือหนาปลดตะขอเสื้อชั้นในไปพร้อมกัน ก่อนจะผละออกและเล็มระเรื่อยๆ ลงไปหาอกอวบคู่สวยที่อวดโฉมอย่างเต็มตาเมื่อจัดการกับเสื้อผ้าส่วนบนของคนใต้ร่างจนหมดร่างสูงใหญ่ก็ก้มลงไปดูดดื่มทรวงงาม มืออีกข้างเกาะกุมเคล้นคลึงราวกับกำลังสนุกมือ กระตุ้นเลือดลมสาวทั้งสองข้างพร้อมกันสลับไปมาอย่างไม่ให้น้อยหน้าพิมพ์ปรางรู้สึกราวกับกำลังมีกระแสไฟแปลบปลาบวิ่งไปทั่วร่าง มือบางขยับลูบแขนกำยำกับบ่าแกร่งอย่างไม่รู้ตัว รู้เพียงว่าอยากระบายบางสิ่งที่อัดแน่นขึ้นในกายออกไปบ้าง“คุณกลาง...อย่า...แกล้งปราง”หญิงสาวพึมพำคนที่ได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นมามองเห็น

  • ใต้เงาบุษบา    32.รักนำทาง

    ภายในห้องพอชายหนุ่มเข้ามาร่างบางก็เบี่ยงขยับจะรีบสวนออกไป แต่แขนกำยำคว้าเอวเล็กเอาไว้แล้วปิดประตูลงเสียก่อน เขารวบคนตัวเล็กเข้ามากอดหมับ ใบหน้าคมก้มลงแนบคำคอ ทำเอาพิมพ์ปรางตกใจจนเกือบจะร้องออกมา ทว่าก็ต้องหยุดลงเพราะเสียงเข้มที่กระซิบข้างหู“ฉันรักปรางนะ”ทุกอย่างรอบตัวหญิงสาวราวกับหยุดนิ่งในฉับพลัน ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากชายหนุ่มมาก่อน แถมเขายังพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนพิมพ์ปรางรู้สึกเหมือนถูกไฟชอร์ตวูบหนึ่ง“ฉันรู้ว่าทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจ แต่ไม่เคยเห็นเธอเป็นของเล่นอย่างที่เธอพูดเลย ฉันจริงจังกับเธอ ตั้งใจจะดูแลเธอจริงๆ”กิตติกรอธิบายต่อเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ได้ขยับตัวหรือดิ้นรนเพื่อหนี เป็นโอกาสให้เขาได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ“ก่อนหน้านั้นฉันยอมรับว่าไม่ได้คิดว่ารักเธอ แต่ไม่ได้คิดจะทิ้งเธอตั้งแต่คืนวันงานยี่เป็งแล้ว”ชายหนุ่มจับให้คนร่างเล็กหันกลับมาเพื่อสบตาคู่สวยตรงๆ อยากให้มองเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอ ที่พูดไปไม่ได้เสแสร้งเลยสักนิด“ฉันเคยทำผิด ทำให้เธอต้องออกจากบ้าน ปล่อยให้เธอจมอยู่กับความทุกข์คนเดียวทั้งที่เธอก็เป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ฉันจะไม่มีวันทำผิดซ้ำสอง”พิมพ์ปรางซึมซับทุ

  • ใต้เงาบุษบา    31.ตัวช่วยพิเศษ (2)

    สองสาวที่ไปขี่มอเตอร์ออกไปเที่ยวดูธรรมชาติรอบๆ โฮมสเตย์กลับมายังที่พักเพราะอากาศเริ่มเย็นลง ท้องฟ้าใกล้มืด“เดี๋ยวสองเอามอไซค์ไปคืนเอง ปรางกลับห้องก่อนได้เลย”พิมพ์ปรางพยักหน้ารับ มาธาวีขี่มอเตอร์ไซค์ที่เช่าต่อไปอีกหน่อยตรงที่จอด แต่รถสองคันที่เห็นทำให้หญิงสาวต้องหยุดหันมอง ทะเบียนรถคันหนึ่งเป็นรถของที่บ้านเธอ ส่วนยี่ห้อกับสีของรถอีกคันเป็นรถที่เธอเห็นบ่อยในช่วงนี้“นั่นมันรถคุณกลางใช่ไหมหว่า”เธอยังจำทะเบียนรถของกิตติกรไม่ได้ แต่รถของชายหนุ่มก็ไม่ใช่แบบคนแถวนี้จะซื้อมาขับ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่ตัวเองไม่ใช่พิมพ์ปราง เพื่อความชัวร์จึงเอามือถือกดหามารดาของตน“คุณแม่ให้คนขับรถอยู่ที่นี่เหรอคะ ไม่ใช้รถเหรอ”มาธาวีเลียบเคียงถามไป ทั้งที่จำได้ว่าเมื่อวานตอนมาส่งพวกเธอคนขับรถขับออกไปแล้ว ตอนแรกเธอตั้งใจจะขับรถมาเองแต่เพราะไม่ชินทางและไม่เคยมา มารดาจึงให้คนของท่านมาส่งซึ่งยังไงก็ปลอดภัยมากกว่า“อ๋อ หนึ่งน่ะลูก เห็นมาถามหาสอง ว่ามีเรื่องจะคุยด้วยตั้งแต่เมื่อวานไปหาที่โรงเรียนไม่เจอ พอแม่บอกว่าไปเที่ยวเขาก็บ่นว่าไม่ชวน ถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วเรียกคนขับรถให้พาไปส่ง แม่คิดว่าพี่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status