"พ่อได้รูปพวกนี้มายังไงครับ"
"จะได้มายังไงล่ะ ก็นักข่าวน่ะสิ ทำไมแกถึงทำอะไรไม่ระวังตัวเลย รู้ไหมว่าถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายไป หุ้นของเราจะตกแค่ไหน" เพราะไม่ว่าพวกเขากระดิกตัวทำอะไรก็เป็นข่าวไปหมด ยิ่งไต้ฝุ่นเป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งถูกจับตามอง
"เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการเอง"
"แกจะจัดการยังไง ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ไปร่วมงานคืนนั้นใช่ไหม"
"ใช่ครับ"
"ถ้าพ่อแม่เธอรู้ แกรู้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้น" ราชสีห์รู้ดีว่าพ่อของผู้หญิงที่อยู่ในรูปก็ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหน เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่โตในเครือของทศกัณฐ์
ก๊อก ก๊อก ..ประตูห้องนอนของไต้ฝุ่นถูกเปิดเข้ามาทันทีที่สิ้นเสียงเคาะ
"คุณมีธุระอะไรกับลูกเหรอคะ" ไออุ่นไม่เคยเห็นสามีกลับมาตอนกลางวันแบบนี้ พอเห็นรถของสามีจอดอยู่หน้าบ้านก็เลยขึ้นมาดูว่าเขามาทำไม
"ผมมีธุระกับไต้ฝุ่นนิดหน่อย" เมื่อพูดกับภรรยาราชสีห์ก็ต้องได้รีบปรับอารมณ์ใหม่
"ธุระอะไรคะ" ไออุ่นดูแล้วว่ามันคงไม่นิดหน่อยแน่สามีของนางถึงได้หน้าเคร่งเครียดขนาดนี้ สายตาของผู้เป็นแม่มองไปเห็นรูปในมือของลูกชาย ถึงเขาจะซ่อนไว้แล้วแต่ก็ไม่พ้นสายตานั้น "เอามาให้แม่ดู"
"ไม่มีอะไรหรอกครับแม่"
"จะไม่มีได้ยังไง" ไออุ่นแย่งรูปออกมาจากมือของลูกชาย ใบหน้างามที่กาลเวลาทำร้ายเธอไม่ได้เลย..ถึงกับเปลี่ยนสีไป "ไต้ฝุ่น แม่สอนลูกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงที่ไหน"
"ผมไม่ได้ทำ..ผู้หญิงคนนั้นต่างหากเป็นคนจ้างนักข่าว"
"มันเกิดอะไรขึ้นเล่าเรื่องทุกอย่างมาให้พ่อฟังให้หมด" ถ้าเป็นฝีมือของผู้หญิงจริง แสดงว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาราชสีห์ต้องรู้เรื่องทุกอย่างก่อน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมันคงไม่จบแค่ที่เขาซื้อรูปมาจากนักข่าวแน่
ไต้ฝุ่นเล่าเรื่องทุกอย่าง เล่าไปถึงเรื่องมายมิ้นท์เป็นผู้หญิงของเจ้าขุน
เพี๊ยะ!! ฟังจนจบความ ฝ่ามือเรียวของผู้เป็นแม่ฟาดลงที่ต้นแขนลูกชาย เพื่อลงโทษ แต่ไต้ฝุ่นก็ไม่เอ่ยปากอะไรออกมา เขาปล่อยให้แม่ลงโทษไป
"แม่เคยสอนลูกให้เป็นคนแบบนี้เหรอ ทำไมถึงเจ้าคิดเจ้าแค้นเรื่องแค่ในสมัยเด็ก"
แต่ก่อนไต้ฝุ่นและเจ้าขุนเคยเรียนอนุบาลที่เดียวกันมา และมีเรื่องชกต่อยกัน จนต้องได้จับทั้งสองแยกโรงเรียน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็เป็นศัตรูกันมาโดยตลอด พ่อกับแม่นัดทานข้าวกันที่ไหนทั้งสองต้องทะเลาะต่อยตีกัน จนผู้ใหญ่เอือมระอา
แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องสมัยเด็กจะทำให้ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแบบนี้
"แม่จะทำอะไร" เขาเห็นแม่ถือรูปนั้นออกไป ก็เลยตามออกมา
"เรื่องนี้มันไม่จบแค่พ่อซื้อรูปมาจากนักข่าวหรอกนะ"
"ผมบอกแล้วไงว่าผมจะจัดการเอง"
"ลูกจะทำให้เรื่องมันบานปลายน่ะสิ" ไออุ่นยังไงก็เป็นไออุ่น เธอยึดถือความยุติธรรมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าไม่งั้นก็คว้าใจของราชสีห์มาไม่ได้ ..เรื่องนี้ลูกชายนางบอกว่าไม่ผิดก็จริง แต่ต้องฟังความทั้งสองข้าง
"พ่อห้ามแม่หน่อยสิครับ ยังไงเราก็ซื้อรูปนั้นมาแล้วคงไม่มีใครกล้าเอารูปไปขายต่อหรอก" พอไต้ฝุ่นห้ามผู้เป็นแม่ไม่ได้ก็หันมาขอร้องพ่อ
"ลูกก็รู้ว่าแม่เป็นคนยังไง ถ้าลูกไม่ผิดจริงจะกลัวอะไรล่ะ"
"ตกลงผมเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อกับแม่ไหมเนี่ย ไม่มีใครฟังผมเลย!" ถึงแม้เขาจะเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟัง แต่มีอีกเรื่องที่เขาไม่เล่า... ถ้าแม่รู้เรื่องนั้นเขาได้โดนตีจนช้ำในแน่
วันจันทร์ที่มหาวิทยาลัย..
"มาย"
มายมิ้นท์ลงจากรถกำลังจะเดินเข้าไปในคณะก็ได้ยินเสียงคนเรียก "พี่ขุน"
"พี่แวะมาถามอาการของมายหายดีหรือยัง" เจ้าขุนหมายถึงสะโพกของเธอที่กระแทกขอบโต๊ะในงานวันนั้น
"มายหายแล้วค่ะ"
"ดีแล้วล่ะพี่จะได้หายห่วง"
ในขณะที่เจ้าขุนกำลังยืนคุยกับมายมิ้นท์อยู่นั้น ไต้ฝุ่นจอดรถได้ก็เดินตรงเข้ามาหาทั้งสอง เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะมาคุยกับมายมิ้นท์อยู่แล้ว
"หึ! น่าสมเพช" เดินเข้ามายังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ไต้ฝุ่นก็ปล่อยหมาออกมาจากปากเสียก่อน
"มึงว่าใคร"
"ใครได้ยินอยากจะรับก็รับไปสิ"
"มึง!!"
"อย่านะพี่ขุน" มายมิ้นท์คว้าแขนของเจ้าขุนไว้ก่อนที่จะชกเข้าที่ใบหน้าของไต้ฝุ่น
"มายไม่เห็นเหรอว่ามันพูดอะไรออกมา จะห้ามพี่ทำไม"
"มายเป็นห่วงพี่ เดี๋ยวอาจารย์ก็เรียกอีก"
"อะไรนะ" พอได้ยินคำนั้นอารมณ์ที่กำลังโมโหก็เปลี่ยนไปได้ในทันควัน
"เราไปกันเถอะค่ะ" มายมิ้นท์คว้าแขนของเจ้าขุนให้เดินออกมาจากไต้ฝุ่น ..แต่ไต้ฝุ่นไม่ยอม เดินเข้ามากระชากตัวมายมิ้นท์ เพราะเขามีเรื่องจะคุยกับเธอ
"มึงคงอยากจะโดนมากเลยใช่ไหม" เจ้าขุนก็ไม่ยอม เดินตรงเข้ามา..
พั๊วะ!! แต่ยังไม่ได้ทำอะไร ก็ถูกเท้าของไต้ฝุ่นกระแทกเข้าที่ลำตัวเสียก่อนจนล้มลงไป
"อย่านะ!!" มายมิ้นท์รีบห้ามไต้ฝุ่นไว้ เพราะเขากำลังจะเข้าไปซ้ำเจ้าขุนอีกครั้ง
"กูไม่เคยพิศวาสผู้หญิงของมึงเลย แต่กูมีเรื่องจะเคลียร์"
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้