ตอนที่ 6
หลบหน้า ผู้คนมากมายต่างร่วมยินดีในงานเลี้ยงให้กับพี่ใหญ่เพราะว่าเขาได้คนที่รักกลับมา จึงอยากจะเลี้ยงฉลองยินดี “เซ็น แก้วนี้ฉันขอดื่มให้กับแก” ผมยกแก้วเหล้าขึ้นก่อนจะดื่มรวดเดียวจนหมดแล้ววางลงบนโต๊ะ ตรงหน้าเซ็น “งั้นแก้วนี้ผมก็ขอดื่มยินดีให้กับพี่ใหญ่” ผมเอ่ยจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วเหลียวสายตาไปมองน้ำ ที่มองผมอยู่ นัยน์ตาของเธอเศร้าหมองไม่ต่างจากผมที่แสนจะเจ็บปวด ผมดื่มจนหมดแก้วก็ขอตัวพี่ใหญ่กลับเพราะรู้สึกเมาได้ที่ ทว่าความจริงคืออยากจะหลบหน้าน้ำฟ้ามากกว่า ผมรู้สึกทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นนัยน์ตาคู่นั้นของเธอ เมื่อเอ่ยจบผมก็ตัดสินใจเดินออกไปจากงาน “ฉันขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ” ฉันเอ่ยเบาๆ ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยมือออกจากเอวของฉัน “รีบกลับมาล่ะ” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มพลันขยับแว่นให้เข้าที่ก่อนจะหันไปดื่มเหล้ากับลูกน้องต่อ “หน้าประตูทางออก” “เซ็น น้ำรักคุณนะคะ” ฉันแอบเดินตามเซ็นออกมาก่อนจะสวมกอดเขาแน่นทางเบื้องหลัง ฉันไม่อาจจะตัดใจจากเซ็นได้ฉันรู้ใจตัวเองดีว่าฉันรักเขามากแค่ไหน “ปล่อยเถอะน้ำเดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า” ผมสะบัดมือเธอออก แล้วเดินหนีมาขึ้นรถที่จอดอยู่ขับแล่นออกไป ผมรู้ดีว่าการกระทำของผมมันโหดร้ายทว่าผมไม่มีทางเลือก ผมไม่คู่ควรกับน้ำหรอก ปล่อยให้พี่ใหญ่ได้ดูแลเธอจะดีกว่า ผมครุ่นคิดขณะขับรถแล่นออกมา “น้ำทำผิดอะไร ทำไมคุณถึงใจร้ายแบบนี้” ฉันได้แต่ปาดน้ำตาร้องสะอื้น มองเซ็นขับรถจากไปเขาไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสนใจว่าฉันจะรู้สึกยังไง เขาไม่เคยถามฉันด้วยซ้ำว่ารักเฉินตูพี่ใหญ่ของเขารึเปล่า “อ้าวเหมยคุณอยู่นี่เองเหรอ ผมตามหาคุณแทบแย่แน่ะ” ผมเดินมาเห็นเหมยยืนเศร้าอยู่ ไม่รู้เลยว่าเธอเป็นอะไร “มาเถอะคนอื่นๆ รออยู่” ผมจึงจับมือเธอเดินกลับเข้าไปในงานเพื่อร่วมดื่มฉลองให้กับเราทั้งคู่ก่อนจะแอบเหลือบสายตาไปมองเหมยเป็นระยะๆ ด้วยความสงสัย ฉันแสร้งยิ้มจางๆ แล้วเดินตามเขาเข้าไป เที่ยงคืน ร่างหนานั่งไขว้ขาริมขอบท่าเรือ ดวงตามองลมที่พัดไปมาอยู่กลางทะเล “คุณคงจะเกลียดผมมากสินะน้ำ” แววตาที่เธอมองผมมันทำให้ผมรู้สึกผิดอย่างมากแต่ผมก็ไม่สามารถที่จะรักกับผู้หญิงของพี่ใหญ่ได้ ผมจำต้องปล่อยเธอไป ผมมันเลวเอง ปัก! ปัก! กำปั้นแข็งต่อยลงบนขอบสะพานท่าเรือจนเลือดซิบ หากย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่พาเธอมา ผมจะไม่รักเธอความรักระหว่างเราจะได้ไม่อยู่ในโลกคู่ขนานที่ไม่มีวันจะได้พบเจอกันอีกแบบนี้ ผมได้แต่ต่อว่าตัวเองซ้ำๆ ที่ทำแบบนั้นลงไป “เอ็งมานั่งร้องไห้เสียใจอะไรตรงนี้วะ ข้าจะนอนเว้ย” เสียงตะโกนของชายเร่ร่อนตรงใต้ท่าเรือ “ขอโทษครับลุง” ผมเอ่ยจบก็รีบลุกเดินขึ้นมาขับมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ “ความรักมันไม่มีผิดมีถูกหรอกนะไอ้หนุ่ม” เสียงตะโกนตามหลังของลุงที่อยู่ใต้สะพานท่าเรือ ผมได้ยินแบบนั้นแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็ต้องหันไปตะโกนขอบคุณลุงแก แล้วสตาร์ตรถขับแล่นออกมา “...” แง๊นๆๆ เซ็นขับรถเลี้ยวเข้ามาจอดก่อนจะดับเครื่องลงแล้วเดินไปที่ประตูห้อง “เมียไม่อยู่แล้วเหรอพ่อหนุ่ม เสียดายนะ สวยๆ แบบนั้น ปล่อยให้หลุดมือไปได้ไง” ฉันตะโกนถามเด็กหนุ่มห้องเช่าข้างๆ เพราะเดี๋ยวนี้เห็นมาคนเดียวห้องก็เงียบขรึม เฮ้อเด็กสมัยนี้ รักง่ายหน่ายเร็วเสียจริง “ครับยาย” ผมเอ่ยตอบสั้นๆ แล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง ด้วยความที่ทุกอย่างภายในดูมืดสลัว ผมจึงเห็นทุกอย่างเลือนราง ก่อนจะหยุดชะงักตรงร่างผอมบางในชุดกี่เพ้าสีแดงที่นั่งไขว้ขาอยู่ “คุณมาได้ยังไง” ผมรีบเปิดไฟแล้วมองน้ำที่นั่งอยู่ “น้ำจะมายังไงมันไม่สำคัญหรอกค่ะ แต่น้ำต้องถามเซ็นต่างหากว่าคิดยังไงที่พาน้ำไปให้คนอื่น” ฉันเอ่ยถามสิ่งที่คาใจแต่เมื่อเซ็นได้ยินคำถามนั้นเขาก็เลือกที่จะไม่ตอบก่อนจะเดินมาจับมือของฉันให้ลุกไปกับเขา ฉันจึงสะบัดมือออก เพราะจะไม่ยอมจากไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คำตอบ “น้ำคุณอย่าดื้อได้ไหม ตอนนี้คุณคือผู้หญิงของพี่ใหญ่น่ะ” ผมพยายามจะเกลี้ยกล่อมน้ำแต่ดูเธอจะดื้อรั้นมากผมเลยตัดสินใจจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง เพราะไม่อยากสานความสัมพันธ์ระหว่างเราจนถลำลึกไปมากกว่านี้ “ถ้าเซ็นหันหลังให้น้ำอีก น้ำจะนอนกับพี่ใหญ่” ฉันตัดสินใจเอ่ยคำขาดฉันพูดจริงทำจริงเสมอ เมื่อเซ็นได้ยินแบบนั้น เขาก็นิ่งชะงักไปชั่วครู่ ฉันมองดูเขาจากเบื้องหลังเซ็นกำมือแน่น ทว่าจู่ๆ ฉันไม่ทันจะตั้งตัวเขาก็หันกลับมาโผสวมกอดฉันแนบแน่น “ผมไม่ได้ตั้งใจจะหันหลังให้คุณนะน้ำ” ผมเอ่ยบอกเธอก่อนจะใช้สองแขนสอดอุ้มร่างบางตรงไปที่เตียงนอน ผมรู้สึกพลั้งเผลอทุกครั้งที่ได้มองริมฝีปากสีสวยของน้ำ ผมอยากจะขบมันเบาๆ แล้วดูดดื่ม จนเธอดิ้นพล่าน “หากคุณรู้ว่าที่ทำต่อน้ำมันผิดก็ชดใช้ให้น้ำสิคะ” ฉันใช้ปลายนิ้วลูบสัมผัสแผงอกของเซ็นเบาๆ ฉันไม่ต้องการผู้ชายคนไหนนอกจากเซ็น ฉันรักเขา ฉันตัดสินใจรุกจูบเขาเบาๆ พลันใช้ปลายลิ้นอุ่นๆ สอดใส่ จนลมหายใจของเราแลกเปลี่ยนกัน “เรือนร่างนี้ฉันมอบให้คุณไปแล้วมันจะเป็นของคุณตลอดไปค่ะเซ็น” น้ำเสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาข้างกกหูหนา ดวงตาคู่สวยมองจ้องใบหน้าหล่อเหลาท่ามกลางความมืดสลัว ต่อให้วันพรุ่งนี้ต้องกลับไปเป็นซ้อใหญ่ของแก๊งยากูซ่า ทว่าคืนนี้ก็ขอมีความสุขกับคนที่รักให้เต็มอิ่ม นัยน์ตาสีอ่อนเผยประกายความสุข ยามที่เธอได้สัมผัสกับรสสวาทอันเร่าร้อน ของชายคนรัก มันก็คุ้มค่าแล้วที่เธอจะเสี่ยงมาเจอเขาแบบนี้บ่อยๆด้วยความเบื่อหน่าย หญิงสาวจึงเดินชมบรรยากาศไปจนทั่วชายหาดแล้วกลับมาที่บ้านก็ยังไร้วี่แววการมาของเซ็น เธอถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่เสียงรถจะขับเล่นเข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้า ดวงตาคู่สวยหันไปมองด้วยความอยากรู้ทันทีที่เธอเห็นร่างเล็กของลูกชายย่างลงจากรถ ใบหน้าขาวนวลก็ยกยิ้มร่าดีใจ “ม๊า” เสียงมังกรตะโกนแล้วรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดน้ำฟ้าแน่นเซ็นที่ย่างตามลงมายิ้มมองพวกเขาสองแม่ลูกก่อนจะยักไหล่แบบคนถูกเมินแล้วเดินไปยืนข้างๆ มังกร “ว้า น้อยใจจังมังกรไม่กอดป๊า” ชายหนุ่มเอ่ยจบน้ำฟ้าก็แอบขำเขาเบาๆ แล้วชวนมังกรขึ้นห้อง “ไปเถอะมังกรม๊าคิดถึงลูกจะแย่แล้ว”“อ่าวคุณเดี๋ยวสิ” เซ็นยืนเกาหัวเบาๆ เมื่อเห็นผู้หญิงที่รักเดินขึ้นห้องไปกับลูกชาย “นี่ผมกลายเป็นหมาหัวเน่ารึเปล่านะ” ชายหนุ่มครุ่นคิดในหัวแล้วปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ส่วนตนเองก็ยื่นของในมือให้สาวใช้ “วันนี้ผมจะเข้าครัวด้วยตัวเองนะ” เมื่อเซ็นเอ่ยจบพิงสาวใช้ก็ย่อตัวตกลงเบาๆ แล้วนำของไปจัดการให้เข้าที่ ในระหว่างที่น้ำฟ้าและมังกรอยู่บนห้องพูดคุยกันตามประสาแม่ลูกเซนก็ใช้โอกาสนี้ในการทำอาหารเพื่อใช้สำหรับงานเลี้ยงเล็กๆ ในคืนนี้ เขาอยากจะให้น้ำฟ้
เซ็นโน้มตัวลงเข้าหาเรือนร่างบางของน้ำฟ้า ก่อนจะใช้ปลายนิ้วลูบสัมผัสพวงแก้มเธอเบาๆ “อย่าโกรธผมเลยนะ อาซ้อของผม” น้ำเสียงหนาเอื้อนเอ่ยก่อนจะลงจูบสัมผัส ซอกคอของหญิงสาวเบาๆ ทว่าถูกมือเรียวสวยของน้ำฟ้าผลักอกกว้างรั้งเอาไว้ซะก่อน “อย่าคิดว่าใช้คำพูดหวานมาหว่านล้อมแล้วฉันจะเชื่อคุณอีกนะคะเซ็น” เธอเอ่ยไม่ทันจะจบ เจ้ามือหนาของเซ็นก็จับมือของเธอชูแนบเหนือศีรษะ “งั้นผมขอไถ่โทษเลยละกัน” ท่ามกลางบ้านขนาดใหญ่บนโซฟาหรูริมฝีปากอุ่นๆ ก้มลงซุกไซ้แผ่วเบาๆ มือของเขาซุกซนจนร่างบางไร้ทางหลบหนี จำยอมต้องปรนเปรอเขาตอบด้วยรสจูบที่เร่าร้อน สายลมอ่อนๆ พัดกระทบม่าน ผ้าจนพริ้วไสว ไหล่คู่งามของ หญิงสาวถูกมือเรียวลูบสัมผัสจนเธอรู้สึกอุ่น ดวงตาสีสวยมองเพดานของตัวบ้านพลันโยกย้ายลำตัวขึ้นลงเบาๆ เมื่อเจ้าของแปลกปลอมเริ่มจะทำงาน รุกล้ำกลีบสวาทเข้าไปเพียงครึ่งก็พลันหยุด แล้วค่อยๆ ขยับเขยื้อนถี่ๆ เพราะหากสอดใส่ไปมากกว่านี้้เกรงว่าเจ้าน้ำฟ้าตัวน้อยจะคับแน่นเกินไป เซ็นทำอะไรมักจะทิ้งช่องทางเอาไว้เสมอ ชายหนุ่มไม่อยากจะให้น้ำฟ้าต้องเจ็บกับเจ้าแท่งร้อนอันเบอเร่อของตนเอง ก็เพียงเพราะอยากจะเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้ลงโทษเวลาที
หัวหน้าแก๊งทุกคนทันทีที่ได้เห็นข้อความในเซ็นเอกสารบ้างก็เห็นด้วยแต่มีบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย มือหนากำมือก่อนจะตีลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงแล้วลุกขึ้นจนทุกคนหันไปมอง “การทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนที่ไม่มีประสบการณ์ คิดจะมาใช้สัญญาบังคับกับพวกเรางั้นเหรอ” หัวหน้าแก๊งมังกรดำเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อเซ็นเห็นการกระทำของเขาใบหน้าหล่อๆ ก็กระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ แล้วรับแฟ้มเอกสารจากโบตั๋นมาถือไว้ในมือชูขึ้นเบื้องหน้าทุกคน “ผมอยากจะบอกให้พวกคุณทราบว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญญาธรรมดา แต่มันเป็นสัญญาที่จะทำให้พวกเราทั้ง 9 แก๊งกลมเกลียวกัน “มันคือกฎข้อห้ามว่าคนในแก๊งทั้ง 9 ห้ามฆ่ากันเอง” “ฉันเห็นด้วย” ร่างสูงสง่าลุกยืนพลันตะโกน เขาก็คือหัวหน้าแก๊งมังกรเหมันต์ โดยปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับการโต้เถียงมากนัก ทว่าวันนี้กลับยอมเอ่ยปากต่อสู้เพื่อช่วยเซ็น แสดงให้เห็นว่าแก๊งมังกรเหมันต์ยอมศิโรราบต่อเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ต่างเอ่ยซุบซิบก่อนจะลงความเห็นไปทางข้างของหัวหน้าแก๊งมังกรเหมันต์ ทุกคนเห็นด้วยกับสัญญาฉบับนี้ก่อนที่จะมีบางส่วนเริ่มลงมือเซ็นสัญญาลงนามในเอกสาร “ม๊าครับเราจะลงเลยไหมครับ”
ท่ามกลางห้องโถงใหญ่ภายในโรงแรมสุดหรู ขบวนรถมากมายต่างพากันขับเล่นเข้ามาจอดพร้อมกับบอดี้การ์ดคอยติดตามบุคคลสำคัญที่มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ ดังเช่นรถคันแรกที่ขับเล่นเข้ามา บอดี้การ์ดสวมใส่ชุดสูทสีดำรีบวิ่งลงมาเปิดประตูเบาะหลังก่อนที่ชายวัยกลางคนหนวดเคราหนาใบหน้าคล้ายกับชาวลาติน ดวงตาคมเข้มสวมใส่สูทดูดีจะย่างกรายลงมาพร้อมกับภรรยาแสนสวยของเขา แล้วเดินเข้าไปในงานโดยมีบอดี้การ์ด 10 คนประกบหน้าหลังเขาก็คือเซียว หัวหน้าแก๊งมังกรคราม ชายหนุ่มผู้เยือกเย็นเขาเป็นคนนิ่งและสุขุมอย่างมากและที่สำคัญเขาเคารพประมุขแก๊ง 9 เศียรมาโดยตลอด “สวัสดีครับคุณหนูใหญ่” น้ำเสียงหนาเอ่ยทักทายโบตั๋นที่ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าประตูทางเข้าก่อนจะจับมือเธอเป็นการทักทายแล้วพากันเดินเข้าไปในงานรถคันต่อมาก็คือฟางหวน เขาคือหัวหน้าแก๊งมังกรฟ้า ชายวัย 39 ปีเขาเป็นคนอัธยาศัยดีและมีนิสัยอ่อนโยนอย่างมาก ฟางหวนชื่นชอบเรื่องดนตรีแม้เขาจะเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าชื่อดัง ทว่าความอบอุ่นของเขากลับเป็นที่ต้องตาในหมู่มวลสาวๆ มากมาย เขาเป็นชายโสดที่เคยสูญเสียคนรักเมื่อหลายปีก่อน “สวัสดีครับคุณหนูใหญ่” มือหนาจับมือของโบตั๋นขณะเอ่ยทักทาย ดว
เครื่องบินแลนดิ้งลงจอด ณ สนามบินส่วนตัวพร้อมกับบอดี้การ์ดกว่า 20 คนที่ยืนรอรับอยู่เบื้องล่าง “เราจะได้ไปเยี่ยมคุณพ่อกันแล้วนะเซ็น” โบตั๋นเอ่ยกับน้องชายเพราะหลายปีมานี้เซ็นแทบจะไม่ได้เจอกับหยวนเลย ทั้งคู่เดินย่างลงบันไดเครื่องบินส่วนตัวเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่เบื้องล่างก่อนจะขับแล่นออกไปมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลชื่อดังของประเทศฮ่องกง ตลอดทางดวงตาคู่คมของเซ็นยังคงมองออกไปนอกกระจกรถแววตาของเขาครุ่นคิดเป็นห่วงน้ำฟ้าและมังกรลูกชายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะทำอะไรอยู่ การมาครั้งนี้ของเซ็นเป็นความลับเพราะโบตั๋นไม่อยากจะให้เรื่องของการป่วยของหยวนถูกเปิดเผยไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการชิงอำนาจของแต่ละแก๊งได้ รถเก๋งคันสีดำขับเล่นไปบนท้องถนนก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่หน้าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ “เชิญครับ”บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำเดินถือร่มมาเปิดประตูพาพวกเขาเดินเข้าไปภายใน โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ช่วยปกปิดความลับอาการป่วยของหยวน เพราะทางโรงพยาบาลได้รับเงินช่วยเหลือจากหยวนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนโรงพยาบาลของหยวนเอง “ทางนี้ครับ” หมอหนุ่มยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนจะเดินพาไป
เครื่องบินแลนดิ้งลงจอด ณ สนามบินส่วนตัวพร้อมกับบอดี้การ์ดกว่า 20 คนที่ยืนรอรับอยู่เบื้องล่าง “เราจะได้ไปเยี่ยมคุณพ่อกันแล้วนะเซ็น” โบตั๋นเอ่ยกับน้องชายเพราะหลายปีมานี้เซ็นแทบจะไม่ได้เจอกับหยวนเลย ทั้งคู่เดินย่างลงบันไดเครื่องบินส่วนตัวเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่เบื้องล่างก่อนจะขับแล่นออกไปมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลชื่อดังของประเทศฮ่องกง ตลอดทางดวงตาคู่คมของเซ็นยังคงมองออกไปนอกกระจกรถแววตาของเขาครุ่นคิดเป็นห่วงน้ำฟ้าและมังกรลูกชายเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกเขาจะทำอะไรอยู่ การมาครั้งนี้ของเซ็นเป็นความลับเพราะโบตั๋นไม่อยากจะให้เรื่องของการป่วยของหยวนถูกเปิดเผยไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการชิงอำนาจของแต่ละแก๊งได้ รถเก๋งคันสีดำขับเล่นไปบนท้องถนนก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่หน้าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ “เชิญครับ”บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำเดินถือร่มมาเปิดประตูพาพวกเขาเดินเข้าไปภายใน โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ช่วยปกปิดความลับอาการป่วยของหยวน เพราะทางโรงพยาบาลได้รับเงินช่วยเหลือจากหยวนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นโรงพยาบาลแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนโรงพยาบาลของหยวนเอง “ทางนี้ครับ” หมอหนุ่มยืนรอพวกเขาอยู่ก่อนจะเดินพาไป