แปดนาฬิกาของเช้าวันเสาร์ เขมราชนั่งรอปารดีอยู่ที่โต๊ะอาหาร ปกติทุกวันหยุดเขาจะเป็นคนทำอาหารเช้าเอง ซึ่งเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนเรื่องงานบ้านก็เป็นหน้าที่ของปารดี เพราะบ้านของเขาไม่มีแม่บ้านประจำเขาเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะรักความเป็นส่วนตัว เมื่อก่อนงานบ้านมีเวลาก็ทำหรือไม่ก็จ้างพนักงานทำความสะอาดจากบริษัทรับทำความสะอาดแบบรายวัน แต่พอปารดีมาอยู่ด้วย เธอช่วยเบาแรงเขาไปได้เยอะ ทุกวันหลังเลิกเรียนกลับมาเธอก็มักจะทำนู่นทำนี่โดยที่เขาไม่เคยต้องออกคำสั่ง เธอเป็นเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร จะว่าไปเธอกับเขาเรียกว่าอยู่กันแบบพี่น้อง (ที่อายุห่างกันมากกก) เลยก็ว่าได้
"มอนิ่งค่ะ"
"ไง วันนี้ตื่นสายหรอเรา" เขมราชเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าปารดีเดินลงบันไดตรงมายังที่ตัวเองนั่งอยู่ ก่อนที่หล่อนจะค่อยๆเดินมาจุ๊บที่ข้างแก้มของเขาหนึ่งที
'เนี่ย เป็นซะอย่างเนี้ยยัยเด็กดื้อเอ้ย! แล้วใจเขามันจะไม่อ่อนปวกเปียกเพราะเธอไปได้ยังไงกัน คนแก่ก็มีหัวจิตหัวใจนะเว้ยเฮ้ย เดี๋ยวเขาก็ได้ตบะแตกเข้าซักวัน'
"ค่ะ เมื่อคืนเเป้งนอนดึก มัวแต่ดูซีรี่ย์" ปารดีพูดโดยไม่มองหน้าเขาก่อนจะหันไปหยิบขนมปังขึ้นมากัด
"เพลาๆลงบ้างเถอะซีรี่ย์เราน่ะ จะสอบอยู่อีกไม่กี่เดือนแล้วนะ ยังต้องมาให้คอยให้บอกอีก แก่แล้ว!! " ปารดีได้ฟังถึงกับสำลักซุปออกมาทันควัน ทำเอาเขมราชถึงกับหลุดขำ
"พี่เขมอ่า!! แป้งยังไม่แก่ซักหน่อย พูดอะไรเนี่ย ตัวเองแก่ก็แก่ไปคนเดียวสิคะ" ปารดีหันมากระเง้ากระงอด
"ใครบอกว่าพี่แก่ แบบนี้เขาเรียกกำลังมันส์น้อง"
"ชิ จะสี่สิบอยู่อีกไม่กี่วันเนี่ยนะหลงตัวเองชัดๆ"
"อะไรๆพี่พึ่งสามแปดจะเข้าสามเก้าเอง สี่ซงสี่สิบอะไรกัน พูดจาไม่น่ารักเลย แล้วอีกอย่างมันก็ช่วยไม่ได้ที่คนมันดูดีอ่ะนะ ถึงไม่หลงตัวเองก็มีสาวๆมาให้หลงอยู่ดี"
"พอเลยๆค่ะแป้งเบื่อต้องฟังพี่เขมชมตัวเองละ วันนี้พี่เขมอยู่บ้านว่างไม่ได้ไปไหนใช่มั้ยคะ"
"ใช่ ทำไม เรามีอะไร" เขมราชหันไปมองหน้าคนถามราวกับว่าไม่ไว้วางใจ
"พี่เขมช่วยพาแป้งไปซื้อชุดหน่อยสิคะ เดือนหน้าวันเกิดพี่เขมจะไปทะเลแล้วแป้งยังไม่มีชุดสวยเลยค่ะ" ปารดีทำเสียงออดอ้อนก่อนจะพิงศรีษะมาซบที่ไหล่แกร่ง
"อะไรกัน โตแล้วก็หัดไปเองบ้างสิ นี่ยี่สิบสองแล้วนะไม่ใช่เด็กแปดขวบ"
"ก็ปกติพี่เขมก็เป็นคนพาแป้งไปซื้อของเองมาตลอดตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่คะ แป้งอยากไปเดินช้อปปิ้งกับพี่เขมค่ะ ให้พี่เขมช่วยเลือก นะคะ พลีสสสส"
มือเรียวเล็กยกมือเขาขึ้นมากอบกุมแล้วเอาไปแนบแก้ม ก่อนที่ดวงตากลมโตจะทำท่ากระพริบปริบๆ ทำเอาใจเขาที่พึ่งหายสั่นจาก 'มอร์นิ่งคิส' ของเธอไปเมื่อตะกี้กลับเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้งจนเขาต้องรีบชักมือกลับแทบไม่ทัน ขืนปล่อยยัยเด็กดื้อแตะต้องเนื้อตัวเขาต่อไป มีหวังหัวใจวายก่อน เขมราชจึงต้องรีบทำลายบรรยากาศด้วยการตกลงที่จะพาเธอไป และก็เป็นอย่างนี้เสมอมาที่เขาไม่เคยสามารถปฏิเสธเธอได้
"งั้นอีกสี่สิบนาทีออกจากบ้านนะชักช้ามีเปลี่ยนใจ"
"สี่สิบนาที!! ใจร้ายจัง" ริมฝีปากบางทำท่าบิดเบี้ยว เพราะปกติเวลาเธอจะออกไปไหนก็ต้องเผื่อเวลาไว้หนึ่งชั่วโมงนี่คือเร็วสุดแล้ว แต่นี่เขาให้เธอสี่สิบนาทีอะไรกัน
"หนึ่งชั่วโมงนะคะพี่เขมขา" ปารดีเริ่มต่อลอง
"สี่สิบห้านาที จบ ถ้ามากกว่านั้น ไปเอง" เขมราชยื่นคำขาด ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ยัยเด็กดื้อก็รีบวิ่งปรืดขึ้นไปชั้นบนโดยที่ยังเล็มขนมปังไปไม่ถึงครึ่งแผ่น จนนึกแล้วก็อดขำไม่ได้
ที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อดังใจกลางเมือง ปารดีใช้เวลาในการเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ ครั้งนี้เขาตกลงว่าจะเป็นคุณป๋าใจป้ำในการจ่ายค่าชุดสวยๆเหล่านั้นให้เธอเอง แม่ตัวดีจึงดี๊ด๊าไม่ยอมหยุด พอเห็นเธอมีความสุขเขาเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่สงสัยปารดีคงจะลืมอะไรไปว่านี่มันปาเข้าไปสามชั่วโมงกว่าแล้วยัยเด็กดื้อก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบจนเขาต้องเดินเข้าไปถาม
"พอได้หรือยังเราน่ะ เห็นมีคนเปย์หน่อยละเอาใหญ่เลยนะ กะว่าจะให้พี่หมดตัวลงตรงนี้เลยใช่มั้ย" เขมราชแกล้งแหย่คนตรงหน้าที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปยังอีกร้านหนึ่งซึ่งคราคร่ำไปด้วยของลดราคา
"แหะๆ พอก็ได้ค่ะ แต่ว่ายังเหลือของจำเป็นอีกอย่างหนึ่งค่ะพี่เขม ลดราคาวันสุดท้ายแล้ว พี่เขมตามมาค่ะ"
ว่าจบเธอก็เดินนำหน้ากึ่งลากจูงมือเขาเข้าไป แต่ที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าก็คือ มันเป็นแผนกชุดชั้นในสตรี ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยมาหรืออะไร พาคู่ขาคู่ควงมาซื้อก็ออกจะบ่อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร คงเป็นเพราะเคยเห็นกันมาหมดแล้วก่อนที่จะลากให้เขาพามาซื้อของใช้ส่วนตัวแบบนี้ได้ ต่างจากกับปารดี เพราะถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องพาเธอมาเลือกชุดชั้นในหลังจากที่แอบคิดไม่ดีไม่ร้ายกับเธอมาถึงสองปี ไม่อยากจะคิดเลยว่าการที่ปารดีให้เขาพามาเลือกชุดชั้นใน เขาจะต้องประสพพบเจออะไรบ้างในการจินตนาการว่าเหล่าพวกชุดชั้นในเหล่่านั้นเวลามันอยู่บนตัวเธอจะดูดีขนาดไหน
ปารดีเดินนำเข้าไปก่อนโดยที่เขาเลือกที่จะนั่งรออยู่ที่โซฟารับรองสำหรับลูกค้าที่อยู่บริเวณโซนด้านหน้าของร้าน ถึงแม้จะพยายามบอกตัวเองว่าให้หยุดโฟกัสไปที่ร่างเย้ายวนตาของเธอซักที แต่สมองกลับยิ่งสั่งให้สายตาของเขาจับจ้องมองเธออยู่ทุกฝีก้าว
ถึงแม้ว่าจิตใต้สำนึกจะกำลังตีกันอยู่ และดูเหมือนว่าความมืดดำชั่วร้ายภายในจิตใจของเขาจะชนะ เพราะหลังจากที่คอยจับตามองชุดชั้นในทุกชุดที่ปารดีเลือก เขาก็อยากที่จะเสนอตัวเข้าไปช่วยเธอเลือกเสียเองแทบใจจะขาด อยากเห็นอยากจินตนาการว่าเวลาเธอใส่มันแล้วจะเป็นอย่างไร
ก่อนที่เธอจะเดินหายเข้าไปในห้องลอง เขาแอบเห็นเธอหยิบชุดลูกไม้สุดเซ็กซี่สีแดงเพลิงแบบที่เขาชอบติดมือเข้าไปด้วย ได้เห็นแค่นี้ใจเขาก็เต้นรัวแล้ว เธอจะเซ็กซี่ขนาดไหนกันยามที่สวมใส่มัน กำลังคิดเรื่องเธออยู่ในจินตนาการพลันก็มีเสียงของพนักงานขายเดินมาบอกกับเขาว่า
"รบกวนคุณผู้ชายเข้าไปช่วยคุณน้องผู้หญิงดูชุดที่เธอกำลังลองหน่อยได้มั้ยคะ เห็นเธอบอกว่าคุณเป็นผู้ปกครองของเธอ เธออยากให้คุณช่วยตัดสินใจน่ะค่ะ"
'ชิ...หาย!! เอาแล้วไง'
ปารดีลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นเวลาแปดโมงเช้า แสงแดดที่สาดส่องทะลุผ้าม่านเข้ามาก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการนอนต่อของปารดีได้ หากแต่เป็นบางสิ่งที่กำลังขยุกขยิกอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นต่างหาก ท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครา เนื่องด้วยเธอนั้นรู้สึกว่าใจกลางความเป็นสาวกำลังถูกรุกราน ดอกไม้ กลีบดอกไม้ และเกสรของมันกำลังถูกดูดเลียอีกครั้งอย่างช้าๆ จนปารดีอดครางออกมาเพราะความเสียวไม่ได้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นต่อให้ไม่ต้องเปิดผ้าห่มออกดูก็รู้ได้ว่า 'ใคร' กำลังทำอะไร"อ๊ะ อ๊า เสียวค่ะ" ปารดีกัดฟันร้องครางเสียงเบาก่อนจะอ้าขาออกให้กว้างขี้นอีกพร้อมทั้งแอ่นโหนกนูนๆ กระดกขึ้นรับลิ้นร้อนที่เวลานี้กวาดกวัดที่กลางกลีบเกสรของเธออย่างชำนาญการจนสะโพกงามต้องหมุนส่ายร่อน"ตื่นขึ้นมาเลีย...ตั้งแต่เช้าแบบนี้ หิวอีกแล้วหรอคะผัวขา แป้งนึกว่าพี่เขมกินจนอิ่มไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเสียอีก" ไม่มีคำตอบสำหรับคำถาม มีเพียงก็แต่ความรู้สึกเสียวซ่านเท่านั้นที่กำลังตามมา เพราะหลังจากที่ปารดีพูดจบ ดอกไม้งามของเธอก็ถูกตอกอัดเข้ามาด้วยท่อนเอ็นอุ่นร้อนทันที ขาเรียวงามทั้งสองข้างของเธอถูกเขายกขึ้นไปพาดไว้บนไหล่แข็งแรงทั้งสองข้างพร้อ
เขมราชที่ยืนซี้ดปากตัวเกร็งไปด้วยความเสียวซ่าน ก้มมองดูเรือนร่างเซ็กซี่ขาวโพนของปารดีในท่าคลานเข่ากำลังดูดกลืนตัวตนของเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กๆ กวาดเลียไปทั่วท่อนเอ็นที่เวลานี้ตั้งเด่ชูชัน รสชาติของไวน์ไหลชโลมไปทั่วทั้งขา ไม่มีบริเวณไหนที่จะรอดพ้นเรียวลิ้นของเธอไปได้ กรามแข็งแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนพร้อมด้วยเสียงซู้ดซ้าดในลำคอ ริมฝีปากหนาถูกกัดจนมิดรอยฟันเพื่อระบายความเสียวซ่าน"อ้าาา แป้งพี่จะไม่ไหวแล้วที่รัก" ยิ่งปารดีเร่งจังหวะ ต้นขาแกร่งก็ถึงกับต้องเกร็งตาม ศรีษะทุยงามถูกเขมราชกดกระแทกน้อยๆ อย่างเอาแต่ใจแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ปารดีหยุดชะงักลง มีแต่ยิ่งดูดดึงแน่นขึ้นจนในที่สุดเขมราชก็ไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้ต่อไปอีก จึงต้องปลอดปล่อยความขาวขุ่นข้นให้ออกมาเต็มปากเล็กจนไหลเยิ้มหยดย้อยลงไปตามลำคอลามไปถึงหน้าอก ปารดียกมือขึ้นมาเช็ดขอบปากก่อนจะแลบลิ้นเลียไปรอบๆ"ไวน์ที่พี่เขมซื้อมาเมื่อวันก่อน รสชาติดีจริงๆ ค่ะ""งั้นเหรอ..แน่ใจนะว่าหมายถึงไวน์" เขมราชทำท่าเหล่ตามองยัยเด็กดื้อที่พึ่งกลายร่างเป็นสาวร้อนแรงไปหมาดๆ"วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้ทำราวกับว่าจะกลืนกินพี่ลงไปเสียอย่างนั้น"
หลังจากจัดการเคลียร์เรื่องเอกภพกับนิชากรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขมราชได้มีโอกาสขอบคุณ ขอโทษและปรับความเข้าใจกับคริสเตียนเสียใหม่ เขาต้องยอมรับว่าถ้าวันนี้คริสเตียนไม่ไปพาเอกภพซึ่งเป็นเพื่อนของเขาและมันก็เลือกที่จะปิดปากเงียบมาตลอดมา เรื่องมันก็คงจะวุ่นวายไปไกลกว่านี้เป็นแน่ ถึงตอนนี้ตัวเขาเองคงจะต้องเซ็นสัญญาสงบศึกกับคริสเตียนเอาไว้ก่อนแล้วล่ะ เรื่องราวต่างๆ มันก็ดูท่าจะจบลงและเป็นไปได้ในทางที่ดี แต่จะมีก็เพียงแค่อย่างเดียวที่ตั้งแต่ตอนเย็นนิชากรมาที่บ้านจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ปรับความเข้าใจด้วยเลยก็คือ 'เมีย' นี่แหละ พอเขาเดินออกไปส่งคริสเตียนที่รถแล้วเธอก็อันตธานหายไปเลยเขมราชเดินขึ้นบ้านมา มองหาปารดีแต่ก็ไม่พบ ภายในห้องเวลานี้เขาได้กลิ่นเทียนหอมที่ปารดีชอบจุดเวลาอาบน้ำลอยอบอวลอยู่ ภายในห้องน้ำมีเสียงน้ำไหลพร้อมด้วยเสียงเพลงที่เปิดคลออยู่เบาๆ เขาคิดว่าปารดีคงกำลังอาบน้ำอยู่เป็นแน่ ก็คงจะดีถ้าเขาเข้าไปง้อเธอในเวลานี้ เพราะปารดีคงเริ่มจะใจเย็นลงบ้างแล้ว เขมราชจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ หวังจะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยและปรับความเข้าใจกันทันทีที่เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำเข้า
"ที่รักพี่กลับมาแล้ว"เขมราชเดินตรงเข้ามาในบ้านก่อนจะมองหาเจ้าของเรือนร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้นอนกกกอดทุกคืนเหมือนอย่างเคย หลังจากเลิกงานเขาจะรีบตรงกลับบ้านทันทีไม่มีอยากวอกแวกไปไหนเลยเพราะว่าคิดถึงเมีย พอมาถึงบ้านก็จะเห็นปารดียืนทำกับข้าวรอเขาอยู่ทุกวัน ปารดีเรียนจบแล้วและบ่นว่าอยากเริ่มทำงานแล้วแต่ตัวเขาเองยังอยากเก็บเธอไว้ขย้ำเล่นที่บ้านอีกหน่อยก่อนจึงยังไม่ได้อนุญาตให้เธอออกไปทำงาน อีกอย่างถ้าปล่อยให้ปารดีไปทำงานเขากลัวว่าพวกหนุ่มๆ จะมาแอบเหล่มองเมียเขา เขาหวงชีวิตของเขาช่วงนี้นับว่ากำลีงมีความสุขและแฮปปี้มาก ยังกับว่ากำลังใช้ชีวิตเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามัน มันทำให้ทุกๆ วันของเขาดูกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะ และวันนี้เขาแอบไปรับแหวนเพชรที่แอบไปสั่งทำไว้มา เพื่อจะใช้ขอปารดีแต่งงาน อีกไม่นานเขาจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง เขาพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตเริ่มนับหนึ่งไปด้วยกันกับเธอเขมราชเดินตรงเข้าไปในครัว ก่อนจะเดินเข้าไปกอดหมับเข้าที่เอวบาง แต่เขาก็ต้องรีบผงะออก เพราะกลิ่นน้ำหอมแปลกๆ ที่ฉุนจนเตะจมูก เขารู้สึกคุ้นๆ กับน้ำหอมกลิ่นนี้แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยได้กลิ่นจากที่ไหน แต่ไม่ใช่กลิ่นที่ปารดียัยเด็กแสบข
"สวัสดีจ๊ะทุกคน อยู่กันพร้อมหน้าเชียว" นิชากรเอ่ยทักขึ้นก่อนจะค่อยๆ เอากระเป๋ามาวางเรียงกันทีละใบโดยไม่ได้มีการบอกกล่าวแม้แต่ปารดีที่ยืนอยู่ตรงนั้นแต่อย่างใด ว่าเพราะเหตุใดเธอจึงทำราวกับว่ากำลังจะย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไงอย่างงั้น"นี่พี่นิคกี้จะขนกระเป๋าไปไหนหรอครับ" คริสเตียนรอดูไม่ไหวจึงได้เอ่ยทักขึ้น"อ๋อน้องคริสคงยังไม่รู้ พอดีว่าพี่กับพี่เขมตอนนี้เราตกลงที่จะกลับมาคบกันแล้วน่ะจ๊ะตั้งแต่...ที่เกาะ พี่ก็เลยต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อที่จะได้คอยดูแลเขมเขาได้ง่ายขึ้นน่ะจ๊ะ" นิชากรเอ่ยตอบคริสเตียนไปแต่ก็มิวายหันไปทางปารดีที่ยืนมองอยู่"ขอโทษนะน้องแป้งที่พี่มาแบบปุบปับ แต่คิดว่าเขมคงบอกเรื่องนี้กับน้องแป้งแล้วล่ะใช่มั้ยจ๊ะพี่ว่า" ปารดีซึ่งยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ ในขณะที่สองพี่น้องผู้มาเยือนก็กำลังงงงวยกับข้อมูลที่พึ่งจะได้รับ เพราะว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรกันกับสิ่งที่นิชากรพูด ก็ในเมื่อคริสเตียนเองนั้นรู้ดีว่าคืนนั้นคนที่อยู่กับนิชากรคือใครและเขมราชนั้นอยู่กับใคร เพราะเขาตามไปเจอจนแน่ใจได้เลยว่าเขมราชไม่ได้อยู่กับนิชากรแน่ๆคืนนั้นหลังจากที่เขมราชลากตัวปารดีออกไป ตอนแรกเขาก็กะว
หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นและเรียบร้อยเป็นไปด้วยดี ทุกๆ คนก็ได้พากันเดินทางกลับกรุงเทพเพราะว่างานที่ต้องทำก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่ที่หน้าแปลกก็คือนิชากรซึ่งยังคงแวะเวียนมาหาเขมราชอย่างไม่ขาดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มิหนำซ้ำเธอยังมีท่าทีแปลกๆ กับเขาเข้าไปอีก โดยเธอพยายามจะทำตัวใกล้ชิดเขาอย่างออกนอกหน้า จนหลายครั้งหลายคราที่ทำให้เขาเริ่มจะมีปัญหากับปารดี และยิ่งพอนานๆ เข้าเขมราชก็ชักเริ่มจะอึดอัดถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของนิชากรมากขึ้น เขาจึงเริ่มอยากจะพูดคุยกับเธออย่างจริงจังและตรงไปตรงมา อยากถามหาสาเหตุว่าเหตุใดเธอจึงปฏิบัติตัวกับเขาเยี่ยงนี้ หรือช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะตัวเขานั้นได้มีท่าทีอะไรที่เผลอไผลแสดงออกไปให้เธอได้เข้าใจผิดทำให้คิดเกินเลยไปหรือไม่ วันนี้เขาน่าจะเคลียร์กับเธอเลยให้รู้เรื่อง เขาไม่อยากทำให้ปารดีต้องไม่สบายใจอีก ยิ่งช่วงนี้ยัยเด็กดื้อยิ่งรู้สึกว่าจะขี้งอแงเป็นพิเศษด้วยเขาก็ยิ่งอยากจะเคลียร์ให้มันจบๆ ไป"เขมคะ นิคกี้ถามจริงๆ เถอะค่ะ เขมเป็นอะไรของเขมคะ ทำไมถึงได้ทำท่าเหมือนกับรำคาญนิคกี้ตลอดเลย" นิชากรเองก็อยากรู้ถึงสาเหตุเช่นกัน จึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมาทันทีโดยไม่ต้องรอ