ตั้งแต่วันที่ภวินทร์ไปส่งพราวฟ้าที่บ้านวันนั้นเขาก็พยายามไม่พูดจาถากถางให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก แม้ในใจยังมีหนึ่งคำถามที่ยังค้างคาอยากถามเธอให้กระจ่างแต่ก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจึงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ พราวฟ้าเองเมื่อเห็นเขาไม่พูดประชดประชันตัวเองแล้วก็เบาใจลงอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เกลียดเธอจนถึงขั้นพูดกันดีๆไม่ได้
“วันนี้คุณจะไปที่ร้านพร้อมผมมั้ย ผมจะเข้าร้านพอดี”ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่เธอนำเอกสารมาให้เขาเซ็น
“ไม่เป็นไรค่ะฟ้าไปเองได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่ชวน”
“ตามใจ”
…Night club…
“ฟ้าจะลาออกจริงๆหรอ”เมย์ถามพราวฟ้าหลังจากที่เธอไปแจ้งเรื่องลาออกกับก้องภพเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะพี่เมย์ฟ้าทำงานเดือนนี้เดือนสุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้ฟ้าเรียนใกล้จบแล้วเริ่มมีบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์งานบ้างแล้วค่ะ”
เมย์ดึงพราวฟ้าเข้าไปกอดดีใจกับน้องสาวคนเก่งคนนี้ที่อดทนส่งตัวเองเรียนจนจบ
“พี่ดีใจด้วยนะฟ้าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง พี่ขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของฟ้ามีแต่ความสุขนะ ขอให้กลับมามีโลกที่สดใสอีกครั้งนะ”เมย์พูดไปน้ำตาก็ไหลไปด้วยความตื้นตันใจ
“ฟ้าก็ต้องขอบคุณพี่เมย์กับคุณป้ามากๆนะคะที่ดูแลฟ้าเป็นอย่างดีเหมือนญาติคนนึง”
“เด็กโง่เราเป็นน้องพี่นะอยู่กันมาขนาดนี้พี่ก็รักเหมือนน้องสาวแท้ๆคนนึง มีอะไรให้พี่ช่วยบอกพี่ได้ตลอดเลยนะ”
“น่าเสียดายเหมือนกัน”ก้องภพบ่นไปพลางมองพราวฟ้าทำงานไป
“เสียดายอะไรของมึงวะไอ้ก้อง”ภวินทร์ที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านถามเพื่อนรัก
“ก็น้องฟ้าคนสวยน่ะสิจะลาออกสิ้นเดือนนี้แล้ว”
“ลาออก”
“อืม เห็นว่าจะเรียนจบแล้วเลยอยากไปหางานทำ”
ภวินทร์แอบน้อยใจที่เธอมีอะไรไม่เคยบอกเขาเลยเป็นเขาที่ต้องรู้คนสุดท้ายตลอด ขนาดทำงานด้วยกันแทบทุกวันเธอยังไม่เคยปริปากบอกเขาซักคำ
“ไอ้วินเป็นอะไรวะเงียบไปเลย มึงก็เสียดายเหมือนกูใช่มั้ย”
“เฉยๆ”ภวินทร์ตอบเพื่อนรักด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แต่คิดไปคิดมาก็ดีแล้วแหละเพราะน้องมันไม่มีจริตมารยาอะไรเลย มาทำงานก็ทำแต่งานอย่างเดียว ไม่หาเงินทางอื่นเลย”
“ยังไงวะ”
“ก็ใครรุ่มร่ามจับแขนจับมือ เขาจะชวนไปต่อก็ไม่เคยเล่นด้วยเลย บอกตามตรงบางทีกูก็สงสารน้องเค้า ยิ่งน้องไม่พูดมีอะไรก็เก็บไว้คนเดียวกูก็ยิ่งเป็นห่วง”
“นี่หลงเสน่ห์เข้าแล้ว”ภวินทร์เลิกคิ้วถามเพื่อน
“กูก็แค่เอ็นดู”
“หึ หว่านเสน่ห์เก่งมิน่ามีแต่คนหลง”แม้เขาจะรู้สึกดีกับเธอมากแต่พอนึกถึงวันที่เธอขึ้นรถไปกับผู้ชายความขุ่นเคืองภายในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนั้นภวินทร์ตั้งใจรอกลับบ้านพร้อมพราวฟ้า เขารอเวลาจนเธอเลิกงานและเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ถึงขับรถออกไปเพื่อรับเธอกลับบ้าน
“ขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง”ภวินทร์เลื่อนกระจกรถลงและเรียกพราวฟ้าให้ขึ้นรถ
“ฟ้ากลับเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณวินดีกว่าค่ะ”
“มีเรื่องจะคุยด้วยขึ้นรถ”
เมื่อได้ยินเขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยพราวฟ้าจึงจำต้องเดินขึ้นรถไปกับเขา
“จะลาออกจาก Night club แล้วหรอ”
“ค่ะ ออกสิ้นเดือน”
“ทำไม”
“ตอนนี้ฟ้ามีรายได้จากงานแปลหนังสือเพียงพอที่จะใช้ชีวิตในแต่ละเดือนแล้ว เดือนหน้าก็จะเรียนจบแล้วรายจ่ายก็ลดลง จะได้มีเวลาไปหาสมัครงานประจำทำด้วยค่ะ”
“ไม่ใช่ว่ามีใครเลี้ยง”
“ไม่มีใครเลี้ยงทั้งนั้นแหละค่ะฟ้าดูแลตัวเอง คุณคิดว่าการที่ต้องนอนวันละสามสี่ชั่วโมงทุกวันมันสนุกหรอคะ ฟ้าเหนื่อยฟ้าแค่อยากพักอยากใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปบ้างมันไม่ได้เลยหรอคะ ถ้าคุณไม่มีอะไรจะถามแล้วจอดรถให้ฟ้าลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ” พราวฟ้าน้อยใจที่เขายังคงคิดว่าเธอมีคนเลี้ยงดูจึงเผลอขึ้นเสียงใส่เขา จนสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้จึงขอโทษเขา
“ฟ้าขอโทษค่ะ คงเหนื่อยมากไปหน่อยคุณจอดข้างหน้านี้แหละค่ะเดี๋ยวฟ้ากลับเอง”
ภวินทร์เห็นน้ำตาที่คลอเต็มสองลูกตาของหญิงสาวก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในหัว เค้าอยากดึงเธอเข้ามากอดปลอบและขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอ แต่ด้วยความปากหนักจึงทำได้เพียงนั่งนิ่ง
“เดี๋ยวไปส่ง”เขาตอบเธอเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรค่ะปล่อยฟ้าลงตรงนี้แหละ ฟ้าขอร้องนะคะฟ้าอยากอยู่คนเดียว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มพร้อมกับดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาและความเหนื่อยล้า
ภวินทร์เมื่อเห็นเธอยืนยันหนักแน่นจึงยอมปล่อยเธอลง แต่จอดรถรอจนเธอขึ้นรถประจำทางและขับรถตามไปจนพราวฟ้าลงมาจากรถและเดินเข้าซอยบ้าน ภวินทร์ขับรถตามหลังเธอช้าๆเพื่อมาส่งจนถึงบ้านและรอจนพราวฟ้าเข้าเดินบ้านไป เขานั่งมองบ้านเธอพลางปล่อยตัวปล่อยใจคิดถึงเรื่องของเธออยู่นานก่อนจะขับรถออกไป ตอนนี้ในสมองของเขาตีกันไปหมดไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ใจหนึ่งก็อยากใกล้ชิดอยากทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ใจหนึ่งก็สับสนนึกโทษเธอว่าทำไมถึงต้องไปกับผู้ชายด้วย แต่เมื่อนึกถึงแววตาเศร้าปนเสียใจของเธอก็ทำให้เขาลังเลใจว่าสิ่งที่เขาเห็นวันนั้นเขาเข้าใจเธอผิดไปเองหรือไม่ หลังจากทะเลาะกับความรู้สึกตัวเองอยู่นานภวินทร์ตัดสินใจที่จะลองทำความรู้จักกับผู้หญิงที่เข้ามาปั่นป่วนในใจเขาตลอดช่วงสองเดือนมานี้ดูสักครั้ง แต่ปัญหาติดอยู่ตรงที่เขาพูดไม่ดีกับเธอไว้เยอะจึงคิดไม่ออกว่าจะควรเริ่มต้นยังไงดี
“ฟ้าพี่มีอะไรจะรบกวนหน่อย”นรินเลขารุ่นพี่ถามพราวฟ้าขณะนั่งทำงานอยู่
“พี่รินจะให้ฟ้าทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ”
“พี่จะรบกวนให้ฟ้าเอาเอกสารไปให้บอสเซ็นที่บ้านหน่อย วันนี้บอสไม่เข้าบริษัทพี่ต้องใช้เอกสารด่วน วันนี้งานยุ่งมากพี่ปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลยไปกับรถตู้บริษัทได้มั้ยจ๊ะ”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ”
พราวฟ้านั่งรถตู้มากับคนขับรถของบริษัทสองคนใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านของภวินทร์ ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้านพราวฟ้าก็ใจเต้นแรง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เธอยังไม่ค่อยพร้อมที่จะเจอหน้าเขาเท่าไหร่แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้แต่บอกตัวเองว่ามันคือหน้าที่
พราวฟ้ายืนสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอดเรียกความมั่นใจให้ตัวเองก่อนจะเดินไปกดกริ่งรอเขาอยู่หน้าประตูบ้าน
บ้านของภวินทร์เป็นบ้านโมเดิร์นสองชั้นสีขาว หลังไม่ใหญ่นักแต่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบแต่หรู ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้เป็นโทนเดียวกันตั้งแต่รั้วบ้าน สวนและตัวบ้าน ทำให้มองดูแล้วสบายตาและน่าหลงใหล
งานแต่งของภวินทร์และพราวฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมของภวินทร์ มีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง คืนวันอันแสนสุขของทั้งคู่ได้เริ่มต้นขึ้นนับจากวันแต่งงานจนถึงตอนนี้ ภวินทร์นั่งไขว่ห้างมองรูปวันแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข เขาเหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วจึงลุกขึ้นใส่สูทและเดินไปเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจก ก่อนจะเดินมาหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่เดินออกจากห้องทำงานไปภวินทร์มาหยุดยืนอยู่หน้าแบคดรอปขนาดใหญ่และยืนอ่านข้อความบนนั้นพลางยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องจัดงานที่มีพอใจและอคิณนั่งรออยู่ก่อนแล้ววันนี้เป็นวันเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของพราวฟ้าภรรยาสุดที่รักของเขา ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้ครึ่งปีแล้วหลังแต่งงานพราวฟ้าก็ยังขยันทำงานหมือนเดิม ช่วงนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของเธอเพราะหนังสือที่เธอแต่งแต่ละเล่มกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายๆเรื่องก็ได้เอาไปทำเป็นละครและภาพยนตร์เธอจึงมีหน้าที่ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการเป็นนักเขียนบท ตอนนี้เธอถือเป็นนักเขียนคิวทองคนหนึ่งไม่ว่าจะไปออกรายการไหนก็เรตติ้งดี จะ
พราวฟ้าและภวินทร์เดินเที่ยวจนทั่วงานเธอเดินเข้าซุ้มนั้นออกซุ้มนี้อย่างมีความสุข ภวินทร์เองก็ตามใจแฟนสาวเต็มที่ไม่ว่าเธออยากเล่นอะไรก็สนับสนุนทุกอย่าง แค่เห็นเธอมีความสุขก็ทำให้เขาพลอยยิ้มได้ไปด้วย"กินเหมือนเด็กเลยนะลืมแล้วรึเปล่าว่าตัวเองอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะครับคุณแฟน"เขาแซวเธอเมื่อเห็นเธอยืนกินสายไหมฟูฟ่องอย่างมีความสุข"ก็ยังไม่แก่ขนาดอายุสามสิบสี่เหมือนคนแถวนี้นะคะ"เธอว่าเขาคืนบ้าง"อื้ม อร่อย"ภวินทร์ก้มลงไปกินสายไหมอันเดียวกับพราวฟ้าจนปากเกือบจุ๊บกัน"พี่วิน!!ทำอะไรแบบนี้คะ อายคนอื่นเค้า""ใครอยากว่าพี่แก่ก่อนล่ะ ไม่จุ๊บโชว์ก็ดีแค่ไหนแล้ว""ถึงแก่ก็รักนะคะ"พราวฟ้าพูดเอาใจแฟนหนุ่มจนเขายิ้มกว้างอย่างพอใจ"พี่วินทางนั้นมีรำวงด้วยค่ะฟ้าอยากไปรำวง""ไม่ดีมั้ง ไปดูลิเกกับป้าดาดีกว่า"ถ้าเป็นกิจกรรมอื่นๆภวินทร์พร้อมเล่นกับแฟนสาวอย่างเต็มที่แต่นี่เป็นการฟ้อนรำซึ่งเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะที่เขาไม่ชอบที่สุด พราวฟ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มไม่ถนัดการเต้นหรือฟ้อนรำแต่เธออยากให้เขาลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง"นะคะกลับบ้านไปฟ้าจัดให้ชุดใหญ่เลยดีมั้ยคะ"พราวฟ้าออดอ้อนแฟนหนุ่ม เมื่อได้ยินคำว่าชุดใหญ่จากเธอ
พรุ่งนี้เป็นวันจัดงานประจำปีที่บ้านของลุงศักดิ์และป้าดาเวลาหนึ่งปีผ่านไปเร็วมากเผลอแป๊บเดียวภวินทร์และพราวฟ้าก็คบหาดูใจกันได้ปีกว่าแล้ว ปีที่แล้วทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวงานประจำปีที่บ้านคุณลุงคุณป้าปีนี้ทั้งสองคนจึงตั้งใจมารำลึกความหลังที่นี่และถือโอกาสมาแจ้งข่าวดีกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านด้วยเมื่อรถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านภาพที่คุ้นตาที่ลุงศักดิ์กับป้าดามายืนรอต้อนรับทั้งสองคนอยู่ ภวินทร์ก้าวลงจากรถไปสวัสดีทั้งสองท่านก่อน เพราะพราวฟ้ามัวแต่เก็บของอยู่ในรถ"แล้วหนูฟ้าจะมากี่โมงน่ะแม่ ได้ถามหลานหรือเปล่า"ลุงศักดิ์ถามป้าดา"เอ๊ะ เห็นว่าจะมาถึงช่วงบ่ายๆเหมือนกันนะฉันก็ไม่ได้ถามเวลายัยหนู โทรหาสักหน่อยดีกว่า""ไม่ต้องโทรหรอกครับ อีกเดี๋ยวก็มาแล้ว"ภวินทร์ห้ามคุณป้าไว้ก่อนที่เธอจะกดโทรออก ท่าทางยิ้มแย้มของเขาทำให้ลุงกับป้างงไปตามๆกัน เพียงครู่เดียวพราวฟ้าก็ก้าวขาลงจากรถของภวินทร์ทำให้ทั้งสองท่านร้องอ๋อพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้กัน ฟิล์มกระจกรถของภวินทร์ค่อนข้างมืดจึงทำให้ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นอีกคนที่ก้มเก็บของอยู่ในรถ"คุณลุงคุณป้าสวัสดีค่ะ"พราวฟ้าเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนภวินทร์ดึงพราวฟ้า
หลังจากส่งคุณนายนภาที่ร้านทำผมแล้ว ภวินทร์ขับรถพาพราวฟ้ามาที่ร้านตัดชุดเพื่อลองชุดราตรีสำหรับออกงานคืนนี้ตามที่แม่ของเขาบอกไว้ พราวฟ้าหายเข้าไปในห้องลองชุดครู่ใหญ่ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดเดรสยาวเปิดไหล่สีฟ้าพาสเทล พร้อมกับทรงผมมัดมวยต่ำปล่อยปอยผมด้านหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นคอยาวระหงและไหล่ขาวเนียน พราวฟ้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภวินทร์และรอฟังความคิดเห็นจากเขาเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกลางคืนบ่อยนักจึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ภวินทร์กลับนั่งมองพราวฟ้านิ่งไม่พูดไม่จา"พี่วินเป็นยังไงบ้างคะ แบบนี้โอเคมั้ย"เสียงของพราวฟ้าทำให้ภวินทร์ตื่นจากภวังค์"เมื่อกี้ฟ้าว่าอะไรนะ""พี่วิน ไม่ยอมฟังฟ้าเลยใจลอยไปไหนคะ ฟ้าถามว่าแบบนี้โอเคมั้ย"พราวฟ้าบ่นแฟนหนุ่มภวินทร์คิดในใจว่าใจลอยไปถึงวันแต่งงานของเรานั่นแหละ ก็แฟนสาวของเขาใส่ชุดนี้แล้วสวยเหมือนเจ้าหญิงหลุดออกมาจากเทพนิยายจนทำให้เขาตกตะลึง ยังมาบ่นอีกว่าเขาใจลอยไปไหน"สวยกว่านี้ก็นางฟ้าแล้วครับ แต่ผมว่ามันสวยเกินไปมั้ยครับ ผมหวง"ภวินทร์หันไปบอกพี่ๆช่างที่ยืนรอฟังคำแนะนำอยู่ว่าจะให้แก้ไขตรงไหน"ก็แฟนคุณวินสวยขนาดนี้จะให้พวกพี่แต่งยังไงให้ไม่สวยได้ล่ะคะ แค่หน
"ตื่นเต้นมั้ย"ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินทางกลับบ้านพ่อแม่ของเขา"ตื่นเต้นสิคะ""ทำใจให้สบายๆนะ ไม่ต้องกังวลอะไร พ่อพี่ใจดีกว่าแม่อีก ผ่านด่านคุณนายนภามาได้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"ภวินทร์พยายามให้กำลังใจพราวฟ้าไม่ให้เธอตื่นเต้น"ค่ะ"ผ่านเวลามาเป็นเดือนแล้วหลังจากที่คุณนายนภามาลองใจลูกสะใภ้ ตั้งแต่คุณนายนภากลับบ้านไปก็วิดีโอคอลหาพราวฟ้าแทบทุกวัน จนตอนนี้เธอกลายเป็นลูกรักคนใหม่แทนภวินทร์ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพราวฟ้าก็ยังประหม่าอยู่ดีเพราะไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอผู้ใหญ่ ลำพังแค่พ่อแม่ของภวินทร์เธอไม่ได้หนักใจอะไรแต่สิ่งที่เธอกังวลคือคนรอบข้างคนอื่นๆ เพราะกลัวคนอื่นจะมองเธอว่าเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆที่ใฝ่สูงมาคบกับเจ้าของบริษัทอย่างภวินทร์ทันทีที่รถของภวินทร์แล่นเข้ามาจอดในบ้านทั้งคู่ก็เห็นพ่อแม่ของภวินทร์มายืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว พราวฟ้าสูดหายใจเข้าลึกเต็มปอดเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้ตัวเอง พร้อมกับบอกตัวเองว่าให้สู้ๆ ทำเอาภวินทร์หลุดเขากับท่าทางของเธอเพราะท่าทางเธอตอนนี้เหมือนกำลังจะไปออกรบมากกว่ามาบ้านแฟน"ยัยเด็กบ๊องเอ๊ย ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น ไปหาคุณพ่อคุณแม่กัน"ภวิน
“อื้อ พี่วินฟ้ายังไม่อยากกลับ อยากดื่มต่อ”พราวฟ้าบอกภวินทร์หลังจากเขาพาเธอเข้ามานั่งในรถแล้ว“เมาขนาดนี้ยังจะดื่มอีก”“ม่าย เมา”พราวฟ้าบอกแฟนหนุ่มและพยายามจะเปิดประตูรถลงไปข้างล่าง จนภวินทร์ต้องรีบคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอและก้มหน้าลงไปจุ๊บเด็กดื้อหนึ่งที“ฟ้า อย่าดื้อ งั้นกลับไปดื่มต่อที่บ้านโอเคมั้ย”“ก็ได้ แต่ขอจุ๊บอีกทีก่อน”ครั้งนี้เป็นพราวฟ้าที่คล้องคอเขาและดึงภวินทร์เข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม“ทำแบบนี้ระวังคืนนี้ไม่ได้นอนนะ”ภวินทร์บอกหญิงคนรักหลังจากถอดถอนริมฝีปากจากปากเธอและรีบขับรถออกจากร้านทันที ตอนนี้เลือดในกายเขาสูบฉีดแรงมาก เจ้าลูกชายที่เคยหลับใหลเมื่อได้สัมผัสกับรสจูบของพราวฟ้าก็ตื่นขึ้นมา ขยายใหญ่จนแทบจะทะลุกางเกงออกมา ใจจริงเขาอยากจะจับเธอกระแทกในรถตอนนี้เลยด้วยซ้ำแต่ต้องข่มใจตัวเองไว้รีบขับรถกลับบ้านให้เร็วที่สุดแม่แมวน้อยของเขาหลังจากที่ยั่วยวนเขาเสร็จก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เขานั่งอดทนปวดหนึบอยู่คนเดียว“ฟ้าตื่นได้แล้วถึงบ้านแล้ว”ภวินทร์เขย่าตัวพราวฟ้าเบาๆเพื่อให้เธอตื่น“อื้อ ถึงเร็วจังยังนอนไม่อิ่มเลย”พราวฟ้าที่มีสติขึ้นมาบ้างแล้วบ่นพึมพำ“ถึงเร็วที่ไหนพี่ทรมานจะแย่