ขณะนี้นาฬิกาบอกว่าเป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้วแต่เขมราช ธาราวัฒน์ เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอันทรงเสน่ห์ในวัยย่างสามสิบเก้าปีก็ยังคงไม่สามรถทำใจให้เข้านอนได้ สายตาคมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา แสงโคมไฟจากหัวเตียงสาดส่องนวลตาให้ความอบอุ่น หากแต่ใจเขาเวลานี้กลับรุ่มร้อนด้วยความทรมานเมื่อภาพที่เห็นอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอนของ ปารดี เด็กในความปกครองของตัวเอง ซึ่งมันถูกซุกซ่อนไว้อย่างนี้มาเป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว
กิจวัตรประจำวันของเขมราชในทุกๆคืนก่อนเข้านอนนั้นคือการนั่งดูปารดีทำกิจกรรมส่วนตัวผ่านหน้าจอนี้ เขารู้ว่าการกระทำเช่นนี้เลวร้ายนัก เพราะมุมกล้องที่จับภาพนั้นคือภาพบรรยากาศภายในห้องนอนของเธอ ตั้งแต่หน้าประตูห้องน้ำยันเตียงนอน และแน่นอนว่าเขาสามารถเห็นเธอได้จากทุกซอกทุกมุมและทุกๆกิจกรรมที่เธอทำอยู่ภายในห้องนั้น
เขมราชรู้ดีว่าหากวันใดวันหนึ่ง ปารดีเกิดมารับรู้เข้าว่า 'พี่เขม' ผู้ชายที่แสนดีในสายตาเธอทำเรื่องแบบนี้ เขาคงจะต้องถูกเธอกล่าวหาว่ามีปัญหาทางจิตแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงตัวเขาเองรู้ดีว่ามันไม่ใช่ มันมีความรู้สึกที่เขามีให้เธอมากกว่านั้น แต่เนื่องจากสถานะระหว่างเขากับเธอ ทำให้เขาไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเธอออกมาได้ นับวันเขายิ่งทรมานด้วยความรู้สึกที่มันเอ่อล้น จึงได้แต่หาทางที่จะได้ปลดปล่อยมันออกมาแม้รู้ตัวดีว่าไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็ตาม
อันที่จริงจะว่าไปมันก็ไม่เชิงว่าเขาเป็นคนรับเลี้ยงอุปถัมภ์เธอเสียทีเดียวตั้งแต่ทีแรก หากแต่เป็นคุณย่าของเขาต่างหากที่อยากจะมีหลานสาว จึงได้ไปรับอุปการะเธอมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ตั้งแต่เธออายุได้เพียงสองขวบ กระทั่งปารดีอายุได้เจ็ดขวบคุณย่าเขาก็ได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้นหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบในชีวิตเธอทุกอย่างจึงตกลงมาที่เขาทั้งหมด จนกระทั่งบัดนี้ปารดีอายุยี่สิบสองปีเต็มแล้วและกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้าย
เด็กในปกครองของเขาในวัยยี่สิบสองเติบโตมาด้วยความงามสะพรั่งของสตรีเพศอย่างครบถ้วน ทรวดทรงองเอวอวบอัดและสะโพกงามงอนนั่นทำเอาเขาตกตะลึงมาหลายต่อหลายที ผิวเนียนละเอียดขาวราวกับเด็กทารก เนื้อตัวเธอหอมยั่วยวนอารมณ์บุรุษเพศเช่นเขาทุกครายามเธอเยื้องย่างผ่านเข้ามาอยู่ใกล้ๆ
และเนื่องจากว่าอยู่ด้วยกันมานาน ปกติปารดีเองก็เป็นคนสนุกสนามร่าเริงแถมยังขี้อ้อนมาตั้งแต่เด็กๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักจะเกิดการแตะเนื้อต้องตัวกันมาตลอด เธอมักจะเข้ามากอดมาหอม ซุกเนื้อซุกตัวในอ้อมกอดเขา ซึ่งเขาไม่รู้ว่าสำหรับเธออาจจะมองมันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเขาที่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนั้นบอกเลยว่าคิดดีไม่ได้เลยจริงๆ
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอมันเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้แน่ เพราะตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาวเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยมา เขาก็ไม่เคยมองว่าเธอเป็นเด็กได้อีก ยิ่งเมื่อยัยเด็กแสบโตขึ้นก็ยิ่งแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน จนบางครั้งเขาต้องปรามไว้เสียหลายที ยิ่งเวลาตอนที่อยู่บ้านด้วยกันเขาแทบจะไม่เคยเห็นปารดีใส่เสื้อแขนขาวหรือกางเกงขายาวเลย ไม่เสื้อกล้ามสายเดี่ยวก็เสื้อยืดคอลึกตัวบาง กระโปรง หรือพวกยีนต์ขาสั้น นั่งทียืนทีมองเห็นทะลุไปถึงไหนๆ พอเขาห้ามเข้าหน่อยก็บอกว่าใส่อยู่ในบ้าน และตัวเธอเองนั้นไว้ใจเขาราวกับว่าเขาเป็นพี่ชายแท้ๆของเธอ
ถามว่าเขารู้สึกผิดมั้ยที่แอบคิดไม่ซื่อกับเธอทั้งๆที่เธอนั้นไว้ใจเขาออกปานนี้ จริงๆมันก็มี ทุกวันนี้เขาถึงไว้พยายามที่จะหักห้ามใจไม่ให้เผลอพูดหรือทำอะไรที่มันจะแสดงให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไรออกไป เพราะกลัวว่ามันจะทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ จึงได้แต่เพียงเฝ้ามองเธอและเก็บความรู้สึกนี้ไว้แต่เพียงในใจเงียบๆเท่านั้น
ภาพของหญิงสาวที่พึ่งอาบน้ำเสร็จค่อยๆปลดผ้าขนหนูลงไปกองที่พื้น จากนั้นเรือนร่างสวยงามสมส่วนของสตรีเพศค่อยๆนั่งลงไปที่ขอบเตียงใหญ่ พร้อมด้วยขวดโลชั่นทาบำรุงผิวในมือเดินมุ่งตรงไปนั่งลงยังขอบเตียง เธอค่อยๆละเลียดบรรจงทาไปทั่วๆ ทุกซอกทุกมุมของร่างกายที่กำลังเปลือยเปล่าของตัวเอง
เขมราชยอมรับเลยว่าเวลาสองปีกว่าที่แอบดูเธอมาปารดีเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมาก เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเวลาที่เธอเดินผ่านหรือเวลาที่เธอเอาตัวเข้ามาซุกซบใกล้ๆ ตัวเธอจะทั้งหอมและผิวพรรณจะขาวเนียนละเอียดขนาดนี้
หลังจากที่ค่อยๆบรรจงทาโลชั่นไปทุกซอกทุกมุมแล้ว เธอก็ค่อยๆยกเรียวขาสวยขึ้นมาข้างหนึ่งและตั้งชันเข่าไว้ ทำให้ภาพที่ปารกฏอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขมราชตอนนี้นั้นทำเอาเขมราชถึงกับยิ่งปวดร้าวใจกลางความเป็นชายเข้าไปอีก ลำคอแห้งผากก่อนที่อุ้งมือแข็งแกร่งจะค่อยๆรูดสาวลำเอ็นอวบอัดที่เวลานี้แข็งขึงตั้งชี้โด่วเด่ราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา
ริมฝีปากหนาค่อยขบเม้ม ก่อนที่ฟันขาวสะอาดเรียงสวยของเขาจะกัดเเน่นอยู่ริมฝีปาก ก่อนจะหลุดเสียงครางกระหึ่มออกมาจากลำคอ
"อ่าาาส์ แป้ง"
เขมราชจ้องมองภาพปารดีที่นั่งแยกอ้าขาอย่างตาไม่กระพริบ ทุกอริยาบทของเธอเวลาขยับเขยื้อนช่างดูเร้าารมณ์และเซ็กซี่ แถมตอนนี้เธอยังเลือกที่จะหันหน้าเข้ามาทางมุมที่มีกล้องของเขาซุกซ่อนอยู่แบบพอดิบพอดี ทำให้เขาสามารถมองเห็นกุหลาบแสนสวยซึ่งกลีบกุหลาบสีแดงสดน่าดูดเลียกินน้ำหวานได้เหมาะเจาะ
เขมราชยังคงจ้องมองภาพนั้น ก่อนจะยิ่งทำการซูมเข้าไปใกล้ๆ จากที่ปารดีกำลังลูบไล้ตัวเองด้วยโลชั่น กลับกลายเป็นว่าฝ่ามือเรียวเล็กของเธอเริ่มลูบไล้มายังกึ่งกลางกายตัวเอง ยิ่งเผยให้เห็นกลีบอวบอูบ นิ้วเรียวเล็กค่อยๆเขี่ยไปที่เม็ดติ่งแดงสด ก่อนที่เธอจะค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปภายในซอกหลืบฉ่ำแฉะ
นิ้วมือเรียวเล็กค่อยๆเริ่มขยับมันเข้าออก มืออีกข้างที่เหลือก็บีบไปที่สองเต้าอวบอัด ดวงตาโตหวานตอนนี้กำลังหลับพริ้มราวกับว่าเธอกำลังนึกจินตนาการอยู่ ริมฝีปากบางชมพูน่าจูบนั่นกัดลงไปที่ริมฝีปากล่าง ก่อนที่เธอจะค่อยๆแลบลิ้นออกมาเลียที่ริมฝีปากราวกับว่ากำลังดูดกินลำเอ็นของเขาก็ไม่ปาน
ใช่!! เธอกำลังสัมผัสและช่วยเหลือตัวเองอยู่และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอทำแบบนี้ เขมราชมองภาพนั้นพร้อมทั้งชักรูดลำเอ็นของตัวเองด้วยความทรมาน พลางได้แต่คิดว่าเขาอยากเข้าไปช่วยเธอให้หายจากความทรมานั่นเสียเหลือเกิน
ปารดีลืมตาตื่นขึ้นมาเป็นเวลาแปดโมงเช้า แสงแดดที่สาดส่องทะลุผ้าม่านเข้ามาก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการนอนต่อของปารดีได้ หากแต่เป็นบางสิ่งที่กำลังขยุกขยิกอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นต่างหาก ท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วนขึ้นมาอีกครา เนื่องด้วยเธอนั้นรู้สึกว่าใจกลางความเป็นสาวกำลังถูกรุกราน ดอกไม้ กลีบดอกไม้ และเกสรของมันกำลังถูกดูดเลียอีกครั้งอย่างช้าๆ จนปารดีอดครางออกมาเพราะความเสียวไม่ได้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นั้นต่อให้ไม่ต้องเปิดผ้าห่มออกดูก็รู้ได้ว่า 'ใคร' กำลังทำอะไร"อ๊ะ อ๊า เสียวค่ะ" ปารดีกัดฟันร้องครางเสียงเบาก่อนจะอ้าขาออกให้กว้างขี้นอีกพร้อมทั้งแอ่นโหนกนูนๆ กระดกขึ้นรับลิ้นร้อนที่เวลานี้กวาดกวัดที่กลางกลีบเกสรของเธออย่างชำนาญการจนสะโพกงามต้องหมุนส่ายร่อน"ตื่นขึ้นมาเลีย...ตั้งแต่เช้าแบบนี้ หิวอีกแล้วหรอคะผัวขา แป้งนึกว่าพี่เขมกินจนอิ่มไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเสียอีก" ไม่มีคำตอบสำหรับคำถาม มีเพียงก็แต่ความรู้สึกเสียวซ่านเท่านั้นที่กำลังตามมา เพราะหลังจากที่ปารดีพูดจบ ดอกไม้งามของเธอก็ถูกตอกอัดเข้ามาด้วยท่อนเอ็นอุ่นร้อนทันที ขาเรียวงามทั้งสองข้างของเธอถูกเขายกขึ้นไปพาดไว้บนไหล่แข็งแรงทั้งสองข้างพร้อ
เขมราชที่ยืนซี้ดปากตัวเกร็งไปด้วยความเสียวซ่าน ก้มมองดูเรือนร่างเซ็กซี่ขาวโพนของปารดีในท่าคลานเข่ากำลังดูดกลืนตัวตนของเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กๆ กวาดเลียไปทั่วท่อนเอ็นที่เวลานี้ตั้งเด่ชูชัน รสชาติของไวน์ไหลชโลมไปทั่วทั้งขา ไม่มีบริเวณไหนที่จะรอดพ้นเรียวลิ้นของเธอไปได้ กรามแข็งแกร่งขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนพร้อมด้วยเสียงซู้ดซ้าดในลำคอ ริมฝีปากหนาถูกกัดจนมิดรอยฟันเพื่อระบายความเสียวซ่าน"อ้าาา แป้งพี่จะไม่ไหวแล้วที่รัก" ยิ่งปารดีเร่งจังหวะ ต้นขาแกร่งก็ถึงกับต้องเกร็งตาม ศรีษะทุยงามถูกเขมราชกดกระแทกน้อยๆ อย่างเอาแต่ใจแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ปารดีหยุดชะงักลง มีแต่ยิ่งดูดดึงแน่นขึ้นจนในที่สุดเขมราชก็ไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้ต่อไปอีก จึงต้องปลอดปล่อยความขาวขุ่นข้นให้ออกมาเต็มปากเล็กจนไหลเยิ้มหยดย้อยลงไปตามลำคอลามไปถึงหน้าอก ปารดียกมือขึ้นมาเช็ดขอบปากก่อนจะแลบลิ้นเลียไปรอบๆ"ไวน์ที่พี่เขมซื้อมาเมื่อวันก่อน รสชาติดีจริงๆ ค่ะ""งั้นเหรอ..แน่ใจนะว่าหมายถึงไวน์" เขมราชทำท่าเหล่ตามองยัยเด็กดื้อที่พึ่งกลายร่างเป็นสาวร้อนแรงไปหมาดๆ"วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้ทำราวกับว่าจะกลืนกินพี่ลงไปเสียอย่างนั้น"
หลังจากจัดการเคลียร์เรื่องเอกภพกับนิชากรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขมราชได้มีโอกาสขอบคุณ ขอโทษและปรับความเข้าใจกับคริสเตียนเสียใหม่ เขาต้องยอมรับว่าถ้าวันนี้คริสเตียนไม่ไปพาเอกภพซึ่งเป็นเพื่อนของเขาและมันก็เลือกที่จะปิดปากเงียบมาตลอดมา เรื่องมันก็คงจะวุ่นวายไปไกลกว่านี้เป็นแน่ ถึงตอนนี้ตัวเขาเองคงจะต้องเซ็นสัญญาสงบศึกกับคริสเตียนเอาไว้ก่อนแล้วล่ะ เรื่องราวต่างๆ มันก็ดูท่าจะจบลงและเป็นไปได้ในทางที่ดี แต่จะมีก็เพียงแค่อย่างเดียวที่ตั้งแต่ตอนเย็นนิชากรมาที่บ้านจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ปรับความเข้าใจด้วยเลยก็คือ 'เมีย' นี่แหละ พอเขาเดินออกไปส่งคริสเตียนที่รถแล้วเธอก็อันตธานหายไปเลยเขมราชเดินขึ้นบ้านมา มองหาปารดีแต่ก็ไม่พบ ภายในห้องเวลานี้เขาได้กลิ่นเทียนหอมที่ปารดีชอบจุดเวลาอาบน้ำลอยอบอวลอยู่ ภายในห้องน้ำมีเสียงน้ำไหลพร้อมด้วยเสียงเพลงที่เปิดคลออยู่เบาๆ เขาคิดว่าปารดีคงกำลังอาบน้ำอยู่เป็นแน่ ก็คงจะดีถ้าเขาเข้าไปง้อเธอในเวลานี้ เพราะปารดีคงเริ่มจะใจเย็นลงบ้างแล้ว เขมราชจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ หวังจะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยและปรับความเข้าใจกันทันทีที่เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำเข้า
"ที่รักพี่กลับมาแล้ว"เขมราชเดินตรงเข้ามาในบ้านก่อนจะมองหาเจ้าของเรือนร่างนุ่มนิ่มที่เขาได้นอนกกกอดทุกคืนเหมือนอย่างเคย หลังจากเลิกงานเขาจะรีบตรงกลับบ้านทันทีไม่มีอยากวอกแวกไปไหนเลยเพราะว่าคิดถึงเมีย พอมาถึงบ้านก็จะเห็นปารดียืนทำกับข้าวรอเขาอยู่ทุกวัน ปารดีเรียนจบแล้วและบ่นว่าอยากเริ่มทำงานแล้วแต่ตัวเขาเองยังอยากเก็บเธอไว้ขย้ำเล่นที่บ้านอีกหน่อยก่อนจึงยังไม่ได้อนุญาตให้เธอออกไปทำงาน อีกอย่างถ้าปล่อยให้ปารดีไปทำงานเขากลัวว่าพวกหนุ่มๆ จะมาแอบเหล่มองเมียเขา เขาหวงชีวิตของเขาช่วงนี้นับว่ากำลีงมีความสุขและแฮปปี้มาก ยังกับว่ากำลังใช้ชีวิตเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามัน มันทำให้ทุกๆ วันของเขาดูกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะ และวันนี้เขาแอบไปรับแหวนเพชรที่แอบไปสั่งทำไว้มา เพื่อจะใช้ขอปารดีแต่งงาน อีกไม่นานเขาจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง เขาพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตเริ่มนับหนึ่งไปด้วยกันกับเธอเขมราชเดินตรงเข้าไปในครัว ก่อนจะเดินเข้าไปกอดหมับเข้าที่เอวบาง แต่เขาก็ต้องรีบผงะออก เพราะกลิ่นน้ำหอมแปลกๆ ที่ฉุนจนเตะจมูก เขารู้สึกคุ้นๆ กับน้ำหอมกลิ่นนี้แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยได้กลิ่นจากที่ไหน แต่ไม่ใช่กลิ่นที่ปารดียัยเด็กแสบข
"สวัสดีจ๊ะทุกคน อยู่กันพร้อมหน้าเชียว" นิชากรเอ่ยทักขึ้นก่อนจะค่อยๆ เอากระเป๋ามาวางเรียงกันทีละใบโดยไม่ได้มีการบอกกล่าวแม้แต่ปารดีที่ยืนอยู่ตรงนั้นแต่อย่างใด ว่าเพราะเหตุใดเธอจึงทำราวกับว่ากำลังจะย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไงอย่างงั้น"นี่พี่นิคกี้จะขนกระเป๋าไปไหนหรอครับ" คริสเตียนรอดูไม่ไหวจึงได้เอ่ยทักขึ้น"อ๋อน้องคริสคงยังไม่รู้ พอดีว่าพี่กับพี่เขมตอนนี้เราตกลงที่จะกลับมาคบกันแล้วน่ะจ๊ะตั้งแต่...ที่เกาะ พี่ก็เลยต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อที่จะได้คอยดูแลเขมเขาได้ง่ายขึ้นน่ะจ๊ะ" นิชากรเอ่ยตอบคริสเตียนไปแต่ก็มิวายหันไปทางปารดีที่ยืนมองอยู่"ขอโทษนะน้องแป้งที่พี่มาแบบปุบปับ แต่คิดว่าเขมคงบอกเรื่องนี้กับน้องแป้งแล้วล่ะใช่มั้ยจ๊ะพี่ว่า" ปารดีซึ่งยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ ในขณะที่สองพี่น้องผู้มาเยือนก็กำลังงงงวยกับข้อมูลที่พึ่งจะได้รับ เพราะว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรกันกับสิ่งที่นิชากรพูด ก็ในเมื่อคริสเตียนเองนั้นรู้ดีว่าคืนนั้นคนที่อยู่กับนิชากรคือใครและเขมราชนั้นอยู่กับใคร เพราะเขาตามไปเจอจนแน่ใจได้เลยว่าเขมราชไม่ได้อยู่กับนิชากรแน่ๆคืนนั้นหลังจากที่เขมราชลากตัวปารดีออกไป ตอนแรกเขาก็กะว
หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นและเรียบร้อยเป็นไปด้วยดี ทุกๆ คนก็ได้พากันเดินทางกลับกรุงเทพเพราะว่างานที่ต้องทำก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่ที่หน้าแปลกก็คือนิชากรซึ่งยังคงแวะเวียนมาหาเขมราชอย่างไม่ขาดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มิหนำซ้ำเธอยังมีท่าทีแปลกๆ กับเขาเข้าไปอีก โดยเธอพยายามจะทำตัวใกล้ชิดเขาอย่างออกนอกหน้า จนหลายครั้งหลายคราที่ทำให้เขาเริ่มจะมีปัญหากับปารดี และยิ่งพอนานๆ เข้าเขมราชก็ชักเริ่มจะอึดอัดถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของนิชากรมากขึ้น เขาจึงเริ่มอยากจะพูดคุยกับเธออย่างจริงจังและตรงไปตรงมา อยากถามหาสาเหตุว่าเหตุใดเธอจึงปฏิบัติตัวกับเขาเยี่ยงนี้ หรือช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะตัวเขานั้นได้มีท่าทีอะไรที่เผลอไผลแสดงออกไปให้เธอได้เข้าใจผิดทำให้คิดเกินเลยไปหรือไม่ วันนี้เขาน่าจะเคลียร์กับเธอเลยให้รู้เรื่อง เขาไม่อยากทำให้ปารดีต้องไม่สบายใจอีก ยิ่งช่วงนี้ยัยเด็กดื้อยิ่งรู้สึกว่าจะขี้งอแงเป็นพิเศษด้วยเขาก็ยิ่งอยากจะเคลียร์ให้มันจบๆ ไป"เขมคะ นิคกี้ถามจริงๆ เถอะค่ะ เขมเป็นอะไรของเขมคะ ทำไมถึงได้ทำท่าเหมือนกับรำคาญนิคกี้ตลอดเลย" นิชากรเองก็อยากรู้ถึงสาเหตุเช่นกัน จึงได้ตัดสินใจเอ่ยถามออกมาทันทีโดยไม่ต้องรอ